Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
Christmas และความเป็นมาของซานตาคลอส







.....Christmas และ ซานตาคลอส.....

Image hosted by Photobucket.com

Image hosted by Photobucket.com

Jingle bell Jingle bell
ได้ยินเพลงนี้ทีไรก็หมายถึงว่าวันคริสตมาสเวียนมาถึงอีกครั้ง
วันคริสตมาสเป็นอีกหนึ่งเทศกาลสำคัญของชาวตะวันตก
และเป็นวันที่เด็กๆหลายคนรอคอยเพื่อที่จะได้รับของขวัญ
จากซานตาครอสซึ่งถ้าพูดถึงซานตาครอสแล้วหลายๆคนคงนึกถึง
ภาพผู้ชายตัวอ้วนๆ มีเคราสีขาว ใบหน้าสีแดงกร่ำเหมือนผลเชอรี่ จมูกแดง
พร้อมกับนัยน์ตาที่สดใสเป็นประกายร่าเริงใส่ชุดสีแดงเย็บชายเสื้อด้วยขนสัตว์สีขาว
และสวมหมวกสีแดงท่าทางใจดี สะพายถุงย่ามที่เต็มไปด้วยของขวัญ
เดินทางด้วยเลื่อนที่ลากด้วยกวางและแอบเอาของขวัญมาให้เด็กๆ ทางปล่องไฟ
เพื่อนๆ หลายคนคนคงอยากรู้เรื่องราวเกี่ยวกับประวัติวันคริสตมาส
และซันตาครอสว่ามีเรื่องราวเป็นมาอย่างไร เพื่อคลายความสงสัยให้เพื่อนๆ
วันนี้ก็เลยนำเอาเรื่องราวน่ารู้ของวันคริสตมาสกับซานตาครอสมาฝากกันครับ

Image hosted by Photobucket.com
วันคริสตมาส นั้นเป็นวันที่ชาวคริสเตียนฉลองเนื่องในวันประสูติ ของพระเยซูคริสต์
ซึ่งเป็นช่วงเวลาแห่งงานรื่นเริงและเฉลิมฉลอง เป็นการมอบความรักให้แก่กันและกัน
แถมยัง เป็นวันแห่งครอบครัวในงานรื่นเริง
นี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการฉลองวันคริสตมาส
เรื่องราวที่เกี่ยวกับวันคริสตมาส นั้นได้มีการกล่าวไว้ในคัมภีร์ไบเบิล
โดยคำสอนของนักบุญลุกซ์ และนักบุญแมททิว
ในขณะที่เกิดพายุขึ้นมาโจเซฟ และแมรี่ ได้พยายามหาที่กำบังพายุ
จนกระทั่งมาถึงเมืองเบตธิวแฮมได้พบกับเจ้าของโรงแรม ในเมืองนั้นแต่ไม่มี ห้องว่างเลย
เขาจึงได้ให้ทั้งสองนั้น ไปพักอยู่ที่คอกสัตว์ และหลังจากนั้นพระเยซูก็ได้ประสูติ
พร้อมกับได้มีดวงดาว ปรากฏขึ้นอยู่เหนือคอกสัตว์ที่ทั้งสองนั้นได้พักอยู่
ดวงดาวนี้เองที่เป็นแสงนำให้ผู้คนมายังพระเยซูน้อย
หลังจาก 12 วันหลังจากได้ประสูติแล้ว
ได้มีพระราชา 3 องค์ประทานของขวัญแก่ทารกนั้น


ครั้งแรกที่วันคริสตมาสได้มีการกล่าวถึงโดยมีการกล่าวไว้ว่า
วันที่ 25 ของเดือนธันวาคม นั้นเป็นวันประสูติของท่านเกิดในระหว่างคริสต์ศักราชที่ 336
ในปฏิทินของโรมันตอนต้น ซึ่งการฉลองในงานวันคริสตมาสนั้นเชื่อกันว่าในช่วงเวลานั้น
ได้มีการริเริ่มมาจากบุคคล ที่ไม่ใช่คริสเตียน
ในตอนสิ้นปีและในยุคของชาวโรมันโบราณนั้น
จะมีพิธีฉลองต่อดาวพระเสาร์เพื่อเป็นเกียรติ์ เนื่องจากท่านเป็นพระเจ้าแห่งการเก็บเกี่ยว
และมิทาร์นั้นเป็นพระเจ้าแห่งแสงสว่าง ผู้คนที่อยู่ทางตอนเหนือของประเทศยุโรปนั้น
จะมีการฉลองในกลางเดือนธันวาคมซึ่งเป็นการฉลองสิ้นสุดของฤดูการเก็บเกี่ยว
ส่วนหนึ่งของงาน พิธีนี้คือการเตรียมอาหารแบบพิเศษตกแต่งบ้าน มีการร่วมร้องเพลง
และการให้ของขวัญต่อกัน ซึ่งต่อมาประเพณีนี้ได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่ง
ของการเฉลิมฉลองในวันคริสตมาส


ซานตาคลอส ที่เกี่ยวข้องกับคริสตมาสนั้น เริ่มต้นในราว ค.ศ.280
ในดินแดนที่เป็นประเทศ ตุรกีในปัจจุบัน
ซึ่งเมื่อมีเด็กชายคนหนึ่งถือกำเนิดมาในครอบครัวหนึ่ง
และได้นามว่า "นิโคลัส" ซึ่งแปลว่า "ชัยชนะ"
เมื่อ นิโคลัส (Nicholas) อายุได้ 9 ปี บิดามารดาของเขาก็เสียชีวิต
จากนั้นเขาจึง ทุ่มเทความรักให้แก่คนยากจนโดยแอบเอาอาหารเสื้อผ้า
และเงินทองไปให้อย่างลับ ๆ ในเวลากลางคืน!
ในวัยหนุ่มนิโคลัสเดินทางไปอิสราเอลที่ถือกันว่าเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์
และในระหว่างเดินทางเรือได้เผชิญกับพายุหนักตลอด 2 วัน 2 คืน
นิโคลัสจึงอธิษฐานขอพระเจ้าทรงช่วยเหลือและคุ้มครอง
จนกระทั่งใน วันที่สามเรือก็มาถึงฝั่งเมืองไมราที่อยู่ทางทิศตะวันตกของตุรกี


นิโคลัสจึงมองหาคริสตจักรเพื่อที่เขาจะไปขอบคุณพระเจ้า
พอดีคริสตจักรในเมืองนั้น กำลังคัดเลือกบิชอปคนใหม่
เมื่อนิโคลัสเข้าไปในคริสตจักรแห่งนั้น
ก็ได้รับการเลือกให้ดำรงตำแหน่งดังกล่าวในที่สุด
(ตามตำนานเล่าว่าในท่ามกลางคณะผู้เลือกตั้งมีคนหนึ่งได้รับนิมิตจากพระเจ้า
ในคืนก่อนการเลือกตั้งว่าในวันรุ่งขึ้นมื่อมีบุคคลภายนอกคนหนึ่งก้าวเข้ามาในคริสตจักร
ขณะที่มีการเลือกตั้งก็ให้แต่งตั้งคนนั้นเป็นบิชอปหรือผู้ปกครอง ดูแลคริสตจักรในทันที)
นิโคลัสได้กลายเป็นที่เคารพรักของชาวเมืองนั้น ในฐานะผู้นำฝ่ายวิญญาณที่มีความรัก
ความเมตตาและจิตใจที่กว้างขวางยาวนานถึง 50 ปี
และเสียชีวิตในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ.343 (บางตำราว่า ราว ค.ศ. 350)

มีตำนานอีกหลายเรื่องเกี่ยวกับนิโคลัส เช่น ท่านช่วยลูกสาว 3 คน
ในครอบครัวยากจน ครอบครัวหนึ่ง
ให้พ้นจากการเป็นโสเภณีหรือการที่ท่านโยนถุงทองคำเข้าไปทางหน้าต่างบ้านหลังหนึ่ง
เพื่อช่วยให้ลูกสาวแต่ละคนในครอบครัวนั้นได้มีโอกาสเข้าสู่การแต่งงานที่มีเกียรติ
การกระทำเช่นนี้เป็นการปูพื้นฐานสำหรับประเพณีการให้ของขวัญในสมัยต่อ ๆ มา
จากนั้นราวๆ 200 ปี ต่อมาคริสตจักรแห่งนี้ก็เปลี่ยนชื่อเป็นคริสตจักรเซนต์นิโคลัส


ประมาณต้นศตวรรษที่ 12 ได้มีการนำของขวัญไปมอบให้คนจน
ในนามของ "เซนต์ นิโคลัส" ในวันก่อนวันเซนต์ นิโคลัส (5 ธ.ค.)
โดยนำของขวัญบางอย่างใส่ไว้ในถุงเท้ายาว เช่น พวกผลไม้และขนม
ต่อมาประเพณีนี้ได้แพร่หลายไปยังส่วนต่าง ๆ ทั่วยุโรป
และเป็นที่ยอมรับของคนทุกชนชั้น
บิดามารดาของเด็กที่ต้องการ สอนบทเรียนแก่เด็กที่ดื้อดึง
ก็จะใส่ไม้เรียวเสียบไว้ในถุงเท้าแทนของขวัญ !
ในไม่ช้าคริสเตียนนิกายโปรเตสแตนท์ ในเยอรมันทางเหนือก็ได้นำ
ประเพณีการมอบของขวัญ เช่นนี้ มาใช้ในวันคริสตมาส
แทน "วันเซนต์ นิโคลัส" (6 ธ.ค.)


คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส เป็นผู้นำเรื่องนิโคลัสเข้าสู่เวสท์ อินดีส์
โดยมีนักสำรวจชาวดัตช์ ชื่อเฮนรี่ ฮัดสัน เป็นผู้นำเรื่องเซนต์ นิโคลัส
เข้าสู่อเมริกาเหนือที่เมืองนิวอัมสเตอร์ดัม โดยมีชาวดัตช์อพยพมา ด้วยจำนวนหนึ่ง
ต่อมานิวอัมสเตอร์ดัมได้ตกเป็นของอังกฤษในปี 1664 และเปลี่ยนชื่อมาเป็น "นิวยอร์ค"

แม้ว่าคนส่วนใหญ่ที่ตั้งรกรากอยู่ที่นั่นจะเป็นชาวอังกฤษ
แต่พวกเขาก็ยอมให้ชาวดัตช์เหล่านั้น
รักษาประเพณีการฉลองวันเซนต์ นิโคลัส ที่มีการเตรียมตัวต้อนรับเซนต์นิโคลัส
หรือ ซันเตอร์ คลาส (Sante Klaas หรือ Sankt Klaus)
ตามที่เด็กชาวดัตช์เรียกกัน ( ต่อมาชื่อของนิโคลัสก็ถูกเรียกขานกันหลากหลายออกไป
เช่น Sant Nikolaas, Santa Clause อย่างเช่นในอังกฤษ นิโคลัส
เป็นที่รู้จักในนามของ Father Christmas ส่วนในรัสเซียรู้จักกัน
ในนาม Grandfather Frost
ในฝรั่งเศส เรียกกันว่า 'Pe're Noel' ในเยอรมันเรียกขานว่า 'Kristkinder'
หรือ 'Kriss Kringle' และในอเมริกา เรียกว่า 'Saint Nick' )


คนที่ทำให้ ซานตาครอส (ซึ่งไม่เกี่ยวกับคริสตมาสดั้งเดิมเลย)
เป็นที่นิยมในสหรัฐอเมริกา คือ ศาสนาจารย์ชาวนิวยอร์คชื่อ Dr. Clement C. Moore
เมื่อเขาเขียนนิทานสนุกๆ เรื่อง "A Visit from St. Nicholas" ในปี 1822
เพื่อลูกๆของเขา 1 ส่วนภาพของ ซานตาคลอส ที่เป็นชายแก่ที่คุ้นหน้า
ผู้มีใบหน้าสีแดงกร่ำเหมือนผลเชอรี่ จมูกแดง หนวดเคราสีขาว
นัยน์ตาสดใสเป็นประกายร่าเริง ใส่ชุดแดงที่เย็บชายเสื้อด้วยขนสัตว์สีขาว
และสวมหมวกสีแดงท่าทางใจดี สะพายถุงย่ามที่เต็มด้วยของขวัญ
เดินทางด้วยเลื่อนที่ลากด้วยกวาง และแอบเอาของขวัญมาให้ทางปล่องไฟ
โดยใส่ไว้ในถุงเท้ายาว
เป็นจินตนาการของนักวาดการ์ตูนชาวอเมริกัน ชื่อโธมัส แนส
ที่ตีพิมพ์เผยแพร่ในปี ค.ศ. 1866 เป็นครั้งแรก จนเป็นที่ยอมรับและนิยมไปทั่วโลก
และกลายเป็นสัญลักษณ์ทางธุรกิจการค้าและความบันเทิง
จนกลบบดบังรัศมีของซานตาคลอสตัวจริงอย่างนิโคลัสไปจนหมดสิ้น !
แต่ถ้าจะกล่าวโดยสรุปแล้ว ซานตาคลอส ตัวจริงคือสานุศิษย์ผู้มีศรัทธาในพระเยซูคริสต์
ซึ่งมีนามว่าเซนต์ นิโคลัส ที่มีตัวตนจริงในประวัติศาสตร์
เป็นผู้ที่ให้ความช่วยเหลือแก่คนจนคนขัดสน
ตามแบบอย่างของพระคริสต์แห่งวันคริสตมาส

















Create Date : 12 ธันวาคม 2548
Last Update : 19 ธันวาคม 2548 12:42:44 น. 8 comments
Counter : 1635 Pageviews.

 
ตี๋น้อยที่น่ารัก พอดีเราเป็นพุทธ ไม่ค่อยรู้เรื่องซานตาครอสเท่าไหร่ แต่พออานเรื่องของตี๋น้อย เรารู้เรื่องขึ้นเลย เพราะเขียนง่าย ๆ อ่านสบาย พุทธหรือคริสต์ก็สอนให้คนเป็นคนดีเหมือนกันนะคะ


โดย: ซออู้ วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:17:03:55 น.  

 
มาอ่านด้วยค่า

ค้างคาวเป็นคาทอลิคนะ

แต่ก็ชอบอ่านด้วย


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:22:06:15 น.  

 
ขอบคุณค่า สำหรับประวัติของลุงซานต้า

แล้วจะลองใช้ไนท์ครีมทาปากก่อนนอนดูมั่งค่ะ


โดย: ยัยบี๋ วันที่: 17 ธันวาคม 2548 เวลา:22:51:09 น.  

 
Happy Holidays



โดย: Angel Tanya วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:2:03:26 น.  

 
เคยฟังสมัยเด็ก ๆ


โดย: ไอดินและกลิ่นฝน วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:2:19:59 น.  

 
แล้วเรื่องsantaกะโคคาโคล่าละครับ


โดย: แป๊กก วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:9:00:25 น.  

 
ว่างๆ ก็มา สนทนาพาเวทีกันได้นะเคอะ

อิอิ แอบเลียนแบบ อะ

น้องตี๋น้อยคงไปเที่ยวตอนคริสตร์มาสสินะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 18 ธันวาคม 2548 เวลา:9:12:01 น.  

 
ขอบคุณที่ทำให้หนูรู้มากขึ้น


โดย: แป้งหอม IP: 124.120.204.132 วันที่: 18 ธันวาคม 2550 เวลา:16:41:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Zantha
Location :
ภูเก็ต Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]






ตี๋น้อย...
น่ารักที่สุดแร๊ววว....

รักตี๋น้อย..น้อยๆ..
แต่รักให้นานๆน่ะครับ


ส่งข้อความถึงตี๋น้อยได้ที่นี่












Google



all webpantip



Mesothelioma Attorney

widget

Friends' blogs
[Add Zantha's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.