หลังจากที่เมื่อคืนเราไปเดินเที่ยวที่ Regent, Oxford Street และ Hamleys มาแล้ว เช้านี้เราไปเที่ยวที่ Big Ben และ London Eye กันดีกว่า เราก็นั่งรถไฟใต้ดินไปลงที่ สถานี Westminster พอออกมา สิ่งแรกที่มองเห็นก็คือ London Eye ซี่งอยู่อีกฝั่งของแม่น้ำเทมส์




และพอมองไปทางขวามือเราก็จะเห็น หอนาฬิกา Big Ben ที่ยังคงส่งเสียงกังวานเมื่อถึงเวลา



เมื่อชมวิวทิวทัศน์กันเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราก็จะไปที่ London Eye กันล่ะ แต่ก่อนที่จะข้ามสะพานไปยัง London Eye ก็อดไม่ได้ที่จะเก็บภาพไว้เพื่อเป็นที่ระลึก ภาพอาจจะดูทึม ๆ ไปบ้าง เพราะยังมีหมอกอยู่เลย แต่ก็ไม่มากเหมือนเมื่อคืน






พอถ่ายรูปเป็นที่พอใจแล้ว ตอนนี้เราก็คงได้ฤกษ์ข้ามไปฝั่งนู้นสักที เราได้จอง London Eye กันไว้เรียบร้อยแล้ว ที่จริงเราจองไว้สำหรับเมื่อคืนนี้ แต่ด้วยความที่หมอกลงจัดมาก ๆ เราก็คงมองอะไรไม่เห็นกันแน่ ๆ เลย เราก็เลยโทรเปลี่ยนมาเป็นวันเสาร์ตอนเที่ยงแทน ซึ่งก็ไม่มีปัญหาอะไร เดินไปยังไม่ทันถึงไหนกันเลย ก็มีสิ่งหนึ่งที่ยั่วยวนเรามาก ๆ เลย อยากรู้ใช่มั๊ยว่าอะไร ติ๊กต๊อก...ติ๊กต๊อก...ติ๊กต๊อก เอ้า! มาเฉลยกันดีกว่า



มันก็คือ วาฟเฟิล แล้วราดด้วยครีมเยอะ ๆ อ๊ะ อ๊ะ ! อย่าหัวเราะน่ะว่าครอบครัวนี้เห็นแก่กิน ก็มันน่ากินจริง ๆ นี่น่า อดใจไม่ไหวหรอก ก็ดูหุ่นสิ...อ้วนซะ

เอ้ามาว่ากันต่อหลังจากอิ่มท้องแล้ว มาพูดถึงแพ็คเกจ London Eye ที่เราจองไว้ดีกว่าเขาเรียกว่า Champagne Flight ก็คือ เราจะได้ Capsule เป็นส่วนตัว แล้วเขาก็จะเสริฟ์เราด้วย Champagne ถ้าเป็นเด็กก็จะได้น้ำผลไม้แทน





London Eye ใช้เวลาประมาณ 45 นาที ก็จะครบรอบ เวลาในช่วงนั้นช่างผ่านไปไวจริง ๆ เลย มีความสุข และสนุกสนานกันมาก ๆ ถึงแม้อากาศจะไม่ค่อยเอื้อนวยนัก แต่เราก็ไม่ลืมที่จะถ่ายรูปสวย ๆ มาฝาก







และสุดท้ายที่ลืมไม่ได้ก็คือ ต้องมีรูปสุดหล่อ และสุดสวยด้วย