Bloggang.com : lalabel - ตามฝันไป Galapagos 1 - เตรียมตัว เดินทาง แวะพักที่ Yotel Amsterdam

ตามฝันไป Galapagos 1 - เตรียมตัว เดินทาง แวะพักที่ Yotel Amsterdam

ตอนม.4 ได้อ่านนิยายของคุณจันทรำไพเรื่องกาลาปาโก้ส เป็นเรื่องของผู้หญิงคนนึง ทำงานอยู่ที่เมืองกิโต้ ประเทศเอควาดอร์ แล้วยังไงไม่ทราบ ได้ไปกับเรือสำรวจของพวก Biologist ที่ไปทำวิจัยที่เกาะนี้่ค่ะ ส่วนพระเอกเป็นทหารเรือ แล้วก็เป็นลูกชายของโปรเฟสเซอร์คนนึงในทริปนั้น เลยถูกขอตัวมาช่วย

ขอยืมรูปมาจากบล็อกคุณแม่ไก่ค่ะ หนังสือของเราหายไปแล้ว T_T

อ่านเรื่องนี้แล้วประทับใจในความเป็นธรรมชาติของที่นั่นมาก โดยเฉพาะฉากที่พระเอกนางเอกไปเล่นน้ำกับสิงโตทะเล ทำให้มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะไปที่เกาะนั้นบ้างค่ะ

ความฝันมันก็เลือนๆ ไปบ้างตามกาลเวลา แต่ก็ยังเป็นที่ที่อยากไปอยู่ ถ้ามีใครถามว่าอยากไปเที่ยวที่ไหน ก็จะตอบได้เลยว่า Galapagos แต่ก็เป็นแค่ความฝันเท่านั้น ไม่ได้คิดว่าจะได้ไปหรอกนะคะ

โดยส่วนตัวแล้ว คิดว่าเราพอจะเก็บเงินไปเที่ยวได้ เพราะโสด ไม่ได้แต่งงาน พ่อแม่ก็ดูแลตัวเองได้ไม่ต้องห่วงทางด้านการเงินอะไร แต่ปัญหาที่สำคัญคือไม่มีเพื่อนไปด้วย เพราะค่าเดินทางมันแพงมาก แล้ว Galapagos มันก็เป็นความฝันของเราคนเดียว ไม่ใช่ของเพื่อนเราด้วย คงไม่มีใครยอมเสียเงินขนาดนั้นไปที่ที่ไม่ใช่ความฝันของตัวเองหรอก

แต่เมื่อเดือนกุมภาที่ผ่านมา เพื่อนส่ง SMS มาถามว่ากาลาปากอสนี่อยู่ที่เอควาดอร์รึเปล่า อาจจะไปประชุมที่นั่น ความฝันของเราก็กลับเรืองรองขึ้นมาอีกครั้งค่ะ พอเพื่อนคอนเฟิร์มว่าไปที่นั่นแน่ๆ เราก็จัดการเรื่องเที่ยวทันที

เราเคยเห็นในเว็บว่าชัยทัวร์รับจองทริปกาลาปากอส แต่โทรไปก็ไม่เจอตัวคนที่รับผิดชอบซะทีค่ะ เราเลยไม่รอแล้ว เพราะกลัวทั้งเครื่องบินและทริปกาลาปากอสจะเต็ม จองเองเลยค่ะ

ตั๋วเครื่องบิน

ตอนแรกติดต่อ Travel Agency ที่พี่ที่ทำงานเคยใช้ก็บอกว่าจองตั๋วไป Quito ไม่ได้ ไม่รู้ทำไม เราก็เอาวะ จองเองเลยละกัน เลยเสิร์ชเน็ตค่ะ

ไฟลท์ที่ราคาถูกที่สุดเป็นของสายการบิน KLM บินจากกรุงเทพไป Amsterdam แล้วค่อยไป Quito อีกที ที่แย่คือต้องนั่งแกร่วอยู่ที่ Amsterdam ถึง 15 ชั่วโมง เนื่องจากเพื่อนเราไปประชุมก่อน เสร็จวันเสาร์ เรากะว่าจะออกจากกรุงเทพวันศุกร์ ไปถึง Quito วันเสาร์แล้วจะได้เริ่มเที่ยวด้วยกัน แต่เห็นราคาตั๋วแล้วน้ำตาแทบไหล เพราะมัน 9 หมื่นกว่าบาทเลยเชียว เลยลองเลือกออกวันพฤหัสดู ถูกลงไปเกือบสามหมื่นค่ะ เหลือ 7 หมื่นกว่าๆ เท่านั้นเอง (น้ำตาก็ยังนองหน้าอยู่ดี) แต่ไม่ได้นะ ถ้าไม่ไปหนนี้จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว เราเลยเลือกไฟลท์นี้แหละค่ะ

ที่แรกจะจองของ edreams.com ซึ่งก็จองแล้วนะ ให้ตัดบัตรเครดิต แต่ก็มีอีเมล์มาให้ใช้ wire transfer แทน เราก็เลยเริ่มปอด ไม่ค่อยไว้ใจเท่าไหร่ หาพวกรีวิวในเน็ตก็บอกว่าเว็บนี้ไม่ดี ซื้อตั๋ววุ่นวายเรื่องโอนเงินนี่แหละค่ะ แต่เช็คในเว็บบัตรก็ยังไม่ได้โดนตัดเงิน เลยหาใหม่

คราวนี้ได้ของ ebookers.com ค่ะ พอกดจ่ายเงินไปไม่นาน ด้วยความที่ยอดมันเยอะ KTC โทรมาเลยว่าซื้อของทางเน็ตไปรึเปล่า เราเลยได้โอกาสถามซ้ำอีกทีด้วยว่าคราวที่แล้วของ edreams นี่ตัดเงินไปรึยัง ซึ่งก็โชคดีค่ะ ที่ทางนั้นไม่ได้ตัดเงินเรา

รายละเอียดไฟลท์ค่ะ

จบไปหนึ่งเรื่อง เรื่องต่อไปคือเรื่องทริปที่กาลาปากอส

ทริปกาลาปากอส

เนื่องจากติดต่อ travel agency ในไทยไม่ได้ซะที เราเลยเสิร์ชเน็ตค่ะ ดูแล้วเว็บ galapagosislands.com นี่น่าจะโอเคสุด มีลิสต์เรือต่างๆ ให้ดูมากมาย แล้วเราก็อีเมล์ไปถามเขา บอกว่าเราไปถึงวันไหน ต้องกลับวันไหน มี budget เท่าไหร่ ให้เขาช่วยเลือกให้เราด้วย เขาเลยแนะนำว่าให้ไปเรือชื่อ New Flamingo ดูในรูปมันก็เล็กอะนะ เพื่อนเราก็เมาเรือด้วย เลยถามไปอีกทีว่ามีเรือใหญ่กว่านั้นแนะนำมั้ย ทางนั้นก็แนะนำมา แต่มันแพงอ้ะ

ถ้าไม่เอาแบบ cruise ก็ต้องเป็นแบบ land based พักที่โรงแรมบนเกาะหลัก เช่น Santa Cruz หรือ San Cristobal แล้วไปหาเรือไปเกาะต่างๆ เอาในแต่ละวัน ซึ่งก็จะเสียเวลาเดินทางมาก สุดท้ายก็เลือก New Flamingo แหละค่ะ

จ่ายเงินเรียบร้อยผ่าน Paypal ทางนั้นก็ email ใบนี้มาให้ค่ะ เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับทริปที่ Galapagos (ราคาสำหรับ 2 คน) ส่วนเอกสารตัวจริงจะส่งไปให้ที่โรงแรมที่ Quito เลย

คราวนี้ใกล้จะเดินทางแล้ว ไอ้ 15 ชั่วโมงที่ต้องอยู่ที่ Schiphol Airport นี่จะทำยังไงดี เป็นตอนกลางคืนอีกด้วย จะขอวีซ่าเชงเก้นแล้วไปเที่ยวก็ไม่รู้จะเที่ยวที่ไหน สุดท้ายเลยไม่ได้ขอค่ะ เลือกพักที่ Yotel ซึ่งเป็นโรงแรมเล็กๆ ในสนามบินแทน ก็จองตั๋วทางเน็ตอีกเช่นเคยค่ะ ยอมเสียตังค์ 80 ยูโรดีกว่านอนเก้าอี้ที่แอร์พอร์ตแหละเนอะ ได้อาบน้ำด้วย

หลังจากนั้นก็นับวันนับคืนรอวันที่จะได้ไปค่ะ คุณเพื่อนที่ออกเดินทางไปประชุมก่อนแล้วก็โพสต์รูปในเฟสบุ๊คบ้าง อีเมล์มาบ้าง ให้เตรียมอะไรเพิ่มเติม เราก็เตรียมของ ตื่นเต้นๆๆๆๆ (ได้ของใหม่เต็มเลยค่ะ เป็นทริปที่ตื่นเต้นที่สุดในชีวิตเลยก็ว่าได้)

ในที่สุดก็ถึงวันเดินทางค่ะ ได้ออกเดินทางซะที

ถึงสุวรรณภูมิแล้ว ก็ยังคุยกับคุณเพื่อนผ่าน Line อยู่ ต้องซื้อมาม่าไปให้เพื่อนด้วย ที่แอร์พอร์ตแพงมาก ถ้วยละ 50 บาทแน่ะ T_T แถมยังโหลดของไปหมดแล้ว ต้องหิ้วมาม่าพวกนี้ไปตลอดทาง

ขึ้นเครื่องแล้วพบว่าเราโชคดีมากค่ะ ได้ที่นั่งบนเครื่องแถวที่ 15 ซึ่งอยู่หลังที่นั่งพิเศษที่ปรับเอนได้มากกว่าปกติ คนออกแบบคงกลัวว่าตรงนี้จะโดนข้างหน้าเอนมาเบียด เลยเหลือระยะห่างให้ที่นั่งนี้มากขึ้น เราเลยพลอยได้ช่วงขากว้างกว่าที่นั่งปกติไปด้วย พอไปถึง Schiphol Airport ก็เดินเล่น ซื้อครีมทามือหลอดนึง เพราะบนเครื่องแห้งมาก มือเหี่ยวเลย

มาดูสนามบิน Schiphol Airport กันนิดนึงนะคะ

บริเวณนึงเป็น Holland Boulevard มีอะไรน่ารักๆ ให้ดูเยอะอยู่เหมือนกันค่ะ

มี Comfort Seat ให้นั่งด้วย ไปนั่งอยู่แป๊บนึงระหว่างรอเวลาจะไปนอนที่ Yotel

ตอนกลางคืนว่าง แต่ตอนกลางวันเต็มค่ะ (แอบไปดูตอนขากลับ)

แล้วก็ไปพักที่ Yotel

ห้องพักก็เป็นห้องเล็กๆ เข้าไปด้านซ้ายเป็นเตียง ด้านขวาเป็นห้องน้ำ

ถ้าต้องการแค่นอนพักก็สบายดีค่ะ แต่ห้องที่เราพักมีกลิ่นอาหารนิดหน่อย เข้าใจว่าคนพักก่อนหน้าเราคงกินอะไรในห้อง

แต่โดยรวมเราว่าโอเคนะคะ

ทางเข้า

ห้องน้ำ

ที่นอน ตรงปลายเตียงมีทีวีให้ดูค่ะ แต่ตอนนั้นเพลียมาก ไม่ได้ดูอะไรเลย

รูปนี้ถ่ายจากบนเตียง สะท้อนจากกระจกห้องน้ำค่ะ

ไม่เข้าใจว่าจะทำเตียงสูงขนาดนั้นไปทำไม

พอเช้า ก็เช็คเอาท์ ไปหาของกินค่ะ

มี wifi free ด้วย แต่โทรศัพท์เราห่วยเอง เข้าไม่ได้ค่ะ

ขากลับลองอีกที เข้าได้แฮะ

ตรงที่นั่งกินข้าว แต่งเป็นรูปแผนที่ค่ะ ดูไปดูมาเจอนนทบุรีซะงั้น

ถังขยะ (อันนี้เป็นความชอบส่วนบุคคล เราชอบถ่ายรูปถังขยะตามสถานที่ต่างๆ ค่ะ)

ที่ชอบอีกอย่างของสนามบินนี้คือสามารถเช็ครายละเอียดการเดินทางด้วยตัวเองได้ค่ะ เปลี่ยนที่นั่งบนเครื่องได้อีกด้วย (ถ้ายังว่างอยู่นะ)

จากนั้นก็เตรียมตัวขึ้นเครื่อง

เครื่องชื่อ Machu Pichu

บนเครื่องคราวนี้แย่หน่อยค่ะ ไม่ได้ตรงเบอร์ 15 แล้ว ได้ที่นั่งด้านหลังๆ ซึ่งรู้สึกว่าแคบมาก ดีที่ขอที่นั่งตรงริมทางเดินไว้ เลยลุกไปห้องน้ำ ไปบิดขี้เกียจ ไปขอน้ำ ขอขนมกินได้บ่อยๆ

นั่งเครื่องไปอีก 11 ชั่วโมงกว่าๆ พอถึง Quito ก็สะบักสะบอมพอสมควร

เพื่อนเราบอกว่าแจ้งทางโรงแรมแล้วว่าให้รถมารับ แต่ออกมาถึงกลับไม่มีค่ะ

รออยู่ประมาณครึ่งชั่วโมงเลยหารถไปเอง โชคดีมีเคาน์เตอร์เรียกรถไปโรงแรมให้

สนามบิน Mariscal ที่ Quito ขาเข้านี่หน้าตาเชยมากค่ะ ออกมาแล้วตกใจเล็กน้อย เนื่องจากมีคนแต่งชุดพื้นเมืองมาขายลูกอม ขายหมากฝรั่งด้วย รู้สึกเหมือนสถานีรถไฟต่างจังหวัดบ้านเรา เสียดายที่ไม่ได้ถ่ายรูปไว้ มัวแต่กังวลเรื่องหารถไปโรงแรม

ถังขยะที่ Mariscal Airport

ระหว่างทางไปโรงแรมก็เริ่มหายใจไม่ทัน โชคดีที่เพื่อนบอกไว้ก่อนแล้วว่าอาจมีอาการอย่างนี้เนื่องจากเืมือง Quito นี่อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 2800 เมตร (สูงกว่าดอยอินทนนท์อีก) อาจทำให้เกิด Altitude Sickness ได้ค่ะ

มาดูรูปบ้านเมืองเขากันดีกว่าค่ะ

แล้วในที่สุดก็ถึงโรงแรมซะทีค่ะ

Create Date : 22 มิถุนายน 2555
Last Update : 28 กรกฎาคม 2560 17:30:55 น.
Counter : 5437 Pageviews.

10 comments

	เชียงใหม่ เมืองแห่งเสน่ห์เหนือ ที่ใครมาก็ต้องหลงรัก สมาชิกหมายเลข 7440623 (13 พ.ค. 2568 15:04:14 น.)		แนะนำน้ำตก Yutaki (湯滝)　แถวนิกโก้ SN_monchan (11 พ.ค. 2568 20:38:38 น.)
	Which country is best for honeymoon? สมาชิกหมายเลข 8738896 (9 พ.ค. 2568 20:02:15 น.)		ตามอุ้มสีมาเที่ยว "ปทุมธานีดีต่อใจ" one day trip เที่ยวเช้าเย็นกลับแบบชิลชิล อุ้มสี (7 พ.ค. 2568 04:40:27 น.)