โบรกแนะเก็งกำไร 6 หุ้นร้อน ดัชนีผันผวนในกรอบ ยังต้องจับตาปัญหาหนี้ยุโรป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ณ เวลา 9.50 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 30.84 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวอยู่ในแดนลบ หลัง S&P ประกาศจับตาอันดับความน่าเชื่อถือในเชิงลบต่อเยอรมนี, ฝรั่งเศสและประเทศยูโรโซนอื่นๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดเครดิตความน่าเชื่อถือตามมา นักวิเคราะห์คาดหุ้นไทยวันนี้ผันผวนในกรอบ เก็งกำไร 6 หุ้นเด่น ได้แก่ SAT, TISCO, SIRI, KBANK, PTT,ADVANC



บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้: ผันผวนในกรอบ 1020-1037

ภาพ Sentiment ในวันนี้ยังอิงทางบวกจากความคืบหน้าการแก้ไขวิกฤติยูโรโซน ซึ่งได้แก่การที่ผู้นำฝรั่งเศสและเยอรมนีได้ตกลงกันเกี่ยวกับแผนแม่บทในการกำหนดวินัยด้านงบประมาณทั่วยูโรโซน และธนาคารกลาง 6 แห่งได้ร่วมมือเสริมสภาพคล่อง โดยปรับลดต้นทุนวงเงินสว็อปดอลลาร์ลง 0.50% ตั้งแต่ 5 ธ.ค.ที่ผ่านมา อย่างไรก็ตามยังคงต้องจับตาข่าวต่างๆ ได้แก่ สถานการณ์ตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างอิหร่านกับชาติตะวันตกซึ่งอาจส่งผลต่อราคาน้ำมัน รวมถึงการที่ S&P ประกาศจับตาอันดับความน่าเชื่อถือในเชิงลบต่อเยอรมนี, ฝรั่งเศสและประเทศยูโรโซนอื่นๆ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดเครดิตความน่าเชื่อถือตามมา

กลยุทธ์การลงทุน: แนะนำให้นักลงทุน “ถือ” หุ้นต่อในพอร์ตได้ ขณะคอยติดตามความคืบหน้าข่าวต่างๆ โดยเฉพาะจากแถบยูโรโซน ทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนได้แก่การเข้าซื้อของนักลงทุนต่างชาติในหุ้นไทย แนวต้าน : 1037-1044 แนวรับ : 1020-1015

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 50-75% : เงินสด 50-25%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, TISCO, SIRI, KBANK, PTT

หุ้นที่ปรับเข้า : ADVANC เก็งกำไร FV 155 บาท รับข่าวกสทช.อนุญาตทดสอบ 4G (LTE) ร่วมกับTOT

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ สถานการณ์ของตลาดหุ้นทั่วโลกโดยรวมยังคงดำเนินไปในทิศทางทางที่เป็นบวกทั้งที่มาจากความคาดหวังเชิงบวกต่อผลการประชุมสุดยอดผู้นำที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 9 ธ.ค.54 นี้ และพัฒนาการของการแก้ปัญหาวิกฤติหนี้ในกลุ่มยูโรโซนที่มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเสนอแผนปรับลดค่าใช้จ่ายและกระตุ้นเศรษฐกิจของอิตาลีมูลค่า 30,000 ล้านยูโร แลกกับการขอรับความช่วยเหลือจากภายนอก การส่งสัญญาณจากทาง ECB ที่พร้อมเข้ามารับผิดชอบปัญหาหนี้ยุโรปมากขึ้น และท่าทีของสองผู้นำแห่งกลุ่มยูโร เยอรมันและฝรั่งเศสที่ส่งสัญญาณต้องการแก้ปัญหาอย่างจริงจังเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากนักลงทุนกลับมา ทั้งนี้แม้เยอรมันจะขัดขวางแนวทางการออกพันธบัตรร่วมของกลุ่มยูโร หรือการให้ ECB ปล่อยกู้อย่างไม่จำกัดซึ่งทั้ง 2 แนวทางข้างต้นอาจกระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของเยอรมันเอง แต่เยอรมันไม่ขัดข้องในการให้ธนาคารกลางของประเทศ (หรือ ECB) ปล่อยกู้แก่ IMF เพื่อปล่อยกู้ให้กับประเทศที่มีปัญหาเนื่องจากแนวทางนี้จะไม่กระทบต่ออันดับความน่าเชื่อถือของตนเอง

เรามองประเด็นยุโรปจะยังมีอิทธิพลเหนือปัจจัยการลงทุนในประเทศในระยะ 2 สัปดาห์นี้ แม้เรามีมุมมองเชิงบวกต่อพัฒนาการเรื่องหนี้ยูโรโซน แต่ความผันผวนของตลาดจะปรับเพิ่มขึ้นจากการที่ SET ซื้อขายในระดับสูงกว่าเป้าหมายทางพื้นฐานของเรา และการที่ S&P อาจปรับลดเครดิตประเทศกลุ่มยูโรลง1-2 ระดับโดยขึ้นกับผลการประชุมวันที่ 9 ธ.ค.54 ทำให้ในเชิงกลยุทธ์เราเน้นการลดพอร์ตลงแม้เราค่อนข้างมีความคาดหวังที่เป็นบวกต่อผลการประชุมสุดยอดผู้นำในช่วงปลายสัปดาห์นี้ก็ตาม

กลยุทธ์การลงทุน: บรรยากาศในการเก็งกำไรเป็นบวกน้อยลงหลังตลาดรับรู้ข่าวดีไปมากการปรับขึ้นของดัชนีจากนี้จะเปิดโอกาสขายลดพอร์ตที่ดี นักลงทุนระยะสั้นเน้นขายทำกำไร และอาจพิจารณาถือบางส่วนไว้ลุ้นขายในสัปดาห์หน้าเพื่อเก็งการแก้ปัญหายุโรปออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด

คำแนะนำ ทยอยขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามาก หรือ Outperform กว่าตลาดรวม หากจะเก็งกำไรควรเน้นใน 1) หุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานจะฟื้นตัวกลับมาได้เร็วเช่น HEMRAJ, AMATA, SAT, LPN, AP, SPALI 2) หุ้นที่คาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 1/55 จะออกมาดี ซื้อ CK, CPF, CPN, GLOW และเก็งกำไร MINT, CENTEL 3) หุ้นที laggard ตลาด อาทิ CSL, TVO, TCAP, BMCL, BANPU 4) คาดเข้า SET50 เลือก TPC ที่ยัง laggard

สำหรับนักลงทุนระยะกลางที่ลดพอร์ตทำกำไรไปแล้ว ให้ Wait and See และรอสัญญาณกลับเข้าไปซื้อใหม่ ซึ่งเราคาดว่าช่วงม.ค.-ก.พ.55 ตลาดจะมีการปรับตัวลงส่วนนักลงทุนที่มีต้นทุนสูงและยังไม่ได้ลดพอร์ต อาจใช้จังหวะการปรับขึ้นรอบนี้ในการลดการถือครองหุ้น โดยเฉพาะที่มีกำไรอยู่

KGI ประเมินตลาดหุ้นไทยวันอังคารเปิดอ่อนตัว แต่ในที่สุดจะมีแรงซื้อกลับ ภาพรวมไซด์เวย์

โดยจิตวิทยาเชิงลบที่น่าจะกดดันตลาดหุ้นวันนี้ได้แก่การประกาศของ S&P ที่ให้เครดิตพินิจเชิงลบ (หมายความว่ามีโอกาสสูงกว่า 50% ที่จะลดความน่าเชื่อถือภายใน 3 เดือน) กับ 15 ประเทศในกลุ่มยุโรปรวมทั้งเยอรมันและฝรั่งเศสด้วย โดยการตัดสินใจจะมีขึ้นหลังจากการประชุม EU Summit ในวันที่ 8-9 ธ.ค. นี้ อย่างไรก็ดีเรามองว่าหุ้นจะลงไม่แรงนักเพราะว่า i) ตลาดมีความหวังเชิงบวกต่อ EU Summit หลังจากเยอรมันและฝรั่งเศสสามัคคีกันในการเตรียมออกมาตรการรัดเข็มขัดการคลังที่เข้มงวดกว่าเดิม ii) สถานการณ์ในอิตาลีดีขึ้นหลังนายกฯ มอนติประกาศแผนลดใช้จ่าย 3 หมื่นล้านยูโร และผลตอบแทนพันธบัตร 10 ปีของอิตาลีลดลงเหลือ 6.5% เมื่อวานนี้ นอกจากนี้สถานการณ์เศรษฐกิจในสหรัฐฯ จะค้ำยันให้ตลาดน้ำมันยังยืนได้ โดยเมื่อศุกร์ที่แล้วสหรัฐฯ รายงานการจ้างงานเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 1.2 แสนตำแหน่งซึ่งใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดการณ์ และการว่างงานลดลงสู่ 8.6% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดรอบ 2 ปีครึ่งและเมื่อวานนี้แม้ดัชนี ISM ภาคบริการจะต่ำกว่าที่ตลาดคาด แต่ตัวเลขที่อยู่ที่ 52.0 ถือว่าไม่แย่และยังชี้ถึงการขยายตัวของภาคบริการสหรัฐฯปัจจัยในประเทศ ไม่มีประเด็นสำคัญด้านเศรษฐกิจและการเมือง แต่ในแง่การวิเคราะห์ผู้เล่น พบว่าพอร์ตบล. ซื้อสุทธิสะสม 2 วันล่าสุดประมาณ 4 พันล้านบาท และจะเป็นความเสี่ยงในระยะสั้นๆ ต่อการปรับฐานของ SET อย่างไรก็ดีเรายังเชื่อว่านักลงทุนสถาบันจะเข้าซื้อหุ้นในช่วงที่เหลือของเดือน ธ.ค. นี้ ตามเม็ดเงิน LTF-RMF โดย 2 วันที่ผ่านมาสถาบันซื้อสุทธิไป 2.3 พันล้านบาท แต่สถิติในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาระบุว่าสถาบันซื้อสุทธิเฉลี่ย 1.3 หมื่นล้านบาทในเดือน ธ.ค.

กลยุทธ์: พอร์ตมีหุ้นให้ถือต่อลุ้นถึงปลายปี พอร์ตว่างให้รอซื้อหุ้นหลักช่วงอ่อนตัว โดยแนวรับหลักในวันนี้อยู่ที่ 1,020 จุด อย่างไรก็ตามหาก SET ยืนทรงๆ ไม่ควรซื้อเนื่องจากคาดว่าหุ้นยุโรปบ่ายวันนี้จะถูกกดดันจากข่าว S&P ซึ่งออกมาหลังจากที่ตลาดยุโรปปิดทำการไปแล้ว

Create Date : 06 ธันวาคม 2554		0 comments
Last Update : 6 ธันวาคม 2554 10:04:06 น.
Counter : 386 Pageviews.
Share Tweet