::: มิงกาลาบา.........ตอน เมื่อสองหอยย่องไปเมืองหม่อง :::
ขอท้าวฟามนิดนึง...
เนื่องด้วยชนชั้น(แรงงานทาส)อย่างเราอาศัยอยู่ในชุมชนใหญ่มวากกกกอย่าง BP (Blueplanet) มานานพอตัว
บ่มเพาะทักษะด้านโปรการท่องเที่ยวมาพอสมควร บวกกับ คิดเสมอว่าเรามีอาชีพ "นักท่องเที่ยว" (คิดด๊ายยย - -'')โปรหางแดง รอบกลางปีเลยไม่หลุดมือไปไหน อุวะฮ่ะๆๆๆๆๆ (มารได้อีก)


ไม่ได้วางแผนอะไรล่วงหน้า แค่เห็น โปร O บาท ตำตาเลยทนไม่ไหว สอยกันมาคนละใบแบบเบลอๆ เง้อออ....งานนี้เราเล็งไป มิงกาลาบา ที่ย่างกุ้งขำๆ หลังเปิดปฏิทินเทียบวันหยุดกะตาราง(เที่ยว)ของแต่ละคนกันหูตูบ............ได้มาเวลาเหมาะเหม็งที่ช่วงวันพ่อ 3-6 Dec. .............




ดูสิ ราคามันถูกกว่าไปกลับ เชียงใหม่ด้วยรถทัวร์ซะอีก >o<







แต่ทริปแสวงบุญเราอุปสรรคเยอะมาก - -''
ไม่ว่าจะเวลาไปขอวีซ่าที่หมิ่นเหม่ และข้อมูลไม่ชัดเจนเลยว่าให้คนอื่นยื่นแทนได้มั้ย หรือจำต้องไปเอง
อิชั้นเองก็ถ่อสังขารณ์กลับจากจีนแบบหมิ่นเหม่ ไม่ได้ติวการบ้านเล้ย...ที่พักก็ต้องหา รถก็ต้องเช่า ......คุณพระ !!!


แต่ทุกอย่างก็ผ่านไปได้แบบฉิวเฉียด......แต่โชคไม่ดี ตรงที่เหลือเพื่อนร่วมชะตากรรมเพียงคนเดียวคือ น้องหอยกาบ ของเรา (นู๋วา) ...งานนี้แจ้งวาไว้ก่อนเดินทางว่า......."ตายเอาดาบหน้าละกันนะวา " - -''


และแล้ววันเดินทางก็มาถึง......ครั้งแรกกับเมืองหม่องของเรา
ไฟลท์เช้าได้โล่ห์ 7โมง 20..........นัดเจอกันตี 5ครึ่ง.....ออกจากบ้านแบบจรวดมาก พี่แท็กซี่คงอยู่ พีระเซอร์กิตมาก่อน ซิ่งซะไม่ถึง 15 นาที ถึงสุวรรณภูมิ O_o !!! (ถึงจะรีบแต่กุก็ยังกัวตายอยู่นะคะ)

วันนี้ชิลกันสองคนกะวา นั่งหม่ำไรกันใน King power Lounge ก่อน กัวหิวตายยิ่งกว่าตกเครื่อง 5555555+





พล่ามเยอะ ไปเหอะ......นั่งขำๆ ชั่วโมง 15 นาทีก็ถึง ย่างกุ้ง (ลุงคนพม่าบอก ออกเสียงว่า ย๊างโกน)




ติดตรง ตม.นานพอดู นาทีนั้นก็ลุ้นไปด้วยว่าที่พักที่เราจองไว้จะมารับป่าว (รับส่งฟรี เริ่ดที่สุด)
หันไปเห็นชื่อตัวเองก็โล่งงงง.................หนามบินเล็กๆ เต็มไปด้วยคนใส่โสร่งประทานาคา พระ เณร แม่ชี






และนี่รถที่รับ พร้อมกับคนมารับที่ชื่อ Zaw zaw จาก Motherland inn guesthouse


เราอ้อมโลกซักพักก็มาถึงที่พัก ...อย่าถามนะว่า area นี้เรียกว่าไร - -''



ทางที่ผ่านค่ะ


พักใหญ่ๆก็มาถึง Motherland inn guesthouse
พนักงานดูเป็นมิตร ที่พักดูโอเคกว่าที่คิดไว้มาก........
พนักงานไล่ให้เราไปกินอาหารเช้าก่อน เพราะห้องยังไม่เสร็จ
(อาหารเช้าตอน 10 โมง เริ่ดได้อีก - -'')





เราจองห้องพักแบบ ห้องคู่ พัดลม มีน้ำอุ่นด้วย .....ในราคาคืนละ 13 USD......






ระหว่างนี้เรารอตาโทนี่ รถเช่าที่ติดต่อไว้พักใหญ่ ...แต่ตาโทนี่สาปสูญ !!!!!!!!!!
เลยตัดสินใจว่าวันนี้จะเดินเที่ยวเอง....โดยมีแผนที่ที่ยิ้มเค้ามา กะหนังสือที่ยิ้มไอ้เมย์มา - -'' (ไม่มีของตูเรยค่ะ)
โดยเก็บที่หลักๆของย่างกุ้งกัน ก่อนที่จะหาทางไป บะโก (หงสาวดี)พรุ่งนี้ แบบยังไม่มีรถ เอิ๊กกกก



เริ่มกันจากที่ใกล้สุดในแผนที่นี่ล่ะ เจดีย์โบตะตอง (Botataung paya)ระหว่างทางก็สำรวจตลาดให้บอสัดไปด้วย ฮ่ะๆๆๆ





เจดีย์โบตะตอง (Botataung paya)..เค้าว่าหลังถูกทิ้งระเบิดก็ค้นพบโกศทองคำที่บรรจุพระเกศาธาตุกับพระบรมธาตุอีก สององค์ แลวก็พระพุทธรูปที่ทำด้วยเงิน ทอง สำริดอีกถึง 700 องค์ .....คุณพระ !!!!!!

ค่าเข้าสำหรับคนต่างชาติคนละ 3 USD รวมค่ากล้อง ….อ่อ รองเท้าที่นี่ไร้ความหมายมาก ถอดเดินเท้าเปล่าตะหรอดๆ










ตอนนี้เรากำลังเดินวนรอบองค์เจดีย์อยู่ แสงทองแวบวับ เหอๆๆ.......







ด้านในมีพระเกศาธาตุและของมีค่าอยู่....นอกจากนี้รอบๆองค์พระธาตุนี้ยังมีพระพุทธรูปซึ่งถูกค้นพบและเก็บไว้อีกเยอะมาก







ออกมาดูด้านนอกกันบ้างค่ะ.....วันนี้ฟ้าโปร่ง......มาก....โปร่งไปไหน น่าเสียดายที่ตอนนี้เป็นเจดีย์เสื่ออยู่ - -'' แต่ก็ยังสวยและผู้คนยังหลั่งไหลมาเหมือนเดิม








นอกจากนี้แล้วใกล้ๆ ก็ยังมี "เทพทันใจ" ที่ใครๆก็บอกว่าขออะไรก็จะได้สมหวัง
ลุงคนที่ดูแลบอกวิธีไหว้เรา ว่าให้เอาแบ็งค์สองใบ ม้วนแล้วสอดไว้ที่มือของเทพทันใจ แล้วให้เราขอสิ่งที่อยากได้ พร้อมบอกชื่อเสียงเรียงนามเราให้ชัดเจน แล้วเอาหน้าผากเราไปจรดกับปลายนิ้วท่าน ...จากนั้นดึงเอาแบ็งค์ใบนึงมาเก็บไว้ เค้าว่าจะได้ตามที่ขอแน่นอน .....ซ้าธุ...... _/l_








สาธิตการขอพรโดยนู๋วา ฮ่ะๆๆๆๆ














ข้ามฝั่งถนนมานิดเดียวก็มีที่ให้เราแวะอีก ...ที่นี่มีรูปปั้นที่เรียกว่าอะไรซักอย่าง (จะพูดทำไม ไม่รู้ก็เงียบไป เง้อออ -*-) เค้าว่าเวลาขออะไรให้ไปกระซิบที่ข้างหู แล้วจะได้ตามคำขอ ...ว่า......แต่เรางงๆ เพราะไม่เห็นมีใครทำ เลยไหว้เฉยๆค่ะ






ตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวเรามีตังค์ USD ล้วนๆ ยังไม่ได้แลกเป็นจั๊ตเลย (แลกกันมาสองคน 400USD)
นั่นหมายถึงเราจะขึ้นรถไม่ได้ เพราะไม่มีตังค์พม่าและไม่มีแม้ตังค์ย่อยที่เป็นดอลลาร์ ....
.....ดังนั้นเดินเถอะค่ะพี่น้อง - -‘’

เป้าหมายหน้าคือ พระเจดีย์สุเล (Sule paya) แต่เดินถนนที่พม่านี่ลำบากจังค่ะพี่น้องคะ....มันห้ามผ่านหน้าตึกไรของทหารหรือตำรวจซักอย่าง ถือปืนอีกแน่ะ.....นี่ถ้ากุเดินผ่านไปนี่จะยิงกุตายห่านมั้ยคะ ????!!!!!

และแล้วก็มาถึงจนได้....พระเจดีย์สุเล (Sule paya)

เป็นพระเจดีย์ที่อยู่กลางเมือง ถือเป็นหัวใจของย่างกุ้งเลยทีเดียว.....เค้าว่าพระเจดีย์นี้ด้วยหินอ่อนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดด้วย ป๊าดดดด ...





ด้านข้างเป็นตึกสถาปัตยกรรมแบบโคโลเนียล....แต่ไม่ได้ไปเฉียดเลย เพราะนาทีนี้แค่เดินที่สุเลพยา นี่ก็แทบเปื่อยละ เหอๆๆๆ




อากาศร้อนแล้วก็เมื่อยกันละ จะกินไรข้างทางเหมือนปกติก็ไม่ไหว เพราะน่ากัวเกิ๊น ขนาดน้ำยังระแวง ดีที่เจอร้านเบเกอรี่เลยแว็บเข้าไปซื้อน้ำ ....แล้วก็เดินกันต่อ



เดินมันยันตลาดเลยค่ะ ....ตลาดบ๊กจ๊กอองซาน (Bogyoke Aung san
กะมาหาที่แลกตังค์แต่ไม่เจอ เหนื่อยมวากกก ง่วงด้วย นั่งพักซักแป๊บก็ตัดสินใจถามคนที่อยู่ใกล้ๆ (พุชายยยย อิอิ) เค้าเลยพาไปแลกตังค์ที่ร้านขายจิลเวลรี่ เราแลกแค่ 50 USD เลยได้เรทที่ 940 จั๊ด ....โอ้ววว รวยยละ เหอๆๆๆ แบ่งกันคนละครึ่ง ถือกันคนละ 24000 จั๊ด....อิอิ





นาทีนี้เราเลือกไปชเวดากองเลยดีกว่า เพราะใกล้ค่ำละ ....นั่งแท็กซี่คือทางเลือกสำหรับนาทีเหนื่อยๆนี้
วันนี้มีวาทะเด็ด.......เอาเฮอะ นาทีนี้แท็กซี่เรียก5000 กุก็ไป (กุเหนื่อย) 555555555555555+
ต้องขออภัยอย่างแรว๊งที่พาน้องมาตกระกำลำบาก แต่นี่แหละชีวิตวาเอ๊ย ฮ่ะๆๆๆ ...เราโดดขึ้นแท็กซี่สภาพใหม่จัดคันนึง เค้าเรียกแค่ 2000 จั๊ด ....มีแอร์ด้วย ....คุณพระ เพิ่งเจอ O_o !!!!



ไปถึงชเวดากองแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวนัก จ่ายตังค์ค่าเข้าคนละ 10 USD ถอดเกือกแล้วขึ้นลิฟท์แก้ว (เริ่ดมั้ยคระคู๊ณณณ) .....มาถึงจนได้ ชเวดากอง >o<











ระหว่างที่ยืนเสล่ออยู่ ก็มีคนเข้ามาเสนอตัวเป็นไกด์ให้ เค้าขอ 5000 จั๊ด แต่เราขอลดเหลือ 40000จั๊ด ซึ่งก็ถูกมากละ สำหรับการแนะนำสถานที่ในเวลาเกือบสองชั่วโมง ....ภายหลังเราสำเหนียกว่ามันคุ้มมาก เพราะมันทำให้เรารู้อะไรมากขึ้น ไม่ต้องเสล่อเดินๆๆๆจบ ....มันมีอะไรที่ต้องเข้าใจมากกว่านั้น แล้วเค้าก็ไนซ์ดีทีเดียว



พอตกเย็นอย่างงี้ก็จะมีอาสาสมัครมาช่วยกวาดลานวัดทุกวัน ด้วยความศรัทธาจริงๆค่ะ......ดูมีเสน่ห์ดีจัง





ค่ะ......และแล้วเราก็พาทุกคนมาดู.................พระธาตุเสื่อ






แต่ไม่หวั่นค่ะ ...ยังงัยชเวดากองก็ยังคงดูยิ่งใหญ่ สวยงาม ......ยิ่งค่ำก็ยิ่งสวย เพราะสีทองที่ต้องแสงไฟ.....ระหว่างนี้ไกด์ก็พาเราไปไหว้พระประจำวันเกิดกันค่ะ



มาดูกันว่าข้างบนพระธาตุมีอะไรบ้าง อืมมมมมม......
















จริงๆแล้วองค์พระธาตุจะเป็นอย่างในรูปนี้ค่ะ ...ส่วนสิ่งที่อยู่บนฉัตรก็อย่างที่เห็น เยอะมวากกกกกกกกก....... (ในรูปจะซูมให้ดู ซึ่งเป็นภาพถ่ายในปี 1999 ที่ทำการบูรณะใหม่ค่ะ)






ส่วนนี่เป็นไซส์ของส่วนของฉัตรบนพระธาตุค่ะ เหอๆๆๆ ไม่ได้เล็กนะคะข่าวว่า





ไม่อยากจะนึก ถ้าระฆังหล่นลงมาครอบคนที่นั่งสมาธิด้านในจะเป็นยังงัย เง้อออ....เอามือจับ ปากดหนามากง่ะ - -''




ยิ่งดึก ชเวดากองก็ยิ่งสวย ทองงงงมาก.....แต่เราต้องกลับแล้วค่ะ
ขอบคุณไกด์น่ารักๆ (ลืมถามชื่อซะงั้น) แล้วยังช่วยสอนภาษาพม่าให้เราด้วย ^^






พระจันทร์เหนือฟ้าเมืองย่างกุ้ง ^______^




หลังจากที่อิ่มเอมกับชเวดากองแล้ว เราก็ต้องหาไรกินให้อิ่มท้องมั่งละ ...
ปกตินิไม่เคยมีปัญหาเรื่องอาหารการกินเลย ...แต่พม่านี่ไม่ไหวจะเคลียร์นะคะ --''
เราเลยตกลงปลงใจไปกินบุฟเฟ่ต์ที่ห้องอาหารชื่อ การะเวก (Karawek)ซึ่งมีลักษณะเป็นเรือลำใหญ่ลอยอยู่บน ทะเลสาปกันดอจี (Kandawgyi)...

เป็นบุฟเฟ่ต์อาหารนานาชาติค่ะ ...ราคา 12 USD/คน ซึ่งระหว่างที่กินก็จะมีการแสดงตลอด

ส่วนใหญ่จะเป็นคณะทัวร์มาลง งานนี้เรามากันแค่สองคน เลยนั่งกลางเป็นประธานในพิธีเรยทีเดียว ฮ่ะๆๆๆๆ
อีกอย่างพนักงานที่นี่เป็นคนไทยก็เยอะค่ะ .....ส่วนอาหารก็ถือว่าโอเค อย่างน้อยๆก็ดีกว่าเสี่ยงท้องเสียกะอาหารข้างนอกแน่ๆล่ะ - -''




















วันนี้อิ่มหนำแล้วก็ได้เวลากลับไปพักละ ข่าวว่าเพิ่งมาถึงเมื่อเช้าแต่เดินซะรอบเมืองยังกะจะช่วยเค้าบุกร้างถางพงสร้างชาติ (เรื่องเว่อร์นี่ขอให้บอก แหะๆ)........อีกอย่างเราต้องไปตกลงกับ Zawzaw เรื่องรถที่จะพาเราไป Bago หรือเมืองหงสาวดีพรุ่งนี้ด้วย เฮ้อ.........



...............................

และแล้วความซวยก็ปรากฎอีกครั้งเมื่อเราตกลงปลงใจกับ รถที่ Zawzaw หาให้ ในราคา 140 USD
แต่.........แบ็งค์100 USD เรามีปัญหา .....มีรอยหมึก(น่าจะจากตัวสแตมป์ของพนักงาน หรือแบ็งค์) ซึ่งทางที่พักไม่ยอมรับตังค์ เพราะบอกว่าทางแบ็งค์ไม่ยอมให้แลกแน่ๆ O_o !!!!...... ........งามไส้ !!!!!!!!!!



เราบอกไปว่าไม่มีแบ็งค์อื่นแล้ว เพื่อพยายามให้เค้าคิดใหม่ แล้วรับมันไปซะ ....แต่เปล่าประโยชน์
ยืนยันว่าไม่รับค่ะ ..............เพิ่งรู้สึกอยากกระทืบคนพม่าก็ตอนนี้แหละ แมร่งงงง......ทีเงินจั๊ดของเค้านี่ แทบจะละลายในมือไม่ละลายในปาก เย้ยยยย......เปื่อยยุ่ยติดมือ สีช้ำเลือดช้ำหนอง ..ทานโทด ใช้ได้คร๊า.....ห่านจิก!!!! (พูดแล้วของขึ้น) .....


สุดท้ายต้องยอมเอาแบ็งค์ร้อยใบสุดท้ายมาให้ เพื่อตัดปัญหา ไม่งั้นถ้าไม่ยอมเตรียมรถให้พรุ่งนี้ล่ะเดือดร้อนแน่ เฮ้อออ...........งั้นวันนี้อาบน้ำนอน เตรียมออกเดินทาง พรุ่งนี้เช้า 9 โมงโลด !!!!



คำเตือนนี่แค่ภาคแรกของทริป มิงกาลาบา ของสองหอย (หอยขมกับหอยกาบ).....บอกแล้วเรื่องมันยาวววววว กร๊ากกกกกก........เอาไว้มาเม้าท์ต่อตอนที่ 2 (ตอนที่นิขยัน - -'')


เจซูติ่นป่ะเด๋ ......แปลว่าขอบคุณ อิอิ...






Create Date : 13 มีนาคม 2553
Last Update : 2 กรกฎาคม 2560 16:34:00 น.
Counter : 1698 Pageviews.

2 comments
วัดพุทไธศวรรย์ ดาวริมทะเล
(18 เม.ย. 2567 17:54:51 น.)
พาเที่ยววัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร ขอพรวัดเก่าใจกลางเมืองรับปีใหม่ไทย นายแว่นขยันเที่ยว
(15 เม.ย. 2567 13:57:04 น.)
วัดพระธาตุเสด็จ อำเภอเมือง ลำปาง tuk-tuk@korat
(14 เม.ย. 2567 13:54:44 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)
  
ตามมาชมจร้า น้องนิ.......

ช่วงนี้เชียงใหม่ร้อนมากกกกเลยอ่ะ........
โดย: ถนนสายนี้เปรี้ยว วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:14:46:00 น.
  
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมจ้าพี่เปรี้ยว...

บางกอกทั้งร้อนทั้งระอุเลย เหอๆๆ ....ร้อน น้ำลายจะฟูมปากละนิ เอิ๊กกก
โดย: NiToRiA วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:21:30:26 น.
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Hanruyi.BlogGang.com

NiToRiA
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด