ชะนีหนีเที่ยว : F e n g h u a n g (凤凰)....w i t h L o v e [Mar 2016]







 ทิ้งระยะจากกระทู้แรกนานพอสมควร กับทริปเที่ยวเฟิ่งหวางแบบสั้นกุด เอาเป็นว่า ใครลืมไปแล้ว ไปดูตอนแรกที่เกริ่นเรื่องการเดินทางได้จากกระทู้นี้เลยค่ะ

ชะนีหนีเที่ยว : Fenghuang (凤凰)วันเดียวก็ยังดี : //pantip.com/topic/34984910

ที่เหลือ .....จะบรรยายด้วยภาพซะส่วนใหญ่นะคะ เนื่องจากเป็นทริปสั้นนนนนนนมาก เลยใช้ชีวิต (ชิลๆ) อยู่ที่เมืองเล็กๆที่ชื่อ เฟิ่งหวาง นี้ค่ะ อมยิ้ม16



ช่วงเดือนมีนาคม ถือว่าอากาศยังหนาวมากสำหรับเมืองจีน ซึ่งชะนีเพิ่งมาทราบภายหลังว่า ก่อนไปเฟิ่งหวาง 3-4 วันมีหิมะตกค่ะ
และสภาพเฟิ่งหวาง เมื่อวันที่ 10 มีนาคม (ชะนีไปถึง 14 มีนา) เป็นเยี่ยงนี้ค่ะ




Credit : Photo by Shasha (Hostel's hostess)

#เจ็บปวดมาก


เอาเป็นว่าทริปนี้ถือเป็นทริปเซอร์เวย์รอบหน้าจะคำนวนอย่างดี 55555



14 March'16

ตื่นขึ้นมาพร้อมสภาพอากาศที่..........อืมมม หนาวใช้ได้










และรู้สึกตัดสินใจถูกที่ยอมจ่ายแพงหน่อย ที่ 88หยวน/ห้องเดี่ยว(ตีซะ500บาท...ตรงไหนคือแพง? -*- ) ซึ่งมีแอร์ ที่เปิด 30อง ตลอดทั้งคืนทำให้นอนได้แบบไม่ทรมาน
เตียงโอเค ผ้าห่มอุ่นใช้ได้ ที่สำคัญกว่านั้น ห้องน้ำส่วนตัวซึ่งสภาพดีและมีน้ำอุ่น (มือทาบอก)
ทำให้เช้านี้ตัดสินใจ (ถึงขั้นตัดสินใจ?) อาบน้ำแต่งตัวแต่เช้าตรู๊วววว เพื่อจะรีบพุ่งไปสถานีรถบัส ซีจ้าน (西站) เพื่อนั่งรสบัสไปเฟิ่งหวาง
หลังจากศึกษา (มีการศึกษา) มาว่า มีรถออกจาก 2สถานีแต่ที่ ซีจ้าน จะมีรอบรถมากกว่า และเช้ากว่า และ (คิดเอง) ว่าน่าจะไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่ อมยิ้ม07








แต่ทะว่า......การนั่งรถเมย์พร้อมกระเป๋าลากขนาด 22 นิ้ว มันไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่
ที่สำคัญลองถามคนที่ป้ายรถเมล์เรื่องรถไป ซีจ้าน ปรากฎ ไม่มี !!!! (จุดจบชะนีอ้วนสินะ) ไม่มีรถไปลงที่นั่นโดยตรง .....อมยิ้ม20  ได้.......แท็กซี่ก็ได้ค่ะ อย่าพยายามให้มาก





มุมไบ เอ๊ยยย ฉางซาเช้านี้ยังคงวุ่นวาย รถราติดไม่ต่างกับที่ที่เราจากมาค่ะ - -''
แต่พี่แท็กก็พามาถึง ซีจ้าน ได้ในเวลาที่รับได้ รีบสิคะ รอไร !!!

ไปยืนเข้าแถวกับชาวบ้านที่หน้าเคาท์เตอร์ ซื้อตั่วไปเฟิ่งหวาง 1ที่ค่ะ !!!
ตั๋วราคา 145หยวนถ้วนค่ะ นั่งให้สาแก่ใจ 5ชั่วโมงตามข่าว.... ปกติอยู่เมืองไทยน้องครั้งจะนั่งรถนานขนาดนี้ หลังเหลิงชะนีอ้วน(และแก่) ใช่ว่าจะดี






แต่...ไอ่เที่ยวเช้าที่ว่านี่มันก็ไม่เช้ามะ 9โมงตรงค่ะ ....เอาเหอะ ถามว่าเลือกอะไรได้มั้ย
ตอนนี้เลือกไปนั่งรอ เข้าห้องน้ำห้องท่า หาอะไรกินรองท้องมั้ย




ดีที่สุดละแวกนี้ ตอนนี้...มาม่าคัพ กับไส้กรอก + น้ำ 1ขวด ราคา 10กว่าหยวนสำหรับมื้อเช้า ไม่ขี้เหร่...อยู่ท้อง

ระหว่างนี้ทำได้แค่รอหน้าเกท (?) พอได้เวลานางก็ประกาศเรียกขึ้นรถค่ะ
ซึ่งรถที่ว่านี่ก็เหมือนบ้านเราแหละ แต่พอขึ้นไปแล้วนั่งตามที่นั่งที่ระบุ ......สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ....







อมยิ้ม20 เกิดความสัมพันธ์ไทย-จีนที่แนบแน่นนนนนมาก....อีกนิดนี่จะนั่งตักอิน้องข้างๆละ
น้องก็ใหญ่ ชั้นก็ใหญ่ เสื้อกันหนาวแบบไม่ได้เผื่อจะเบียดกับใครด้วย อึดอัดระดับ 8
แต่โชคดีที่รถไม่เต็มค่ะ พอรถออก มั่นใจว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแล้วก็แยกมานั่งเบาะด้านหน้าถัดมาแถวนึงคนเดียว
นาทีนั้น เหมือนได้รับออกซิเจน หายใจคล่องขึ้น ....แล้วก็นั่งยาวค่ะ เจอกันที่ปลายทาง






ปกตินั่งรถ นั่งเครื่องไม่เคยพลาด....หลับค่ะ !!!!
แต่วันนี้ไม่นะ ได้แค่เคลิ้มๆ เพราะเข้างทางมีอะไรให้ดูตลอด.....วิวข้างทางสวยดีเหมือนกัน
หน้านี้เราจะพบเจอไอ่ดอกเหลืองๆนี่เป็นแพ ปลูกกันเป็นไร่ๆ เต็มไปหมด สวยมาก ชอบมาก มันคือ โหยวช่ายฮวา (油菜花) ค่ะ








สวยมาก.....


ก่อนจะถึงเฟิ่งหวางซักพักก็มีจอดแวะพักที่จุดพักรถหน่อยนึง (นึกถึงบ้านเราเลยเนอะ)
ระหว่างนั้นก็ดูแผนที่ตามตลอด เพราะกลัวเผลอหลับจนพลาดอะไรไป 55555













พอเข้าเขตตรงนี้ก็อุ่นใจแล้วค่ะ จะถึงแล้ว





ซักพักรถจะพามาจอดที่ลาดจอดของเมืองนี้ค่ะ ซึ่งพอลงรถก็เลือกเอาว่าใครจะไปไหนยังงัย มี 2ทางเลือกหลักคือ
1. แท็กซี่ (ซึ่งสำหรับคนต่างถิ่นก้ต้องทำใจเรื่องราคาและคนขับ เหมือนบ้านเราแหละ)
2. รถบัสเล็กๆของท้องถิ่น (ราคา5หยวน) ซึ่งชะนีเลือกทางนี้ค่ะ







ซึ่งระหว่างนั้นก็จะมีไกด์แนะนำแต่ละจุด ตั้งแต่การเข้าเมือง กฎเกณฑ์ที่ควรรู้ วัฒนธรรมของคนที่นี่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชนท้องถิ่นคือ เหมียวจู๋ (เผ่าแม้วค่ะ) และในขณะเดียวกันเค้าก็จะโฆษณาที่พัก ร้านรวง ซึ่งเค้าจะให้ราคาพิเศษ หรือพาแขกไปดูที่พัก หรือ เรียกที่พักนั้นๆให้มารับเพื่อไปดูที่พัก ถ้านักท่องเที่ยวสนใจ รวมทั้งขายบัตรเข้าชมเมืองเก่า

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล ชะนีไทยแค่อาศัยนั่งรถมาลงตรงใกล้ๆที่จะเดินไปหาที่พักที่จองไว้ค่ะ
เค้าก็ใจดีบอกทาง (อย่าถามว่าไปถูกมั้ย...เดินๆไปเหอะ 5555)

ภาพตัด....ชะนีอ้วน+กระเป๋าลาก และพื้นอิฐ ไม่เท่ากัน ขระขระ ซอยเล็กขนาดเดินสวนกันได้เท่านั้น ...อะไรคือความเข้ากัน ตอบ! อมยิ้ม20









ถามผู้คนมาเรื่อยๆ ......แต่ก็ไม่ได้ร้อนรนอะไร เพราะวิวข้างหน้ามันคือสิ่งที่ต้องการ
มาถึงจนได้นะ....







เดินมาจนโผล่ที่ หงเฉียว (虹桥) น่าจะถือเป็นจุดศูนย์ของที่นี่
ทีแรกจะเรียกพี่แท็กไปส่ง (นึกไม่ออกจริงๆที่พักจะอยู่พิกัดไหน) แต่พี่แกยืนยันว่า ยังงัยก็ไปส่งไม่ได้ เพราะเข้าไปไม่ถึง
แต่พี่แกโทหาที่พักให้ค่ะ ......โถ พ่อคุณ ชื่อ ณเดชณ์เหรอคะ? พระเอกแท้ 55555
พี่แกบอกให้ยืนรอตรงนี้แหละ เดี๋ยวมีคนจากที่โฮสเทลมารับ .....ขอบคุณพี่แกงามๆแล้วยืนรออย่างสงบเสงี่ยมค่ะ (ภาพตัด ยืนกดมือถือ ตาขวางใส่คนที่ขับมอไซด์แล้วพยายามข้างที่กั้นดังปั่กๆๆๆ @!%$#$$^^**  !!!)








ไม่นานก็มีคนเดินมา 2-3คน (มีต่างชาติอยู่ในนั้นด้วย)
น้องจากโฮสเทลค่ะ นางเข้ามาถามว่าใช่ที่จะมาพักมั้ย แล้วก็พาเดินมาที่พัก
ซึ่งพอรู้ว่าพูดจีนได้ ชีวิตนี้ก็ไม่มีภาษาอังกฤษเกิดขึ้นระหว่างชะนี 2 นางนี้อีกเลย -*-
เดินกุกๆๆๆ มาไม่ไกลมากค่ะ ......ที่พักอยู่ห้างจากริมน้ำนิดหน่อย (เข้าซอยไปราว20ม.)




ที่นี่ค่ะ Bajie Youth Hostel
จองห้องเดี่ยวไว้เหมือนเดิมค่ะ คืนละ 100 หยวน (500นิดๆ) ...แต่ที่เด็ดกว่าคือ ชั้น 4มะ !!!!! อมยิ้ม20




ระบบล็อคดูแพง 5555 ....ภายหลังอีประตูเจ้ากรรมนี่แหละที่เปิดไม่ออก แล้วเข้าห้องไม่ได้ ต้องรออยู่ข้างล่างซะนาน
(จิงๆคือ ชะนีขี้ลืม เสล่อจดพาสเวิร์ดผิด....ใครผิด พูด !!!!)


ห้องดีมากค่ะ ...เหมือนที่เห็นหน้าเว็บ แลดูดี มีระเบียง (ถามว่าได้ใช้มั้ย? หึ...หนาวมะ)






มีแอร์เหมือนกัน แต่ไม่มีรีโมท.....โอเคนะ อยากได้จ่ายอีก 20 ซึ่งตอนกลางคืนชะนีอ้วนขอออออ เอารีโมทให้พี่ด้วยยย พี่หนาว ...แต่ ขอโทษจริงๆ ลืมจ่ายตังค์เค้า - -''

ห้องน้ำในตัว แต่.........Squat toilet หรือ ส้วมยองนั่นเองจ้าาาาาาา




มีน้ำอุ่นนะ แต่นึกภาพ อาบน้ำบนส้วมยอง อืมมม ก็ต้องอาบมะ......


จริงๆที่นี่ก็เหมือนที่อื่นๆมีแบบ Dorm ด้วย แต่ก้มีห้องข้างๆเป็นห้องใหญ่ นอนได้ 5-6 คนได้ ห้องลักษณะเดียวกัน แต่กว้างกว่า มีระเบียงเหมือนกัน


เก็บข้าวของเสร็จ เปลี่ยนชุดเล็กน้อย เพราะอากาศที่นี่พอบ่ายแล้วอุ่นๆค่ะ 14องได้
จากนี้จะออกไปเดินสำรวจโลกแล้วค่ะ ที่แน่ๆ...... ละอองคำ...........ข้าหิววววววววววววว อมยิ้ม20










เจ้าถิ่น นอนอ้วนอาบแดด น่าฟัดสุดๆ













เยอะหน่อย ทาสเห็นแล้วอดไม่ได้ 55555






นี่เป็นร้านรวงริมแม่น้ำค่ะ ทั้งแถบ ฝั่งนี้มีทางเดินด้านหน้า ส่วนฝั่งตรงถ้ามจะเป็นตึกติดไม่น้ำ ทางเดินจะอยู่ด้านใน
ร้านส่วนใหญ่เป็นร้านกาแฟ อาหารฝรั่งบ้าง แต่พอกลางคืนผับบาร์ก็โผล่มา และคึกคัก (น่าเสียดาย)







และภาพที่ไม่คิดว่าจะได้เห็น....ผู้คนยังซักผ้าริมน้ำกันอยู่ แต่น้ำที่นี่ใสมากนะคะ ใสออกฟ้าๆเลย
















ที่นี่มีหลายประตูค่ะ เวลาจะผ่านไปจะโดนเรียกให้ซื้อตั๋วเข้า อยู่ที่เกือบๆ 150 หยวน .....เพราะนี่เป็นเขตเมืองเก่า (古城) แต่ละจุดใช่ว่าจะเดินดุ่มๆเข้าไปดูได้ แต่ตอนขามาพี่แกคงสมเพชชะนีหาที่พัก เลยให้ผ่านมาทางนั้นได้ (ก็หล่อนพักในนี้มะ) .....แต่จริงๆมีวิะีการเดินที่จะไม่เสียตังค์นะ หุๆๆ น้องที่โฮสเทลบอกตอนวันจะกลับ


ระหว่างนี้ยังไม่มีอะไรที่จะกินจริงๆได้เลย ร้านรวงก็ปิด เพราะบ่ายแก่ๆแล้ว
จะมีก็บางร้านที่พูดเลยว่าไม่เหยียบเข้าไปแน่ๆ เพราะหน้าร้านโชว์สัตว์แปลกๆในกรงเต็มไปหมด รวมทั้งตัวบางอย่างคล้ายๆเหมือนแมว (หนูขนาดใหญ่พันธุ์นึง) ที่เคยเจอที่ฝัวซานคราวก่อนแล้วนั่งร้องไห้แม่มกลางโต๊ะอาหาร รับไม่ได้แรง


งานนี้เลยหาอะไรกินเล่นรองท้องไปก่อนละกัน







羊肉串 !!! แพะย่างค่ะ คนอื่นคิดงัยไม่รู้แต่ชะนีชอบกินมาก
สมัยสาวๆที่ไปเมืองจีน ถูกชักชวนเข้าวงการกินแพะย่างนี้เพราะอากาศหนาว แล้วเค้าก้ว่ามันอร่อย แต่บางคนไม่ชอบเพราะมันกลิ่นแรงมาก
สำหรับชะนี กลิ่นแรงค่ะ แต่ก็รับได้ เพราะเค้าโรยเครื่องเทศเยอะ คนที่ทำและขายส่วนใหญ่เป็นคนจีนเชื้อสายแขก แถวๆซินเจียงเยี่ยงพี่คนนี้ค่ะ
เมื่อก่อนเชื่อมั้น กินครั้งละ10ไม้อย่างต่ำ 55555 (น่ากัวเนอะ ไม่แปลกที่ใหญ่ขนาดนี้ อมยิ้ม06)



ได้มา 4ไม้ (10หยวน) เค็มไปหน่อย แต่พอได้ แถมหยดใส่รองเท้า กี๊ดดดดดดด !!!! รองเท้าสีขาว
สงบสติอารมณ์แล้วก็เดินดูต่อค่ะ














จนป่านนี้ยังไม่ได้กินข้าวจริงจัง ตัดสินใจมานั่งร้านกาแฟ
ไม่มีของหวานด้วย มีแต่กาแฟ....กาแฟก็กาแฟค่ะ แกล้มวิว (กับพุชาย)ละกัน 555555


[Spoil] คลิกเพื่อซ่อนข้อความ







ยืนยันว่าไม่ได้พูดเล่น 5555
ร้านนี้มีชะนีนั่งอยู่ลำพัง ขณะที่นั่งเขียนไดอารี่(ทริปนี้)ไป ก็เหลือบไปเห็นพุชายหน้าตาดีด้านฝามือ ยืนอยู่นอกร้าน (ใกล้มาก)
พอดีสวย ไม่สนใจ 55555 เพราะหิวและกำลังชื่นชมบรรยากาศ...หันมาอีกทีนั่งอยู่อีกร้านห้างไป2บล็อคได้
แต่เมื่อเวลาผ่านไปซัก5นาที







* ข้อความข้างท้ายคือข้อความจากเพื่อนสาวที่ชอบด่า (ชะนี) เวลาหมั่นไส้ 555 ภาคภาษาอิสาน อ่านเองขำเอง






ที่นี่คือดีอ่ะ บรรยากาศศศศศศดี อิอิ ว่ามั้ยคะ? อมยิ้ม07อมยิ้ม22




















แต่อากาศแบบนี้ นั่งตรงนี้มา 3 ชม.ได้ มันจะดีเหรอคะ ....เมื่อไม่ได้อะไร ฮึ?! 555 กลับไปหาความอบอุ่นที่ที่พักด่วนค่ะ ...ตะพ้านจะจับชะนี




กลับมาถึงที่พัก เปิประตูมาปุ๊บเจอเด็กผู้ชายคนจีนเข้ามาทักว่าใช่แขกคนไทยที่เพิ่งเข้าพักใช่มั้ย
คนอื่นๆไปปีนเขากัน เดี๋ยวค่ำๆกลับ ให้รอก่อนเพราะวันนี้จะมีห่อเกี๊ยวกัน...ก็เอออ

แต่........ มาๆ มาห่มผ้าก่อนข้างนอกหนาวมาก
ฮึ?! Culture shock เล็กน้อย เพราะการที่อยู่ๆมีผู้ชายชวนเข้ามาอยู่ในผ้าห่มเดียวกันมันแลดูไม่ปกติสำหรับชะนีไทยวัย30อัพอย่างดิชั้น 5555
เลยรีบนั่งลงแล้วสอดตัวเข้าผ้าห่มค่ะ.......อมยิ้ม11 5555 มันมีฮีทเตอร์อยู่ข้างล่างม๊ายยย


น้องมันก็ชวนคุยไปเรื่อง สรุป อินี่ก็เป็นแขกที่มาพัก แต่ทำตัวเยี่ยง พนง ที่นี่
นางชวนกินหนมด้วย ลักษณะเหมือนเชาอากุ้ย ที่ไต้หวัน ที่เป็นแป้งหนืดๆข้างนอก ข้างในมีไส้ แต่อันนี้เป็นไส้ถั่ว และมีกลื่นหญ้าเบาๆ น้องมันว่าเค้ากินกันเวลาช่วงเทศกาลเชงเม้ง (อินี่ก็หิว กินไป2อันมะ 5555....ชะนีนางนี้กินไรก็ไม่ตาย) มีน้ำใจเกินมนุษย์ชาวจีนที่พบเจอทั่วไป นอกจากขนมก็มีถั่วลิสงต้ม ปลาอะไรซักอย่างและอีกมากมาย นางถือมาจากบ้านที่หนิงปัว (Ningbo)






[Spoil] คลิกเพื่อซ่อนข้อความ


ไม่นาน ก็มีฟะ(ฝรั่ง) นิวซีแลนด์กลับมาเหมือนกัน เลยมานั่งคุยกัน ห่มผ้า -*-
จากนั้นซักพักชาวคณะที่ไปปีนเขา (พนง. 2สาวด้วย) ก็กลับมา และห่มผ้าด้วยกัน






ครั้งนี้เป็นประสบการณ์ใหม่อีกครั้งสำหรับการมาเที่ยวคนเดียวแบบนี้ พักโฮสเทลและทำกิจกรรมกับคนอื่นๆ
ยอมรับว่าเมื่อก่อนจะค่อนข้างแยกตัว ไม่ยุ่งกับใคร (อยากอยู่คนเดียว๗...แต่การไปเจออะไรใหม่ๆก็ควรเปิดใจมากขึ้นจริงมั้ยคะ?
หลังๆก็เริ่มพูดคุยมากขึ้น มีส่วนร่วมกับคนอื่นๆมากขึ้น ไม่ได้แค่อยู่คนเดียว เที่ยวคนเดียว ใช้เวลาลำพังละ มันต้องมีเวลาเปิดประสบการณ์ใหม่บ้าง

วันนี้น้องๆจะพาห่อเกี๊ยวกันค่ะ นวดแป้ง ทำไส้ แล้วก็ช่วยกันห่อ......ทุกคนน่ารักมาก ไม่น่าจะ พนง. น้องพุชาย ที่แบ่งขนมชะนี ....เพื่อนใหม่ชาวไต้หวันอีก2ชีวิต และคนจีนอีก 2กลุ่ม (1ครอบครัว +1คนมาคนเดียว)















ทุกคนพูดคุยแลกเปลี่ยนกันระหว่างห่อเกี๊ยว สนุกดีค่ะ ทำเสร็จบางส่วนก็ต้มแล้วมากินด้วยกัน.... อมยิ้ม04
เป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆค่ะ







แต่ ชะนีที่ไม่ได้รับโปรตีนมาตลอดวันโหยมาก พูดเลย
มีการย่องออกไปเดินเล่น 1รอบ และหาอะไรกินอีก 5555
ร้านปิ้งย่าง หรือที่คนจีนเรียก ซาวข่าว (烧烤) มีอยู่ตามตรอกซอกซอย (ที่นี่ไม่ใหญ่ โอเคนะ)
แต่อย่างว่า ทุกอย่างที่นี่เค็มมมมมม ไม่ใช่เผ็ดอย่างที่ควรเป็นเมื่อดูจากหน้าตา....เลยแค่ชิมๆค่ะ ผิดหวัง













กลางคืนควรจะออกมาชมบรรยากาศค่ะ แนะนำ...เสียดายที่มันหนาววววว เลยออกมาได้ไม่นาน
ที่สำคัญมีเพียงกล้องมือถือที่ใช้ได้ ณ จุดนี้ เลยได้มาเพียงเท่านี้ค่ะ














15 March'16



1 คืนที่นี่มันน้อยจริงๆค่ะ แต่ก็พยายามใช้ให้คุ้มที่สุด

เช้านี้ตื่นเช้าเหมือนเดิม (เวลาไปเที่ยวจะมีแรงตื่นเช้าโดยอัตโน) ..... อาบน้ำสิคะ น้ำอุ่นมี เสร็จสรรพออกไปหาอะไรเช้านี้ค่ะ


[Spoil] คลิกเพื่อซ่อนข้อความ











มานั่งกินกาแฟร้านเจ้าเหมียวค่ะ เพราะร้านอื่นๆยังไม่เปิด




* จุดที่นั่งเมื่อวานอีกร้าน มิน่าคนชอบมาหยุดอ่านแล้วถ่ายรูป








ซักพักน้องคนไต้หวันก็ออกมาหาโยเกิร์ตกินเลยได้นั่งคุยกัน ......บรรยากาศเช้านี้สดชื่น ไม่อยากกลับเลยเหอะ
กินกาแฟเสร็จ ต้องการอาหารเช้าค่ะ เดินไปดูหน่อยคนแถวนี้กินอะไรกัน ....
ไม่ผิดหวัง อิอิ








เค้านิผมกินบะหมี่กันค่ะ ณ จุดนี้ร้อนๆ หืมมม ดีงามพระราม8มาก




17หยวน ถ้าจำไม่ผิด ...บะหมี่เนื้อร้อนๆกับปาท่องโก๋ 1คู่ (ปาท่องก็กรอบอร่อยดีเชียว รักอ่าาา) อมยิ้ม13



ปล. ชะนีดูเนียนไปกะผู้คนแถวนี้นะ ว่าไป 55555




จากนั้นก็เดินดูรอบๆบ้างค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็ขายเหมือนกันนั่นแหละ
และแอบมีไรน่ากัวเบาๆ....นี่สินะ การขายตรง (ขายไรชั้นโชว์เลยค่าาา)








จากนั้นก็เดินดูไปเรื่อยค่ะ จริงๆสามารถใช้เวลาอยู่ที่นี่ได้นานเลยล่ะ สงบ นักท่องเที่ยวไม่เยอะมาก ไม่วุ่นวาย อากาศดี
ก่อนจะกลับมาแวะนั่งร้านเจ้าเหมียว





























ตอนเช้าแบบนี้มีล่องเรือไปตามแม่น้ำค่ะ แต่ชะนีขอเดินดีกว่า ไว้คราวหน้ามีเวลามากกว่านี้ค่อยนั่งเรือ
อีกอย่างที่เยอะมากที่นี่คือ บริการถ่ายรูปค่ะ ใส่ชุดแม้วถ่ายรูป สวยดีนะ แต่ไม่เหมาะกะชะนีอ้วนอย่างดิชั้นเลย ขอผ่านค่ะ






















ระหว่างเดินข้ามมาีกฝั่งและลัดเลาะไป โผล่มาอีกทีก็เจอของกินค่ะ
เป็นอาหารพื้นบ้านแบบเหมียว(แม้ว) เซ่อฟ่าน (苗族社饭) ....ข้าวสวย(ก้นหม้อด้วย)ผสมอะไรบางอย่าง ประมาณ กาน่าฉ่ายอ่ะค่ะ แล้วก็กินกับผักดอง จะบอกว่าก็อร่อยนะ ข้าวอร่อย แต่บางคนอาจจะไม่ชอบเพราะรสชาติจะจืดๆมันๆ (ข้าวคลุกกาน่าฉ่ายแบบกาน่าฉ่ายนิดเดียว) 5หยวนค่ะ กินไปคุยกับป้าคนขายไป คนที่นี่น่ารักค่ะ อมยิ้ม01










ระหว่างทางก็มีชาวพื้นเมืองนั่งทำงานฝีมือกัน เงียบบบบ สงบ สุด





และ.......สิ่งที่มีขายทั่วไป ทุกที่ ทุกมุม





แต่ก็ไม่เคยพลาดนะ 5555 กินอีก ข่าวว่า......ชิมตลอดทาง
และพลาดมาโดยตลอด เผลอบอกเอาเผ็ดอีกละ ผลคือเค็มเหมือนเดิม
เดินไปกินไป จนถึงละแวกที่ต้องผ่านประตูและต้องซื้อตั๋ว.....พอ จนท ขอตั๋ว วิญญาญชาวต่าชาติของชะนีก็กลับเข้าร่างค่ะ
ชะนี : "sorry?....'' ชะนีกล่าว (เยี่ยงฟังไม่ออก)
จนท : ok....go go (กวักมือไล่ชะนีรีบเข้าไป) .....งง แต่ก็เข้าไป จริงๆไม่คิดว่าเค้าจะให้ผ่าน

เลยได้เข้ามาในเขตนี้ค่ะ


























สะพานนี้ข้ามมาฝั่งเดิม ฝั่งที่พักค่ะ



































เดินผ่านเหมียว





จริงๆมีแวะกลับที่พักแป๊บนึงก่อนหน้านี้ เพราะต้องเตรียมเรื่องตั๋วกลับไปฉางซา
น้องที่โฮสเทลช่วยเช็คให้ ต่อมาน้องอีกคนก็โทรจิงรถจากที่นี่ให้ ....ปกติมี 2ทางเลือกสำหรับการออกจาเมืองนี้
1. รสบัส (เพื่อไปต่อรถตามจุดต่างๆ)
2. 拼车 พินเชอ หรือรถแบบที่แชร์กัน นั่งไปกันหลายๆคน ซึ่งก็เหมือนรถป้ายดำ แต่ที่นี่ใช้กันปกติเพราะสะดวก

ซึ่งชะนีเลือกแบบที่2ค่ะ เพราะมีรถจะไปที่ หวายฮว่า (怀化)พอดี เนื่องจากเลือกกลับไปฉางซาด้วยรถไฟค่ะ
ซึ่งจริงๆสะดวกมาก 1 ชม.40นาที จากหวายฮว่าไปฉางซา ด้วยรถไฟเร็วประเภทที่เรียกว่า เกาเถี่ย (高铁) แต่ขามาลองมาแบบรถบัสค่ะ (ดูเหมือนรถไฟไปมาระหว่างสถานีนี้จะไม่ได้มีทุกวัน)


วันนี้มีเวลาจนถึงบ่าย 2โมงค่ะ ....รถจะมารับตอนบ่าย 2โมง
ดังนั้น ได้กาแฟอีกแก้ว นั่งฆ่าเวลาไปค่ะ


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้




พอได้เวลาก็กลับมาเก็บข้าวของ บางคนก็ไปวันนี้เหมือนกัน เลยได้ร่ำลากันไปหลายคน
ขณะเดียวกันก็มีสมาชิกใหม่เข้ามาพอดี ..... ต้องกลับจริงๆแล้ว แต่รับรองว่ามีนัด รีแมชท์แน่นอนค่ะ



รถที่ว่ามารอที่ละแวกเดิมค่ะ แถวหน้า หงเฉียว (แถวๆเคเอฟซี)
โดยมีน้องผู้ชายคนจีนช่วยลากกระเป๋ามาส่ง ....รถที่ว่าสภาพดีค่ะ นั่งได้ราวๆ 7-8คน (รวมคนขับ)




พอขึ้นรถก็หันไปถามคนข้างๆว่าคันนี้เค้าส่งถึงหวายฮว่าเลยใช่มั้ย ...เค้าก็ไม่รู้ (คนมาครั้งแรกเหมือนกันคุยกัน จบนะ)
สรุปว่า คนนั้นเป็นคนอินโด หาใช่คนจีนไม่ ..จากนั้นเลยคุยแลกเปลี่ยนกันตลอดทาง มีเรื่องฮาๆเม้าท์กันว่างั้นเหอะ (ไม่ต้องหลับต้องนอน)
นางมากับเมียค่ะ มาจากกว่างโจว และนี่กำลังจะกลับกว่างโจว

จริงๆ คราวหน้าถ้ามาจากกว่างโจว มีรถไฟมาเหมือนกัน 4-5 ชม. เอง ถึงหวายฮว่าเลย เก๋อ่ะ เจอกันค่ะ.....


1 ชม. ผ่านไป เรามาถึงสถานีรถไฟ หวายฮว่าค่ะ ..... แลดูกุ๊กกู๋มากกกก แต่มันสะดวกสุดมะ....ซื้อตั่วก่อนเลย
เช็คมาก่อนแล้วค่ะว่าจะกลับกี่โมง เที่ยวรถหมายเลขอะไร กันพลาด เลยง่าย และเร็วรวด











เที่ยว 16.55 น. ใช่เวลาเดินทาง 1.40 ชม. ค่ะ ราคา 152.5 หยวน
ระหว่างนี้ก้นั่งรอแถวหน้าเกทจนกว่าเค้าจะเรียก ซึ่งเรียกก่อนเวลารถออกแบบหมิ่นเหม่มาก
การเข้าเกทไปเพื่อนจะไปแพลทฟอร์มก็เหมือน บีทีเอส/ รถไฟฟ้าใต้ดิน บ้านเราค่ะ

















นั่งสบายๆค่ะ .... ที่ดีงามกว่านั้น มีที่ชาร์ทแบตจ้าาาาาา










ระหว่างทางก็มี ผดส ใหม่มานั่งข้างๆ ......ลูกกรอกน่ารักมากกกก เล่นกับชะนีอย่างไม่กลัว(กัดคอ) 5555




รถไฟจีนตรงเวลามากค่ะ ไม่ต้องห่วง
1 ชั่วโมง 40 นาทีเป๊ะ ......ชะนีถึงสถานีรถไฟฉางซาละ Changsha South (长沙南站)


แต่.........หาที่ซื้อตั๋วรถบัสไปสนามบินไม่เจอ ถาม จนท ของรถบัสไปสบามบิน ต้าปา (大巴)นางบอก...เดินตรงไปทางโน้นจนสุด ตามแนวนี้
เดินไป....ไม่ใช่ นี่ตั๋วรถไฟ งงไปมา ถามไปมา หลายตลบ ....ก็ยังไม่เจอ (ชั้นฟังตรงไหนผิด?)

ที่หงุดกว่าคือ จนท ของสถานี 2คน ตรงนั้นไม่มี servie mind เลยยยยยย พอถามก็ไม่อยากตอบ...ไม่รู้ (เมิงไม่รู้ใครรู้?) พูดจากระโชกโฮกฮาก
บางคนโดนตะคอก จนเซ้งไปตามๆกัน หันมามองกันด้วยความโกรธ
สุดท้ายเดินกลับไปถามผู้หญิงคนเดิม ...นางบอกคุณไปผิดที่ ต้องตรงช่องไฟนี้ สุดโน่นนนนน ตรงเสา(ลิบๆ มืดๆ) อมยิ้ม24
โอเค........เจอละ สุดตึกขวามือมืดๆ









กว่าจะเจอ กรรมของชะนี .......รถเต็ม !!!!
คนขับบอกต้องรอเที่ยวต่อไป....ถามว่าเมื่อไหร่มา คำตอบคือ เดี๋ยวก็มา
แต่พอลุงอีกคนถาม เมื่อไหร่มา กี่นาที ....
คนขับ : ครึ่ง ชม.

เอ๊า อิผี !!!! ไหนว่าเด็ยวมา

ชะนี : อ่าวววว ไหนว่าเดี๋ยวมา รออีกครึ่ง ชม. ตกเครื่องมั้ย?! ชั้นต้องไปคันนี้

คนขับ : ก็บอกว่ามันเต็มแล้ว แล้วเครื่องไฟลท์กี่โมง?
ชะนี : 2ทุ่ม
คนขับ : (สตั้น 5วิ) อืม.....ไม่ทัน....งั้นก็ต้องไปคันนี้
ชะนี : แต่มันเต็มจะให้ยืนเหรอ? มันไม่มีที่นั่งอ่ะ
คนขับ : จะไปมะ ?! (ตะคอกกุไม) จะไปก็เอาของขึ้น ไม่ไปก็เอาลงมาเลย
ชะนี : ไป !!! นั่งไหนล่ะ
คนขับ : หาให้ได้ก็แล้วกัน ถ้าจะไปก็ขึ้น
ชะนี : ........!$&^$*((*)+ !!! (ในใจ) -*-


ปรากฎ นี่คือที่นั่งที่นางหาให้ค่ะ.................ข้างคนขับ !!!!!







นั่งสบายเป็นเมียคนขับมาซักครึ่ง ชม. ก็ถึงสนามบินค่ะ ....
อ่อ อย่าลืมจ่าย 23 หยวนนะคะ อย่าคิดว่านั่งเป็นเมียคนขับแล้วนั่งฟรีด้วย โนวๆๆๆๆ





วันนี้กลับด้วย Thaismile ค่ะ ข่าวว่านางเพิ่งเปิดรูทนี้ ดีงามมาก มาถูกเวลา ขอบคุณค่ะ อิอิ
ไว้เจอกันคราวหน้าน๊า......บั๊ยยยยย อมยิ้ม13



ปล.  เบ็ดเสร็จทริปนี้หมดไป 1,049 หยวน (5พันกว่าบาท) ไม่รวมตั๋วไปกลับ 1,7xx บาทค่ะ ^^

















Create Date : 29 มกราคม 2560
Last Update : 2 กรกฎาคม 2560 16:30:05 น.
Counter : 1731 Pageviews.

0 comments
ร้อนนี้ชวนเที่ยว ออบขาน เชียงใหม่ สมาชิกหมายเลข 4313444
(11 เม.ย. 2567 08:07:33 น.)
แชร์ประสบการณ์... ตามรอยสแลมดังก์ ที่คามาคุระ-โตเกียว imuya
(10 เม.ย. 2567 00:13:46 น.)
"วันใดที่เธอรู้สึกเหมือนไม่มีใคร โปรดมองมาทางนี้ เธอจะเห็นใครคนหนึ่งที่รอเธอ" คนผ่านทางมาเจอ
(10 เม.ย. 2567 23:49:39 น.)
ทริปอเมริกา #1 - รีวิวสายการบินฟิลิปปินส์ ไม่แพงมากและดีกว่าที่คิด ฟ้าใสทะเลคราม
(6 เม.ย. 2567 13:46:53 น.)
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Hanruyi.BlogGang.com

NiToRiA
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด