การขุดบิทคอย Mining Bitcoin


 ผู้คิดระบบบิทคอย ได้สร้างโจทย์ 

ผู้ออกแบบระบบ Bitcoin เลยใช้ระบบที่ชื่อว่า Proof of work โดยได้กำหนดโจทย์ขึ้นมาชุดหนึ่งทางคณิตศาสตร์ขึ้นมา 

ผู้แก้โจทย์ได้ จะได้ รางวัลเป็นบิทคอย 

การแก้ก็จะใช้คอมเป็นตัวสมมุติแทนค่าในโจทย์ไปเรื่อยๆๆจนได้คำตอบที่ถูกต้อง 

การแก้ไขโจทย์ของนักขุดคือการใช้อุปปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ดีที่สุดเพื่อให้สุ่มตัวเลขให้เร็วเพื่อที่จะได้เป็นผู้ชนะในสมัยแรกเริ่มที่ Bitcoin กำเนิดขึ้นมานั้นการขุดใช้เพียง CPU ที่เป็นอุปกรณ์ตัวเล็กๆเท่านั้นกำลังก็ไม่สูงแต่เมื่อ Bitcoin มีมูลค่าเพิ่มมากขึ้นก็ทำให้นักขุดทั้งหลายหาอุปกรณืที่ดีขึ้นเพื่อมาขุด Bitcoin จาก CPU จนกลายเป็น GPU และกลายเป็นเครื่อง ASIC ในที่สุดซึ่งเมื่อการขุดเป็นที่นิยมมากขึ้นตามราคาของ Bitcoin สิ่งที่เกิดขึ้นคือ อุปกรณ์ที่เคยขุด Bitcoin ได้อย่าง CPU และ GPU นั้นไม่สามารถขุด Bitcoin ได้อีกต่อไป เหตุเพราะเครื่อง ASIC เป็นเครื่องมือชนิดพิเศษที่สร้างมาเพื่อการขุด Bitcoin เท่านั้นปัจจุบันเครื่อง ASIC อย่าง Antminet S9 มีกำลังการขุดเทียบกับ GPU แต่มีกำลังในการขุดมากกว่ากันถึงแสนเท่ามันเปรียบเสมือนว่า วันหนึ่งคุณใช้เสียมขุดดินอยู่แล้วจู่ๆเพื่อนบ้านของคุณเอารถแทร็กเตอร์มาขุดแข่งกับคุณ

Bitcoin ที่หัวหน้าทีมขุดได้จะถูกแบ่งให้กับลูกทีมโดยรางวัลที่ได้นั้นก็คือ Bitcoin ที่เกิดขึ้นใหม่และค่าธรรมเนียมที่คนยินดีจ่าย โดย Bitcoin ที่เกิดขึ้นนี้จะเป็น Bitcoin ใหม่ที่ไม่เคยหมุนเวียนในระบบเช่นหากตอนนี้ระบบมี Bitcoin อยู่ 100 BTC ตอนนี้รางวัลของการขุดนั้นอยู่ที่ 12.5 BTC เมื่อขุดสำเร็จก็จะมี Bitcoin จำนวน 112.5 BTC เปรียบเสมือนกับการผลิตเงินหรือพิมพ์ธนบัตร

เงินรางวัลที่ได้จะเกิด บล๊อกเชนใหม่เพิ่มเข้าไปในระบบด้วย 

(ตรงนี้เอง เมื่อไม่มีเจ้าของแต่คนคิดเป็นผู้รู้ โจทย์ที่ตั้งน่าจะรู้คำตอบได้ง่ายกว่าคนอื่น บล๊อกเชนที่เพิ่มใหม่แน่ใจได้อย่างไรว่าเกิดจากคนขุดจริง หรือเกิดจากคนคิดเพิ่มจำนวน บิทคอยขึ้นมาเอง ///)

*********** บิทคอยเองก็ยอมรับว่าโกงได้ ***********

ระบบ Bitcoin จึงกำหนดว่าถ้าคุณจะเป็นคนที่ยืนยันธุรกรรมได้คุณจะต้องเสียต้นทุนจำนวนหนึ่งนั้นก็คือค่าไฟที่ใช้ในการขุดเป็นต้นทุน และนั้นทำให้ระบบของ Bitcoin ไม่ถูกก่อกวน และบางคนก็อาจจะคิดว่าแล้วถ้าคนที่ขุดชนะจะโกง หล่ะเป็นไปได้ไหม? คำตอบคือได้ครับ หากแต่นักขุดคนนั้นต้องขุดชนะติดต่อกัน 3 ครั้งขึ้นไปเนื่องจากรระบบของ Bitcoin ส่วนใหญ่นั้นจะรับธุรกรรมที่ 3-6 Confirmation ซึ่งทำให้หากคุณคิดจะโกงระบบคุณต้องมีกำลังขุดที่มหาศาลมากจนเป็นไปได้ในทางทฤษฎีแต่ยากในทางปฏิบัติ และสุดท้ายมันคือกฎๆหนึ่งที่ทำให้ระบบที่ไม่มีตัวกลางของ Bitcoin ที่ทำงานอยู่บนคอมพิวเตอร์กว่า 10,000 เครื่องยอมรับในสิ่งๆหนึ่งนั้นก็ใครจะเป็นคนยืนยันธุรกรรมซึ่งในทางเทคนิคเราเรียกคำนี้ว่า Consensus (คอน-เซ็น-ซัส)



                  บิทคอยขุดมาแล้ว17ล้าน จำนวนมากสุด 21 ล้าน







บิทคอยหมดสภาพไปแล้ว 



จาก 2หมื่น เหลือวันนี้  3400









                           เหลือไว้กับอนุสรณ์ ที่ขาดทุนไปกับบิทคอยสำหรับคนที่ฟีเวอร์ไปกับยุคสมัย


****************ยังเหลือไว้เพียง Blockchain ที่ยังพัฒนาไปต่อได้ประโยชน์กับการเข้ารหัส ข้อมูลแบ่งข้อมูลเป็น บล๊อกๆๆไว้ ได้มากมาย 


                                  Sajja 

อ้างอิง  https://blockchain-review.co.th/blockchain-review/what-is-mining/



Create Date : 13 ธันวาคม 2561
Last Update : 13 ธันวาคม 2561 8:09:43 น.
Counter : 783 Pageviews.

0 comments
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
สวัสดีปีใหม่ ๒๕๖๗ มาช้ายังดีกว่าไม่มา
(2 ม.ค. 2567 07:30:30 น.)
BUDDY คู่หู คู่ฮา multiple
(3 ม.ค. 2567 04:49:04 น.)
๏ ... รามคำแหง แรงคำหาม ... ๏ นกโก๊ก
(2 ม.ค. 2567 14:22:51 น.)
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Doctor-sajja.BlogGang.com

หมอสัจจะ
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 185 คน [?]

บทความทั้งหมด