ศิลเปรอะวลี


จริงๆแล้วไม่เคยใส่ใจเท่าใดนัก กับข้อความที่เกะกะสายตา
ตามเบาะรถเมล์ ริมกำแพง ตอม่อสะพาน หรือแม้แต่ในห้องน้ำสาธารณะ
เรียกว่าไม่ใส่ใจอ่านศิลปะของคนพวกนี้เลยดีกว่า
ไอ้ข้อความประเภท ใครพ่อใคร ใคร(ยิ่ง)ใหญ่ ใครเล็ก ใครเจ๋งแค่ไหน

แต่ด้วยที่ทุกข้อความมันเป็นภาษาไทยนี่สิ
แม้ไม่ใส่ใจจะอ่าน แต่แค่มองผ่านๆเราก็ดันอ่านออกและเข้าใจคำทั้งหลายพวกนั้น
“อ่านทำไมวะ”
นั่นไง ข้อความกวน(teen)ที่เห็นมันก็เป็นซะอย่างนั้น

นี่ถ้ายิ่งเป็นในห้องน้ำสาธารณะ ตามห้าง ร้านอาหาร หรือแม้แต่ในมหาวิทยาลัย
แน่นอนที่สุด คำต้องประมาณนี้
อวดอ้างสรรพคุณของอวัยวะ คุณสมบัติทางกายวิภาค(ใหญ่ เล็ก ยาว สั้น)
ดีเลิศประเสริฐแค่ไหน พ่อคุณ แม่คุณเล่นเขียนเบียดๆ ติดๆ กันให้รกไปหมด
ความพยายามสูงกันจริงๆ แม้ไม่มีพื้นที่ว่างแล้ว มันยังเขียนทับด้วยตัวอักษรที่ใหญ่กว่า สีเข้มกว่า หวังให้เด็ดสุดเด่นสุด ถ้าไม่เชื่อโทรไปตามเบอร์ที่มันเขียนบอก 02-567xxxx

น่าเห็นใจเจ้าของสถานที่นั้นจริงๆ ส่วนคนที่น่าสงสารและน่าเห็นใจที่สุด คงหนีไม่พ้นพนักงานทำความสะอาดที่ได้รับเงินเดือนเพียงน้อยนิด แต่ทำงานหนัก อาชีพของพวกเขารักษาความสะอาด ไม่ได้หมายความว่ากำจัดความสกปรกของคนมักง่าย

ถ้าเราๆสำนึกสักหน่อยไม่มักง่ายเขียน หรือไม่มักง่ายทิ้ง(ขยะ) พวกเขาก็จะไม่ต้องเหนื่อยกายมากนัก ผมเชื่อว่า คนที่ทำงานแม่บ้านแค่เหนื่อยใจกับค่าเลี้ยงชีพนั้นก็หนักมากพอแล้ว

ผมคาดว่า กทม.และต้นสังกัดองค์กร ที่ประสบปัญหาอย่างว่า คงปวดหัวกับเรื่องพวกนี้ไม่น้อย เพราะคงต้องสิ้นเปลืองเวลาและงบประมาณ เพื่อตามลบข้อความอันไม่พึงประสงค์ตามจุดต่างๆให้กลับมาโล่งสะอาดน่ามอง

แปลกดีแท้ที่นิสัยทรามๆเยี่ยงนี้ ยังดำรงอยู่ในสังคมไทยอย่างฝังรากไม่มีวันสาบสูญ ไม่รู้ด้วยตำราเล่มใดที่ไปบอกให้คนที่มีสปีซี่ร้ายตัวนี้ให้ช่วยกันสืบทอดการกระทำอย่างว่านี้ต่อไป แล้วเราจะหาทางระงับเชื้อร้ายนี้ได้อย่างไรบ้างล่ะ


ขณะที่คนกำลังจะมีการศึกษาที่ดี คือคนพวกนี้เรียนหนังสือกันอยู่ทั้งนั้นแหละ เที่ยวพ่นข้อความ เขียนข้อความตามกำแพงที่เห็นแล้วชวนให้หงุดหงิดหัวใจ

อีกมุมหนึ่งในส่วนข้อความ(อารมณ์)ดีๆ ก็ยังพอมีอยู่เช่นกัน เป็นการขีดๆเขียนๆเหมือนกัน แต่ว่าเราเห็นแล้วจะไม่รู้สึกหงุดหงิดเหมือนแบบแรก เพราะสิ่งที่พวกเขาลงมือกระทำมันไม่ไปเบียดเบียนผู้อื่น แต่อาจจะเบียดเบียนสายตาผู้อ่านอย่างเราบ้างเล็กๆ

“คนล้างไปเมืองนอก”

“รถคนใช้จ่ายตลาด”

นั่นข้อความที่เขียนจากปลายนิ้วชี้เขียนลงบนกระจกรถที่ฝุ่นจับหนา

เราได้อ่านมันเหมือนกัน แต่อาจจะมีความรู้สึกต่างกันคือไม่มีความรู้สึกร่วม อันนี้ขึ้นอยู่กับการตีความ

วันๆสายตาของเราต้องไปเตะเอาป้ายโฆษณามากข้อความของเหล่าเอเยนซี่ เพื่อหวังจูงใจให้เราเลือกซื้อสินค้าเขามาใช้

พวกเด็กมือซนก็แย่งกันหาพื้นที่เด่นๆ บอกวันสถาปนาสถาบันและความยิ่งใหญ่ของตัวเอง หวังให้คนรู้จักและสรรเสริญ(พวกมันคิดผิด)

คริสตศาสนิกชน ปีนตึกสูงและยอดไม้ขึ้นติดป้ายข้อความเกี่ยวกับพระเจ้าเพื่อให้คนเห็นเด่นและมีพลังศรัธา

ชนชั้นแรงงานอย่างพี่ๆรถบรรทุกสิบล้อ ก็สร้างข้อความตามตัวรถ เพื่อความรื่นรมย์แก่ตัวเองและผู้อื่น(บางคน)ที่ร่วมเส้นทางเช่นกัน

พวกเขาจะเขียนด้วยลายมืออ่านยาก แต่ส่วนมากจะซื้อสติ๊กเกอร์ที่พิมพ์ข้อความสำเร็จแล้วมาแผ่นละห้าบาทสิบบาท(หรือเปล่า) แล้วแปะติดตามข้างรถหรือท้ายรถ เพื่อให้คนอื่นมองเห็นและอ่าน.....

“รักแท้คือแม่ข้า รองลงมาคือแม่โขง”

“เหนื่อยเพราะจน ทนเพราะเธอ”

ข้อความไม่พึงอ่าน บางทีถ้าได้อ่านก็ทำให้รู้สึกอารมณ์ดีได้เหมือนกันนะเนี่ย



Create Date : 02 กันยายน 2549
Last Update : 2 กันยายน 2549 15:43:41 น.
Counter : 1079 Pageviews.

13 comments
สวัสดีปีใหม่ Rain_sk
(1 ม.ค. 2567 21:38:33 น.)
The Last Thing on My Mind - Tom Paxton ... ความหมาย tuk-tuk@korat
(1 ม.ค. 2567 14:50:49 น.)
พบเจอภาพอะไร? ส่วนหนึ่งของภาพน่าสนใจจึงตัดมาใช้ คุกกี้คามุอิ
(1 ม.ค. 2567 03:56:23 น.)
อุ้มสีมาทำบุญ ๙ วัด ในวันขึ้นปีใหม่ที่จ.อุบลราชธานี อุ้มสี
(3 ม.ค. 2567 19:10:02 น.)
  
ช่างกลหมีน้อย พ่อเทคโนแพนด้า
โดย: วรา IP: 124.121.73.39 วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:14:10:16 น.
  
อนุบาลกุ๊กไก่พ่อทุกสถาบัน
ประมาณนี้เปล่าอารมณ์คุณวรา
โดย: จขบ. (ชลสิทธิ์ ) วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:14:15:08 น.
  
โดย: อัญชา วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:15:27:23 น.
  
ใครไม่รู้บอกว่า

"จับโลกหมุนไปอีกด้านสิ"
โดย: ดาริ IP: 125.24.150.244 วันที่: 2 กันยายน 2549 เวลา:22:11:06 น.
  
มีอีกอันที่เคยเห็นค่ะ

"มีหมาเป็นเพื่อน ดีกว่ามีเพื่อนหมาๆ"

แปะตัวเป้งเลย ท้ายรถ เห็นเด่นมาแต่ไกล
โดย: อัญชา วันที่: 3 กันยายน 2549 เวลา:23:34:21 น.
  
สมัยเรียน ไทยวิ
ผมไม่เคยพ่น
แต่เวลาเห็น ทวอ. พ่อ ทุก สถาบัน
ผมอายแทน โรงเรียน ที่เรียน เสมอ
โดย: ระจัน (ต้นตุลา ) วันที่: 4 กันยายน 2549 เวลา:11:00:20 น.
  
"อกหักเพราะรักน้องเมีย"
โดย: เจ้าชายไร้เงา วันที่: 5 กันยายน 2549 เวลา:18:19:34 น.
  
คนเราบางครั้งมักง่ายด้วยหลายๆ สาเหตุ

ความคะนอง
ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์
ความก้าวร้าวในอารมณ์

ทำให้ผู้ร่วมสังคมต้องอดทนกับการกระทำที่เกิดจากความมักง่ายนี้เสมอๆ

----------------

เราเองก็ชอบมองโลกอย่างจริงจัง สนุกกับการคิด เพลินๆ ดี
แต่หลายๆ หน ยิ่งเห็นยิ่งรำคาญ จนต้องพาลเอาหูไปนา เอาตาไปไร่บ้างเหมือนกัน

โดย: นางสาวอาร์ต วันที่: 7 กันยายน 2549 เวลา:1:55:36 น.
  

Happy Weekend Ka

โดย: โสมรัศมี วันที่: 8 กันยายน 2549 เวลา:22:15:41 น.
  
นานเกินไปหรือเปล่าที่หายไปน่ะ?
โดย: ดาริกามณี วันที่: 15 กันยายน 2549 เวลา:19:18:19 น.
  
มาทักทาย อ่านแล้ว อยากอ่านอีก
โดย: ฝุ่นผงของจักรวาล IP: 124.121.190.169 วันที่: 17 กันยายน 2549 เวลา:20:43:08 น.
  
คุ้น ๆ นะ ช ประทุมทองเนี่ย อิอิ
โดย: ดาริกามณี IP: 125.24.129.183 วันที่: 20 กันยายน 2549 เวลา:21:06:05 น.
  
..เคยเจอ..
อย่าตามมากรูหลง..
น่ารักดี..ขำๆ
...รักนะเด็กโง่..(ที่ให้ยืมตังค์)
โดย: มาลีฮวนน่า IP: 202.91.19.192 วันที่: 4 มิถุนายน 2550 เวลา:16:50:57 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Chollasitt.BlogGang.com

ชลสิทธิ์
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]

บทความทั้งหมด