{Chronobiology} ..... เวลา คือ วารี (ของชีวิต) ..... สวัสดีค่ะ กระทู้นี้ดิฉันขอนำเสนอการทำงานของนาฬิกาชีวภาพในแง่วิทยาศาสตร์สุขภาพ และการนำความรู้ไปใช้ประโยชน์ค่ะ ทำไมเราต้องนอนตอนกลางคืน และตื่นตอนกลางวัน? ทำไมคนบางคนนอนดึก แล้วตื่นเช้าได้? ทำไมเราต้องกินอาหาร 3 มื้อ? ทำไมเวลาในชีวิตของเราต้องกำหนดที่ 24 ชั่วโมง วงจรเช้า-มืด 1 รอบ? คำถามเหล่านี้อาจหาคำตอบได้จากการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ Circadian rhythm หรือการเปลี่ยนแปลงใน 1 รอบวันของร่างกายของเราเกิดจาก ระบบนาฬิกาชีวภาพในร่างกายของเรา นาฬิกาชีวภาพ (Biological clock) ก็เหมือนกับระบบคอมพิวเตอร์ คือ มี 3 ส่วน.. ส่วนรับสัญญาณ (Input) รับสัญญาณจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ศัพท์ที่ใช้ในเรื่องนาฬิกาชีวภาพเรียกสัญญาณจากสิ่งแวดล้อมที่มากำหนดนาฬิกาชีวภาพว่า Zietgebers (มาจากภาษาเยอรมัน แปลว่า Time Givers) มีหลายประเภท เช่น การกินอาหาร กิจกรรมทางสังคม Zietgeber หลักที่มีอิทธิพลอย่างมากคือ แสง และส่วนรับสัญญาณหลักอยู่ที่เรตินาในตาของเรา ส่วนประมวลผล (Central oscillator) ร่างกายของเรามีนาฬิกาชีวภาพหลักอยู่ในสมองส่วน Suprachiasmatic nucleus รับสัญญาณจากสิ่งแวดล้อมภายนอก --> ประมวลผ่านนาฬิกาในระดับโมเลกุล --> ส่ง output ไปคุมการทำงานของนาฬิกาชีวภาพส่วนอื่นๆในร่างกาย เช่น ไปปรับการทำงาน หรือปริมาณของสารสื่อประสาทบางประเภท หรือระดับฮอร์โมน ผลลัพธ์ที่ได้ (Output) แสดงออกมาในรูปแบบการเปลี่ยนแปลงของร่างกายตามช่วงเวลา ![]() ตารับแสง แล้วแปรเป็นสัญญาณประสาท ส่งไปที่สมองส่วน Suprachiasmatic nucleus รับสัญญาณ --> ประมวลผ่านนาฬิกาในระดับโมเลกุล --> ส่ง output ไปคุมการทำงานของนาฬิกาชีวภาพส่วนอื่นๆในร่างกาย ![]() Clock gene เซลหลายประเภทในร่างกายของเรามี่นาฬิกาชีวภาพในระดับจิ๋วซ่อนอยู่ การประมวลเวลาในระดับโมเลกุลเกิดจากการทำงานของ Clock gene - การทำงานของ Clock gene เริ่มตั้งแต่ Clock และ BMAL-1 transcription factors ไปจับที่ E-box enhancer region ของ clock gene - เกิดการสร้างโปรตีนหลายประเภท หลักๆคือ โปรตีน Cryptochrome (CRY 1,2) และโปรตีน Period (PER 1, 2) - CRY จะย้อนกลับไปลดการทำงานของ Clock และ BMAL-1 แต่ PER 2 ไปเพิ่มการสร้าง BMAL-1 ทำให้การทำงานมากขึ้น ซึ่งแสงจะกระตุ้นการทำงานของ PER 2 ดังนั้น Clock gene จึงทำงานมากขึ้นเมื่อมีแสง - ผลผลิตที่ได้จาก clock gene ที่สำคัญ เช่น PER3, DBP (D-element binding protein) และ AVP (arginine vasopressin) ผลผลิตที่ได้จะไปเหนี่ยวนำนาฬิกาชีวภาพในอวัยวะหรือเนื้อเยื่ออื่น หรือทำให้เกิดการเปลี่ยนการทำงานของร่างกายตามช่วงวัน ![]() รอบการทำงานของ Clock gene นี้จะอยู้ในช่วง 24 ชั่วโมงค่ะ โดยจะทำงานมากในช่วงกลางวัน จากกราฟแสดงให้เห็นว่าปริมาณ RNA และโปรตีนจาก clock gene ว่าเพิ่มขึ้นในตอนกลางวัน (เพราะแสงกระตุ้นการทำงานของ PER2--> BMAL-1 เพิ่ม) ![]() Clock gene พบได้ทั้งใน Suprachiasmatic nucleus และในเนื้อเยื่ออื่นๆ เช่น ใน สมองส่วนอื่น ตับ ฯลฯ นอกจากแสงจะเป็นสัญญาณกำหนดการทำงานของนาฬิกาชีวภาพแล้ว ปัจจัยอื่น เช่น การกินอาหาร ก็กำหนดนาฬิกาชีวภาพของเราเช่นกัน โดยวงจรการควบคุมยังไม่ทราบแน่ชัดว่าใช้สมองส่วนใด (สันนิษฐานว่าจะใช้สมองส่วนอื่นที่ไม่ใช่ Suprachiasmatic nucleus หรือทำงานร่วมกัน) และถ้านาฬิกาแปรปรวนจะเกิดผลเสียใดต่อร่างกาย ![]() จากการที่ขบวนการทางสรีรวิทยาเปลี่ยนแปลงไปในแต่ละช่วงของวัน จึงสำคัญในแง่การนำมาเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความผิดปรกติของร่างกาย วิทยาศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับการทำงานของนาฬิกาชีวภาพ เรียกว่า Chronobiology ค่ะ จากรูปแสดงให้เห็นช่วงที่พบระดับของฮอร์โมน หรือค่าต่างๆในร่างกายสูงที่สุดแปรตามช่วงวันค่ะ ![]() หากสารต่างๆในร่างกายแปรไปตามช่วงวัน โรคและความผิดปรกติในร่างกายก็แปรตามช่วงวันเช่นกัน จากภาพแสดงช่วงที่พบว่าอาจจะเกิดอาการของโรค หรือพบว่าโรคเกิดรุนแรงขึ้น โดยได้จากสถิติ ![]() การนำความรู้เกี่ยวกับนาฬิกาชีวภาพมาใช้มีหลยด้าน อาจใช้ในแง่เภสัชวิทยา เราเรียกศาสตร์นี้ว่า Chronopharmacology และเรียกการบำบัดรักษาโดยคำนึงถึงการเปลี่ยนแปลงของร่างกายในแต่ละช่วงของวันว่า Chronotherapy Chronopharmacology มีจุดประสงค์เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงขบวนการทำงานของยาในแต่ละช่วงเวลาของวัน เพื่อหาช่วงเวลาที่เหมาะสมในการให้ยา ออกแบบยาให้มีช่วงเวลาทำงานที่เหมาะสมกับโรค ทำให้เพิ่มประสิทธิภาพของยา และลดพิษที่อาจเกิดขึ้น ![]() Chronopharmacokinetic นาฬิกาชีวภาพมีผลต่อขบวนการ บริหารยาทั้งเภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetic) และ เภสัชพลศาสตร์ (Pharmacodynamic) เภสัชจลนศาสตร์ (Pharmacokinetics) ว่าด้วยการศึกษาช่วงเวลาของสารประกอบ และส่วนที่สะลายตัวของมันอยู่ในร่างกายหรือระบบของสิ่งมีชีวิต ความรู้ด้านนี้จะศึกษาการดูดซึม และการคงอยู่ของยาในร่างกาย (การกระจายตัวของยา เมแทบอลิซึม และการกำจัดออกจากร่างกาย) เนื่องจากตับซึ่งเป็นอวัยวะที่สำคัญต่อขบวนการนี้ก็มีนาฬิกาชีวภาพเป็นของตัวเอง และดูเหมือนว่าจะทำงานเป็นอิสระจากนาฬิกาของ Suprachiasmatic nucleus ด้วย พบว่าเอ็นไซม์ที่สำคัญต่อขบวนการบริหารยามีการทำงานแปรตามนาฬิกาชีวภาพ เช่น cytochrome P-450 4a3 (Cyp4a3), putative N-acetyltransferase camello 4 (Clm4), glutathione S-transferases (GST), Carboxylesterase ยังไม่ทราบกลไกแน่ชัด แต่อาจมาจากการทำงานของ Dbp ผลผลิตของ clock gene ที่มีส่วนต่อการสร้างเอ็นไซม์บางอย่างจากตับ ![]() Chronopharmacodynamic เภสัชพลศาสตร์ (Pharmacodynamics) คือ การศึกษาผลทางชีวเคมีและสรีรวิทยา ของยา กลไกการออกฤิทธฺ์ของยา และความสัมพันธ์ระหว่างความเข้มข้นและผลของยา เภสัชพลศาสตร์เป็นการศึกษาว่ายามีผลอะไรต่อร่างกายบ้าง Chronesthesy เป็นปรากฏการณ์ที่กลไกของนาฬิกาชีวภาพมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงกลไกทาง pharmacodynamics ของยาตามช่วงเวลา โดยไม่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติของตัวยา ยกตัวอย่างเช่น IFN-alpha และ IFN-beta มีฤทธิ์ต้านไวรัสและกระตุ้น lymphocyte ในหนูในช่วงกลางวัน มากกว่ากลางคืน Chronotoxicity เป็นปรากฏการณ์ที่กลไกของนาฬิกาชีวภาพมีผลต่อความไวต่อการเกิดพิษของยา ยกตัวอย่างเช่น ยาต้านมะเร็ง Irinotecan hydrochloride (CPT-11) พบความเสี่ยงว่าจะการเกิดพิษในหนู ในช่วงเช้ามืด มากกว่าช่วงเย็น ตัวอย่างนาฬิกาชีวภาพที่พบในชีวิตประจำวัน ที่พบได้บ่อยและเห็นได้ชัด คือ การนอน เราทราบกันแล้วว่าแสงเป็นสัญญาณที่กำหนดนาฬิกาชีวภาพ กรณีทีี่เราเดินทางข้ามเขตของเวลา เช่น เดินทางจากไทยไปสหรัฐอเมริกา อาจเกิดความผิดปรกติของการนอน เรียกว่า Jet Lag การผันแปรของ Clock gene ในแต่ละคนก็มีส่วนกำหนดพฤติกรรมการนอนของแต่ละคนเช่นกัน เช่น มนุษย์นกฮูกบางคนจะสดชื่นในช่วงกลางคืน (แบบจขกท.) ง่วงซึมในช่วงกลางวัน หรือชอบทำงานกลางวัน แต่หลับในช่วงกลางคืน ความแตกต่างของมนุษย์ 2 พวกนี้ยังไม่ทราบกลไกแน่ชัด แต่สันนิษฐานว่า Clock gene ทำงานต่างกัน ทำให้ Suprachiasmatic nucleus มีจังหวะการทำงานต่างกัน เมื่อนาฬิกาหลักในแต่ละคนไม่เหมือนกัน พฤติกรรมการนอนของแต่ละคนจึงต่างกันด้วย ![]() หาก Clock gene ทำงานผิดปรกติจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อทำให้ clock gene ในสัตว์ทดลองผิดปรกติ พบความผิดปรกติมากมาย ที่น่าสนใจคือเซลมะเร็งก็พบว่าเกิดความผิดปรกติของ Clock gene เช่นกัน การศึกษาด้านนี้อาจะนำมาคิดค้นยาต้าน หรือป้องกันมะเร็งได้ ![]() รูปข้างบนย่อได้แค่นั้น เอาเป็นว่าทำให้เกิดได้หลายโรคแล้วกันค่ะ มนุษย์รับรู้เวลาได้อย่างไร? ยังไม่ทราบว่าสมองส่วนที่ทำหน้าที่นี้อยู่ที่ไหนค่ะ แต่คาดว่าสมองส่วน Cerebral cortex, Cerebellum และ ฺBasal ganglia อาจจะเกี่ยวข้อง พบความผิดปรกติของการรับรู้เวลาในผู้ป่วย Parkinson's disease และ Attention deficit disorder นอกจากนี้ วัยก็มีส่วนต่อ Perception ของเวลาเหมือนกันค่ะ จากคลิปเป็นการทดสอบว่าคนอายุมากมีการรับรู้เวลาต่างจากหนุ่มสาว ทดสอบโดยการประมาณเวลา คนแก่จะประมาณเวลาว่าเวลาคลาดเคลื่อน โดยประมาณเวลานานกว่าคนอายุน้อย ในช่วงเสี่ยงต่อการตาย การรับรู้เวลาของเราจะช้ากว่าปรกติเหมือนกัน คลิปนี้จากสารคดีของ BBC เป็นการทดลองรับรู้เวลาขณะที่อาสาสมัครกระโดดลงมาบนตาข่าย (เสี่ยงอันตราย) อีกการทดลองในคลิปเป็นผลของยาเสพย์ติดต่อการรับรู้เวลาในหนูค่ะ ผู้ที่ใช้ยาเสพย์ติดก็มีการรับรู้เวลาที่ต่างกับคนปรกติ พวกที่ใช้ยาเสพย์ติดประเภทกระตุ้นประสาท (Stimulant) เช่น ยาบ้า โคเคน การรับรู้เวลาของพวกนี้จะเร็วกว่าปรกติ ตรงข้ามกับพวกกดประสาท (Depressant) เช่น กัญชา การรับรู้จะช้ากว่าปรกติ ที่มา [ภาพ #5-8-9] Ohdo S. Chronopharmacology focused on biological clock. Drug Metab Pharmacokinet. 2007 Feb 25;22(1):3-14 McClung CA. Circadian rhythms, the mesolimbic dopaminergic circuit, and drug addiction. ScientificWorldJournal. 2007 Nov 2;7:194-202. [ภาพ #6] Pace-Schott EF, Hobson JA. The neurobiology of sleep: genetics, cellular physiology and subcortical networks. Nat Rev Neurosci. 2002 Aug;3(8):591-605 Vitaterna MH, Takahashi JS, Turek FW. Overview of circadian rhythms. Alcohol Res Health. 2001;25(2):85-93 [ภาพ #2 และ 14] Perreau-Lenz S, Zghoul T, Spanagel R. Clock genes running amok. Clock genes and their role in drug addiction and depression. EMBO Rep. 2007 Jul;8 Spec No:S20-3 [ภาพ #7] Gooley JJ, Schomer A, Saper CB. The dorsomedial hypothalamic nucleus is critical for the expression of food-entrainable circadian rhythms. Nat Neurosci. 2006 Mar;9(3):398-407. Epub 2006 Feb 19 [ภาพ #13] //www.aaas.org/news/releases/2009/0423sp_night_owl.shtml ข้อมูลของคลิปจากการทดลองนี้มาจาก //www.newscientist.com/article/mg15220571.700-why-time-flies-in-old-age.html //4mind4life.com/blog/2008/07/23/time-perception-how-the-brain-controls-time/ //www.newscientist.com/article/mg18925371.700-teach-your-brain-to-stretch-time.html //en.wikipedia.org/wiki/Sense_of_time |
บทความทั้งหมด
|