|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 |
6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 |
13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 |
20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 |
27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
พรหมวิหาร๔
เป็นเวลาหลายเดือนแล้วที่ฉันไม่ได้อัพเดทเรื่องหนี้ของคนๆนั้นวันนี้ฉันพูดอย่างไม่อาย ว่าฉันพังมันไปแล้ว มันจบแล้ว
บางทีนี่อาจเป็นบททดสอบของฉันจริงๆ หลายเดือนที่ฉันใช้เวลากับเรื่องนี้ และฉันพบว่า ไม่มีใครจริงจัง กับคนต้นเรื่องนอกจากตัวเงินที่ฉันลงไปส่วนหนึ่งกับลูกๆเขาแล้ว ทุกครั้งที่ฉันพบเขาฉันเก็บข้อมูล ฉันคิดหาทางออก สิ่งที่ฉันค้นพบ ถ้าเราแน่วแน่กับเป้าหมายในที่นี้คือ ความต้องการปลดหนี้และมีเงินเก็บ สิ่งแรกเลยคือการดึงใจออกจากความกังวลเกี่ยวกับหนี้และเงิน นี่คือ อุเบกขาที่ถูกต้องถ้าคุณมัวแต่กังวลกับหนี้ คุณจะวางอุเบกขากับเป้าหมาย สิ่งที่เป็นต่อมาคือ โอกาสผัดผ่อนการชำระหนี้หรือหนีหนี้มีสูงมากและกลายเป็นคนไม่น่าเชื่อถือ กลายเป็นคนไร้สัจจะ มันก้ำกึ่งการละเมิดศีลอทินนาและมุสา กลับมาที่เป้าหมาย เลิกกังวลกับหนี้ ฉันพบว่า ฉันมีวิธีการมากมายให้คนต้นเรื่องแต่เขาไม่ทำอะไรเลย ฉันจึงไม่รู้ว่าเขาคิดอะไร ฉันกลายเป็นคนมากแผนการแต่เป็นคนเพ้อฝันในสายตาเขา...ในขณะที่เขา สิ่งที่เขาเป็นมาตลอด คนที่ไม่มีศีลข้อที่5ในทุกๆวันฉันไปเจอเขาทีไร คือคนที่กำลังเมาได้ที่แล้ว นี่คือสิ่งที่สะสมในใจฉัน สำหรับลูกๆของเขา คุยกันมากมาย สิ่งที่ขาดหายไปคือ วิสัยทัศน์ของการมองภาพรวมปัญหาอาจเป็นเพราะ พวกเขาเคยชินกับมัน... สิ่งที่ฉันได้ทำ คือฉันรวมเงินกับลูกๆเขา ปลดหนี้นอกระบบเพื่อหยุดดอกเบี้ยที่ต้องเสียเปล่า เงินต้นแค่สองหมื่นห้า แต่ดอกเบี้ยหมื่น (ผ่านมาสี่เดือนเขาก็ยังไม่จ่ายเงินเจ้าหนี้คนไหน ทั้งที่ควรจะทำได้) นอกจากนี้ฉันยังให้ยืมเงินส่วนหนึ่งเป็นเงินหมุนชั่วคราว ไม่ให้เขาไปกู้นอกระบบอีก วันที่เกิดเรื่อง ฉันกับลูกๆเขา ตั้งใจจะคุยกับเขาเรื่องผ่อนหนี้กับเจ้าหนี้แต่วันนั้นมีหลายสิ่งไม่เป็นใจ คนในบ้านพลุกพล่าน คนโน้นคนนี้แวะกันมาพอนั่งคุยกัน เขาเมาแล้ว หลายครั้งแล้วที่คุยแบบนี้ ไม่มีประโยชน์และเป็นอีกครั้งที่ฉันติงเรื่องการดื่มของเขา เขาไม่พอใจ ฉันก็เช่นกันสิ่งที่เคยคุยไป เขาบอกว่ามันเพ้อเจ้อ สิ่งที่ฉันช่วยไป เขาว่ามันไม่มีความหมายมันจบลงโดยที่เขาบอกว่า ต่อไปนี้ไม่ต้องยุ่งเรื่องเขา คนไม่เดือดร้อนอยู่เฉยๆ ก็น่าตลกนะ คนที่มีรายได้ประมาณเจ็ดหมื่นต่อเดือน กลับต้องให้คนที่มีรายได้ไม่ถึงสี่พันต่อเดือนช่วยเหลือแถมถูกเรียกว่าคนไม่เดือดร้อนซะนี่ คนไม่เดือดร้อนคนนี้ เลยกลับมาขุ่นใจอยู่หลายวัน ต้องใช้ธรรมะมาดับทุกข์ในใจและค้นพบว่า ธรรมะที่เข้ากับฉันในตอนนี้ หมายถึงฉันยังต้องศึกษาเพิ่มเติม คือพรหมวิหาร4 ฉันจะมีเมตตา คือรักตนเอง รักเกียรติ รักวงศ์ตระกูลของตนเอง ฉันจะกรุณา สงสารตัวเอง ถ้าจะต้องช่วยเหลือใคร ฉันจะประเมินให้ถี่ถ้วนกว่านี้ ฉันจะมีมุทิตาจิต ยินดีในความสามารถของตนเอง พึ่งพาตนเองในทุกมิติให้ได้ยอมรับและพอใจในสิ่งที่มีที่เป็น ฉันจะพัฒนาอุเบกขา พึงวางเฉยในสิ่งที่ถูกต้อง มีลาภ-เสื่อมลาภ / มียศ-เสื่อมยศ /มีสุข-มีทุกข์ / มีสรรเสริญ-มีนินทา สิ่งที่ฉันรู้สึกกับคนต้นเรื่อง ณ ตอนนี้ คือความขุ่นในใจ ทุกครั้งที่ฉันรู้สึกตัวฉันจะบอกตนเอง ให้นึกถึงตัวเอง รักและเมตตาตัวเองให้มากๆ จนกว่าที่ฉันจะวางเฉยได้มันน่ากลัวมากกับ มโนกรรมที่ผุดขึ้นมาวันละหลายสิบรอบ จนกว่าจะดับมันได้ฉันจำเป็นต้องห่างจากเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้.....
...ผ่านวันเกิดเหตุสองวัน ฉันก็ได้ฟัง รักตัวเอง ของ Room39 ช่างเหมาะเจาะอะไรเช่นนี้...
Create Date : 21 สิงหาคม 2560 |
|
1 comments |
Last Update : 21 สิงหาคม 2560 11:08:21 น. |
Counter : 492 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|