ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เช้านี้ ค่าเงินบาท ณ เวลา 9.49 น. แข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 31.44 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นแรงรับข่าวดีเลือกตั้งกรีซ นักวิเคราะคาดตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นสดใสตามตลาดต่างประเทศ มุ่งทดสอบระดับ 1,180 จุด กลับมาเล่นสั้นหุ้นโภคภัณฑ์ เก็งกำไร 18 หุ้นเด่น ได้แก่ SCB, BBL, AMATA, IVL, PTTGC, AP, SIRI, HEMRAJ, ROBINS, SPCG, TOG, TOP IRPC, DCC, RS, CPF, BEC, ADVANC

บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ คาดตลาดยังมีโอกาสแกว่งผันผวน ดังนั้นน่ารอซื้อในช่วงตลาดพักฐาน...

กลยุทธ์: ช่วงนี้ยังเน้นแค่เทรดดิ้งตามรอบก่อน ส่วนจังหวะเลือกหุ้นซื้อเพื่อถือลงทุนยังสามารถรอให้ SET ปรับพักตัวลงก่อนได้ แต่อาจเริ่มทยอยซื้อลงทุนอีกครั้งได้เร็วกว่าคาดเดิม โดยเริ่มดูแรงซื้อที่บริเวณ 1140 จุด (+/-) เพื่อรอลุ้น SET แกว่งขึ้นหาเป้าหมายของปี 2012 ที่ 1350 จุดตามที่คาดไว้เดิม โดยหุ้นที่น่าสนใจได้แก่ KBANK, TCAP, SIRI, SPALI, PS, INTUCH, CPF, CPALL, MINT, BH, STANLY, THAI, BTS และ DRT เป็นต้น

หุ้นเด่นทางเทคนิค   DCC, RS, STEC (SBL)

แนวโน้ม ผลการเลือกตั้งของกรีซเมื่อวานนี้ (17 มิ.ย.) ออกมาถือว่าไม่น่าผิดหวัง หลังพรรคฝ่ายที่สนับสนุนการรัดเข็มขัด สามารถที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้โดยมีเสียงเกินเกณฑ์ ทำให้ความวิตกเรื่องกรีซว่าจะต้องออกจากยูโรโซนลดลงอีกครั้ง คาดว่าจะส่งผลบวกต่อความมั่นใจในตลาดหุ้นได้ จึงทำให้ SET ยังมีโอกาสบวกต่อเนื่องจากปลายสัปดาห์ที่แล้ว อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงขายทำกำไรออกมากดดัน เพื่อรอดูผลของการประชุม G20 ใน 2 วันนี้ (18-19 มิ.ย.) และท่าทีของที่ประชุมเฟดในวันที่ 19-20 มิ.ย.นี้อีกครั้ง ว่ายังจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจออกมาหรือไม่ ซึ่งถือว่ามีความไม่แน่นอนและอาจทำให้ตลาดผิดหวังได้ ดังนั้น FSS จึงยังคาดว่า SET มีโอกาสที่จะแกว่งตัวผันผวนเพื่อรอดูความชัดเจนอีกครั้ง โดยมีโอกาสที่จะแกว่งปรับพักตัวลงได้ในช่วงถัดไป เราจึงยังแนะนำให้รอเลือกหุ้นเข้าซื้อเพื่อถือลงทุนในช่วงที่ตลาดปรับตัวลงครั้งหน้าจะปลอดภัยกว่าการซื้อไล่ราคา ช่วงนี้จึงยังเน้นเป็นเพียงรอบของการเทรดดิ้งต่อไปก่อน เพื่อรอจังหวะซื้อเมื่อตลาดปรับตัวลงอีกครั้ง และเนื่องจากสถานการณ์ในยุโรปเริ่มมีสัญญาณที่ดีขึ้น ดังนั้นเราอาจไม่จำเป็นต้องรอให้ SET ไหลลงไปถึง 1100 จุดตามที่คาดไว้เดิมได้ ซึ่งเบื้องต้นมองการปรับฐานของ SET ไว้ที่ 1140 จุด (+/-) ก่อน

แนวรับ  1160-1156 , 1150-1143 จุด    แนวต้าน  1170-1175 , 1180  จุด

บล.ฟิลลิป ระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ ภาพรวมวันนี้ดูสดใสได้ต่อเนื่อง หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการของกรีซว่าพรรคนิว เดโมเครซี ซึ่งสนับสนุนนโยบายรัดเข็มขัดคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวัน ที่ 17 มิ.ย. ที่ผ่านมา และน่าจะร่วมมือกับพรรค PASOK พรรคอันดับ 3 ซึ่งมีนโยบายสนับสนุนมาตรการฯ เช่นกัน ในการจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยตลาดหุ้นในภูมิภาคเช้านี้ พุ่งขึ้นรับข่าวกันในระดับ 1-2% ถ้วนหน้า คาด SETI ของไทยจะรับอานิสงส์ไปด้วย มุ่งสู่ 1180 จุด ขณะที่ในรอบสัปดาห์นี้จะมีการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระหว่างวันที่ 19-20 มิ.ย. ซึ่งนักลงทุนจะจับตาการส่งสัญญาณการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของเฟด ภายหลังมาตรการ Operation Twist กำลังจะสิ้นสุดลงในเดือน มิ.ย. นี้แล้ว

กลยุทธ์การลงทุนระยะสั้น : ยังเก็งกำไรตามโมเมนตัมตลาดได้ต่อไป อาจทดสอบแถว 1180-1190 หากปิดเหนือระดับดังกล่าวได้ค่อยเพิ่มพอร์ต เนื่องจากในช่วงกลางสัปดาห์ยังมีลุ้นเรื่องมาตรการ QE ของสหรัฐกันอีกรอบ โดยความไม่แน่นอนของปัจจัยยังมีอยู่หากเฟดจะไม่ส่งสัญญาณการออกมาตรการฯ เพิ่มเติม หรือแม้แต่ความวุ่นวายในช่วงรอยต่อหลังการเลือกตั้งของกรีซ อาจทำให้ตลาดอ่อนตัวลงได้อีกครั้ง

แนวต้าน : 1173-1180 แนวรับ : 1155-1148

การจัดพอร์ตระยะสั้น* - หุ้น 30% : เงินสด 70%

ถือต่อในพอร์ต : CPF, BEC, ADVANC

หุ้นที่ปรับออก : MINT, SAT

หุ้นที่แนะนำ :BBL เก็งกำไรตามการดีดตัวของตลาด FV 216 บาท กรอบเทรดระยะสั้น มองต้าน 191-193.5 รับ 185-182 Cut loss 180

TOP เก็งกำไรตามการดีดตัวของตลาด FV 76.5 บาท กรอบเทรด ระยะสั้น มองต้าน 63 รับ 59-58 Cut loss 56.5

KGI ประเมินหุ้นไทยวันจันทร์ปรับขึ้น ทดสอบระดับ 1,180 จุด หลังจากผลการเลือกตั้งกรีซเมื่อคืนนี้อย่างไม่เป็นทางการ ชี้ว่าพรรค New Democracy (ND) และพรรค PASOK ซึ่งเป็นฝั่งที่ยอมใช้นโยบายรัดเข็มขัดเพื่อให้กรีซอยู่ในยูโรโซนนั้น สามารถจัดตั้งรัฐบาลผสมที่มีที่นั่ง 160-163 ที่นั่ง (จำนวนที่นั่งยังเปลี่ยนแปลงได้เล็กน้อย) ขณะที่พรรค SYRIZA ซึ่งเป็นพรรคแข็งกร้าวต่อต้านต่างประเทศ ต้องไปเป็นฝ่าย

ค้าน ทั้งนี้หลังการเลือกตั้งทางเยอรมันได้ออกมากล่าวว่าพร้อมผ่อนปรนเงื่อนไขการรัดเข็มขัดเพื่อให้กรีซเดินหน้าแก้ปัญหาได้ เราคาดว่าหุ้นกลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์จะนำตลาดขึ้นในวันนี้ส่วนหุ้นกลุ่มในประเทศจะขึ้นเช่นกันแต่ไม่แรงเท่า ในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มสูงที่ SET จะปรับขึ้นได้อย่างน้อยถึงวันพุธ เนื่องจากในคืนวันพุธจะมีประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ ซึ่งตลาดคาดหมายว่าอาจมีการประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

หลังจากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอ อย่างไรก็ดีนักเศรษฐศาสตร์ของ KGI มองว่าเต็มที่ที่เฟดจะทำก็คือต่ออายุมาตรการขายพันธบัตรอายุสั้น ซื้ออายุยาว (Operation Twist) แต่ไม่น่าจะมีการประกาศมาตรการซื้อสินทรัพย์แต่อย่างใด

สำหรับปัจจัยในประเทศมีเช่น i) โอกาสที่ ธปท. จะลดดอกเบี้ยมีมากขึ้น หลังจาก กนง.เปลี่ยนมุมมองไปกังวลต่อเศรษฐกิจมากกว่าเงินเฟ้อ และตัวเลขส่งออกเดือน พ.ค. ที่น่าจะรายงานในสัปดาห์นี้ก็น่าจะอ่อนตัว ยืนยันถึงเศรษฐกิจภาคต่างประเทศที่ไม่ดีนัก ii) ธนาคารพาณิชย์จะทยอยรายงานสินเชื่อเดือน พ.ค.2555 ซึ่งจะส่งผลให้ธนาคารที่ตัวเลขออกมาดีโดดเด่นกว่าเพื่อนๆ ในกลุ่มได้ ทั้งนี้ธนาคารที่รายงานสินเชื่อแข็งแกร่งในช่วงที่ผ่านมาได้แก่ BAY* และ SCB*

กลยุทธ์: ให้ถือพอร์ตหุ้นหลักที่แนะนำเพิ่มพอร์ตมาเมื่อวันศุกร์ เช่น SCB*, BBL*, AMATA ต่อไป และให้ซื้อเก็งสั้นในหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์อย่าง IVL* และ PTTGC* เป้าหมายขายไม่เกินกลางสัปดาห์นี้ (จะupdate อีกครั้ง) ส่วนพอร์ตหลักสำหรับระยะ 2-3 เดือนยังเน้นหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และค้าปลีกเป็นกลุ่มที่เราชอบ หุ้นเด่นคือ AP, SIRI, HEMRAJ และ ROBINS*

บล.กสิกรไทยระบุในบทวิเคราะห์ ดังนี้ แนวโน้มตลาด: แม้ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด แต่ปัญหายุโรปก็ดำเนินไปอย่างเข้ารูปเข้า

รอยมากขึ้น ภาคธนาคารสเปนได้รับความช่วยเหลือ อิตาลีประกาศขายสินทรัพย์ของรัฐ (15 มิ.ย.) เพื่อลดหนี้และภาระงบประมาณ ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตร10 ปี ในช่วง 2 วันที่ผ่านมา ลดลงเหลือ 5.91% (จาก 6.21%) ด้านการเลือกตั้งกรีซแม้ผลอย่างเป็นทางการยังไม่ออกมาแต่พรรค New Democracy และ PASOKที่หนุนมาตรการรัดเข็มขัดมีคะแนน 30% และ 12% เหนือกว่า Syriza ที่ 27% ซึ่งเมื่อรวมกับอีก 50 ที่นั่งที่จะได้หากชนะการเลือกตั้งเป็นอันดับแรก น่าจะทำให้มี

โอกาสตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ (130+33=163 ที่นั่ง/จาก 300 ที่) แม้ว่าก่อนหน้าการตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ จะมีสารพัดความเป็นไปได้ของข่าวลบออกมา ขอให้นักลงทุนเข้าใจว่านั่นเป็นธรรมชาติของการเมือง สถานการณ์ตลาดทุนโลกดีขึ้น แต่การ

ดีขึ้นเพราะเหตุการณ์จำเพาะจะทำให้เกิดความลำบากในการวางกลยุทธ์ ผู้มีหุ้นพลังงาน (PTT / PTTEP) ถือต่อเพื่อรอจุดทำกำไร ไม่มีไม่ควรเข้าไล่ซื้อ หากต้องการเพิ่ม beta ควรเล็งหุ้นปิโตรเคมีหรือโรงกลั่นที่ปรับลงมามาก อาทิ PTTGC IVL TOP IRPC (ระยะสั้นด้อยกว่าในเชิงกำไร แต่ดูน่าสนใจกว่าในเชิงของกลยุทธ์)

กลยุทธ์การลงทุน: SET Index มีแนวโน้มเปิดโดด ให้หาจังหวะขายลดการถือหุ้นปลอดภัย (defensive) ตั้งแต่ช่วงต้น อาทิ กลุ่มสื่อสาร หุ้นสาธารณูปโภค (ที่ไม่มีปัจจัยเฉพาะตัวหนุน) การเข้าซื้อเน้นหุ้นรายตัวที่ไม่โดดเกินไป โดยเล็งเป้าหมาย

SET Index ระยะสั้นขึ้นทดสอบ 1190-1200 และในกรณีที่ดีที่ 1240 ตามลำดับ (หากเปิดโดดใกล้ 1200 ควรแบ่งทำกำไรบ้าง)

หุ้นแนะนำ PTTGC SPCG TOG

สำหรับนักลงทุนระยะกลาง: เมื่อ 15 มิ.ย. เราเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก 10%เป็น 60% และยังเตรียมเพิ่มน้ำหนักการลงทุนขึ้นอีก โดยยังคงประเมิน downsideของ SET Index ที่ 1050 จุด หุ้นที่อาจพิจารณาทยอยสะสม ได้แก่ TICON TCAP KK TISCO EGCO RATCH PS AP SIRI QH PF PTTGC PTT KTB NMG RS