Group Blog
 
 
ธันวาคม 2557
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
17 ธันวาคม 2557
 
All Blogs
 
นิยายรัก ตอนที่ 8 ภารกิจ (หัวใจ)

COPY WRIGHT : สงวนลิขสิทธิ์ทั้ง ปกหนังสือ และ เนื้อหาค่ะ

บ่วงมะลิลา

ผู้เขียน:วรรณรวี

พิมพ์ครั้งแรก:พฤศจิกายน ๒๕๕๗

copy.jpg สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ ๒๕๓๗

ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเอกสารรูปเล่ม หรือเพื่อการใดๆเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น

ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๓๗๔ – ๐๗๑ – ๗

ราคา๒๓๐ บาท

***************************************************


ตัวอย่างค่ะ



ภารกิจ( หัวใจ )

แปดนาฬิกาเวลาประเทศไทยในอีกสองสัปดาห์ต่อมามะลิลาอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะวันนี้ถึงวันนัดส่งแบบร่างที่มัณฑนากรหนุ่มได้แจ้งกับเธอไว้เธอตื่นเต้นมากที่จะได้เห็นผลงานอันยอดเยี่ยมของเขาและกว่าจะถึงเวลานัดเธอก็ยังพอมีเวลาผจญกับการจราจรหนาแน่นบนท้องถนนอีกเกือบสองชั่วโมง

หญิงสาวแต่งกายสวยเก๋และทะมัดทะแมงด้วยกางเกงหนังสีน้ำตาลฟิตพอดีรูปร่างชิ้นบนมีเพียงเสื้อกล้ามสีดำหลวมๆ หากดูเรียบร้อยด้วยแจ็กเกตยีนสีซีดสวมทับอีกชั้นเท้าเล็กๆ สวมส้นเข็มคริสเตียนลูบูแตงสีครีมคู่โปรดใบหน้างดงามของเธอยิ่งกระจ่างตาเมื่อผมยาวถูกเกล้ามวยเอาไว้สูงๆเผยลำคอขาวผ่องงดงาม และใบหน้าสวยนั้นลงเพียงเมคอัพบางๆเผยผิวขาวใสอมชมพูที่เป็นธรรมชาติโดยริมฝีปากบางของเธอระบายด้วยลิปกลอสกลิ่นผลไม้สีชมพูอ่อนๆ

ร่างอรชรเดินลงมาชั้นล่างเพื่อเตรียมตัวจัดการกับมื้อเช้าพร้อมบิดาก่อนจะเดินทางไปทำงานพร้อมท่านหากต้องแปลกใจเมื่อได้ยินเสียงสนทนาของผู้ชายสองคนแน่นอนหนึ่งเสียงทุ้มจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากบิดาของเธอหากอีกหนึ่งเสียงทุ้มนุ่มก็คล้ายๆและคุ้นเคยของชายหนุ่มที่ไม่ทำรุ่มร่ามกับเธออีกเลยนับตั้งแต่วันที่ทั้งคู่ได้พบกันครั้งแรกที่เมืองไทยและกริยาสำรวมเกินปกติกับท่าทางที่เฉยชาของเขาตลอดสองสัปดาห์ที่ผ่านมาก็ไม่ปฏิเสธเลยว่าทำให้เธอเริ่มรู้สึกกังวลและน้อยใจเงียบๆกระทั่งเผลอบ่นกับตัวเองบ่อยครั้ง

‘คนใจร้าย จอมเจ้าชู้คนโลเล’

มะลิลาเดินลงมาพร้อมสัมภาระที่มีเพียงกระเป๋าสะพายชาแนลสีดำใบเล็กกับกระเป๋าหนังบางๆ ที่ภายในบรรจุแมคบุ๊กแอร์ขนาดบางเฉียบซึ่งอัดแน่นไปด้วยผลงานและข้อมูลที่หญิงสาวเตรียมเอาไว้เธอเดินมาถึงห้องรับแขกที่ประดับประดาด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์หลุยส์หรูหราโซฟาสีครีมตัวใหญ่ที่พิมพ์ลายดอกกุหลาบสีพาสเทลหลากหลายขนาดมีชายหนุ่มลูกครึ่งไทย-อิตาเลี่ยนนั่งอยู่ในท่าทางสบายๆและเช้านี้เขาก็ดูหล่อเหลาทรงเสน่ห์เหมือนเช่นทุกครั้งแม้ร่างสูงใหญ่จะอยู่ภายใต้เครื่องแต่งกายธรรมดาราวกับว่าความสมบูรณ์แบบทุกอย่างบนโลกใบนี้พระเจ้าได้ประทานมาให้เขาแต่เพียงผู้เดียว

“พร้อมแล้วเหรอคะลูกป๋าโทรตามให้เล็กมารับหนูไปออฟฟิศก่อน วันนี้นายพีชต้องไปทำธุระกับป๋าตอนบ่ายป๋าลืมบอกลูกว่าบ่ายนี้ป๋ามีนัดสำคัญ”เจ้าสัวมหาศาลเอ่ยทันทีเมื่อเห็นลูกสาวเดินเข้ามา ร่างเล็กๆที่หยุดยืนจ้องหน้าว่าที่ลูกเขยของเขาได้ราวสองนาทีแล้ว

“ความจริงลูกขับรถไปเองก็ได้นะคะป๋าไม่เห็นต้องรบกวนคนอื่นเลย เกรงใจเขา” มะลิลาเดินมานั่งลงใกล้บิดาแล้วเอ่ยเสียงหวานโดยไม่มองคนที่จะมาทำหน้าที่สารถีจำเป็นและเขาก็กำลังส่งตาหวานหยดมองเธอ

“พี่ยินดีค่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยสั้นๆก่อนหันไปขออนุญาตว่าที่พ่อตาเสียงนุ่ม“ผมยินดีมารับน้องไปทำงานตอนเช้าทุกวันคุณลุงจะอนุญาตไหมครับ”

“ก็แล้วแต่เล็กสะดวกเถอะ ทำงานตึกเดียวกันอยู่แล้ว”

“ได้ยังไงล่ะคะป๋ามีพี่พีชอยู่แล้วทั้งคน”

“ช่วงนี้ป๋าต้องขอตัวนายพีชสักระยะป๋ามีธุระหลายแห่ง พีชเป็นเลขาของป๋าด้วย น้องมะลิก็รู้นี่ลูก รอให้ผ่านช่วงยุ่งๆนี้ไปก่อน ระหว่างนี้ได้เล็กมาคอยรับคอยส่ง ป๋าจะได้สบายใจ” คนเป็นบิดาตอบเสียงเรียบให้เหตุผลโดยไม่สนใจท่าทางไม่ยอมรับของลูกสาวก่อนเอ่ยชวน“ไปทานมื้อเช้ากันก่อน จะได้รีบออกไปทำงานลูกนัดมัณฑนากรเอาไว้สิบโมงเช้าไม่ใช่เหรอลูก เดี๋ยวจะสาย เล็กมาเช้าแบบนี้คงยังไม่ได้ทานมื้อเช้ามาใช่ไหม ไปทานด้วยกันเลย”

จบประโยค ประมุขของบ้านก็ลุกขึ้นก่อนแล้วเดินนำไปยังห้องอาหารโดยไม่สนใจว่าลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของเขาจะทำหน้าบึ้งตึงใส่ชายหนุ่มที่ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้ามาใกล้เธอพร้อมเผยรอยยิ้มบางๆแล้วยิ้มกว้างมากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นร่างเล็กขู่ฝ่อพลางเอ่ยเสียงดุและเข้มที่ไม่น่ากลัวเอาเสียเลย

“ห้ามยิ้มเลยนะ คนนิสัยไม่ดี”

เสียงดุที่สุดแสนไม่น่ากลัวของคนที่ใบหน้าสวยบึ้งตึงก่อนที่ร่างเล็กจะเดินตามหลังเจ้าสัวมหาศาลเข้าไปในห้องรับประทานอาหารทำให้คนที่อยากพิสูจน์ความรู้สึกของเธอที่มีต่อเขาเผยรอยยิ้มมากกว่าเดิมเขาต้องอดทนอดกลั้นเท่าไรที่จะไม่ทำรุ่มร่ามกับเธอมาร่วมสองสัปดาห์แล้วทั้งที่ใจต้องการจนทำให้เขาแทบคลั่ง และราวกับพระเจ้ารู้ว่าถ้าหากยาวนานไปกว่านี้อีกสองสามวันเขาคงต้องขาดใจตายแน่นอนพระเจ้าจึงดลใจให้ว่าที่พ่อตาโทรศัพท์หาเขาตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาเพื่อให้เขามาทำหน้าที่ดูแลเธอในช่วงที่ท่านและบอดี้การ์ดหนุ่มมีภารกิจสำคัญ...

ระหว่างทางที่การจราจรหนาแน่นหนุ่มสาวซึ่งเคยมีประวัติศาสตร์ที่สุดแสนใกล้ชิดกันนั่งเงียบมาตลอดทางดวงตากลมโตของมะลิลามองออกไปนอกกระจกใบหน้าสวยขาวใสงอง้ำคล้ายเด็กสาวที่กำลังไม่ถูกใจอะไรบางอย่างเป็นอารมณ์ของคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังน้อยใจหรืออะไรกันแน่ก็เขาเปิดประตูรถยนต์ให้เธอขึ้นมานั่ง ช่วยเธอถือกระเป๋าบางๆที่ใส่แมคบุ๊กแอร์คู่ใจ คาดเข็มขัดนิรภัยให้เธอแล้วหลังจากนั้นเขาก็ไม่หันมาพูดจากับเธอสักคำ หรือแม้กระทั่งดวงตาหวานๆที่เขาเคยมองเธอราวกับเป็นขนมหวานจนทำให้หัวใจของเธอสั่นหวิวด้วยความรู้สึกหวามไหวเหมือนกับเมื่อหนึ่งชั่วโมงก่อนราวคนละคน

ในขณะที่คนขับก็ตั้งหน้าตั้งตาทำหน้าที่ของตัวเองราวกับเขาขับมาเพียงลำพังเขาพยายามไม่หันไปมองคนร่างเล็กกะทัดรัด ที่วันนี้แต่งกายสวยเก๋น่ารักจนเขาอยากจะเลี้ยวรถยนต์ไปอีกทางเพื่อพาเธอกลับคอนโดฯ มากกว่าจะปล่อยให้เธอไปทำงานแล้ววันนี้คู่แข่งที่มีความหล่อเหลาไม่ด้อยไปกว่าเขาเท่าไรนักก็จะต้องได้รับรอยยิ้มหวานจากเธอไม่ต้องสงสัยเลยว่าความเก่งกาจด้านการออกแบบและรสนิยมของนายพฤกษ์คงจะเป็นพระเอกของวันนี้ซึ่งจะต้องเบียดเขาจนกระเด็นตกขอบในสายตาของเธออย่างแน่นอน

เพียงสี่สิบห้านาทีรถยนต์สปอร์ตคันหรูก็เลี้ยวเข้ามาในตึกที่มีชื่อเดียวกับนามสกุลของหญิงสาวชายหนุ่มก็ปฏิบัติเหมือนเดิมคือเอื้อมมือแกร่งไปปลดเข็มขัดนิรภัยให้เธอหลังจากที่เขาจัดการของตัวเองก่อนเดินลงไปเปิดประตูรถยนต์ให้หญิงสาวเขายืนรอเธอลงมาจากรถยนต์ด้วยท่าทางเรียบเฉยหากมีเพียงแววตาของเขาเท่านั้นที่อ่อนโยนและหวามไหวหากพลันหายแล้วเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยอย่างที่ไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกได้อย่างรวดเร็วเมื่อมะลิลาเงยหน้าขึ้นมองเขาหลังจากลูบูแตงสีครีมของเธอสัมผัสลงบนพื้นคอนกรีต

“คุณไม่ต้องทำงาน ไม่มีนัดกับใครหรอกเหรอคะถึงได้อาสาไปรับไปส่งฉันทุกวัน ถ้าคุณไม่เต็มใจ พรุ่งนี้ไม่ต้องก็ได้นะฉันขับรถเองได้”ประโยคแรกที่ออกจากปากของมะลิลาด้วยเพราะเธอเก็บอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นดวงตาที่ไม่สามารถคาดเดาความรู้สึกของคนตัวโตตรงหน้าได้

“ไปรับไปส่งคู่หมั้นแค่นี้เอง สบายมากค่ะเป็นหน้าที่ของพี่อยู่แล้ว”

อเลสซานโดรตอบเสียงเรียบพลางเผยรอยยิ้มน้อยๆอย่างรู้ทันความรู้สึกขุ่นๆ ของหญิงสาวหากมันคงจะรวดเร็วเกินไปถ้าจะให้เขาเข้าไปกอดเพื่อโอ๋เธอแล้วสารภาพว่าสองสัปดาห์ที่เขาเฉยชากับเธอไม่ได้หมายความว่าเป็นเพราะเขาไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับผู้หญิงคนอื่นเหมือนที่เธอเข้าใจผิดไปเองเหตุผลแท้จริงเป็นเพราะเขากับเธอมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันแบบก้าวกระโดดจากคนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วไปจบลงที่เตียงร้อนๆ มาด้วยกันหนึ่งคืนแล้วเธอก็มารู้อีกทีว่าเขาคือคู่หมั้น เขาแค่เพียงต้องการให้ระหว่างเธอกับเขาลองเดินในเส้นทางปกติเพื่อพิสูจน์ว่าถ้าหากทั้งคู่ไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกันมาก่อนเธอจะหลงรักแล้วมอบหัวใจทั้งดวงให้เขาได้ไหม

“ถ้าคุณคิดว่าเป็นเพียงแค่หน้าที่ก็ไม่ต้องลำบากเลยซะดีกว่าค่ะฉันไม่อยากรบกวนแล้วก็ไม่ต้องการเป็นภาระของใคร”

มะลิลาเอ่ยด้วยน้ำเสียงห้วนๆราวกับคุณหนูเอาแต่ใจ ใบหน้าขาวของเธอแดงๆ ด้วยอารมณ์โกรธและน้อยใจก่อนก้าวฉับเดินเข้าไปในตึกโดยไม่สนใจคนที่มองตามหลังเธอพร้อมรอยยิ้มบางๆ

“สงสัยต้องรีบง้อแล้วเป็นเด็กขี้น้อยใจมันน่ารักแบบนี้นี่เอง”

คนที่กำลังคลั่งรักจนหูตามืดบอดมองตามแผ่นหลังบอบบางของคนที่เขาจะต้องง้อแล้วทำความเข้าใจกับเธอให้สำเร็จภายในวันนี้

ภาพบรรยากาศเกือบจะคล้ายเดิมย้อนไปเมื่อสองสัปดาห์ก่อนในเวลาสิบนาฬิกาตามเวลานัดมัณฑนากรหนุ่มเดินเข้ามาภายในห้องประชุมพร้อมด้วยพรีเซ็นเทชั่นอลังการเกินกว่าจะเรียกได้ว่านี่เป็นเพียงร่างแรกของการเนรมิต‘Themuseum of bangkok’ พิพิธภัณฑ์ร่วมสมัยที่มีพื้นที่ทั้งชั้นในตึกหรูแห่งนี้

ภายในห้องประชุมมีมัณฑนากรหนุ่มกับเจ้าของตึกซึ่งในขณะนี้เป็นลูกค้าคนสำคัญในขณะที่ชายหนุ่มอีกคนก็นั่งฟังเงียบๆ อยู่ในตำแหน่งเดิมของเขา

พฤกษ์เปิดแมคบุ๊กขนาดหน้าจอสิบสามนิ้วของตัวเองเพื่อเริ่มนำเสนอผลงานให้คนที่แสดงท่าทางตื่นเต้นตั้งแต่เห็นเขาเดินเข้ามาภายในห้องเพราะหลังจากที่พบกันครั้งแรก มะลิลาก็กลับไปสืบค้นหาผลงานดังๆที่เขาเคยมีส่วนร่วมเธอชื่นชมผลงานของเขามากจนอยากจะเดินเข้าไปสวมกอดแล้วเขย่งจูบแก้มคนตัวโตที่นั่งฟังนิ่งๆฝั่งตรงข้ามเพื่อเป็นการขอบคุณที่เขาแนะนำมัณฑนากรหนุ่มผู้นี้ให้เธอหากเวลานี้น่ะหรือ เมินเสียเถอะ!

ภาพสไลด์บนหน้าจอของพิพิธภัณฑ์ดังๆทั่วโลกปรากฏขึ้นก่อนหลายๆ ภาพตามด้วยข้อมูลและความชื่นชอบซึ่งเป็นรสนิยมส่วนตัวของหญิงสาวที่ได้ให้โจทย์ไว้กับเขาก็เปลี่ยนเป็นภาพสเก็ตช์ขาวดำด้วยลายเส้นดินสอหลายๆภาพ และบางภาพก็ได้ลงสีสันด้วยสีเมจิกคร่าวๆ เป็นภาพ ‘Perspective’[1] หยาบๆซึ่งได้แบ่งโซนของพื้นที่ที่จะวางผลงานแต่ละประเภทเอาไว้ได้อย่างเป็นสัดส่วน

เพดานสูงที่มีความพิเศษมากกว่าจะเป็นเพียงแผ่นฝ้าสีขาวแบบทั่วๆไปก็จะมีเทคนิคการวาดภาพลงบนเพดาน คล้ายๆกับงานจิตรกรรมบนฝาผนังของทางฝั่งยุโรปที่เป็นผลงานของศิลปินเอกของโลกหลายๆ ท่านหากที่นี่คือประเทศไทย และโจทย์หลักๆ ที่มะลิลาให้ไว้ก็คือเธอประสงค์ให้ใครก็ตามที่เข้ามาที่นี่ได้เสพความงดงามและความประณีตแบบงานฝีมือของคนไทยกลับไปแน่นอนจิตรกรรมบนเพดานสูงจะต้องระดมช่างเขียนภาพผู้มากฝีมือเอาไว้มากมายหากก็ไม่เป็นปัญหาเพราะมัณฑนากรหนุ่มมีทีมนักศึกษาซึ่งเป็นรุ่นน้องของเขาที่พร้อมจะรับงานพิเศษนี้ไปทำด้วยค่าตอบแทนที่น่าพอใจ

“เดือนหน้าโครงการ ‘เดอะอาชาวินทร์เรสซิเดนซ์’ ของคุณพ่อผมจะเปิดเฟสใหม่เชิญนักวาดภาพประกอบสาวคนดัง เอ็กซ์ซาซากิ มาร่วมงานด้วยกันครั้งแรกเป็นนักวาดภาพเลือดใหม่ กำลังฮอตมาก คุณมะลิลาสนใจจะใช้บริการเธอบ้างไหมครับผมมองว่าเพื่อความหลากหลายเราน่าจะกันพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้ให้กับผลงานที่เป็นคอมเมอร์เชียลอาร์ตบ้างซึ่งงานกราฟิคและก็งานเพ้นท์ด้วยมือลงบนผลิตภัณฑ์ต่างๆตอนนี้ทั่วโลกฮิตมากเลยทีเดียวเชียวครับ อย่างเช่นงานเพ้นท์ลงบนรองเท้าผ้าใบบนเคสโทรศัพท์มือถือ บนสเก็ตบอร์ด บนเครื่องเรือน หรือแม้แต่บนลายผ้าในเมื่อเราแบ่งโซนไว้เพื่อรองรับงานกลุ่มนี้ ถ้าเราได้องค์ประกอบอื่นมาสนับสนุนเช่นแบ็กกราวด์หรือภาพวาดบนฝาฝนังแล้วได้นักเพ้นท์ฝีมือดีๆ ดังๆ มาร่วมงานด้วยผมมองว่ามันน่าจะเป็นจุดขายและทำการตลาดได้ดีอีกทางหนึ่ง”

มัณฑนากรหนุ่มที่เก่งกาจทั้งทางด้านศิลปะและธุรกิจเสนอหญิงสาวตามคำสั่งของชายหนุ่มที่พยักหน้าน้อยๆให้เพื่อนรักที่มาในคราบลูกจ้างของเขาเพื่อเป็นการขอบคุณ

“เอ็กซ์ซาซากิมะลิเคยเห็นผลงานของเธอบนเว็บไซต์ งานน่าสนใจมากเลยค่ะ ถ้าได้ร่วมงานกับเธอคงจะเยี่ยมไปเลย”มะลิลาตาวาวเมื่อได้รับรู้ข้อมูลจากพฤกษ์ “จะเป็นการรบกวนคุณพฤกษ์เกินไปไหมคะถ้ามะลิอยากจะนัดเธอเพื่อคุยคอนเซปต์กันดูก่อนไม่แน่ใจว่าคุณเอ็กซ์ซาซากิสนใจจะร่วมงานกับเราไหม”

“ได้เลยครับ ไม่มีปัญหาเมื่อไหร่ที่เธอเดินทางมาถึงเมืองไทย ผมจะนัดเธอเพื่อคุยเรื่องนี้กันอีกที”มัณฑนากรหนุ่มรับคำเสียงนุ่ม แน่นอนถึงเขาไม่ได้นัดนักวาดภาพประกอบสาวคนดังด้วยตัวเองหากชายหนุ่มที่นั่งฟังเงียบๆ ก็คงจะจัดการภารกิจนี้ให้เธอได้อย่างเรียบร้อยโดยให้เขาออกหน้าแทนเช่นเคย

บรรยากาศการพูดคุยเรื่องงานวันนี้เป็นที่น่าพอใจแน่นอนคนที่มีอารมณ์โกรธและน้อยใจในช่วงเช้าก็หายเป็นปลิดทิ้ง ที่เป็นเช่นนั้นได้ก็เพราะความอลังการของงานพรีเซ็นเทชั่นบวกกับรสนิยมและคำแนะนำที่ดีเลิศของมัณฑนากรหนุ่มคนเก่งสร้างความตื่นเต้นให้หญิงสาวที่ต้องการจะได้เห็นผลงานจริงโดยเร็วที่สุดและแน่นอนเดือนหน้าเธอก็จะมีอีกหนึ่งนัดที่สำคัญ

“เอาเป็นว่าตามนี้เลยค่ะคุณพฤกษ์เริ่มงานขั้นตอนต่อไปได้เลย มะลิอยากให้มันเสร็จเร็วๆ แต่ของานเนี้ยบๆ นะคะจะได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที”

มะลิลาเอ่ยในตอนท้ายก่อนที่ชายหนุ่มจะขอตัวกลับโดยเขาต้องปฏิเสธอาหารมื้อกลางวันอีกครั้งด้วยเหตุผลเดิมที่ว่า ‘ต้องไปทานมื้อเที่ยงกับคนรัก’ และนั่นก็เป็นการปฏิเสธคำชวนที่มะลิลายิ้มรับอย่างยินดีเธอชื่นชมในความรักที่ชายหนุ่มผู้นี้มีให้หญิงสาวผู้โชคดีคนนั้น

บ่ายโมงตรงหลังจากเจ้าสัวมหาศาลเดินทางไปสังเกตการณ์เฟสใหม่ของโครงการที่เขาเพิ่งเข้ามามีรายชื่อเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่‘ปริญญากุลเรียลเอสเตท’เขาก็มีนัดกับชายหนุ่มที่มีวัยใกล้เคียงกับลูกสาวของเขาแล้วก็ได้เปลี่ยนสถานที่นัดเพราะกว่าจะเดินทางจากชานเมืองกลับไปยังบริษัทก็คงใช้เวลากว่าชั่วโมง

ทันทีที่เขาได้รับโทรศัพท์จากชายหนุ่มเขาก็ได้เปลี่ยนสถานที่นัดพบเป็นร้านอาหารแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าใกล้ๆกับโครงการคอนโดมิเนียมหรูชานเมือง เป็นการถือโอกาสทำความรู้จักกับลูกชายคนเดียวของอดีตผู้ถือหุ้นใหญ่ตามสมควร

“ไม่คิดว่าเป็นการเล่นขายของไปหน่อยหรือที่จะมาขอซื้อหุ้นที่คาดหวังผลกำไรมหาศาลได้ในอนาคตคืนกันง่ายๆ”เจ้าสัวมหาศาลเอ่ยถามเสียงเรียบๆหลังจากวางชาร้อนที่เพิ่งจิบไปเพียงเล็กน้อยลงบนโต๊ะ “ถึงคุณจะวัยเดียวกับลูกสาวของผมแต่ก็ใช่ว่าผมจะต้องเอ็นดูคุณจนต้องเอาหุ้นใส่พานคืนคุณหรอกนะพ่อหนุ่มน้อย”

“ผมไม่ต้องการความเอ็นดูจากท่านเจ้าสัวครับเพียงแต่ตอนนี้ผมประสบความสำเร็จในการปล่อยหุ้นยี่สิบเปอร์เซ็นต์ในมือให้ท่านเจ้าสัวไปแล้ว”ปริญเอ่ยเสียงนุ่มด้วยท่าทางมั่นอกมั่นใจใบหน้าหล่อเหลาและดวงตาฉายแววขบถของเขามองคนที่อายุมากกว่าเขาหลายรอบอย่างไม่เกรง

“ผมอยากรู้จริงๆว่าคุณประสบความสำเร็จยังไงที่ขายหุ้นให้ผม” คนที่อาวุโสกว่าเอ่ยถามพลางมองตาชายหนุ่มตรงหน้าด้วยความสนใจมากกว่าเดิม

“ประสบความสำเร็จเรื่องส่วนตัวครับผมขออนุญาตไม่ตอบ” ริมฝีปากหยักของชายหนุ่มตอบเพียงสั้นๆจะให้เขาบอกใครได้อย่างไรว่าการได้ป่วนประสาทบิดาคือความสำเร็จขั้นสูงสุดของเขา“ตอนนี้ผมก็พอใจแล้วจึงอยากจะขอความกรุณาท่านเจ้าสัวขายหุ้นคืนให้ผมท่านเจ้าสัวยอมปล่อย ‘พีเคอาร์อีเอส’เพียงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ตำแหน่งราชาหุ้นแห่งสยามของท่านเจ้าสัวแทบไม่สะเทือน”

ชายหนุ่มที่มีใบหน้าขาวเกลี้ยงเกลาตอบด้วยท่าทางสบายๆการแต่งกายด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวดูเรียบร้อยของเขาไม่สามารถปกปิดความดื้อรั้นภายในที่ซ่อนอยู่ในตัวของเขาได้มิด คิ้วหนาๆ ที่มีรอยบากนิดๆเหนือดวงตาขบถคู่นั้นยกขึ้นเล็กน้อยราวกับรอฟังคำตอบว่าชายที่อาวุโสกว่าจะว่าอย่างไร

“คุณก็รู้จักผมดีว่าผมเป็นราชาหุ้นแล้วถ้าจะให้ปล่อยหุ้นดีๆ หลุดมือไป ดูจะอ่อนหัดไปหน่อยการทำธุรกิจไม่ใช่การเล่นขายของที่เมื่อพอใจกับเรื่องส่วนตัวแล้วก็จะมาขอคืนกันง่ายๆยี่สิบเปอร์เซ็นต์ที่คุณว่า มีผลต่อการที่ผมจะเข้าไปมีส่วนร่วมในบอร์ดบริหารมันไม่ใช่แค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ธรรมดาๆ ก่อนตัดสินใจขายน่าจะรอบคอบกว่านี้หน่อยนะพ่อหนุ่มน้อย ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ นักหรอก”คนที่นั่งหลังพิงโซฟาภายในร้านอาหารจีนตอบเรียบๆ ดวงตาฉายแววประสบการณ์ที่แกร่งกล้ามองชายหนุ่มรุ่นลูกได้ทะลุกลางใจเขารู้ข้อมูลเชิงลึกภายในของครอบครัว ‘ปริญญากุล’ เป็นอย่างดี

“แล้วถ้าผมยอมขายคืนให้คุณมีอะไรมาแลก” เสียงทุ้มของคนที่อาบน้ำร้อนมาก่อนหลายสิบปีเอ่ยถามเรียบๆ

“ตอนนี้ยังไม่มีครับ แต่ในอนาคตถ้าผมมีโปรเจกต์ดีๆเราก็อาจจะมีโอกาสได้ร่วมงานกันในฐานะหุ้นส่วน ห้าสิบๆ” เสียงนุ่มของคนที่ลืมตาดูโลกทีหลังหลายสิบปีตอบด้วยท่าทางผ่อนคลาย

“ไม่ง่ายไปหน่อยหรือครับมั่นใจขนาดไหนว่าผมจะกล้าลงทุนกับเด็กน้อยที่ยังไม่หย่านมอย่างคุณ”

“ท่านเจ้าสัวไม่ต้องเชื่อผมตอนนี้ก็ได้ครับแต่เวลาจะพิสูจน์ว่าเด็กไม่หย่านมอย่างผมสามารถทำอะไรได้บ้าง”

“แล้วถ้าผมไม่สนใจจะขายล่ะ”

“ผมก็จะพยายามเอาหุ้นคืนจากท่านเจ้าสัวด้วยวิธีอื่น”

“ถ้าอย่างนั้นผมก็อยากรู้เหมือนกันว่าคุณจะใช้วิธีไหน” เจ้าสัวคนดังตอบเรียบๆ“แต่ตอนนี้ผมก็ไม่คิดที่จะขาย เอาเป็นว่า ขอบใจมากนะพ่อหนุ่มน้อยที่ขับรถมาตั้งไกลเพื่อจะมาฟังคำปฏิเสธด้วยตัวเอง มื้อนี้ผมเลี้ยงถือว่าเลี้ยงข้าวเพื่อนลูกสาว พีชเรียกพนักงานมาเช็คบิล”

การเจรจาต่อรองจบลงเพียงแค่นั้นก่อนที่เจ้าสัวคนดังจะลุกเดินออกไปจากร้าน ปล่อยให้หนุ่มน้อยที่ยังไม่หย่านมในสายตาของเขานั่งอยู่ในร้านต่อไปเพียงลำพัง

“ขอคืนดีๆ ไม่ให้จะมาโทษกันที่หลังไม่ได้นะครับท่านเจ้าสัว”

ในความคิดของชายหนุ่มที่ถูกปฏิเสธทั้งที่เขาเตรียมตัวมาพร้อมแล้วว่าคงจะได้ยินคำนี้ในวงการหุ้นไม่มีใครไม่เคยได้ยินกิตติศัพท์ ‘เขี้ยวลากดิน’ ของเจ้าสัวคนดัง และนั่นก็คือแรงผลักดันให้เขาเตรียมเดินหน้าอย่างเต็มสูบเพื่อพิชิตใจลูกสาวคนเดียวของเขาเพื่อเป็นการเอาคืนและเขาก็คาดหวังผลกำไรมหาศาลด้วยในคราวเดียวกัน...



[1] Perspective หมายถึงทัศนียภาพ (ทัศน + ภาพ หรือ ภาพที่ใช้ตามอง ) หรือภาพที่มีการนำด้วยจุดสายตา


*****************************************************************

หนังสือออกจากโรงพิมพ์แล้ว พร้อมส่งค่ะ

สนใจสอบถามได้ที่ wikky7ster@gmail.com

หรือสอบถามที่หน้าแฟนเพจค่ะ




Create Date : 17 ธันวาคม 2557
Last Update : 17 ธันวาคม 2557 21:46:36 น. 0 comments
Counter : 298 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

wikky_78
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add wikky_78's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.