ป่าใกล้เมือง

ขณะที่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกกับทริปน้ำตกคลองคันเบ็ดกลางป่า อช.ใต้ร่มเย็น อ.บ้านนาสารนั้น ซึ่งคาดว่าช่วงต้นเดือน พ.ค.นี้ คงพร้อมรบกันเป็นส่วนใหญ่ ถึงตอนนั้นจะเอาภาพมาฝากให้ชมกันครับ แต่ช่วงที่รอการเดินทางที่ว่า ลองตามไปเดินป่าทริปเล็กๆที่ “เขาท่าเพชร” ป่าใกล้เมืองสุราษฎร์ธานีสักบล็อกก่อนนะครับ


“วนอุทยานเขาท่าเพชร” ชื่อเดิม ต่อมากองอนุรักษ์สัตว์ป่าได้ประกาศจัดตั้งเป็น “ศูนย์ศึกษาธรรมชาติและสัตว์ป่า” เมื่อ พ.ศ. 2519 ปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็น “สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าเขาท่าเพชร” พื้นที่ป่าเป็นป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ มีไม้กระบก ตะเคียนทราย คอแลน หวายแดง อะไรพวกนี้แหละ

สัตว์ก็มีจำพวกหมูป่า กระจง นกปรอด นกกระจิบเล็ก นกกินปลี นอกเหนือจากนั้นเจ้าหน้าที่นำทางเค้าเล่าว่า ยังมีสัตว์เลื้อยคลานจำพวกงูเหลือมที่ชาวบ้านนำมาปล่อยกันบ่อยๆอาศัยอยู่ด้วย ในป่าพื้นราบเชิงเขาจงอาจก็มีไม่น้อย แต่เขตที่ลุงและคณะไปเดินนั้น ไม่ใช่เขตอิทธิพลของเขาครับ ถ้าใช่ จ้างลุงก้อไม่ไปเดินให้ขาสั่นหรอก เชื่อเหอะ ใครจะกล้าไปเดินล่ะ ว่ามั้ย

ส่วนบนยอดเขาสามารถชมทิวทัศน์ตัวเมืองสุราษฎร์ได้ อีกทั้งเป็นที่ตั้งของ พระธาตุศรีสุราษฎร์ในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2500 นับเป็นปูชนียสถานองค์แรกของชาวบ้านดอน ต่อมาพระธาตุชำรุดมีรอยร้าวที่ฐาน จึงถูกรื้อแล้วสร้างขึ้นใหม่เป็นทรงสูงเรียวคล้ายลำเทียน นับว่าเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงาม

เขาท่าเพชรประกอบด้วยภูเขา 3 ลูกติดต่อกัน ยาวประมาณ 8 กิโลเมตร จุดที่สูงสุดนับจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 210 เมตร มีเนื้อที่ 2,906 ไร่ ในเขตตำบลมะขามเตี้ย อำเภอเมืองฯ จังหวัดสุราษฏร์ธานี ห่างจาก ตัวเมือง 6 กิโลเมตร ตามทางหลวงแผ่นดิน สุราษฎร์ - บ้านนาสาร แล้วแยกเป็นถนนลาดยางขึ้นไปยังยอดเขาอีกประมาณ 2 กิโลเมตรครับ


คุณธำรงหัวหน้าทีมบุกป่าใกล้เมืองในครั้งนี้เป็นผู้จุดประกายและชักชวนไปแรมไพรด้วยกัน ตามไปเดินเที่ยวชมป่ากะผมไหม ถึงไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษก็เหอะนะ แต่การได้เดินในป่าของคนชอบเที่ยวป่า ก็ให้อารมณ์ร่าเริงได้ไม่น้อยแหละครับ

ถึงแนวเขาจะยาว 8 กม.แต่ผมเดินเลาะเลียบเชิงเขา ไต่ปีนเขาชันเป็นบางช่วง เดินทอดน่องไปตามสันเขาอีกครู่ใหญ่ๆ รวมๆระยะทางแล้วอย่างเก่งก็ไม่เกิน 2 กม.ครับ ไปกันนะพวกเรา ไม่เหนื่อยอะไรหรอก เชื่อสิ แค่ทางสั้นๆเอง ไปครับ



1. ไปถึงก็ชมวิวเมืองสุราษฎร์ธานีก่อนเป็นอันดับแรก




2. หมูป่าที่แสนจะคุ้นกับคน ซึ่งเจ้าหน้าที่เขาเลี้ยงไว้




3. ชมวิวชมหมูอยู่ครู่ใหญ่ เมื่อทุกคนพร้อมแล้วก็ออกลุยไปชมไพรกันต่อครับ




4. ระยะต้นต้องเดินลงหุบเขา บางช่วงจึงระวังกันเป็นพิเศษ มือหนึ่งเกาะแง่หิน อีกมือเหนี่ยวดึงไม้เล็กๆหวังช่วยพยุงตัวเอาไว้ หุหุ กันร่วงครับ




5. เที่ยวป่ามาก็หลายครั้ง หน่อมแน๊มทุกครั้งที่ท่องไพร เพิ่งมีครั้งนี้นี่แหละ ได้นักพฤกษาศาสตร์ (ขอเรียกแบบหรูๆหน่อยนะ) ร่วมทางไปด้วย จึงได้รู้จักว่า ไม้เลื้อยนี้คือ........ เถาวัลย์งด




6. สีสดคล้ายดอกเข็มนี่ชื่อเพราะครับ...... ระย่อมหลวง




7. เที่ยวป่าแต่ละที่ ผมไม่ต้องการผจญสัตว์ใหญ่ สัตว์ดุร้าย สัตว์มีพิษอื่นๆหรอกครับ เจ้าของคราบนี้ก็ไม่อยากเจอเช่นกัน เซี้ยวเสียว อึ๋ยยยย




8. นักพฤกษาศาสตร์บอกว่า ชื่อ......นมควาย




9. เขาบอกว่าคือ......เพลี้ยไก่แจ้ครับ ขณะที่ถ่ายภาพพวกเข้าแถวเดินกันอยู่นะนั่น สีขนน่ารักจังเลย




10. เถาวัลย์พันกันอีรุงตุงนังดูมั่วไปหมด




11. ได้ยินคนชำชองพันธุ์ไม้เรียกชื่อว่า......หมากลืมต้น ( ดีนะที่มีชื่ออยู่แล้ว ถ้ายัง ลุงจะขอเรียกเป็นเบื้องต้นก่อนว่า "หมากผ่าเหล่า" จากนั้นก็รอพวกเราเข้ามาตั้งชื่อให้ เอาให้เหมาะเหม็งกับที่ผลคล้ายหมาก แต่ดันไปออกผลกับต้นไม้ที่ไม่มีส่วนไหนคล้ายหมากเลยสักนิดเดียว ก็น่าจะดีนะครับ)




12. ช่วงแรกๆเดินคุณเธอจะส่งเสียงแจ๊ววว ๆ อย่างสดใสเลยเชียว เป็งงายยย ตอนนี้ล่ะเงียบเลยนิ ก้มหน้าก้มตาเดินไม่ยอมพูดยอมคุยกับใครแล้วเหรอ




13. ได้เดินแบบสบายๆบนสันเขา ค่อยยิ้มออกบ้างแล้วใช่มั้ยล่ะ หนูจ๋า

(อดทนใช้ได้เลยครับรายนี้ คราวหน้าเห็นบอกว่าหนูขอตามลุงเขาไปเที่ยวอีกนะคะ เราก็ปากไวบอกว่าได้ทันที เพราะบางครั้งการมีผู้หญิงเดินป่าด้วย ป่าก็สดใสขึ้นอีกโขแหละครับ หลานอยากไปลุจึงไม่ขัดข้องอันใดทั้งสิ้น)




14. อิอิ ไม่ได้มาเดินแบบนะคะโปรดอย่าเข้าใจผิด หนูมาปีนเขาเที่ยวป่าค้า

(ชอบป่าเป็นชีวิตจิตใจ ถ้าว่างละก้อ ไปไหนไปกันเลยครับ สำหรับน้องหนูคนนี้ เที่ยวป่าคราวหน้า ก็จะไปกะลุงด้วย ถึงเคยโดนพลังลึกลับบางอย่างแต่งชุดขาวสำแดงตนให้เห็นชั่วอึดใจหนี่งที่ยอดเขาท่าเพขรมาหยกๆก็ตาม ก็ยังบ่ย่านอีกแน่ะ ใจแข็งจังเลยน้องหนู ลุงซะอีก เจอแค่เสียงเดินตามหลังไปแต่ไร้ตัวตนเมื่อหันกลับไปมองนั้น ยังรู้สึ ขนลุกขนพองอยู่เลยนะเนี่ย)




15. ส่องนกดีกว่า นกปรอดมีให้เห็นได้ง่ายสุด ณ ที่นี่ ลุงเองเก็บภาพมาด้วยแต่ไม่ได้นำลงให้ชมครับ




16. ตกค่ำแทบทุกคนก็ไปนั่งชมวิวตัวเมืองกันต่อ หลายๆคนเลยครับ ได้เป็นนายแบบ เป็นนางแบบคู่กับวิวแสงสีของตัวเมือง สฎ.ในค่ำคืนนั้น





17. วุ่นวายกับแสงสีตัวเมืองอยู่พักใหญ่ ลุงและอีกบางคนแว็บไปชมเดือนชมดาวที่พระธาตุฯอยู่เป็นพักแหละครับ




18. เห็นกิ่งไม้บังแสงจั้นทร์ดูแปลกตาดี ก็ลองเก็บเอามาดูด้วย



19. รายนี้กลางคืนต้องทำสงครามกะห้องน้ำหลายรอบ คงจะเพลียๆแน่เลย ถึงยังไม่ยอมลงจากเปลนอนสักที



20. เช้าๆหัวหน้าชุดแรมไพรก่อกองไฟควันโขมง แสงอาทิตย์สาดทะลุแนวพุ่มไม้ลงมา ปะทะควันไฟเป็นลำเป็นสายดูสวยงาม ตากล้องก็อดไม่ได้ที่จะไม่เก็บภาพเอาไว้ .... ก็ขอปิดท้ายกับภาพนี้นะครับ






รอโหลดกันเหนื่อยอีกแล้วสินะ ระยะหลังๆแต่ละบล็อกของลุงไม่ต่ำกว่า 20 ภาพแน่ะ เอาไว้คราวหน้าลุงจะพยายามลดลงให้น้อยกว่านี้ครับ อิอิ แต่ไม่รู้จะทำได้มั้ยนะ...

Create Date : 06 เมษายน 2551 Last Update : 29 เมษายน 2551 20:26:45 น. Counter : 4007 Pageviews.		33 comments
Share Tweet

	ตลาดน้ำกวางโจว ดาวริมทะเล (12 เม.ย. 2567 18:42:45 น.)		ซ้งเย็นตาโฟ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลา พุทธมณฑลสาย 1 แมวเซาผู้น่าสงสาร (11 เม.ย. 2567 10:45:53 น.)
	Day 7 เที่ยววันสุดท้าย Arashiyama กลางสายฝน khimyo (10 เม.ย. 2567 12:51:53 น.)		แชร์ประสบการณ์... ตามรอยสแลมดังก์ ที่คามาคุระ-โตเกียว imuya (10 เม.ย. 2567 00:13:46 น.)