จะทำ Thesis และ Dissertation ให้สำเร็จได้อย่างไร การเรียนในระดับบัณฑิตศึกษา ไม่ว่าจะเป็นปริญญาโท หรือ ปริญญาเอก สิ่งที่เป็นปัญหาคาใจและไม่สามารถดำเนินไปได้จนสำเร็จภายในเวลาที่กำหนด หรือ ยากมากที่จะลงตัวทำให้ได้ ทั้งการหาหัวข้อการวิจัย การจัดทำProposal การออกแบบวิธีการวิจัย ฯลฯ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการจัดทำดุษฎีนิพนธ์ยิ่งยากไปกว่า วิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท ดร.ดนัย เทียนพุฒ จะได้เล่าและให้แนวทางการทำในDNT Blog ที่นี่ที่เดียวครับ ดร.ดนัย เทียนพุฒ Dr.Danai Thieanphut DNT Consultants คำถามหรือประเด็นที่ชอบพูดกันมากที่สุดเมื่อเข้ามาเรียน
ในระดับบัณฑิตศึกษา คงนี้ไม่พ้นจะถามเกี่ยวกับการวิจัย เช่น - จะทำวิจัยเรื่องอะไร ? -ได้หัวข้อวิจัยหรือยัง ? -มีความสนใจในเรื่องอะไรอยู่ละ ? ยิ่งในกรณีที่ต้องส่ง Proposal มาก่อนตอนสมัครเข้าเรียนโดยเฉพาะระดับ ป.เอก ด้วยแล้วพอเข้ามาก็ -อยากจะเปลียนบ้าง - มีความสนใจใหม่ -เรื่องที่เสนอไว้เดิมยังมองไม่ชัดนักว่าจะทำอย่างไร ? -ไม่รู้จะเริ่มที่ไหนดี หรือ ใครจะมีคำตอบให้บ้าง ? ฯลฯ เอาเป็นว่า "จะหาหัวข้อวิจัยให้โดนใจได้อย่างไร ?" จะเล่าให้ฟังใน 1-2 วันนี้ครับ ดร.ดนัย เทียนพุฒ Dr.Danai Thieanphut DNT Consultants โดย: Dr.Danai (dnt
![]() อย่างไรจึงจะเรียกว่า "หัวข้อวิจัย"
ลองพิจารณาข้อความต่อไปนี้ -ความสนใจของผู้วิจัยในเรื่อง "Event Marketing" -การศึกษาจุดกำเหนิดของคลัสเตอร์ธุรกิจ (Business Cluster) ในประเทศญีปุ่นเพื่อนำมาปรับในใช้ประเทศอาเซียน -วิธีการเก็บรวบรวมขัอมูลด้วยเทคนิคโฟกัสกรุ๊ป (Focus Group Technic) -การจัดทำโมเดลวิเคราะห์สาเหตุเชิงโครงสร้างที่เป็นองค์ประกอบในวิสัยทัศน์ธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย -การวิจัยเชิงปฏิบัติการ (Action Research) เกี่ยวกับการจัดทำ Dissertation ของนักศึกษาปริญญาเอกโปรแกรมการจัดการธุรกิจ -ผลการวิเคราะห์ข้อมูลชุมชนรากหญ้าพบว่า "เน่า" -เกิดรูปแบบความรู้ที่แท้จริงในการจัดการความรู้ (KM) ของเครือข่ายชุมชนในประเทศไทยจริงหรือ หากใครสามารถตอบได้ว่า 1.อันไหนเป็นหัวข้อการวิจัย 2.อันไหนเป็นแค่ความสนใจของผู้ที่กำลังศึกษา 3.ไม่ใช่ทั้ง 1. และ 2. ถ้าจะตอบคำถามให้ได้ว่า "อะไรคือ หัวข้อวิจัย" 1.ต้องรู้ก่อนว่า การวิจัยคืออะไร การวิจัย คือ การแสวงหาข้อความรู้หรือข้อความจริงของปรากฎการณ์ทางธรรมชาติหรือธุรกิจ (ในกรณีด้านการจัดการธุรกิจ) 2.มีเกณฑ์อะไรจึงบอกได้ว่าเป็นการวิจัยที่ดี -มีความใหม่(Original) -มีความคิดริเริ่ม(Initiative) -มีความเป็นปรนัย(Objectivity) -เป็นการแสวงหาความรู้อย่างเป็นระบบ(Systematic) -เป็นความรู้ทั่วไป(Generalize) 3.ในหัวข้อวิจัย บอกอะไรให้คนอื่นรู้/ผู้ทำวิจัยรู้ บอก 1).ความสัมพันธ์ของตัวแปร 2).ตัวอย่าง/ประชากรในการวิจัย 3).ความลุ่มลึกของการวิจัย ที่มาอย่างแท้จริงของ Research Topic -Best Practices -Academic School -Professional ดร.ดนัย เทียนพุฒ Dr.Danai Thieanphut DNT Consultants โดย: Dr.Danai IP: 58.8.117.198 วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:16:21:39 น.
ถ้าจะว่าไปแล้วแหล่งที่ดีที่สุดของการหาหัวข้อวิจัยคือ
"การทบทวนวรรณกรรม (Literature Review)" มาจากไหนก็ -ค้นจากอินเตอร์เน็ต เช่น สุดยอดข้อมูลจากกูเกิ้ล -อ่านวารสารระดับโลก ในสาขาหรือเรื่องที่ท่านสนใจ -อ่านงานวิจัยจากวารสารระดับโลก พร้อมทั้งดูว่ามีข้อแนะ นำที่ให้ทำวิจัยอะไรต่อ -ถามหรือสนทนากับบรรดาสุดยอดผู้รู้ในสาขานั้น ๆ นี่ละครับ คือแหล่งที่ท่านจะได้หัวข้อวิจัย ดร.ดนัย เทียนพุฒ Dr.Danai Thieanphut DNT Consultants โดย: Dr.Danai IP: 58.8.117.198 วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:16:50:59 น.
|
บทความทั้งหมด
|
หวัดดีครับ แวะมาเยี่ยมเยี่ยน