2019 Hokkaido: Otaru เมืองแห่งอาหารทะเลและกล่องดนตรี วันนี้เราจะไปโอตารุกัน ![]() โอตารุ (Otaru) เป็นเมืองท่าเรือขนาดเล็ก อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 40 กิโลเมตรจากซัปโปโร สามารถจัดเป็นเดย์ทริปได้สบาย ๆ เพราะมีรถไฟวิ่งตรงไปด้วย ใช้เวลาประมาณ 30 นาทีเท่านั้น ดังนั้น มันจึงเป็นเมืองที่ฮ็อตฮิตมากมายเวลาที่ใครมาฮอกไกโด โอตารุนั้นมีท่าเรือ มีคลองสวย ๆ และมีหมู่บ้านประมงด้วย ตลาดอาหารทะเลและร้านอาหารทะเลที่นี่จึงเด็ดกว่าที่ไหน ๆ ตื่นมาตอนเช้า เริ่มวันด้วยวิวดี ๆ จากห้องนอน อากาศดี๊ดี ฟ้าใสแจ๋วเลยยย ![]() ![]() ลุยกันที่อาหารเช้าชุดใหญ่ หุหุหุ ![]() ออมเล็ตทำได้ดูสวยงามมากกก ![]() โอ้วววว เป็นแบบลาวาด้วย ![]() ![]() มาซัปโปโร อาหารของทุกเช้าต้องมีแซลมอนและไข่แซลมอน ไม่งั้นจะถือว่าเป็นบาป ![]() ![]() วันนี้พาเดินชมไลน์อาหารเช้าที่โรงแรมหน่อยละกัน ![]() ไลน์อาหาร 2 ฟากฝั่งเลยทีเดียว ![]() มีมะม่วงด้วย แต่ตามประสามะม่วงเมืองหนาวนะฮะ แหรกไม่ล่ายย ![]() ![]() ![]() โต๊ะนี้ ที่อิฉันจะไปจับจอง และมักจะเจอกลุ่มคนไทยไปจับจองเช่นกัน ![]() อยากจิเหมาทั้งโต๊ะ ![]() ![]() เดินมาขึ้นรถไฟ จะเดินผ่านสวน ![]() ![]() เรากำลังจะไปเริ่มต้นกันที่สถานีซัปโปโร ถ้าเดินทางจากสถานีซัปโปโร ไปสถานีโอตารุ โดยรถไฟ JR จะใช้เวลา 30 นาที ค่าโดยสาร 640 เยนเท่านั้น ![]() ![]() ออกมาสายหน่อย รถก็ยืนได้สบาย ๆ ไม่แน่นเหมือนโตเกียวช่วงเวลาเร่งด่วน ![]() มาถึงละ เราลงกันที่สถานีมินามิ โอตารุ ซึ่งอยู่สถานีก่อนถึงโอตารุหนึ่งสถานี ![]() เดินมาไม่ไกล เราก็เจอพิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีโอตารุแล้ว ( Otaru Music Box Musuem) มันชื่ออย่างงี้จริง ๆ นะคระ แต่อิฉันดูยังไงยังไงมันก็คือร้านขายกล่องดนตรีขนาดใหญ่โคตร ๆ เท่านั้น นักท่องเที่ยวครึ่งโอตารุจะมาฝังตัวอยู่ที่นี่ กล่องดนตรีน่ารัก ๆ เยอะมากกกกกกกก น่าจะเป็นพัน ๆ หมื่น ๆ อัน มีทั้งแบบหรูหรา แบบสวยหวาน แบบฮา ๆ เดินดูสนุกสนานดีค่ะ แต่ไม่ได้มาซักกะอันจากที่นี่ อิฉันไปได้กล่องเพลงน้องกระต่ายในบ้าน อันเล็กเท่าหัวแม่โป้งมาอันนึงจากร้านค้าเล็ก ๆ ใกล้คลองโอตารุ ![]() ![]() แยกนี้จะมีหอนาฬิกาด้วย เป็นนาฬิกาไอน้ำเก๋ไก๋ที่แวนคูเวอร์มองให้โอตารุเป็นเป็นระลึก ที่ระลึกจากอะไรอิฉันก็จำไม่ได้ รู้แต่ว่ามันเก่าแก่ และเหลือนาฬิกาไอน้ำที่ใช้ได้ดีอยู่แค่ 2 เรือนในโลกนี้เท่านั้น โดยทุก ๆ 15 นาที นาฬิกานี้ก็จะพ่นควันและมีเสียงดนตรี ซึ่งเราจะรู้ว่า 15 นาทีแล้วก็ต่อเมื่อ นักท่องเที่ยวอีกครึ่งของโอตารุมามุมกันอยู่หน้านาฬิกานี้นี่เอง ![]() ![]() เดินวนอยู่แถวทางแยกนั่นแหละ ไม่รู้จะเริ่มตรงไหนก่อนดี ![]() มีคาเฟ่ป้าคิตตี้ด้วย ![]() คาเฟ่เก๋ ๆ แถวนั้น ![]() ![]() ![]() ![]() เดินวนกลับมาหานาฬิกาไอน้ำ ![]() ![]() ![]() นาฬิกาอยู่หน้าร้าน เอ๊ย พิพิธภัณฑ์กล่องดนตรีเลย หาไม่ยาก พอนาฬิกาพ่นควันเสร็จเรียบร้อย ฝูงชนก็ไหลตามกันเข้าร้านไป ![]() ![]() คนเยอะจริง ๆ ![]() มีน่ารัก ๆ หลายแบบเลย ![]() ![]() ![]() ![]() ชอบน้องหมีอันนี้อ่ะ ![]() ![]() ![]() ![]() หลังจากเริ่มหลอนจากเสียงดนตรีงุ๊งงิ๊ง ๆ เริ่มตีกันในหู เราก็รีบออกมาเดินรับอากาศบริสุทธิ์กันหน่อย ![]() ![]() เจอร้านขนมแล้ว หิ หิ ![]() ![]() แต่มาโอตารุเค้าต้องมากินร้านนี้ Le TAO Le TAO เป็นร้านชีสเค้กชื่อดังของฮอกไกโด มีสาขามากมายทั่วฮอกไกโด รวมทั้งน่าจะมาเปิดในไทยด้วยแล้วละมัง แต่ที่โอตารุนี่ถือเป็นสาขาหลักของเค้าเลย ![]() เข้าไปเดินลองชิมมา เกือบอิ่ม มีขนมเยอะแยะให้เลือก ![]() ![]() อาเฮียไม่เคยปฎิเสธขนมฟรีที่สาว ๆ ญี่ปุ่นยื่นให้ ![]() กินเค้าเยอะ จนชักเขิน ๆ ![]() เอาออกมานั่งกินกันที่ม้านั่งด้านนอก เมนูเด็ดของร้านก็คือ Double Fromage ชีสเค้กที่สดใหม่ชุ่มฉ่ำในรสชีส เราจึงถอยออกมาพร้อมกับพุดดิ้ง ขนมเค้กอร่อย ๆ ตากแดดอุ่น ๆ อากาศเย็น ๆ อ๊างงงงงส์ อย่างฟินน์ ![]() ![]() เดินไปเรื่อยๆ แวะร้านโน่นนี่ไปได้เรื่อย ![]() อิฉันไปกดตู้กาชาปองของร้านที่น่าจะเป็น Information Center ไข่ลูกละ 200 เยนเท่านั้น ได้หูรีลัคคุมะมาด้วย ![]() ![]() มีไวไฟฟรีตลอดเมืองเลย ![]() จำไม่ได้แล้วว่าอิฉันแวะชิมอะไรอยู่ ![]() ![]() ถนนช็อปปิ้งตลอดสาย มีร้านอาหาร ร้านของฝาก ร้านขนม เดินเพลินมาก ![]() ปลาหมึกบ้า ![]() ![]() สนูปปี้คาเฟ่ น่ารักมากเลยย อยากลองไอติมลาเวนเดอร์ แต่กินขนมไม่ไหวล้าววว ![]() ![]() แต่เดินผ่านร้านข้าวโพดปิ้ง หอมฉุยมากมาย อิฉันรู้อ่ะนะว่าเมืองไทยก็มีข้าวโพด ราคาถูกด้วย แต่ทำไมใคร ๆ ก็บอกว่ามาฮอกไกโดต้องลองกินข้าวโพดเค้าดู เลยถอยมาลอง 1 ฝัก จำไม่ได้เท่าไหร่ แต่น่าจะประมาณ 300 เยน ราคาไม่เบาเลยคร่ะ ![]() ![]() เอามากินให้เป็นเกียรติ์แก่ชีวิต ในราคา 1 ฝักสามารถกินข้าวโพดไร่สุวรรณได้ประมาณ 3 กระสอบ แต่ข้าวโพดฮอกไกโดมันเต่งจริง ๆ นะ อวบอ้วน หอมหวานมากมาย ![]() ![]() ![]() ขาปูก็มีขายเยอะเลย ![]() ขาใหญ่มาก ![]() ปลาหมึกทอดก็น่ากินเชียว ![]() อิฉันนั่งแทะข้าวโพดจนหมด อีร้านเดิมนี่แหละ ก็ส่งกลิ่นหอม ๆ มาอีก ทนไม่ได้ ต้องเดินไปดู เห็นเค้าขายหอยปิ้งให้คนอื่น เลยต้องสั่งมากินเอง 1ไม้ หอยเชลส์ตัวบ้ะเร่งโปะด้วยไข่หอยเม่นแล้วเสียบไม้ย่าง เมนูนี้อย่าพลาดเชียวนะคะ ![]() จะว่าย่างก็ไม่น่าใช่ เพราะเค้าใช้พ่นไฟอย่างงี้ ![]() ![]() น่ากินมากฮ่ะ นึกถึงแล้วน้ำลายสอ ![]() ![]() ![]() ฉากด้านหลังเร้าใจมาก ![]() เดินต่อไป ![]() ![]() ![]() เดินมาจนถึงคลองโอตารุ ริมคลองแห่งนี้ก็เป็นแหล่งเช็คอินยอดฮิต มีอาคารโบราณเรียงรายอยู่ริมคลอง เทศกาลฤดูหนาวเค้ามาจัดงานกันที่นี่ด้วย โดยจะตกแต่งไฟประดับกันสวยงามท่ามกลางหิมะหนา ๆ แต่ช่วงที่อิฉันไป หิมะไม่มี เลยดูเหมือนคลองแถวสะพานเหล็กไปหน่อย ![]() ![]() ![]() เหมือนจะไม่หนาว แต่ก็หนาว ![]() เดินตะลุยต่อมาจนถึงท่าเรือ แถวท่าเรือดูไม่ค่อยมีอะไร ไม่ต้องมาก็ได้ ![]() เดินไปหาสถานีโอตารุ ซึ่งเป็นคนละสถานีกับที่เราลง แวะร้านขนมก่อนด้วย ร้านนี้ดูขายขนมหน้าตาไม่เหมือนใคร ![]() มันหวานอันนี้อร๊อยอร่อย ![]() ![]() ![]() ขนมอันนี้ก็อร่อยยยยยย มันคืออัลลัยย ![]() เดินต่อ ผ่านทางรถไฟ มีบ้านแปลก ๆ อยู่ด้วย ![]() ![]() ![]() ขึ้นรถไฟมาเพื่อจะกลับซัปโปโร แต่นึกยังไงไม่รู้ อิอาเฮียอยากลองไปเดินสถานีเล็ก ๆ ระหว่างทาง เราเลยลงกันที่สถานีอาซาริ ![]() สถานีเล็กมาก และแถวนั้นไม่มีอะไรจริง ๆ ![]() มีทะเล ![]() ![]() ![]() มีดอกไม้ ![]() ทางเข้าเมืองไปทางไหนก็ไม่รู้ น่าจะเดินขึ้นเขาไปอีกหน่อย อาซาริไม่มีอะไรจริง ๆ ![]() ![]() กลับถึงห้อง เปิดถุงว่าได้อะไรจากโอตารุบ้าง ปลาหมึกแห้ง กับก้างปลาทอด ถ้าเจอของร้านนี้เชื่ออิฉันเถอะ ว่าถอยมาไม่ผิดหวัง ปลาหมึกไม่เหนียวเลย นุ่ม รสชาติดีมาก ส่วนก้างปลาทอดกรอบ ไม่แข็งไม่บาดเหงือกนะฮะ ไม่รู้ทำยังไง โคตรอร่อยอ่ะ ![]() และได้โมจิคลุกผง ๆ อะไรไม่รู้มากิน ขนมญี่ปุ่นแท้ ๆ มักจะดูน่ากิน แต่รสชาตินั้นเป็นอีกเรื่อง ![]() ![]() มื้อเย็นแวะหาของกินใกล้ ๆ โรงแรมฮ่ะ เจอร้านที่สาว ๆ ญี่ปุ่นเดินเข้าไปกันเยอะเลย เราเลยเดินตาม อาหารใช้ได้เลย ![]() ![]() ![]() ![]() |
บทความทั้งหมด
|