ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเช้านี้ ณ เวลา 9.50 น. ค่าเงินบาททรงตัวที่ระดับ 30.96 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียมีทั้งปรับตัวอยู่แดนบวกและลบ นักวิเคราะห์คาดดัชนีหุ้นไทยยังคงผันผวนทางลง หลังนักลงทุนกลับมากังวลปัญหาธนาคารสเปน ลดพอร์ตระยะสั้นเหลือ 25% เน้นหุ้นผลการดำเนินงาน Q1 สดใส แม้ปรับตัวลง แต่มีโอกาสดีดตัวขึ้นรับข่าวดี ได้แก่ ได้แก่ DTAC, INTUCH, SAT, AH, STANLY,STEC, CK , ITD, EMC , KH, BBL, TOP,IVL

บล.ฟิลลิประบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาดวันนี้ : ผันผวนอิงขาลงต่อ กลยุทธ์การลงทุน : ลดพอร์ตระยะสั้นเหลือ 25%

ตลาดหุ้นไทยเหลือวันทำการเพียง 2 วันก่อนวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ ทำให้คาดวอลุ่มจะเบาบางลงอีกในวันนี้ อย่างไรก็ตามคาดความผันผวนอิงทางขาลงยังมีอยู่ต่อแม้ในช่วง 3 วันทำการที่ผ่านมาปรับตัวลงไปแล้ว 46 จุดหรือ 3.8% ทั้งนี้เนื่องจากทิศทางตลาดหุ้นต่าง ประเทศที่อ่อนตัว ดัชนีดาวโจนส์ปรับลงแรงเมื่อคืน โดยลดลงเป็นวันที่ 5 ขณะดัชนี VIX พุ่งขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันอีก 8.4% สู่ 20.39 นอกจากนี้การที่เกาหลีเหนือจะยิงจรวดพิสัยไกลก็เป็นปัจจัยถ่วงอีกประการ

กลยุทธ์การลงทุน : ปรับพอร์ตลงทุนระยะสั้นในหุ้นเป็น 25% แนวต้าน: 1173, 1179 แนวรับ : 1158, 1144

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 25% : เงินสด 75%

ถือต่อในพอร์ต : SAT, CPF, KH

หุ้นที่ปรับออก : AS, TUF

บล.ฟินันเซีย ไซรัสระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ยังเลือกหุ้นทยอยเข้ารับได้ แต่เน้นหุ้นที่ปรับลงแรง และจำกัดพอร์ตไว้บ้าง...

กลยุทธ์: แม้ว่า FSS จะยังให้น้ำหนักเชิงบวกกับสภาพคล่องในตลาด และแรงซื้อของนักลงทุนต่างประเทศที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็มองว่าช่วงนี้ SET จะอยู่ในจังหวะแกว่งตัวผันผวนสูง และเน้นทางด้านลบได้ ดังนั้นเราจึงแนะนำให้เลือกหุ้นเข้ารับโดยเน้นหุ้นที่ปรับพักตัวลงแรงตามตลาดก่อน ซึ่งหุ้นที่แนะนำยังเน้นหุ้นกลุ่มสื่อสาร(DTAC, INTUCH) กลุ่มอาหาร กลุ่มบันเทิง กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์(SAT, AH, STANLY) กลุ่มค้าปลีก รวมทั้งหุ้นกลุ่มรับเหมา (STEC, CK , ITD) และหุ้นกลุ่มแบงก์ เพื่อลุ้นผลประกอบการ 1Q12  นอกจากนี้เรายังแนะนำซื้อ CPF ราคาเป้าหมาย 42 บาท

หุ้นเด่นทางเทคนิค   ITD, EMC , SGP (SBL)

แนวโน้ม เนื่องจากช่วงนี้ตลาดหุ้นไทยจะมีช่วงติดวันหยุดยาว ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจของหลายประเทศยังอ่อนแอกว่าที่ตลาดคาดหวัง ซึ่งล่าสุดแม้ว่าตัวเลขสต็อกสินค้าภาคค้าส่งของสหรัฐเดือน ก.พ. จะออกมาเพิ่มขึ้นเกินคาด แต่ก็ไม่สามารถกระตุ้นให้นักลงทุนกลับเข้าซื้อในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปได้ ขณะที่ดัชนีแสดงความผันผวนของตลาด (VIX Index) ก็ขยับพุ่งขึ้นถึง 8.4% โดยปรับตัวขึ้นเป็นวันที่ 8 ติดต่อกันแล้วด้วย ดังนั้นแม้ว่า FSS จะคาดหมายว่าสภาพคล่องในตลาด และ Fund Flow ยังมีโอกาสที่จะเข้ามาต่อเนื่อง แต่เนื่องจากความกังวลในตลาดมีสูงมากขึ้น ขณะที่ SET ขยับขึ้นมาแล้วพอควร ช่วงนี้จึงเน้นเป็นเพียงหาจังหวะเลือกหุ้นเข้าเทรดดิ้งตามรอบในลักษณะลงซื้อ-ขึ้นขาย และจำกัดพอร์ตอยู่ก่อน ซึ่งหลังจาก SET ปรับตัวลงมาแรงติดต่อกันหลายวัน ทำให้เราคาดว่า SET มีโอกาสดีดกลับขึ้นได้ในวันถัดๆ ไป แต่เนื่องจากความเสี่ยงของ SET เริ่มมีมากขึ้น เราจึงแนะนำเพียงการเข้าเทรดดิ้งเป็นรอบ

แนวรับ  1165-1163 , 1160-1156 , 1150 จุด    แนวต้าน  1170-1172 , 1176-1180  จุด

KGI คาดการณ์ว่าดัชนี SET วันพุธจะลงต่อ ส่วนจะมีเด้งหรือไม่ให้ตามตลาดยุโรปช่วงบ่ายตลาดหุ้นโลกยังคงอยู่ในช่วงปรับฐานหลังขึ้นแรง โดยนักลงทุนยังคงใช้ตัวเลขจ้างงานสหรัฐฯ ที่ออกมาแย่เป็นเหตุผลในการขายหุ้น ขณะที่สถานการณ์ในยุโรปที่กลับมาตึงตัวก็เพิ่มระดับของความกลัวเสี่ยงขึ้นไปอีกสะท้อนจากดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของสหรัฐฯ ที่ลงมาต่ำกว่า 2% อีกครั้ง ซึ่งหมายความว่ามีความต้องการสูงขึ้นต่อสินทรัพย์ปลอดภัย ทั้งนี้ผู้นำสเปนรวมทั้งผู้ว่าการธนาคารกลางสเปนออกมากล่าวว่ามีความเป็นไปได้ที่ธนาคารสเปนจะมีฐานทุนไม่เพียงพอ ข่าวดังกล่าวบวกกับภาพรวมตลาดโลกที่ไม่ดีหนุนให้ดอกเบี้ยพันธบัตร 10 ปีของสเปนเพิ่มขึ้น 0.23% ในคืนเดียวสู่ 5.69% (ทั้งนี้ในช่วงที่ตลาดยุโรปเกิดวิกฤตหนักๆ ในปลายปี 2554 นั้น ดอกเบี้ยพันธบัตรตัวดังกล่าวอยู่ที่สูงกว่า 6% เล็กน้อย) เราคิดว่านักลงทุนจะยังไม่กล้าสวนซื้อหุ้นก่อนหน้าวันหยุดยาว 13-16 เม.ย. นี้ เนื่องจากปัจจัยภายนอกมีความไม่แน่นอนสูง และแม้นักลงทุนต่างชาติมียอดซื้อสุทธิเมื่อวาน แต่ในช่วงนี้คงเป็นการตั้งรับซื้อที่ราคาต่ำและไม่ได้ช่วยหนุนตลาดหุ้นแต่อย่างใด

กลยุทธ์: ยังคงให้ชะลอการลงทุน ส่วนหุ้นใหญ่ที่ติดอยู่ 2-3 ตัวตามคำแนะนำก่อนหน้าเช่น BBL, TOP,IVL แนะให้ถือต่อไปก่อนเนื่องจากทุกหุ้นมีแนวโน้มกำไรไตรมาส 1/2555 ดีและน่าจะหนุนราคาหุ้นได้ดีช่วงตลาดหุ้นฟื้นตัว

Create Date : 11 เมษายน 2555
Last Update : 11 เมษายน 2555 10:03:55 น.		0 comments
Counter : 520 Pageviews.
Share Tweet