มิสากับ Ice Skate บทที่ 4 : Skate Bangkok 2020 การแข่งขันครั้งสำคัญ (11-13/12/2020)
หลังจากแข่ง Skate Asia 2019 ไปเมื่อเดือนสิงหา ปี 62 .. ครั้งนั้น แม้ไม่ได้รางวัลอะไร แต่มิสามีใจสู้เต็มเปี่ยม ไม่เสียกำลังใจแม้แต่น้อย บอกแม่ว่า อยากเรียนต่อ อยากแข่งอีก มิสาชอบทำโปรแกรม ... เราพักเรียนไอซ์สเก็ตไปพักนึง เพราะหมดคอร์สที่ลานพระราม 9 พอดี จากนั้นแม่ตัดสินใจให้มิสาลองเปลี่ยนลาน เปลี่ยนโค้ชดูบ้าง เพราะ เราก็เรียนกันที่ลานพระราม9 มาได้ 2 ปีกว่าแล้ว (จะได้เปลี่ยนที่ช้อปปิ้งบ้าง แม่คิด 555) แม่มาดูลานของ Subzero ที่เมกะบางนา เล็งหาโค้ช พอได้โค้ช ได้ตารางว่าง ก็จัดการจองคอร์สแล้วให้มิสาเริ่มเรียนกับโค้ชใหม่ ... การเรียนดำเนินไปเรื่อยๆ ตอนแรกแพลนกับโค้ชจะแข่งช่วง พค. 63 แต่ไปๆมาๆ มีโควิดมาตั้งกะต้นปีเลย ลานก็ปิดด้วย การแข่งก็เลื่อน ก็เลยเลื่อนไปเรื่อยๆ แต่ในระหว่างที่ลานปิด โค้ชก็มีให้เด็กๆเรียนแบบ off Ice ด้วย บางทีก็เรียนออนไลน์ บางทีก็ไปบ้านโค้ช แม่ก็ไปนั่งรอ (ไม่มีให้เดินช้่อปปิ้งด้วย 555) แต่แม่ก็ยอม เพราะโค้ชบอกว่า อยากให้ฝึกอยู่เรื่อยๆ พอลานเปิดจะได้ ไม่ต้องฟื้นมาก ...


พอกลางปี ลานเปิด เราก็เริ่มลงลานกันใหม่ ช่วง สค , ตค ก็มีแข่งที่เชียงใหม่ กับภูเก็ต แต่แม่ไม่ได้ให้มิสาลงแข่ง เพราะรู้สึกถึงความยุ่งยากในการแข่ง ^^" คือ ต้องบินไป ต้องหอบชุด หอบอุปกรณ์อะไรไปเยอะแยะ กองเชียร์ก็ตามไปไม่ได้ 555 สรุปรอแข่งที่กทม. ก็มาลงตัวที่ Skate Bangkok ซึ่งแข่งช่วงธันวา 20 ที่ลานเมกะเองนี่แหละ ... ครั้งนี้โค้ชให้มิสาลงแข่งโปรแกรมเดี่ยว 2 โปรแกรมเลย คือ Solo - F1 กับ Drama Spotlight -
F1 มิสาเลือกเพลง Speechless (เพลงประกอบหนัง Aladdin) และก็โปรแกรมคู่ เป็นโปรแกรมสั้นๆอีก 1 โปรแกรม รวม 3 โปรแกรม ... ตอนแรก แม่คิดว่า เอาที่เป็นเพลงเดี่ยวๆ เพลงเดียวพอมั้ย เพราะมัน 1.30 นาที กลัวลูกจำท่าไม่ได้ แล้วก็ท่าจะปนกัน 555 เวลาซ้อมจริงๆก็น้อยด้วย เพราะโค้ชต้องส่งเด็กแข่งเชียงใหม่ กับภูเก็ต ให้เสร็จก่อนด้วย ถึงจะมาดูโปรแกรมเราเต็มๆ แต่สรุป โค้ชก็บอกว่า 2 โปรแกรมเลยค่ะแม่ น้องทำได้ 555


การฝึกซ้อมโปรแกรม 2 โปรแกรมหลักเริ่มต้นเพียงแค่เดือนกว่าๆก่อนแข่ง  แม่รู้สึกว่าเวลาน้อยมาก ยิ่งตอนลองทำโปรแกรมครั้งแรก มิสายังท่าทางเก้ๆกังๆ โค้ช(และแม่)นี่กุมขมับเลย 555 แต่แม้จะเวลาน้อย แต่มิสาก็ตั้งใจมาก เราเพิ่มเวลาเรียนเป็น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ โดยเพิ่มวันธรรมดาหลังเลิกเรียน ที่เราต้องเดินทางไปถึงเมกะบางนา(จากพระราม2) กว่าจะกลับถึงบ้าน มิสานี่สลบทุกรอบ ^^" .... ยิ่งโดยเฉพาะสัปดาห์ก่อนการแข่งขัน มิสาขยันซ้อมมากๆ ไปซ้อมทุกวัน ... วันอังคาร มีซ้อมใหญ่ตั้งแต่ 2 ทุ่ม - 4 ทุ่ม (คือ มันดึกมาก นึกว่าจะหมดพลัง แต่ก็ยังตั้งใจ) ...วันพุธ ก็ไปซ้อม .. วันพฤ จริงๆมิสานัดเพือนดูหนังและจะไปเล่นบ้านเพื่อน แต่พอแม่อธิบายเหตุผล โดยบอกว่า การแข่งมีเพียงครั้งเดียว แต่บ้านเพื่อนไปเมื่อไหร่ก็ได้ หนูก็เข้าใจ ก็ไปซ้อมกับโค้ชอีก ... วันศุกร์ กะว่าจะให้พัก สบายๆ เพราะจะแข่งวันเสาร์ แต่มิสาก็ขอแม่ให้พาไปซ้อม เราก็ไปซ้อมกันถึงที่ลานสำโรง (เพราะเมกะมีแข่งแล้ว) มิสาซ้อมเองคนเดียวเกือบ 2 ชม. ... คือ แม่รู้สึกว่ามิสาทุ่มเทมากๆ อดทนฝึกซ้อมมากๆ ไม่มีบ่น ไม่มีอิดออดเรื่องซ้อมเลย ... ก่อนแข่ง แม่บอกมิสาเลย ว่าหนูชนะแล้วนะ สำหรับแม่หนูชนะตั้งแต่ก่อนแข่งซะอีก 💕


แข่งคราวนี้ แม่รู้ว่ามิสากดดันตัวเองมากๆ คราวที่แล้วมิสาบอกชิลล์เพราะแข่งครั้งแรก ไม่ได้หวังอันดับใดๆ แต่ครั้งนี้มิสาตั้งใจ เพราะอยากได้เหรียญบ้าง ... ก่อนแข่งก็มีเหตุให้ใจแป้วอยู่บ้าง ทั้งป่วยด้วย(เป็นหวัด ไม่หายซักที เพราะอยู่ลานไอซ์ตลอด) หรือซ้อมอยู่ดีๆ ก็ล้มเข่ากระแทก(แรงด้วย)ในท่าที่ไม่เคยล้ม จนต้องหยุดเรียนไปอาทิตย์นึง หรือแม้แต่ท่าหมุน ซึ่งเคยทำได้ดี อยู่ดีๆไม่กี่วันก่อนแข่ง ก็หมุนแล้วเซ หมุนกี่ทีก็เซ คือ ทำเอาความมั่นใจหายไม่กล้าหมุน กลัวล้ม แต่ก็นับว่าใจยังสู้ เรียกความมั่นใจ จนกลับมาทำท่าต่างๆได้เหมือนเดิมในที่สุด ....


พูดถึงเรื่อง หมุนไม่ได้ก่อนแข่ง แม่ต้องบันทึกซะหน่อย เพราะ two-foot spin มิสาทำได้มานานมากๆแล้ว เรียกว่าได้ก่อนจบเรียนกลุ่ม level 10 ด้วยซ้ำ แต่จำนวนรอบอาจจะน้อยกว่านี้ แต่ยังไงก็ไม่เคยเซ หรือ ล้ม ... วันดีคืนดี ก่อนแข่งประมาณ 2 อาทิตย์ หมุนแล้วเซ แล้วล้มซะอย่างงั้น คือ ใจเสียเลย ทั้งมิสาเอง และแม่ด้วย (และคงจะโค้ชด้วย 55) แล้วคือ จะทำยังไงกันดี ท่าหลักของการแข่ง จะมาฝึกทรงตัวตอนนี้ มันใช่เหรอ ?? แม่คิดๆๆๆว่าเกิดอะไรขึ้น อยู่ดีๆก็คิดถึงเรื่องว่า มิสาไม่สบาย คัดจมูกมาเป็นเดือน แล้วไม่หายซักที เนื่องจาก เราก็มาลานตลอดทั้งเดือน มันก็ไม่หายเพราะพอจะหาย ก็มาเจอเย็นอีกแล้วเป็นหยั่งงี้ตลอด (แม่ไม่ได้หาหมอ เพราะคิดว่าหวัดธรรมดา ก็กินยาแก้แพ้เอา) แล้วมันเป็นนานมาก มันจะเกี่ยววอะไรกับโพรงจมูก ไปจนถึงหู ไปจนถึงระบบการทรงตัวรึป่าว เลยตัดสินใจพาไปหาหมอก่อนแข่ง 1 อาทิตย์ ปรากฏหมอบอกว่า เกี่ยวค่ะแม่ !! เพราะน้องเป็นนาน แล้วโพรงจมูกบวม มันต่อกันไปหมด แม่เลยขอยา เอาแบบแรงสุด (เวลานี้ ขอแรงสุดค่ะ เพราะอีก 1 อาทิตย์แข่ง ^^")  พอได้ยาฆ่าเชื่อซัก 3 วันก็ดีขึ้น ... พอวันพฤหัส ที่ซ้อมครั้งสุดท้ายกับโค้ช โค้ชบอก น้องกลับมาหมุนได้แล้วค่ะ 555 แม่นี่ขำเลย บอกโค้ช แม่ให้ยาแรงสุดกับน้องแล้วค่ะ หมอบอกว่า ที่หมุนแล้วเซ เพราะมันเกี่ยวกับการเป็นหวัดของน้อง ... วันศุกร์เลยไปซ้อมเองอีกที ก็หมุนได้เรียบร้อย พร้อมแข่งวันเสาร์ ... เรียกว่า หายอย่างเส้นยาแดงผ่าแปดมากๆ (ลองคิดดูว่า ถ้าไม่หาหมอ แล้วหวัดยังไม่หาย จะเป็นยังไง T_T)



 
โปรแกรม 1 : Solo - Free Style 1 - Female 10 Y









โปรแกรม 2 : Drama Spotlight - Free Style 1 Female 10-11 Y










 
โปรแกรม Drama Spotlight มิสามีเซเล็กน้อย แต่โดยรวมจริงๆคือ ดีมาก พอแข่งเสร็จ แม่กับน้ากลอยมารอดูคะแนน แม่ยังบ่นกับน้ากลอย เสียดายจังไม่น่าเซเลย อยากให้ได้อันดับดีๆเพราะไม่รู้จะได้เรียนต่อมั้ย (อันนี้เรื่องยาว เดี๋ยวเล่าอีกที) น้ากลอยก็สงสารหลาน ... ปรากฏ พอคะแนนขึ้น มิสาอยู่อันดับแรก ได้ Gold แม่นี่กรี๊ดเลยย น้ำตาแตก 555 แบบน้ำตาแตกจริงๆ ดีใจมากๆๆๆๆ บอกเลย นี่คือ น้ำตาไหลด้วยความดีใจ ครั้งที่ 3 ในชีวิต 555 (ครั้งที่ 1 เอ็นทรานส์ติด, ครั้งที่ 2 พ่อขอแต่งงาน และครั้งนี้ ลูกสาวแม่ได้เหรียญทอง 555)




โปรแกรมที่ 3 เป็นโปรแกรม Jump & Spin อันนี้ คู่กับเพื่อนอีกคน ของมิสาเป็น Jump (เพราะ Jump ได้ดีกว่า มิสายัง one foot spin ไม่ค่อยได้เลย) ส่วนเพื่อนก็ spin ไป เพราะเค้า spin ดีกว่า 555 โปรแกรมนี้ ก็ได้เหรียญทองกันมา ร่วมกับอีกทีมด้วย ... 


ในการแข่งขัน แม้จะมีผิดพลาดบ้าง แต่แม่ขอชื่นชมมิสาในความมีสติ The Show must go on ของแท้ ... มิสาสามารถเรียกพลังกลับคืนมา และแสดงจนจบได้อย่างดี เรียกว่า มีสติมาก ..... และในที่สุด จากความพยายามของลูกสาวในการแข่งขันครั้งนี้ มิสาก็ได้ เหรียญอย่างที่ตั้งใจ ... เย้ๆๆๆ ... 😊👏🏻👏🏻👏🏻 #Soproudofyou #2goldmedals 🥇🥇 #1bronzemedal 🥉#misa10years





Create Date : 27 มิถุนายน 2564
Last Update : 27 มิถุนายน 2564 17:49:00 น.
Counter : 1061 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Beauty-bambi.BlogGang.com

Beauty & Bambi
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]

บทความทั้งหมด