Our new lives @ new home...


โอ๊ะ มายก็อดดดด ! ไม่ได้อัพบล็อคนานมากๆๆๆค่ะ เพราะชีวิตแม่ลูกสอง วุ่นวายกว่าที่คิดเนอะ 555 เช้าๆจัดการเจ้าตัวเล็ก (ณ 2559 ตอนนี้ 2 ขวบค่ะ) บ่ายก็ไปรับตัวโต ( ณ 2559 ตอนนี้ 6 ขวบค่ะ) ต่อด้วยพาไปเรียนพิเศษ (อะไรบ้าง เดี๋ยวว่ากัน อิอิ) เย็นๆ เด็ก 2 คนอยู่บ้าน ก็เป็นอันไม่ต้องทำอะไรค่ะ 555 จวบจนกินข้าวเย็น อาบน้ำ เอาเด็กๆเข้านอน 3 ทุ่ม.... หลังจากนั้น .... แม่ก็เป็นอันสลบตามลูกค่ะ 555 Smiley

แต่วันนี้ต้องมาอัพซะหน่อย เพราะมีความรู้สึกดีๆที่อยากจะเก็บไว้ในบล็อค (กลัวว่าถ้าเวลาผ่านไป ความรู้สึกดี อาจจะเปลี่ยนไปเป็นแบบ ไม่น่าเล้ยยย 555) เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตใหม่ๆของพวกเรา 4 คนพ่อแม่ลูก หลังจากย้ายมาอยู่บ้านในใจกลางชานเมืองค่ะ 555 หลายๆคนอาจจะทราบมาบ้างว่าเดิม ครอบครัวของเราอาศัยอยู่ในคอนโดที่ค่อนข้างจะอยู่ในเมือง (สะพานสาธรฝั่งธน) ซึ่งคอนโดก็นอกจากจะทำเลดี ตัวคอนโดเองก็ใหญ่โต กว้างขวาง (4 ห้องนอน) แต่การอยู่คอนโดก็ไม่เหมือนอยู่บ้านเนอะ เมื่อเรามีลูก เราเองก็อยากจะหาบ้านซักหลัง โดยโจทย์แรกที่เราตั้ง คือ ใกล้รร.ลูก ซึ่งหลังจากสำรวจทำเลต่างๆ เราก็มาลงตัวที่ย่านพระราม 2 เนื่องจากว่าอยู่ใกล้รร.มิสา (เหตุผลหลัก) และสามารถไปออฟฟิศพี่หยี่ได้สะดวก (หรือไม่ลำบาก 55) ซึ่งที่มาในการหาทำเลนี้มันก็เยอะแยะดีเทลมากมาย ขอไม่ลงในรายละเอียดให้อ่านละกันนะ


แต่สิ่งที่ตามมาหลังจากหลายๆคนรู้ว่า เราจะย้ายบ้านมาอยู่พระราม2 ด้วยเหตุผลที่ใกล้รร.ลูก คนส่วนใหญ่จะอึ้งๆๆๆ 555 แต่เนื่องจากกิ๊กไม่ได้อยากจะว่าว่าพระราม 2 ไม่ดีอย่างไร ก็จะไม่ลงดีเทลอีกเช่นกัน (แต่เอาเป็นว่า คนส่วนใหญ่ก็จะเปรียบเทียบพระราม2 กับแถวคอนโดที่เคยอยู่ แน่นอนล่ะ ทำเลมันต่างกันน่ะ) ทั้งกิ๊กและพี่หยี่เอง ก็ไม่ใช่ว่าเราจะไม่เคยคิด เพราะการออกมาอยู่นอกเมือง แน่นอนว่าการเดินทางไปที่ต่างๆ โดยเฉพาะเข้าเมือง มันก็จะไม่ค่อยสะดวก รถติดด้วย (ช่วง rush hour) แต่เราก็เลือก เพราะเหตุผลหลัก เรามุ่งไปที่คุณภาพชีวิตของลูกๆเรา


หลังจากย้ายบ้านใหม่มาได้ประมาณนึง กิ๊กก็ไปอ่านเจอบทความๆนึง เป็นเรื่องการศึกษาของเด็กในแถบประเทศยุโรป แถบนอร์เวย์ ฟินแลนด์ (ประเทศที่ติด 1 ในสิบที่มีการศึกษาดีที่สุดในโลก การศึกษาภาคบังคับเริ่มต้นเมื่อเด็กอายุ 7 ปี ไม่เน้นการเรียนอนุบาลแต่จะเน้นให้อยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด   -- อ่านมาจากเน็ตนะค้าบ) เค้าพูดถึงการศึกษาในช่วงปฐมวัย(อนุบาล)ว่า ไม่มีการเรียนวิชาการเลย ไปรร.เหมือนไปเล่น บลาๆๆๆ ซึ่งตรงนี้ตรงกับรร.รุ่งอรุณอยู่แล้ว (พูดได้เต็มปาก) และก็พูดเลยถึงว่า กิจวัตรของเด็กยุโรป พอกลับจากรร. ก็จะมาเล่นกับครอบครัว ทำกิจกรรมร่วมกัน เล่นเกม (พวกบอร์ดเกม) ไม่ก็ออกไปเดินเล่น ขี่จักรยานเล่น ก่อนจะกินข้าว แล้วก็เข้านอน... พอได้อ่านปุ๊บ เฮ้ยย นี่มันชีวิตลูกเราเลยนะ 555 มิสานี่มีคุณภาพชีวิตเทียบเท่ามาตรฐานเด็กยุโรปนะจ๊ะ 555 ... คือ มันใช่มากอ่ะ ก็เลยรู้สึกว่า นี่แหละที่ช่วยตอกย้ำและสนับสนุนความคิดของกิ๊กกับพี่หยี่ว่า เราคิดถูกนะที่เลือกบ้านใกล้รร.ลูก (หรือคนอื่นจะเลือกรร.ใกล้บ้านก็ได้ แต่เผอิญเราเริ่มที่รร. 555)


ครอบครัวเราได้ย้ายมาอยู่ที่หมู่บ้านใหม่ช่วงต้นปี 2558 ซึ่งโชคดีอย่างตรงที่พี่หยี่เค้าไม่ได้ทำงานตามตร.เวลาออฟฟิศ (และกิ๊กเองก็เป็นแม่บ้าน) เค้าจะออกจากบ้าน 9-10 โมง ซึ่งเลยเวลารถติดไปแล้ว เพราะฉะนั้นปัญหาหลักก็หมดไป...หลังจากย้ายบ้านมา ตร.ชีวิตประจำวันของพวกเรา.. จริงๆถามว่าเหมือนเดิมมั้ย มันก็ไม่ต่างจากเดิมเท่าไร่ เพราะคอนโดก็ไม่ได้ไกลรร.มากนักอยู่แล้ว แต่บ้านใหม่นี่คือยิ่งใกล้ 555 แล้วมันก็มีเวลาทำอะไรมากขึ้น

6-6.30 น. มิสาตื่นนอน (พร้อมพ่อ)
7.00 น. อาบน้ำเสร็จ ส่งตัวกินข้าว (พี่เลี้ยงป้อน 555)
7.30 น. กินข้าวเสร็จ ออกจากบ้านไปรร.
7.50 น. ถึงรร. มีเวลาเก็บของ ทำกิจกรรมวงกลมครบถ้วน (ตรงนี้เองที่ครูบอกว่าสำคัญ เพราะจริงๆรร.รุ่งอรุณไม่มีการเคารพธงชาติ ตร.เข้าเรียนกำหนดไว้ 8 โมง แต่แน่นอนเด็กเล็กๆส่วนนึงจะมาไม่ทัน ซึ่งก็จะเรียกว่ามาเมื่อไร่ก็ได้ สายกว่านี้ก็ได้ ไม่ได้รู้สึกว่าคือการมาเรียนสาย ซึ่งมิสาเองตอนอ.1 ก็มาเกือบ 8.30 ตลอด เพราะเราก็คิดว่า เด็กเล็กๆเองจะอะไรกันมากมาย มาก็ไม่ได้เรียนหนังสือ 555 แต่คุณครูบอกเลยว่า เด็กๆจะขาดโอกาสหลายอย่าง รร.จะมีกิจวัตรช่วงเช้าก่อนกิจกรรมวงกลมเช่น พับผ้า ร้อยดอกไม้ ฯลฯ อีกทั้งเด็กๆที่มาเร็ว เค้าได้เตรียมตัว ได้เตรียมความพร้อมก่อนเพื่อน ก็จะพัฒนาได้เร็วกว่า เด็กที่มาสาย บางทีก็งอแง บางทีก็มีอารมณ์ง่วง อารมณ์ไม่พร้อมอะไรแบบนี้ เพราะฉะนั้นคุณครูจะแนะนำให้มาก่อน 8 โมง)

8.00-14.00 น. เป็นเวลาที่กิ๊กอยู่บ้านเลี้ยงสิตา พอบ่าย 2 ก็ออกไปรับมิสา (สลับกับคุณยาย)
15.00 น. มิสายอมออกจากรร. ต้องบอกว่ายอม เพราะรร.เลิก 2.30 แล้วเล่นอิสระต่อ ซึ่งเธอชอบเล่นมากกก ไม่ยอมกลับบ้านเลย ถ้าไม่มีเรียนอะไร ส่วนมากจะอนุโลมให้เล่นยาวได้ถึง 15.30

15.30-16.00 น. กลับถึงบ้านแล้ว ก็เล่นอิสระ วาดรูป ระบายสี แป้งโดว์ ของเล่น บอร์ดเกม เล่นกับน้อง

17.00 น. ออกไปเดินเล่น ขี่จักรยาน ขี่ scooter ฯลฯ 
18.00 น. พ่อกลับมาถึงบ้าน หรืออาจจะกลับมาเร็วกว่านี้ตามแต่งานมากน้อย

กิจวัตรในช่วงเย็นของเรา มีตั้งแต่ไปเดินเล่น ขี่จักรยาน วิ่งเล่นที่สนามหญ้า เล่นสนามเด็กเล่น ไปจนถึงว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำ ซึ่งมันดีมากๆๆ วันไหนพ่อกลับเร็ว พ่อก็ได้มาว่ายน้ำกับเรา ถือเป็นเวลาคุณภาพมากๆๆๆๆ

ประมาณ 6 โมงเย็น เราก็เข้าบ้านกัน กินข้าวเย็น แล้วก็เข้านอนกันตามปกติ


++ รูปนี้ตั้งแต่ปี 58 สิตายังเพิ่งขวบนิดๆ เลยยังนั่งรถเข็น ++



ซึ่งก็บอกเลยว่าชีวิต happy ดีมากๆๆ ไม่ต้องมาหัวเสียเรื่องรถติด ไม่ต้องมานั่งเครียดลูกจะไปเรียนทันมั้ย ไม่ต้องรีบเร่งกันตั้งแต่เช้า มีเวลากินข้าวเช้าสบายๆ พ่อนั่งเล่นนิทานในรถให้ลูกฟังได้ ไม่หงุดหงิดกับรถติด 555 พอเลิกเรียนก็แป็บเดียวถึงบ้าน ไม่ต้องรถติดอยู่บนถนน กลับบ้านมามีเวลาร่วมกัน






ส่วนวันเสาร์ ก็เป็นวัน activity เรียนพิเศษ 555 ก็จะพาทั้งมิสากับสิตาออกไปเรียนแถวพระราม 3 พอตกเย็นวันเสาร์ ก็ dinner time มีเวลาได้เข้าไปกินข้าวในเมือง (เพราะเราอยู่ในเมืองอยู่แล้ว เข้าเมืองก็แป็บเดียว สะดวก) ส่วนวันอาทิตย์ ก็แล้วแต่ว่าจะทำกิจกรรมอะไรพิเศษรึป่าว ถ้าไม่มีอะไร กิ๊กก็จะใช้จังหวะนี้เข้าเมืองช็อปปิ้ง 555 เพราะวันอาทิตย์รถไม่ติด พอตกเย็นก็กลับมาว่ายน้ำเล่นกัน

สรุปชีวิต @ new home อีกที... ใครจะว่าพระราม 2 อะไรยังไง ..

ณ วันนี้ เรารู้เลยว่า เราคิดไม่ผิดจริงๆที่ย้ายบ้านมาที่นี่ค่ะ... Smiley





Create Date : 21 มีนาคม 2559
Last Update : 30 มิถุนายน 2560 11:23:04 น.
Counter : 430 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Beauty-bambi.BlogGang.com

Beauty & Bambi
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 36 คน [?]

บทความทั้งหมด