ในอุตสาหกรรมรถยนต์ของเกาหลีใต้ฮุนไดเกียและแรนส์โซล – ช่องว่างระหว่างผู้ชนะและผู้แพ้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเกาหลีใต้กำลังกว้างขึ้นเนื่องจากฮุนไดมอเตอร์และเกียมอเตอร์ในเครือปล่อยให้คู่แข่งที่อ่อนแอกว่าอยู่ในฝุ่น ในขณะที่รายได้ของ Hyundai และ Kia กำลังฟื้นตัวจากภาวะตกต่ำที่เกิดจากการระบาดของ COVID-19 GM Korea ซึ่งเป็น บริษัท ในเครือของ General Motors, Renault Samsung Motors และ SsangYong Motor ซึ่งเป็นเจ้าของโดย Mahindra & Mahindra ผู้ผลิตรถยนต์ชาวอินเดียกำลังดิ้นรนเพื่อ ลอยอยู่ การแพร่ระบาดของโรคได้ตอกย้ำถึงโชคชะตาที่แตกต่างกันของผู้นำทั้งสองและกลุ่มที่ล้าหลัง SsangYong Motor ถูกฟ้องศาลในเดือนธันวาคมปี 2020 ในขณะที่ Renault Samsung มียอดการผลิตลดลง 31% เมื่อปีที่แล้วเนื่องจากสัญญาการผลิตที่ใหญ่ที่สุดฉบับหนึ่งหมดอายุลง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์โรงงาน Pyeongtaek ของ SsangYong ระงับการดำเนินงานเนื่องจาก “การหยุดชะงักที่เกิดจากการปฏิเสธที่จะส่งมอบผลิตภัณฑ์ของซัพพลายเออร์ชิ้นส่วน” ตามรายงานของผู้ผลิตรถยนต์ บริษัท ไม่สามารถตอบสนองความต้องการในการชำระเงินสดจากซัพพลายเออร์ได้ ตั้งแต่เริ่มต้นโรงงานใหม่ แต่ก็ยังคงปิดตัวลงเป็นครั้งคราวเนื่องจากปัญหาการขาดแคลนส่วนประกอบ ซันยองถูกบังคับให้ยุติการผลิตด้วยเหตุผลเดียวกันเมื่อปลายปีที่แล้ว ความกังวลเกี่ยวกับความน่าเชื่อถือเพิ่มขึ้นหลังจากที่พลาดการชำระคืนเงินกู้และหาทางบรรเทาโทษด้วยการฟ้องพิทักษ์ทรัพย์ต่อศาลล้มละลายในกรุงโซลเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม Mahindra & Mahindra ซึ่งเป็นเจ้าของ 75% ของ SsangYong และเจ้าหนี้หลักคือ Korea Development Bank กำลังมองหาผู้สนับสนุน ผู้ปกครองชาวอินเดียกล่าวว่าจะช่วยให้ผู้ผลิตรถยนต์เกาหลีใต้กลับมายืนหยัดได้ด้วยการจัดการกับผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอย่างรวดเร็ว แต่การเจรจาเกี่ยวกับการปรับโครงสร้างของ บริษัท ไม่เป็นไปด้วยดีเนื่องจาก บริษัท ที่มีปัญหาไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากนักลงทุนที่มีศักยภาพได้มากนัก ในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมาซันยองมอเตอร์เซถลาจากความพ่ายแพ้ครั้งหนึ่งไปสู่อีกครั้ง หลังจากกลุ่ม บริษัท SsangYong ตกเป็นเหยื่อของวิกฤตค่าเงินในเอเชียปี 1997 หน่วยผลิตอัตโนมัติที่สำคัญของกลุ่มถูกขายให้กับ SAIC Motor ของจีนในปี 2547 แต่ SsangYong ล้มเหลวในการถูกฉุดและถูกพิทักษ์ทรัพย์ในปี 2552 มันถูกขายให้กับ Mahindra ในปี 2011 และหลังจากนั้นก็พยายามที่จะพลิกผันตัวเองเพื่อประโยชน์เพียงเล็กน้อย ผลผลิตในปี 2563 ลดลง 20% จากปีก่อนเป็น 106,000 คัน การขาดแคลนเงินทุนทำให้ความพยายามในการเปิดตัวโมเดลใหม่ทำให้ยอดขายตกต่ำลงไปอีก ผู้สังเกตการณ์ในอุตสาหกรรมรายหนึ่งกล่าวว่าเว้นแต่จะมีผู้สนับสนุนรายใหม่เกิดขึ้น บริษัท อาจลอยไปสู่การชำระบัญชี Renault Samsung ซึ่ง 80% เป็นเจ้าของโดย Renault ของฝรั่งเศสมีการผลิตที่ลดลงอย่างมาก เนื่องจากกลุ่ม Samsung ขายให้กับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติฝรั่งเศสในปี 2543 จึงยังคงรักษาผลผลิตโดยการผลิตรถยนต์สำหรับกลุ่มเรโนลต์ เคยผลิต Nissan Rogues ประมาณ 100,000 คันต่อปีที่โรงงานแห่งเดียวในปูซาน แต่พันธมิตรฝรั่งเศส – ญี่ปุ่นยกเลิกสัญญาเมื่อปีที่แล้วซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างทั้งกลุ่มทำให้ผลผลิตของ Renault Samsung ลดลง 31% ปัจจัยหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังการตัดสินใจของเรโนลต์ในการปล่อยให้สัญญาสิ้นสุดลงคือสหภาพแรงงานต่อสู้ของโรงงาน สหภาพแรงงานเดินหน้าประท้วงแม้ในขณะที่ บริษัท กำลังเจรจากับ บริษัท แม่เพื่อหารุ่นทดแทนในการผลิตผู้บริหาร Renault ที่ทำให้งงงัน ด้วยการเจรจาสัญญาฉบับใหม่ที่ไม่มีที่ไหนเลยแนวโน้มของผู้ผลิตรถยนต์ยังคงมืดมน
| Create Date : 13 มีนาคม 2564 |
|
0 comments |
| Last Update : 13 มีนาคม 2564 11:11:48 น. |
| Counter : 384 Pageviews. |
|
 |
|
