ทนายอ้วนชวนเที่ยว ... เวลาเดินช้าที่ .. น่าน - วัดพระธาตุช้างค้ำ จ.น่าน
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดพระธาตุช้างค้ำ จ.น่าน, น่าน Thailand
พิกัด GPS : 18° 46' 34.70" N 100° 46' 20.13" E





 
สถานที่ท่องเที่ยวแห่งต่อไปที่จะพาไปเที่ยวกันก็เป็นสถานที่ที่อยู่บริเวณ  “หัวแหวน”  ของเมืองน่าน  คืออยู่รอบๆ  “ข่วงเมืองน่าน”  ตรงข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  น่าน  และวัดภูมินทร์ครับ
 




 
วัดพระธาตุช้างค้ำ  จ.น่าน

 



 

วัดพระธาตุช้างค้ำอยู่ตรงแยกถนนผากอง  กับถนนสุริยพงษ์  ตรงกันข้ามกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  น่าน  และวัดภูมินทร์ครับ
 
 
ด้านข้างของ
วัดพระธาตุช้างค้ำทอดขนานกับพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ  น่าน  หรือ  “คุ้มหลวงเมืองน่าน”  ตลอดจนถึงวัดหัวข่วง  ด้านหน้าวัดจะติดถนน ถ่ายรูปป้ายชื่อวัดยากมากครับ  เพราะฟุตบาทแคบมาก
 
 
มีวลีที่พูดกันติดปากว่า 
“นมัสการเจดีย์ช้างล้อมทรงสุโขทัย อิ่มไหว้พระทองคำปางลีลา”   เมื่อจะพูดถึงวัดช้างค้ำ  วลีนี้จะจริงเท็จเพียงใดเราเข้าไปชมภายในวัดกันครับ











 


วัดพระธาตุช้างค้ำ  สร้างขึ้นโดยพญาภูเข่ง  (บางตำราก็ออกพระนามว่า  “เจ้าปู่แข็ง”)  เจ้าผู้ครองนครเมืองน่าน เมื่อพ.ศ.  1939   เมื่อนับอายุของวัดพระธาตุช้างค้ำจนถึงปีปัจจุบันก็มีอายุเข้าปีที่  627  แล้วครับ
 
 
เดิมเรียกท 
“วัดหลวง”   หรือ  “วัดหลวงกลางเวียง”   เป็นวัดหลวงในเขตนครน่านสำหรับเจ้าผู้ครองนครใช้เป็นสถานที่ประกอบพิธีสำคัญทางพุทธศาสนาและพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาตามศิลาจารึกหลักที่ ๗๔ ซึ่งถูกค้นพบภายในวัดกล่าวว่า
 


“พญาพลเทพฤชัย เจ้าเมืองน่านได้ปฏิสังขรณ์บูรณะวิหารวัดหลวงเมื่อ พ.ศ.๒๐๙๑๐”
 
 

จากทางเข้าหน้าวัดจะมีทางเดินทอดตางไปสู่พระวิหารหลวงขนาดใหญ่ ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบล้านนาไทย  ก่ออิฐถือปูน  หลังคาพระวิหารมี  2  ตับ  ด้านหน้ามีหลังคาลด  2  ชั้น  ด้านหลังมีชั้นเดียว  ประดับช่อฟ้า  ใบระกา  หางหงส์แบบศิลปะล้านนาสกุลช่างเมืองน่าน
ด้านหน้าพระวิหารมีสิงห์คู่ยืนตรงเชิงบันไดด้านละตัว 










 



 
หน้าบันเป็นไม้แกะสลักรูปพรรณพฤกษาทาสีทอง  ประดับกระจกสีน้ำเงิน  ที่แผงคอหนึ่ง สลักรูปเทวดาและลายกนกทาสีทอง  ประดับกระจกสีน้ำเงินเช่นกัน 











 
สาหร่ายทำเป็นรูปพญานาคห้อยหัวลงมา





 



 
เสาด้านหน้าพระวิหารประดับลวดลายปูนปั้นเป็นลายระย้ายละเอียดยิบๆ  อยู่สูงเหนือพื้นดินประมาณสายตาของคนคล้ายๆลวดลายที่ประดับที่เสาคู่หน้าพระวิหารวัดภูมินทร์





 
 


ประตูทางเข้ามี 3  ทาง  ประตูกลางทำเป็นประตูใหญ่  ประตูเล็กอยู่ด้านซ้ายและด้านขวา   ซุ้มประตูประดับปูนปั้นและกระจกสี  เฉพาะหน้าบันของซุ้มประตูกลางเป็นลายเทพพนม  ส่วนประตูทางด้านข้างทั้งสองข้างเป็นลายพรรณพฤกษา








 
 
ที่เสาพระวิหารคู่หน้ายังมีร่องรอยของการประดับปูนปั้นทั้งเสา  แต่หลุดร่อนหมดแล้ว





 
 




เสาคู่หน้าด้านในยังมีปูนปั้นประดับหลงเหลืออยู่มาก  จะเห็นได้ว่าเป็นการประดับปูนปั้นกับกระจกสีเป็นลวดลายที่ละเอียดมากๆ  ลองสังเกตดีๆจะเจอ
  “นกยูง”  ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของเจ้านายทางล้านนา













 
 



เสาภายในพระวิหารเป็นเสาปูนกลมขนาด  2 คนโอบ  ด้านบนทาสีแดง  ตั้งแต่ระดับสายตาลงไปทาสีดำและมีการตกแต่งด้วยปูนปั้นเป็นลวดลายระย้าเหมือนกันทุกต้น








 
 

ผนังพระวิหารมีร่องรอยของจิตรกรรมเต็มพื้นที่  น่าเสียสายที่ลบเลือนไปจนหมดแล้ว









 

 
พระประธานประจำพระวิหารเป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดใหญ่ศิลปะเชียงแสน ฝีมือสกุลช่างน่าน ที่มีพุทธลักษณะงดงามยิ่งของเมืองน่าน









 

ด้านข้างมีพระพุทธรูปยืน  ศิลปะพม่า  ทำจากเงิน  และพระพุทธรูปยืนศิลปะสุโขทัย








 
 
ด้านหลังพระวิหารมีเจดีย์ช้างล้อมได้รับอิทธิพลจากสุโขทัยเต็มที่  เสียดายที่ว่ากำลังบูรณะซ่อมแซมครับ





 
 

ข้างๆพระวิหารมีหอไตรที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ  สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ ดังปรากฏในพระประวัติ ของพระองค์ว่า


 
"ร.ศ. 127 พ.ศ. 2453 ก่อสร้างหอพระไตรปิฏก ในบริเวณวัดช้างค้ำ 1 หลัง 8 ห้อง ยาว 16 วา 1 ศอก กว้าง 5 วา 2 ศอก สูงตั้งแต่ดินถึงอกไก่ 13 วา หลังคาทำเป็นชั้น ๆ ก่ออิฐทาสี เครื่องบนไม้สัก มุงกระเบื้องไม้สัก ทำอย่างแน่นหนา มีเพดานจั่ว 2 ข้าง และเพดาน ทำด้วยลวดลายต่าง ๆ พระสมุห์อิน เจ้าอาวาสวัดหัวข่วง กับจีนอิ๋วจีนซาง เป็นสล่าสิ้นเงิน 12,558 บาท”

 
 

ลักษณะโครงสร้างสถาปัตยกรรมมีลักษณะอย่างเดียวกับพระวิหาร  ตั้งอยู่คู่กับพระวิหารอาคารก่ออิฐโบกปูน ยกพื้นสูงมีสิงห์ยืนอยู่ด้านหน้า ตรงเชิงบันใดด้านละ 1 ตัว ตั้งเสาราย รับหลังคาเชิงชายแทนผนังและก่อผนังปิดทำเป็นห้องไว้พระธรรมและพระไตรปิฏก  ตรงแนวเสาที่รับคาน มีทางเข้าด้านหน้าเป็นประตูทางเดียว บานประตูสลักเป็นรูปเทวดา 2 องค์ และมีลายปูนปั้นเป็นรูปยอดปราสาททำเป็นชั้นติดหน้าต่างด้านละ 3 บาน ผนังด้านหลังปิดทึบ  ด้านนอกสองข้างทางระหว่างเสารายและผนังเป็นทางเดินถึงกันได้ตลอดโดยรอบ  อาคารสูงหลังคาช้อน 3 ชั้น ไม่มีมุขลด  ที่หน้าบันใช้แผ่นไม้เป็นแผ่นๆ เรียงต่อกันประดับลายปูนปั้นเป็นรูปกนกล้อพระครุฑพ่าห์  ระหว่างช่วงเสาประดับด้วยแผ่นไม้จำหลักลายกนกเป็นรูปสามเหลี่ยมสลับลายพุ่มข้าวบิณฑ์คว่ำ  และรูปพระครุฑพ่าห์ห้อยลงมาตามแบบสถาปัตยกรรมของล้านนา ภายในมีลักษณะส่วนกว้างแคบ ส่วนยาวลึก เข้าไปภายใน และส่วนสูงชะลูดขึ้นไปมาก ใช้เป็นที่เก็บ พระไตรปิฏก







 

 
พญาครุฑพ่าห์ ( พญาครุฑกางปีก)  ที่ประดับที่หน้าบันหอไตรวัดช้างค้ำนี้มีแห่งเดียวในจังหวัดน่าน  นอกจากที่วัดพระธาตุช้างค้ำแล้วไปปรากฏว่ามีที่วัดใดอีก   รูปพระครุฑพ่าห์นั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งราชวงศ์จักรี สะท้อนให้เห็นถึงการถวายความจงรักภักดีต่อราชสำนักสยามของเจ้าเมืองน่านในฐานะเมืองประเทศราช และ หอไตรแห่งนี้พระเจ้าสุริยพงษ์ผริตเดชฯ เจ้าผู้ครองเมืองน่านขณะนั้นตั้งพระทัยที่จะสร้างอุทิศถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาจุฬาลงกรณ์ รัชกาลที่ 5 เพราะปี พ.ศ. 2453 เป็นปีที่พระองค์เสด็จสวรรคต ดังหลักฐานปรากฏเหนือครุฑพ่าห์ตัวที่สองจำหลักด้วยไม้ห้อยตัวลงมาหน้าหอไตร จารึกอักษรย่อไว้ว่า
“ พ จ น พ ร ช ก ศ ล พ พ ธ ฉ ลฯ” ซึ่งนายปฏิพัฒน์ พุ่มพงษ์แพทย์ ผู้อำนวยการสำนักงานศิลปากรที่ 7 น่าน ได้ถอดความไว้ว่า “ พระเจ้าน่านพระราชกุศลถวายพระพุทธเจ้าหลวง”




 
 

ภายในประดิษฐาน   พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี   เป็นพระพุทธรูปปางประทานอภัย   มีลักษณะคล้ายพระพุทธรูปปางประทานอภัยที่วัดราชธานี จังหวัดสุโขทัย  หล่อด้วยทองคำ 65 % สูง 145 เซ็นติเมตร ยอดพระโมฬี ทำเสริมเมื่อ พ.ศ. 2442  ด้วยทองคำหนัก 69 บาท เจ้างั่วฬารผาสุม เจ้าผู้ครองนครน่านองค์ที่ 14 แห่งราชวงค์ภูคา เป็นผู้สร้างเมื่อวันพุธ เดือน 6 เหนือ พ.ศ. 1969 เป็นศิลปะสุโขทัยตอนปลาย
 


ซึ่งตามประวัติบันทึกไว้ว่าแต่เดิมพระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนีองค์นี้ เป็นเพียงพระพุทธรูปลงรักพอกปูน แต่ต่อมานักโบราณคดีชาวอเมริกันได้เข้ามาศึกษาค้นคว้าศิลปกรรมในจังหวัดน่าน แล้วพบว่าพระพุทธรูปองค์นี้ไม่ใช่พระปูนปั้นจึงได้ลองใช้ค้อนกะเทาะปูนที่ หุ้มออก ปรากฏว่าพระวรกายด้านในยังมีการทารักทับไว้อีกชั้นหนึ่ง เมื่อลองขูดดูจึงพบว่าด้านในเป็นเนื้อทองคำสุกปลั่ง ซึ่งหลังจากนำรักออกจนหมดจึงได้อัญเชิญมาประดิษฐานไว้ณหอพระไตรปิฎกแห่งนี้






















 
อีกช่องทางหนึ่งในการติดตาม  “ทนายอ้วนพาเที่ยว”  นะครับ
 
 


Chubby Lawyer Tour  -  ทนายอ้วนพาเที่ยว
 

 
 https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/
 




 
Chubby Lawyer Tour ………………….. เที่ยวไป ............. ตามใจฉัน








 
138137136



Create Date : 08 มกราคม 2563
Last Update : 8 มกราคม 2563 15:13:29 น.
Counter : 1503 Pageviews.

8 comments
봄 처녀(Virgin spring) by 홍난파(NanPa Hong) ปรศุราม
(17 เม.ย. 2567 10:09:12 น.)
The Proud Exclusive Hotel นครปฐม ที่พักทันสมัยใจกลางเมือง แมวเซาผู้น่าสงสาร
(17 เม.ย. 2567 09:22:45 น.)
กงสุลใหญ่สมใจ ตะเภาพงษ์“ร่วมฉลองสงกรานต์ปีใหม่ไทยในไทม์สแควร์” newyorknurse
(17 เม.ย. 2567 02:18:24 น.)
ระยองฮิสั้น จันทราน็อคเทิร์น
(12 เม.ย. 2567 15:33:48 น.)

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณtuk-tuk@korat, คุณชีริว, คุณhaiku, คุณKavanich96, คุณkae+aoe, คุณแมวเซาผู้น่าสงสาร, คุณauau_py, คุณโอน่าจอมซ่าส์, คุณเริงฤดีนะ, คุณnewyorknurse

  
อยาก เห็นองค์นี้ค่ะ พระพุทธนันทบุรีศรีศากยมุนี
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 8 มกราคม 2563 เวลา:17:18:50 น.
  
เป็นอีกวัดใหญ่ของเมืองน่านเลยครับ เสียดายบูรณะอยู่ซะงั้น
โดย: ชีริว วันที่: 8 มกราคม 2563 เวลา:21:53:08 น.
  
มาไห้วพระก่อนนอนค่ะ
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 8 มกราคม 2563 เวลา:22:02:47 น.
  
ขอบคุณที่แบ่งปัน
โดย: Kavanich96 วันที่: 9 มกราคม 2563 เวลา:3:25:54 น.
  
ตามมาไหว้พระด้วยค่ะ


ปีใหม่ราชบุรีไปแค่วัดช่องลมวัดเดียวเองค่ะ
โดย: kae+aoe วันที่: 9 มกราคม 2563 เวลา:10:50:07 น.
  
สวัสดีปีใหม่นะคะคุณบอล มีความสุขมากๆในทุกวันค่ะ
ตามมาเที่ยวด้วยนะคะ วัดภาคเหนือสวยมากจริงๆค่ะ
โดย: auau_py วันที่: 9 มกราคม 2563 เวลา:16:50:26 น.
  
มาเที่ยวพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ น่าน
และวัดภูมินทร์
ได้แวะกราบพระ
วัดพระธาตุช้างค้ำ ในละแวกเดียวกัน จำไว้ๆ
(บอกตัวเองค่ะ)
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 10 มกราคม 2563 เวลา:6:26:26 น.
  
พระพุทธรูปยืนศิลปะพม่า ทำจากเงิน แปลกตาดีค่ะ
โดย: kae+aoe วันที่: 10 มกราคม 2563 เวลา:13:21:39 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Chubbylawyer.BlogGang.com

ทนายอ้วน
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 156 คน [?]

บทความทั้งหมด