India @Day2 Chennai - Triruchirappalli
Day 2 วันจันทร์ ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2556
เชนไนอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอินเดีย ค่อนข้างเจริญ
(พี่ที่เคยไปแสวงบุญ เค้าบอกว่าถ้าไปทางสังเวชนียสถาน จะลำบากกว่านี้
เพราะเมืองพุทธของอินเดีย อยู่ทางตอนเหนือ จะค่อนข้างยากจน)
ส่วนใหญ่ในคณะจะโหวตให้อาหารที่โรงแรมนี้ อร่อยที่สุดในบรรดาอาหารโรงแรมที่เราเจอใน Trip นี้
โรตีแกงไก่ เข้าเนื้อมาก (อาหารอินเดียไม่เลวร้ายอย่างที่คิดแฮะ)
เค้ากินโรตีเป็นอาหารคาว แทนข้าวบ้านเราแหละ
สองสาวที่สวยที่สุดในคณะนี้ 555 (เพราะนอกนั้นเค้าหล่อหมด)
ไม่พลาด ๆ คนชอบขนมหวานอย่างเรา สีชมพูนี่คล้าย ๆ พาย เอามาเรียงกันเป็นชั้น ๆ
กินตุนไว้ก่อน ไม่รู้ระหว่างทางจะเป็นยังไงบ้าง ป่ะเดินทางต่อ
วันนี้เดินทางจาก Chennai ไป Triruchirappalli หรือ Trichy โดยรถ Van 10 ที่นั่ง
ปุเรง ๆ ด้วยความเร็วบนมอเตอร์เวย์ 80 kmh หลับแล้วหลับอีก กว่าจะถึง
ค่าธรรมเนียมทางด่วน มอเตอร์เวย์ที่นี่ จะเป็นเลขไม่กลม เหมือนบ้านเรา
เพราะคนที่รักษาสิทธิของตัวเองมาก ๆ อะไรไม่ Fair เป็นเรื่อง
ตามคาด มาถึง Trichy เกือบบ่ายสามโมง ดีที่กินตุนมาเยอะ
เช็คอินที่โรงแรม SRM น่าจะสัก 3 ดาวนะที่นี่
ห้องอาหารที่เสียเงินกินเองอร่อยดี
ข้าวหมกไก่ หมกน่องไก่เอาไว้มิดเลย (รูปขวามือบน)
ส่วน โรตี แกงไก่ โยเกิร์ตหอมแดง ตามระเบียบ
คนฮินดูไม่กินหมู เพราะเค้าเลี้ยงหมูเหมือนเลี้ยงหมา คือเลี้ยงไว้ดูเล่นเฉย ๆ
วัวก็ไม่กิน เพราะเป็นพระเจ้า ควายกินแต่นม จะมีกินเนื้อก็แพะ หรือแกะ และปลา
จากนั้นรีบเข้าโรงงาน Fabrication บอล์ยเล่อร์ ให้การต้อนรับตามประเพณี
มาลัยที่คล้องคอ ก็เรียกว่า มาลัย เหมือนภาษาไทย แปลว่า เป็นระเบียบ
ว่ากันว่าพวงนึงสัก 1 พันรูปี (600บาท) ทำจากไม้จันทน์หอม ตอนนี้อยู่ที่หิ้งพระ
บอร์ด รูปเพนท์มือที่พื้น และแจกันที่เค้าเตรียมไว้ต้อนรับ น่ารักอ่ะ แบบว่าชาวบ้านๆ ดูจริงใจ
กาแฟพื้นเมืองใส่นมควาย แบบว่ากาแฟน้อย ๆ นมเยอะ ๆ
อ่อ สัญญาณมือถือในอินเดียจะแปลกมาก คือ เข้าเขตอีกเมืองนึง
ก็จะเปลี่ยนไปใช้อีก Network นึง อย่าแปลกใจ เค้ามีหลายค่ายไม่เหมือนเรา
เปิด Roaming และเหมาจ่ายอินเตอร์เน็ท 350 บาทต่อวัน ๆ ละ 25 M มันใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง เซ็ง
บอล์ยเลอร์ตัวเล็ก ๆ ดูทำดี น่าใช้ แต่ตัวใหญ่ ๆ งานก็ยังไม่เนี๊ยบเหมือนฝรั่ง
ก็แหงล่ะ มันไม่แพงขนาดนั้นนี่นะ ต้องทำใจ
วิศวกรจบใหม่ เงินเดือน Start ที่ประมาณ 12,000 บาท พูดภาษาอังกฤษได้ทุกคน
แต่ละคน ถ้าไม่เส้นใหญ่ ก็จะเรียนเก่งมาก แบบว่า ระดับเกียรตินิยม ถึงจะได้ทำงานบริษัทดี ๆ กัน
วิศวกรไทย จบใหม่ทั้งหลาย ฟังไว้ ทางเลือกการจ้างงานมันมีอีกเยอะ
อดทนกันบ้างนะน้อง เปิดประเทศเมื่อไหร่ น้องจะเหนื่อยกัน
งานเสร็จก็ขอไปเที่ยวกันที่วัดฮินดู เป็นวัดพระวิษณุปางนอนบนหลังพญานาค
อายุกว่าพันปี ชื่อวัด Srirangam Temple ให้ถอดรองเท้าไว้ในรถเลย เดินเท้าเปล่าตั้งแต่ประตูวัด
Trip นี้นกเอากล้องไก่กาไป ดิจิตอลเฉย ๆ ไม่ใช่ SLR ชดเชยแสง
จึงเห็นเป็นดวง ๆ ขาวบ้าง แดงบ้าง ตอนนั้นเข้าใจว่า มันคือ เลนส์ไม่สะอาด
(ทั้งที่ก่อนไป ก็ให้น้องช่วยทำความสะอาด ตั้งค่าต่าง ๆ หมดละ ทำไมเพี้ยนฟระ)
เอาไอโฟนออกมา หนักกว่าเดิม เป็นวงกลมซ้อนกันพร่ามัวเต็มหน้า
ซ้ายล่าง ถ้าเอามือปิดตัวด้านขวาจะเห็นเป็นวัว แต่ถ้าปิดตัวซ้าย จะเห็นเป็นช้าง
คนฮินดูที่นี่ มาทำบุญ มาสวดมนต์กันตอนค่ำ ถึงดึกเลย ระงมไปด้วยเสียงสวด
บางส่วนที่ใช้ประกอบพิธีกรรม ให้เข้าเฉพาะฮินดูเท่านั้น
บางจุดก็ห้ามกระทั่งการถ่ายรูป
(กล้องที่ไม่ใช่กล้องมือถือ เสียค่ากล้องถ่ายรูปเพิ่มด้วยนอกจากค่าธรรมเนียมเข้าชม)
ถ้าเรามาตอนกลางวันจะถ่ายรูปเจดีย์สีสันสวย ๆ เยอะมาก
(นกยังคงงงกับการตั้งค่ากล้อง ทำไมมันรวนไปหมด แต่ก็พยายามถ่าย ๆ ไป)
ซ้ายบนคือรูปเขียนสีที่กำแพงวัด เป็นสัญลักษณ์ของพระวิษณุ
ตรงนี้เป็นที่ประดิษฐานของพระวิษณุปางบรรทมบนหลังพญานาค
ได้แต่ถ่ายรูป จากรูปที่ติดไหว้หน้าวิหารอีกหนึ่ง
ซ้ายบน = บ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ ห้ามลงไปบริเวณบ่อน้ำ เจอแต่แมวลงไปจับกินปลา
ขวาบน = กุญแจ ที่คู่แต่งงานจะมาแก้เคล็ดหลังแต่งงานกัน โดยการล็อคแม่กถญแจ
แล้วจะโยนลูกกุญแจ ซึ่งถือว่าเป็นอุปสรรคในชีวิตคู่ทิ้งไป (คล้ายเกาหลี และสวนผึ้ง)
ซ้ายล่าง = แท่นบูชายัน (ดวงแดง ๆ นั้น อีกแล้ว)
นาทีนั้นนกยังไม่รู้รายละเอียด ก็เดินรั้งท้ายชาวบ้านเค้า ซาบซึ้งอารยธรรมไป
ที่น่าแปลกคือ มันทำไมไม่เป็น ณ จุดเดียวกันในแต่ละรูป
เหมือนหุ่นทุกตัวที่ประดับอยู่บนเจดีย์ บนซุ้มมีชีวิต ถ้ามากลางวัน คงได้เห็นเป็นสีสวย ๆ
แต่ก็มีบางองค์ที่ยังเป็นสีหินทรายเปลือย ๆ สีน้ำตาลอ่อน
พอขึ้นรถพี่ ๆ ก็คุยกันว่า กล้อง DSLR กับ SLR ต่างกันที่ไหน
ก็คืออย่างหลังเวลามันเจอเอฟเฟ็คอะไร มันจะแก้ไขแล้วบันทึกลงบนความจำ
แต่แบบแรกมันบันทึกเลย ก็เลยจะเห็นเป็นดวง ๆ ขาว ๆ เหลือง ๆ แดง ๆ บนรูป
ซึ่งเค้าเคยเจอเต็มกล้องเลยเหมือนกัน (โปรดใช้วิจารณญาณ)
คือเทวดา ที่รักษาวัดวาอาราม บางทีเค้าก็ไม่ชอบแสงแฟร็ช ก็จะปรากฎให้เห็นบ้าง
แหม ๆ ถึงบางอ้อเลย บรึ๋ยยยยย ถ้ารู้ก่อนไม่กล้าเดินรั้งท้ายอย่างนั้นหรอก
เต็มกล้องหนูเลย เดี๋ยวกลับโรงแรมแล้วหนูให้ดู
ระหว่างที่สองสาวกำลังดูอยู่นั่น ไฟก็ดับ กระโดกอดกันแทบไม่ทัน
ใส่พระจะช่วยอะไรมั๊ย พุทธกับฮินดู เค้าข้ามค่ายกันมั๊ยเนี่ย
หนำซ้ำ อาบน้ำสระผมอยู่ ไฟเจ้ากรรมดันตกอีก กลัวนะเว่ย กลัว แค่ไม่กรี๊ดเท่านั้นเอง
- - -
ตัดกลับมาที่อาหารเย็นวันนั้น Supplier เป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารอินเดีย
อยู่ในโรงแรมอีกที่นึงไม่ใช่ SRM ที่เราพัก
สังเกตว่าเค้าจะจองโรงแรมให้เราพักห่างไกลจากไนท์บาซ่า ซะเหลือเกิน ไม่มีของฝากเลยอ่ะ
มาถึงก็ยังคาใจกล้องก็ลองถ่ายที่มืด ๆ ดู ก็พบว่า ไม่มี ดวง ๆ นั่นแล้วแฮะ
ที่นี่มีทั้งเมนูเนื้อ (ส่วนใหญ่เป็นไก่และปลา) และ Vegetarian
หอมหัวใหญ่ของอินเดีย คือ หอมแขก หรือหอมแดงยักษ์ ไม่ใช่หอมขาว ๆ แบบเรา
ที่อร่อยสุดในมื้อนี้คือ หมี่ซั่วอินเดียนั่นแหละ ผัดแห้งดีจัง
แน่นอน โรตีแกงไก่ มื้อที่ 3
เป๊บซี่ และโค้กที่นี่ผอมเพรียว ถึงจะไม่ Diet ก็ทรงนี้
ตบด้วยไอติมมะม่วง ไม่อร่อยเท่าน้ำมะม่วงแฮะ
การล้างปาก ดับกลิ่นเครื่องเทศของชาวอินเดียก็จะใช้เครื่องเทศ
หยิบอันขวามา 4-5 เม็ด ถ้าอยากหวานก็กินกับน้ำตาล
เคี้ยว ๆ รวมกัน ออกมาเป็นรสชาติลูกอมริโคล่า (เคยกินมั๊ย) ปากหอมเลย มันแรงมาก
- - -
เริ่มเหนื่อยแล้ว คืนนี้หลับสบายที่สุด Wifi ไม่เสถียร ไฟดับ 3 ครั้ง ๆ 1 นาที
Index of India Trip Blogs
Create Date : 22 กุมภาพันธ์ 2556 |
Last Update : 12 มิถุนายน 2556 13:45:12 น. |
|
0 comments
|
Counter : 1941 Pageviews. |
|
|