Okinawa Trip Day 1 : 11 Feb. 2014 ได้ฤกษ์เขียนซักทีหลังจากดองมานานจนเกือบลืม ^^" จริงๆแล้วทริปนี้เกิดอย่างฉุกละหุกเอาการครับ เริ่มจากที่แฟนผมไปเจอโปรของ Hongkong Airline เลยรีบจองแล้วให้ผมไปลางานเพื่อไปเที่ยวกับคุณเธอ ด้วยความที่แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับโอกินาว่าเลย เลยต้องรีบหาข้อมูลในเวลาที่จำกัดพอตัวครับ ในที่สุดก็ถึงวันเดินทาง 10 กุมภา หลังเลิกงานก็ลากกระเป๋าเดินทาง ใช้บริการ Airport Link ไปลงที่สนามบิน เวลาบินอยู่ที่ตีหนึ่งกว่าๆ เลยฆ่าเวลาในเล้าท์ของ King Power ที่แฟนผมเป็นสมาชิกอยู่ครับ ด้านในมีของว่างให้กิน เลยถือโอกาสจัดเป็นมื้อเย็นซะเลย ![]() พอใกล้ถึงเวลาบิน ก็เข้าเกทไปขึ้นเครื่อง บินแบบฟูลคอร์ส อาการบนเครื่องถือว่าใช้ได้ครับ ถึงแม้ของหวานจะเป็นเต้าฮวยที่ผมกินไม่ได้ก็ตาม ^^" ![]() ใช้เวลาบินประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆก็ถึงฮ่องกง มีเวลารอก่อนเปลี่ยนเครื่องเกือบๆ 5 ชั่วโมง เลยถือโอกาสออกมาหาข้าวเช้ากินในเมืองครับ พอดีมีบัตร Octopus เหลืออยู่จากที่ไปฮ่องกงมาปีที่แล้ว เลยนั่งรถสาย S1 เข้าตัวเมืองสบายครับ เดินเล่นสักพักก็นั่ง S1 กลับมาสนามบินเพื่อขึ้นเครื่องต่อไปโอกินาว่า ถึงโอกินาว่าประมาณบ่าย 3 กว่าๆ สนามบิน Naha Airport ส่วนต่างประเทศถือว่าเล็กครับ มีเรื่องให้อมยิ้มนิดนึงตอนจะผ่าน ตม. เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นคงเห็นพาสปอร์ตผม เลยทักเป็นภาษาไทยว่า "มาเที่ยวเหรอคะ" ก็อมยิ้มกันไปครับ ผ่าน ตม. เข้ามาไม่มีปัญหาอะไร แต่เนื่องด้วยความเล็กของสนามบิน ด้านในเลยมีคนออกันพอสมควรครับ ![]() จากสนามบิน ผมเลือกใช้บริการ Monorel เข้าเมือง เดินออกจากตึกระหว่างประเทศมาไม่ไกลครับ ระหว่างทางจะมีป้ายบอกทางตลอด ไม่หลงง่ายๆ ถ้าใครจะไปสวนน้ำ Shuraumi ในอาคารในประเทศจะมีบัตรลดขายอยู่ อย่าลืมซื้อนะครับ ลดไปได้หลายร้อยเยนเลย เดินไปซักพักก็ถึงสถานี Monorel Nahakuko วิธีขึ้นก็ซื้อตั๋วที่เครื่องอัตโนมัติ เลือกสถานีปลายทางที่จะลง แล้วหยอดเหรียญตามราคาที่บอกไว้ครับ ผมจะลงสถานี Asato ก็โดนไป 290 เยน ![]() พอได้ตั๋วมาก็สอดที่ทางกั้น แล้วดึงออกอีกฝั่ง คล้ายๆ BTS บ้านเราครับ แล้วเดินขึ้นด้านบนเพื่อขึ้นรถ แต่ละขบวนมาไม่ถี่เหมือนรถไฟฟ้า แต่ก็ไม่ช้าเท่าไหร่ ![]() ใช้เวลาไม่นานก็ถึงสถานี Asato ผมพักที่ Best Western Inn เรียกว่าติดกับสถานีเลยครับ ![]() ห้องพักถือว่าเล็กเมื่อเทียบกับโรงแรมประเทศอื่นๆ แต่ข้าวของเครื่องใช้ครบถ้วนครับ ประทับใจห้องน้ำมากๆ โถส้วมมีระบบอุ่น สบู่แชมพูพร้อม แถมมีอ่างให้แช่น้ำอีก ![]() ![]() พักให้หายเหนื่อยซักแป๊บก็ออกเดินทาง ตอนนี้เวลา 4 โมงเศษๆแล้ว เลยคงไปได้แค่ที่ใกล้ๆ พอออกจากโรงแรมที่เจอฝนเลยครับ ถึงจะไม่หนักมากแต่ก็ทำให้รำคาญอยู่ไม่น้อย เป้าหมายแรกที่จะไปวันนี้คือตลาดปลา Makishi ใช้ google map วางแผน เลยเลือกใช้ทางย่อยครับ จะได้เดินไม่ไกล ทางเล็กๆมีร้านค้าเล็กๆประปราย ได้บรรยากาศไปอีกแบบครับ ได้เจอซากุระระหว่างทางโดยบังเอิญอีกต่างหาก ![]() เดินต่อไปนิดก็ถึงตลาดปลา Makishi ครับ ทางเข้าเดินหายากนิดนึงต้องมองดีๆ ด้านในก็ตามชื่อเลย ขายปลากับของทะเลซะเป็นส่วนมาก ปลาแปลกๆก็มีครับ อย่างปักเป้าที่ถลกหนังแล้ว เอามาวางขาย ก็ดูน่ากลัวอยู่ไม่น้อย แฟนผมซื้อสาหร่ายองุ่่นกลับมากิน เป็นสาหร่ายที่มีเม็ดเล็กๆคล้ายๆไข่ปลา จิ้มซอสกินก็เค็มๆคาวๆ แปลกดีครับ ![]() ชั้นสองจะเป็นร้านอาหาร ไหนๆมาถึงนี่แล้วก็จัดโอกินาว่าโซบะมาคนละชามครับ เป็นโซบะใส่หมู 3 ชั้นตามสูตรของที่นี่ อร่อยดีครับ ![]() กินเดิมแล้วก็เดินต่อไปที่ถนน Kokusai-dori เป็นถนนคนเดินเส้นหลักของเมือง Naha ครับ ร้านรวงเต็มสองข้างทาง คนเยอะพอประมาณ อากาศวันนั้นอยู่ที่ 10 องศากว่าๆ ถ้าใส่เสื้อบางๆก็หนาวเอาการครับ ![]() วันแรกก็ได้ของฝากเลย จัดทาร์ตมันม่วงที่เป็นขนมขึ้นชื่อของที่นี่มาครับ ![]() เดินถึงซักประมาณ 2 ทุ่มเศษก็กลับที่พักครับ เหนื่อยมาก ไม่ได้นอนมาทั้งคืน คืนนี้เลยต้องนอนเร็วนิดนึง เก็บแรงไว้ลุยวันพรุ่งนี้ต่อ |
บทความทั้งหมด
|