ถนนสายนี้มีตะพาบ กม.51 ":次十の年。โซฟิน..อนึ่งคิดถึงพอสังเขป.:"
ดวงอาทิตย์สาดส่องยอดเขาตะวันตกปลายฤดูร้อนหญิงสาวดวงตาสีฟ้าเดินทอดปลายเท้าเปล่าอย่างสบายอารมณ์ไปบนหาดทรายละเอียดสีขาวไร้ผู้คนมีร่างเล็กๆของตัวเองสะท้อนเงากับทรายเป็นประกายระยิบระยับใต้แสงแดดหญิงสาวผู้หลงทางมองไปที่ต้นไม้สีเขียวที่ขึ้นอยู่ริมชาดหาดทอดยาวไปไกลจนสุดแนวทิวเขาเธอยิ้มสดชื่นเมื่อมองน้ำทะเลสีฟ้าแกมเขียวใสที่มีฟองคลื่นสีขาวกระทบคลื่นบนชายหาดเป็นระยะเสียงคลื่นดังครืนๆผสานกับเสียงนกสีฟ้าปีกขาวที่โบยบินไปมาเหนือท้องฟ้าสีครามอำไพ.. . . . . เวลาผ่านไปหากในความเป็นจริงฉันฤาเป็นเพียงเรื่องแห่งความฝันของเธอฉันจะเดินทางไปกับเธอทุกเส้นทางบนชีวิตที่ก้อนกรวดและผืนทรายอีกสายลมบนโลกใบเล็กนี้ที่มีความผันแปรราวทะเลโหมในทุกยามที่นาฬิกาชีวิตเดินทางฉันมิใช่เพียงหลงทางเข้ามาชีวิตแต่ฉันจะเป็นชีวิตเรียกฉันว่าหญิงสาวผู้หลงทางและดวงใจดวงเล็กของเธอมาไว้ที่ฉันได้ไหม.... “ฉันก็เป็นโซฟินคนไกลผู้สร้างหาดทรายให้ฉันอยู่ในดวงใจเธอตลอดเวลาด้วยได้ไหม” ชายหนุ่มหญิงสาวหัวเราะให้กันมีแสงทองกับตรงโค้งรุ้งใต้แสงจันทร์ส่องสว่างกับดวงดาวที่มีแสงระยิบระยับตรงขอบฟ้ายิ้มให้อย่างรัก .. . . . . . . . พระอาทิตย์ยามบ่ายมีลำแสงสีรุ้งเป็นวงรีที่ชายหาดแห้งแล้งไร้ผู้คนที่ไม่เคยมีใครรู้จักสองหนุ่มสาววัยดอกไม้แรกบานเดินจูงมือกันมาถึงโขดหินที่เชื่อมต่อระหว่างผืนทะเลกับท้องฟ้าสายลมพัดแรงเป็นใจในความรู้สึกหญิงสาวผู้หลงทางบอกกับชายหนุ่มว่าเธอฝันอยากเป็นนักวิทยาศาสตร์ระดับโลกพร้อมกับเอามือเล็กๆที่ซ่อนข้างหลังยื่นขวดหลอดแก้วทีมีน้ำใสใสสีเขียวให้ชายหนุ่มเขารีบรับอย่างดีใจเอามากอดไว้อย่างเร็วจนหญิงสาวส่งเสียงร้องเสียงดังเธอบอกกับเขาว่านี่คือเป็นผลงานการทดลองครั้งแรกในชีวิตการผสมเอนไซด์ระหว่างมนุษย์กับปะการัง “เนี่ยละผลงานเรา.....เก็บไว้ให้ดีๆนะโซฟิน” “อืมม...แน่นอนจะเก็บไว้ด้วยชีวิตเลย”ชายหนุ่มยิ้มมีฟันสีขาวพยักหน้ารับอย่างดีใจ . . . . ตะวันเดินทางผ่านเวลานับแต่วันที่หญิงสาวหลงทางกลับไปโซฟินเริ่มต้นพัฒนาชายหาดของตัวเองตามคำแนะนำของว่าที่นักวิทยาศาสตร์สาวกลับมาทุกวันเขาจะเดินเก็บเปือกหอยและมานั่งที่ริมชายหาดมองแสงจากดวงตะวันที่ฉายแสงผ่านขอบฟ้าทะเลตะวันตกกับน้ำทะเลที่สาดเป็นละอองน้ำกระเซ็นสะท้อนแสงแดดบางวันก็ทอดเป็นสะพานสายรุ้งรอใครสักคนข้ามมาหาสายตาสีเข้มคมกริบของสิ่งมีชีวิตหนึ่งที่กำลังจ้องมองแล้วยิ้มให้กับฝูงปลาบนชายหาดที่เข้ามาทำให้ชีวิตมีชีวิตต่อไปท่ามเวลาเดินทาง.. . . . . How to deal with death is least as important as how to deal with life.." "การรับมือกับความตายไม่ยากลำบากเท่ากับการรับมือกับการมีชีวิต" ความตายเปรียบดั่งภารกิจที่เราจะต้องรับมือกับมันให้ได้อย่างกล้าหาญ ไม่มีความตายใดที่ทำให้มนุษย์ยากลำบาก เท่ากับ การมีชีวิตอยู่เพื่อรับมือกับอุปสรรค์ต่างๆในทุกลมหายใจ ต่างคนต่างดิ้นรน ต่อสู้ เพื่อให้มีชีวิต ..จนในที่สุดเราก็พบว่าการมีชีวิต คงไม่ได้อยู่เพียงเพื่อความสวยงามประดับโลกเ่ท่านั้น..แต่ยังมีความยากลำบาก ที่สอนให้เราเรียนรู้เพื่อให้ชีวิตแข็งแกร่งขึ้น...แกร่งและแข็งแรงพอ ที่จะเข้าไปผจญภัยในห้วงหนึ่งของชีวิตในท้องทะเลอันกว้างใหญ่ของโลกใบเล็กสีฟ้า.... . . หากชีวิตของมนุษย์สักคนหรือผู้คนเปรียบเฉกเหล่าฝูงปลาแต่ในมหาสมุทร การดำรงด้วยร่างกายที่แวกว่ายราวปลาสีฟ้าแห่งสายธารา..ชีวิตของโซฟินและหลายชีวิตที่ชายหาดที่นีก็เป็นเช่นดั่งฝุงปลาตัวเล็กๆที่กำลังแหวกว่ายไปในทะเลเพื่อดำรงชีวิตเพื่อเอาชีวิตรอดรอความหวังของชีวิต ฝูงปลาที่กำลังเผชิญชีวิตอย่างกล้าแกร่ง หลบหลีกชีวิตใหญ่เพื่อชีวิตรอดของตนเอง ฉลามฤาปลาวาฬฤาปลาใหญ่ที่เวียนว่ายผ่านเข้ามาให้โซฟินเรียนรู้การหลบหลีกเพื่อผ่านพ้นการเป็นเหยื่อของการดำรงชีวิตของชีวิต ..เขาบอกตัวเองว่าจะต้องรอการเติบโตของชีวิตในมหาสมุทร มีชีวิตที่ดำรงอยู่เพื่อชีวิตและประดับสรรพสิ่งก้อนกรวดรวมต้นไม้ใบหญ้าที่รายล้อมชีวิตบนชายหาดโซฟินให้ชีวิตแข็งแกร่งประดับโลกให้สวยงามต่อไป... . . . . 10ปีต่อมา.... . . . . . . ท้องฟ้าสีฟ้าครามโอบดวงอาทิตย์สีแสดสาดส่องชายหาดโซฟิน หาดสวยปะการังอันแสนงดงามติดอันดับหนึ่งในสิบของโลก ที่มีความผูกพันของก้อนกรวดและเม็ดทรายในสายลมละมุน อันอ่อนโยนกรุ่นในความรู้สึกของรอยเท้าแห่งกาลเวลาอันแสนยาวนาน..แสงตะวันยามบ่ายสะท้อนเงาร่างของชายหนุ่มหญิงสาวหลายคนที่เดินผ่านมาโอบกอดเงาแดดที่ทอดยาวเป็นสายรุ้งที่โค้งขอบฟ้าขลิบสีน้ำเงินเข้ม..เป็นที่ชื่นชอบและชื่นชมของผู้คนและคนไกลฤานักพเนจรผู้มีความรักและผูกพันกับท้องทะเลไปกับการเดินทางในความทรงจำให้ชีวิตบนโลกสวยงามมากขึ้น... เสียงน้ำทะเลซัดเป็นคลื่นสาดเข้าหาฝั่งเสียงดัง ซ่า ซ่า น้ำกระเซ็นเข้ามาในรอยยิ้มบางๆของสาววัยกลางคนเธอหอบความสำเร็จที่อยู่ในร่องรอยความเหนื่อยล้าในความรู้สึกของชีวิตจากแดนไกลไว้บนใบหน้าที่มีความหวังกับสองเท้าที่ค่อยๆก้าวไปบนผืนหาดทรายพร้อมกับสายตาที่มองลอดออกมาจากกรอบวงรีหาใครคนหนึ่ง...แล้วสายตาที่ประดับด้วยกรอบพลาสติกกลมรีสีขาวก็หยุดลง..ที่ชายแก่วัยชราคนหนึ่งที่นั่งอยู่ริมชายหาด เธอรีบเดินเข้าไปหาเขาอย่างเร็ว "เอ่อ....เอ่อ....คุณตาค่ะ" "ว่าไง.......คุณผู้หญิง" ชายชราพูดเสียงเบาราวกับเสียงที่หมดพลัง ใบหน้าก้มอยู่ที่ผืนทราย "คุณตา....เป็นคนแถวนี้หรือเปล่าค่ะ"ด๊อกเตอร์สาวพูดพร้อมกับค่อยๆขยับนั่งลงข้างๆชายชราสายตาในกรอบแว่นวงรีพยายามมองใบหน้าของเขา "ใช่แล้ว......ข้าอยู่ที่นี่มานานแล้ว"ดร.สาวมีรอยยิ้มอย่างดีใจรีบถามต่อ "คุณตา....รู้จักโซฟินเจ้าของเกาะอันสวยงามของที่นี่รึเปล่าค่ะ" "อ่อ....โซฟิน....หรือ?"ชายชราหัวเราะเสียงดัง "ใช่ค่ะ...โซฟิน" ชายชราเอามือผอมๆที่ห่อหุ้มด้วยหนังที่เหี่ยวย่นตามกาลหยิบกิ่งไม้ที่ตัดเป็นไม้ค้ำยันพยุงร่างกายตัวเองลุกขึ้นแล้วหันหลังให้ดร.หญิงสาว เขาชี้ไม้เท้าไปที่ทะเลพร้อมกับเสียงเบาๆที่ลอดมาแสนลำบาก "ปะการังใต้ทะเลสักรัง...โซฟินเขาอาศัยอยู่ที่นั่น" "ค๊ะ.....คุณตาว่าไงนะค่ะ" "เขาดื่มเอนไซด์ในขวดแก้วทดลองของคนรักและเขาไปรอเธออยู่ที่นั่นนานแล้ว" "หา...คุณตา..คุณตาหมายความเช่นใดค่ะเจ้าของเกาะโซฟินเขากลายเป็นปะการังไปแล้วเหรอค่ะ" "ใช่...เจ้าของเกาะโซฟินคือปะการังทีรอคนรักอยู่ใต้ทะเลนั่น" ชายชราหัวเราะเสียงดัง เสียงแหบแห้งดังอยู่ในสายลม ที่พัดชายกระโปรงปลิวไปมาดร.สาวยืนสงบนิ่งราวท่อนไม้เธอหันไปมองตามร่างของชราที่ค่อยๆก้าวเท้าเดินหายไปพร้อมกับไม้เท้าคู่ใจช้าๆทิ้งเพียงรอยเท้าไว้ที่บนชายหาด.. . . . . ท้ายเอนทรี่ 51"" <((((-_ºOO))))>"" เอนทรี่โจทย์ท่านประธานพี่เป็ดสวรรค์ ""10ปีต่อมา"" ด้วยเหตุของผลโดยท่านประธานคือขอให้เริ่มต้นเขียนด้วยเหตุการณ์หนึ่งเหตุการณ์หรือปม 1 ปม ข้อคิด 1 ข้อคิด แล้วแต่ถนัดจากนั้นก็ 10 ปีต่อมา แล้วกล่าวถึงผลของ เหตุการณ์นั้นๆยิ่งหักมุม คาดไม่ถึง...ยิ่งดี"((- -)' คนเขียนก็อยากเดินแทะหินกรวดทรายบ้างสิบปีไม่ค่อยไกลเท่าไหร่แค่ชิวๆเอง(โม้มากค่ะ)เกือบไม่รอดอ่ะไม่ค่อยได้ไปทะเลเลยหาห่วงยาง หาทางว่ายเข้าฝั่งไม่ค่อยจะเจอเรย..ไปติดตามอ่านงานตะพาบ10ปีต่อมา))>>ของผองเพื่อนที่ร่วมเดินไปตามถนนตะพาบกม.51กันค่ะ>>> คลิกบ้านท่านประธานพี่เป็ดสวรรค์ค่ะ ขอบคุณเครดิต ::: ภาพและเพลงประกอบจากเวปนิปปอนดอลคอม ขอบคุณ ::: ท่านประธาน&โครงการถนนสายนี้มีตะพาบปี2ด้วยค่ะ . . ((❤"PamPam~Mastana~"❤)) 7 MARCH 2012
Mastanapata.BlogGang.com
mastana
ผู้ติดตามบล็อก : 365 คน [
? ]
เจิมๆๆๆ
10 ปี ต่อมา
เจ้าของเกาะแปลงร่างเป็นปะการังซะงั้น
หักมุมจริงๆค่ะน้องแพม