|
จับกระแสเศรษฐกิจและพลังงาน : นโยบายพลังงานต้องเดินหน้า
จับกระแสเศรษฐกิจและพลังงาน : นโยบายพลังงานต้องเดินหน้าหลังน้ำลด (2) โดย...ดร.โชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่นโยบายและเศรษฐกิจพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) Chodechai.energyfact@gmail.com สถานการณ์น้ำตอนนี้ก็เริ่มคลี่คลายไปมาก หลายคนคงได้กลับเข้าบ้านกันแล้วนะครับ เรามาไล่เรียงกันต่อถึงนโยบายพลังงานที่รัฐบาลต้องวางแผนเดินหน้าจากนี้ไปครับ
นอกจากการวางแผนทางท่อแล้ว การวางแผนการสร้างคลังสำรองน้ำมันและก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมตามภูมิภาคต่างๆ ก็ถือเป็นงานสำคัญที่ต้องเร่งกระทำควบคู่กัน เพราะในภาวะวิกฤติครั้งนี้ยังนับว่าเรายังโชคดีอยู่มากที่มีคลังสำรองน้ำมันและก๊าซบางส่วนกระจายอยู่ตามต่างจังหวัด ซึ่งเราก็ได้อาศัยคลังเหล่านั้นในการกระจายน้ำมันส่งผ่านกลับมายังพื้นที่ที่ประสบปัญหาที่ต้องรับน้ำมันและก๊าซจากส่วนกลาง การดำเนินการเช่นนี้แม้ว่าจะขลุกขลักอยู่บ้าง แต่ก็พอช่วยให้เรารอดพ้นวิกฤติคราวนี้ไปได้ อีกประการหนึ่งคือการสร้างคลังสำรองน้ำมันเพิ่มเติมในระยะต่อไปควรเป็นการดำเนินงานที่เป็นวาระของรัฐบาลเพื่อทำให้การสำรองน้ำมันโดยรัฐนี้เป็นการสำรองเชิงยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานอย่างแท้จริง เพราะในภาวะวิกฤติเราจำเป็นต้องมีเครื่องมือในการบริหารวิกฤติหลายๆ รูปแบบเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงาน ประการถัดมาที่ผมเห็นว่าควรเร่งกระทำคือการขยายเครือข่ายเชื่อมโยงระบบไฟฟ้า จริงอยู่ที่ครั้งนี้ประเทศเราไม่ได้ประสบกับภาวะไฟฟ้าดับอันเกิดจากการขาดแคลนกระแสไฟฟ้า มีเพียงไฟดับในบางพื้นที่ที่น้ำท่วมสูงและจะเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรไปมาจึงต้องทำการตัดไฟ ในด้านความเพียงพอของกำลังผลิตไฟฟ้าสำรองผมเชื่อได้เลยว่าในวันนี้ทางการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยสามารถบริหารวิกฤติคราวนี้ได้อย่างดีเยี่ยม และมีกำลังผลิตสำรองพร้อมจ่ายสูงถึงประมาณ 2,000 เมกะวัตต์ แต่ประเด็นสำคัญคือเรื่องของการจ่ายไฟ ซึ่งสถานีจ่ายไฟในบางพื้นที่ถูกน้ำท่วมและมีความยากลำบากในการแก้ไขให้กระแสไฟฟ้าสามารถส่งผ่านเข้าไปยังเขตชุมชนเมืองและเขตอุตสาหกรรมสำคัญที่มีความต้องการใช้ไฟฟ้าสูง ดังนั้น จึงจำเป็นต้องทบทวนถึงความมั่นคงและปลอดภัยของระบบการจ่ายไฟฟ้าควบคู่กับระบบผลิตไฟฟ้าของประเทศ ทั้งนี้ เพื่อเป็นหลักประกันถึงความมั่นคงด้านพลังงาน เพราะในยามวิกฤติเช่นนี้ก็ชี้ให้เราเห็นแล้วว่าแม้น้ำจะท่วมบ้านแต่หากน้ำประปายังไหลไฟฟ้ายังสว่างประชาชนก็ยังพออุ่นใจและสามารถคลายความวิตกกังวลที่จะอยู่สู้กับสถานการณ์น้ำท่วมที่บ้านหรือที่ศูนย์อพยพก็ตาม รวมทั้งไฟฟ้าถือเป็นยุทธปัจจัยที่ต้องจัดหาให้มีเพียงพอตลอดเวลาเพื่อการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการลำเลียงความช่วยเหลือและทำการสูบน้ำออกจากพื้นที่ ส่วนในด้านสุดท้ายที่ผมอยากเสนอว่าควรเร่งกระทำคือการสร้างการบูรณาการสำหรับโครงข่ายพลังงานของประเทศเพื่อรองรับภาวะฉุกเฉินโดยการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่แสดงภาพให้เราสามารถประเมินสถานการณ์ได้ทันที อาจจะเป็นภาพถ่ายดาวเทียมแสดงตำแหน่งที่ตั้งจุดวิกฤติต่างๆ เช่น คลังน้ำมัน สถานีให้บริการน้ำมันและก๊าซธรรมชาติ แนวท่อส่งน้ำมัน สายส่งไฟฟ้า และโรงไฟฟ้า ที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์เพื่อประสานงานและสั่งการได้อย่างทันท่วงทีในการเฝ้าระวังจุดวิกฤติเหล่านั้น นอกจากนี้ ควรจัดให้มีการซ้อมแผนการรองรับภาวะฉุกเฉินอย่างสม่ำเสมอเพื่อดูว่ากลไกต่างๆ ที่ได้วางไว้ยังอยู่ในสภาพใช้การได้ทันทีหรือไม่ ซึ่งการซ้อมแผนฉุกเฉินเหล่านี้ต่อไปจะไม่ใช่เป็นแต่เพียงวาระของกระทรวงพลังงานเท่านั้น แต่เป็นวาระแห่งชาติที่ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องให้ความร่วมมือและเอาใจใส่อย่างจริงจัง เพราะไม่แน่ว่าครั้งต่อไปเราจะมีโอกาสได้มานั่งทบทวนเช่นนี้อีกหรือไม่ ----------------------------------- (จับกระแสเศรษฐกิจและพลังงาน : นโยบายพลังงานต้องเดินหน้าหลังน้ำลด (2) โดย...ดร.โชติชัย สุวรรณาภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่นโยบายและเศรษฐกิจพลังงาน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) Chodechai.energyfact@gmail.com )
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2554 |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2554 2:07:16 น. |
|
0 comments
|
Counter : 451 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|