ค่าย 9 - 11-12 พ.ค.2519
วันอังคารที่ 11 พฤษภาคม 2519 พี่แก่กับแก้วไปไสไม้ที่ร้านไม้ตั้งแต่เช้า พวกครัวมี แป๊ะ เอ๋ เปี๊ยก ออกมาจากค่ายเพื่อจ่ายกับข้าว พี่แก่พาไปติดต่อร้านอาหาร พอดีเจอโนชพาน้องมาจากกรุงเทพอีกเกือบ 10 คนเลยพาไปหาอะไรกินแล้วพาไปขึ้นรถ 2 แถวกลับเข้าค่ายก่อน ส่วนเอ๋(ศิราภรณ์)รอจนได้กับข้าวและน้ำแข็งแล้วจึงตามเข้าค่ายไปทีหลัง เมื่อคนอื่นกลับกันไปหมด 2 คนที่ไสไม้ก็ไสกันต่อ เสื้อมันเกะกะนักก็ถอดเสื้อไสไม้กัน อยู่ดีๆเกิดควันโขมงขึ้นตามสายไฟที่ต่อโยงมาจากในร้านเอามาจ่ายไฟให้เครื่องไสไม้ที่อยู่กลางแจ้ง เกิดไฟช๊อตสายไฟไหม้หมดทั้งเส้น ดีที่ไฟไม่ไหม้โรงไม้ไปด้วย ต้องเปลี่ยนสายไฟใหม่ทั้งเส้นแล้วค่อยทำงานกันต่อ
วันพุธที่ 12 พฤษภาคม 2519 ตื่นขึ้นมาก็พบอาจารย์อวยซึ่งกลับมาจากกรุงเทพ มาถึงสุรินทร์ตี3 พี่ธวัชชัยซึ่งเป็นตำรวจในอำเภอเอารถไปรับมาที่บ้านพี่ประวิทย์ อาจารย์ให้พี่แก่อยู่ไสไม้ต่อจนกว่าจะเสร็จแล้วค่อยเข้าค่าย เมื่อคืนมีฝนตกกลัวว่าจะเอาไม้เข้าไปส่งไม่ได้ กำลังไสไม้อยู่ แอ๊นออกมาจากค่ายแจ้งข่าวว่าที่ค่ายฝนตกเพียงเล็กน้อย รถใหญ่เข้าไปได้สบายมาก ทีแรกตอนเช้ารถเขาไม่กล้าเอาของเข้าไปส่ง จะเข้าไปส่งให้ในวันหลัง เมื่อได้ข่าวจากแอ๊นเขาก็ตกลงจะเอาของไปส่งให้ 2 เที่ยว เที่ยวแรกเป็นทรายกับปูน เที่ยวหลังจะเป็นหินกับไม้ที่ไสเสร็จ แอ๊นเข้ามาติดต่อเรื่องหินทรายและไม้นี่แหละ แล้วยังจะมาติดต่อหารถพาพวกเราไปรับเสด็จในหลวงซึ่งจะเสด็จมาที่วัดบ้านธาตุในวันที่ 13 พ.ค.นี้ด้วย พี่แก่รีบไสไม้ต่อ กะให้เสร็จทั้งหมด จะได้เอาเข้าค่ายในคราวเดียวกัน แต่พอเหลืออีกราว 10 แผ่นก็เกิดไฟช๊อต ไฟรั่วที่ตัวเครื่องจนต้องโยนเครื่องไสทิ้ง เลยต้องเลิกไส ที่เหลือเอาไว้ไสด้วยมือต่อในค่าย ไปช่วยแอ๊นหาซื้อของใช้ที่จำเป็น พอดีพบทิมา อ้วย และน้องชายของอ้วยกลับมาจากกรุงเทพ(เพิ่งกลับไปเมื่อวานซืนตอนบ่ายกว่าจะถึงกรุงเทพก็จะเช้าเมื่อวานแล้ว เอาเวลาที่ไหนไปสอบกันนะ แล้วยังสามารถกลับมาถึงได้ในวันนี้อีกด้วย ช่างน่าอัศจรรย์ยิ่งนัก)ทิมากับอ้วยสอบซ่อมเสร็จแล้ว โดยอาจารย์ท่านให้แปลหนังสือแทนสอบใหม่ ช่วยกันแปลจนเสร็จตอน 2 ทุ่มเอางานส่งวางไว้ที่โต๊ะอาจารย์ โทรไปจองตั๋วรถทัวร์ แล้วกลับมาเอาของที่บ้าน 4 ทุ่มไปขึ้นรถมาเลย แม่อ้วยเลยให้เจ้า"อ้าว"น้องของอ้วยมาด้วย เลยพาเข้าค่ายด้วยกันทั้งหมด ระหว่างทางกลับค่ายพบรถขนทรายตกหล่มอยู่ แต่ไม่นานก็ช่วยกันเอาขึ้นมาได้ พบรถของธนาคารกรุงเทพ เป็นฝ่ายประชาสัมพันธ์มาจากกรุงเทพด้วยกัน 3-4 คน มีคุณนริศ ทรัพย์ประภา(นักร้องนักดนตรีและแต่งเพลงชื่อดังสมัยนั้น)เป็นหัวหน้าพากันไปทำงานประชาสัมพันธ์แถวภาคอิสานเลยชวนเขามาค่ายด้วย มาถึงค่ายได้ทำงานหน่อยหนึ่งก็หมดเวลา ปูนเทได้หมด งานที่หนักที่สุดเสร็จแล้ว ก็ช่วยให้เบาใจไปเยอะทีเดียว หลังคาก็เสร็จแล้ว กำลังตั้งเคร่า วงกบ ประตูหน้าต่างกัน อีกพวกกำลังไสไม้เพิ่ม เพราะเดิมไสเพียง 3 ด้าน แต่อาจารย์ท่านเห็นว่ามันไม่น่าดูเหมือนทำงานไม่เสร็จ เลยตกลงไสทั้งหมดทุกด้าน เราเลยยังมีงานเพิ่มมาอีกมากทีเดียว วันนี้เหมียวทำครัว จักรบอกเหมียวซึ่งเป็นแม่บ้านทำงานหนักมาก เหมียวได้จดหมาย 1 ฉบับ ไม่รู้มีข่าวอะไรดูซึมๆไป ตกค่ำก่อนมีบันเทิง รถไม้เข้ามาส่งไม้พอดี พวกเราเลยต้องช่วยกันขนไม้ลง พวกธนาคารกรุงเทพถ่ายรูปพวกเราทำงานกันใหญ่ เวลาบันเทิงเหลือน้อยวันนี้เราเลยร้องเพลงกันเป็นส่วนใหญ่ คุณนริศ ทรัพย์ประภาเล่นแอ็คโคเดียน คิม(ดลยา)ร้องเพลง พี่ศักดิ์ก็ร้อง มีเล่นสนุกๆกันอีกเล็กน้อยก็หมดเวลา คณะคุณนริศจะต้องเดินทางต่อ เราก็ร้องเพลงส่ง ..."ขอให้รื่นเริง สุขสำราญ ...... เหมือนดอกไม้บานยามเช้า.." ประชุมกรรมการคืนนี้ไม่มีอะไรมาก มีแต่เรื่องหมายกำหนดการที่จะไปรับเสด็จและงานทำบุญวันวิสาขบูชาในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ค.2519) ตอนหัวค่ำเรากังวลเรื่องรถรับส่งคนสำหรับวันพรุ่งนี้ที่ได้ไปว่าจ้างไว้ยังไม่เข้ามา ก็พอดีคนขับรถไม้บอกว่าเถ้าแก่ให้เอารถไว้ขนคนไปวัด พวกเราก็ดีใจ ก่อนหน้านี้แอ๊นไปติดต่อรถไว้เจ้าหนึ่ง ถูกขูดเลือดซิบๆเลย ไป-กลับจะเอาตั้ง 400 บาท ซึ่งแพงมาก(สมัยนั้น) เลยบอกให้ครูใหญ่ไปบอกเลิกเขา
Create Date : 30 พฤศจิกายน 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 30 พฤศจิกายน 2553 1:51:24 น. |
Counter : 746 Pageviews. |
|
|
|
ปล. ต่อมาอจ.ยังช่วยเหมาปฏิทินที่เราทำขายอีกด้วย
(เริ่มหารายได้แรกๆทำ charity night รุ่นต่อมาทำปฏิทิน แล้วจึงมาถึงยุครับจ้างทำธงนะคะน้องๆ)