Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2553
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
16 พฤศจิกายน 2553
 
All Blogs
 
ค่าย 9 - 10 พ.ค.2519 - ไสไม้กระดานต่อ

วันจันทร์ที่ 10 พฤษภาคม 2519

      ตอนเช้าจักรออกมาพร้อมกับประวิ-ประชาที่จะกลับไปสอบซ่อม(ประวิกับประชานี่เป็นเพื่อนที่สนิทสนมกันมาก เหมือนเป็นคู่แฝด มักไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ เวลากล่าวถึงมักจะพูดรวมๆกันเป็น "ประวิประชา" นี่ยังต้องมาซ่อมพร้อมกันด้วย) อ้อยเป็นคนขับรถ อ้อยเองถูกตะปูตำ จะเข้ามาฉีดยา จากนั้นจะเข้าไปจังหวัด จักรจะไปเบิกเงิน-โอนเงินให้ร้านไม้  ตอนสายๆมีคนในอำเภอจะเข้าไปค่ายเพื่อรับอาจารย์ออกมาเลยให้เบิร์ดกลับไปด้วย พี่แก่กับแก้วอยู่ไสไม้ต่อ ตอนสายๆมีชาวค่ายชายที่ติดเรียน รด.มาจากกรุงเทพ 2 คน เลยจับไปหัดไสไม้ก่อนเข้าค่าย  เมื่อจักรกลับมาจากในเมืองก็ให้พาน้องทั้งสองกลับเข้าค่ายด้วย  

      พี่แก่กับแก้วไสไม้กันอยู่ 2 คนใช้กบคนละเครื่อง ไม่ได้คุยกันเลยจนบ่าย ชักจะเซ็งเลยหยุดพัก ไปกินก๋วยเตี๋ยวกันหน้าสถานีอนามัย  กินเสร็จเห็นพวกที่ออกมาจากค่ายกำลังเดินเข้าสถานีอนามัย มีอาจารย์อวย อ้วย ทิมา พี่หน่อง พี่ไข่มุกข์ มีวิรุณตามเข้ามาฉีดยาด้วย ส่วนพี่อู๊ดยังไม่ออกมา อาจจะออกมาตอนเย็น 

      วันนี้อากาศร้อนมาก สงสารพวกที่ในค่าย คงทำงานกันเหนื่อยน่าดู  จักรเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนประชุมกรรมการจะทะเลาะกันตาย เรื่องการรักษาเวลา เหน่ง(อิสรา บุญสาทร)เป็นผู้รักษาเวลาเป่านกหวีดหมดเวลาให้เลิกงานแล้ว วิรุณ(ประธานโครงงาน)กลับ บอกน้องให้ทำปูนต่ออีก 2 กะบะทั้งๆที่ตกลงกันไว้แล้วว่าจะไม่ทำเลยเวลา  เถียงกันไปมาอยู่นาน  ไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะมีอะไรที่ขัดแย้งกันรุนแรงอีกหรือไม่ ถ้าตกลงกันไม่ได้จริงๆก็คงเดือดร้อนไปพึ่งอาจารย์เป็นคนตัดสินในที่สุด  อาจารย์กลับกรุงเทพวันนี้ ค่ำวันพรุ่งนี้ ราวตี2-ตี3 ก็จะกลับมา ทิมากับอ้วยนั้นไม่รู้จะสอบเสร็จกลับมาเมื่อไร ตัวพี่แก่เองอยากกลับเข้าค่าย แต่คงต้องให้งานเสร็จหรือต้องมีคนอื่นมาเปลี่ยนก่อน

      พี่แก่กับแก้วช่วยกันไสไม้จนเย็น เวลาทำงานจะเอากระติกน้ำแข็งไปตั้งไว้ดื่มน้ำด้วย คุณลัดดาเจ้าของร้านไม้ให้เด็กเอามะม่วงพันธุ์อะไรไม่รู้มาให้กิน หวานชื่นใจจัง วิรุณยังไม่กลับเข้าค่าย ทั้งที่มีรถ 2 แถวเข้าหมู่บ้านอีกหลายคัน  เดินไปเดินมา เลยให้มาลองไสไม้ ไสอยู่ไม่กี่ทีทำท่าจะไม่ไหว พี่แก่ไสไป 10 แผ่นแล้ววิรุณยังไสได้ไม่ถึงครึ่งแผ่น เลยให้แก้วไปไสแทน บอกแก้วว่าสงสัยเขาคงเจ็บเท้า ให้ช่วยแบกไม้ก็บ่นเจ็บเท้าเจ็บแขน เลยให้ไปกินมะม่วงแทน ตกเย็นไสไม้ได้ 100 กว่าแผ่น เป็นของวิรุณ 2 แผ่น แก้วพาวิรุณกลับไปบ้านพี่ประวิทย์ก่อน พี่แก่เรียงไม้ เก็บเครื่องมือเสร็จแล้วจึงตามกลับไป

      ตอนหัวค่ำท้องฟ้าโปร่งพระจันทร์ใกล้วันวิสาขะบูชาสว่างจ้า แต่เดี๋ยวเดียวก็มีเมฆมาบังเต็มไปหมด อย่างไรก็ตามคาดว่าที่ค่ายฝนคงไม่ตก น่าจะเล่นบันเทิงกันได้ เมื่อกลางวันคุยกับเฮียตี๋ คนขับรถบันทุกหิน เขาบอกสงสารพวกชาวค่ายหญิง มือไม้ถูกปูนกัดเป็นแผลกันไปหมด จะหามะกรูด ส้มป่าไปฝากเอาไว้ใช้ล้างมือถูมือ พี่แก่ก็จะส่งน้ำส้มสายชูไปให้หมิง(เหมียว - วินัดดา แม่บ้าน)เอาไว้ละลายน้ำสำหรับล้างมือล้างเท้าพวกลูกๆหลังงานปูน ปกติพี่แก่เคยทำทุกทีตอนอยู่ค่าย ปีนี้ออกมาอยู่ไสไม้ในอำเภอ ไม่มีใครทำให้ เวลาปูนติดมือ จะล้างมือฟอกสบู่ยังไงก็ไม่ออก ต้องล้างด้วยกรดอ่อนๆ ใช้มะกรูดมะนาว ส้มเปรี้ยวๆก็ได้ ปูนเป็นด่างเวลาเกาะติดผิวหนังที่มือที่เท้าจะกัดเป็นแผลเล็กๆเจ็บอย่าบอกใครเชียว ตอนกลับจากค่าย 5 พี่แก่ไปช่วยงานที่จิตภาวัน บางละมุง ช่วยพวกเณรทำงานปูน เวลาเลิกงานพวกเณรเอาน้ำส้มสายชูผสมน้ำล้างมือล้างเท้า สอบถามจึงได้ความรู้นำมาใช้ที่ค่ายตั้งแต่ค่าย 6 เป็นต้นมาได้ผลดีทีเดียว น่าสงสารพวกลูกๆ ยิ่งตอนนี้เหลือเพียง 47 คน อยากกลับไปช่วยก็อยาก อยากไสไม้ให้เสร็จก็อยาก ปกติเวลาทำงานปูน เราเหนื่อยกันมาก จะเห็นน้ำใจกันก็ตอนนี้แหละ เห็นได้ว่าใครใจสู้ไม่สู้กันตอนนี้ ชาวค่ายหญิงหลายๆคนต้องยกนิ้วให้เลย บางคนสังขารไม่ให้ แต่ก็ไม่ยอมแพ้ท่าเดียว ต้องบังคับกันจึงยอมหยุดพัก บางคนถึงกับร้องไห้เมื่อถูกจับให้พัก อี๊ดซึ่งปีนี้ไม่ได้มาค่าย เมื่อปีที่แล้วเป็นไข้ อาเจียนติดๆกัน กินข้าวไม่ได้ 3 วัน กินแล้วอาเจียน ต้องให้น้ำเกลืออยู่ในค่าย (ปีที่แล้วค่าย 8 เอาไปทุกอย่างทั้งเครื่องมือและยา) ส่งไป admit ที่ไรงพยาบาลได้ 2-3 วันก็กลับมา ไม่ยอมอยู่จะ depress ตาย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเห็นใจต้องยอมให้กลับมาค่าย(ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหรือสถานีอนามัยที่อำเภอพนมไพร สมัยนั้นก็คือพี่เฟ้น - สันติภาพ ไชยวงศ์เกียรติ ซึ่งเป็นหัวหน้าค่าย 1 นั่นแหละ) อาจารย์อวยเขียนในสมุดเฟรนด์ชิพว่า"อี๊ด ดื้อ แต่ ดี" พยายามไม่ให้แกทำอะไร ก็ไม่ยอม เลยให้นั่งขัดหัวบัวเสาธง อาจารย์อวยเป็นห่วงมากดุหัวหน้าค่ายใหญ่ จะไม่ยอมให้อี๊ดทำอะไรเลย พอดีอาจารย์ต้องออกไปธุระที่หนองคาย อี๊ดก็แอบทำอะไรๆอีก จะบังคับให้ไปโรงพยาบาลอีกเมื่อมีอาเจียนเพิ่ม ก็ไม่ยอมไป จะให้กลับก่อนถึงวันปิดค่ายพิธีอำลา ก็ไม่ยอม ร้องไห้กราบอ้อนวอน ในที่สุดอาการดีขึ้นก็ต้องยอมตาม  ยังมีคนอื่นอีกมากที่ทำให้ประทับใจในตัวน้องชาวค่าย เล่าทั้งวันก็ไม่จบ เต้(กันยิกา ชำนิประสาท)ปวดหลังมีปัญหาdisc ต้องกินยาแก้ปวดแรงๆ เมื่อ 2-3 วันก่อนก็ไม่สบาย เผลอแผล็บเดียวไปแบกดินเฉยเลย  ชีวิตในค่ายเราอยู่กันอย่างพี่ๆน้องๆ กางเกงพี่ขาด น้องปะให้ ตักน้ำจากบ่อไม่ไหว พี่ตักให้  พี่ๆคอยดูแลน้องไม่สบาย คนไหนไม่มีหมวก ก็ต้องหาให้ใส่ เดี๋ยวไม่สบายเป็นหวัด คนไหนดูซึมๆท่าจะคิดถึงบ้าน ก็จัดนักคุยไปคุยด้วย อะไรอย่างนี้แหละเราจึงผูกพันกับค่ายมาก



Create Date : 16 พฤศจิกายน 2553
Last Update : 29 พฤศจิกายน 2553 23:28:38 น. 3 comments
Counter : 898 Pageviews.

 
ชีวิตในค่ายเราอยู่กันอย่างพี่ๆน้องๆ กางเกงพี่ขาด น้องปะให้ ตักน้ำจากบ่อไม่ไหว พี่ตักให้ พี่ๆคอยดูแลน้องไม่สบาย คนไหนไม่มีหมวก ก็ต้องหาให้ใส่ เดี๋ยวไม่สบายเป็นหวัด คนไหนดูซึมๆท่าจะคิดถึงบ้าน ก็จัดนักคุยไปคุยด้วย อะไรอย่างนี้แหละเราจึงผูกพันกับค่ายมาก

ปล.พี่อี๊ด สุดยอกมากคะ นับถือจริงๆ


โดย: Minjung IP: 10.5.58.134, 202.28.181.220 วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:2:30:36 น.  

 
ลองโพสต์ดูคะ แต่ชอบประโยคสุดท้ายของพี่แก่มากเลย คิดว่า ได้คำตอบแล้วคะ ว่าทำไมพี่ๆถึงผูกพันธ์และคิดถึงค่ายอาสา


โดย: Minjung IP: 10.5.58.134, 202.28.181.220 วันที่: 5 ธันวาคม 2553 เวลา:2:33:06 น.  

 
อ่านแล้ว ทำให้นึกถึงความสนุก ความทุกข์ยาก ความลำบาก นำตา ความพยายามที่จะเอาชนะอุปสรรค ต้องขอบคุณพี่แก้ชะมัด แต่...ทำไมพวกชามข้าวนี่ ถึงต้องกลับไปสอบซ่อมกันทั้งนั้น(วะ) จริงๆ จริงๆแล้วทุกประสบการณ์ ทุกความสามารถที่เกิดที่ค่าย เป็นพื้นฐานสำคัญในการใช้ชีวิตในเวลาต่อมา นะคะ เฮ้อ...พูดแล้วก็คิดถึงพวกเราจังค่ะ


โดย: วินัดดา ปิยะศิลป์ IP: 58.64.83.175 วันที่: 7 ธันวาคม 2553 เวลา:20:35:52 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wpanwit
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 49 คน [?]




Friends' blogs
[Add wpanwit's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.