บ่วงมะลิลา

ผู้เขียน:วรรณรวี

พิมพ์ครั้งแรก:พฤศจิกายน ๒๕๕๗

 สงวนลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ ๒๕๓๗

ไม่อนุญาตให้คัดลอกเนื้อหาส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดเพื่อสร้างฐานข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เป็นเอกสารรูปเล่ม หรือเพื่อการใดๆเว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าของลิขสิทธิ์เท่านั้น

ISBN : ๙๗๘ – ๖๑๖ – ๓๗๔ – ๐๗๑ – ๗

ราคา๒๓๐ บาท

***************************************************

ตัวอย่างค่ะ

๑

บุรุษนิรนาม&หญิงสาวนิรนาม

แสงสีทองยามเช้าสาดเข้ามาภายในห้องนอนของโรงแรมหรูระดับห้าดาวในเมืองที่ได้ชื่อว่างดงามเป็นมิตร และมีชีวิตชีวามากที่สุดเมืองหนึ่งของประเทศอิตาลี ฟลอเรนซ์ยามเช้าที่อุณหภูมิภายนอกเพียงเลขตัวเดียวเท่านั้นหากบนเตียงนอนยับๆ ยามนี้มีชายหนุ่มเจ้าถิ่น ใบหน้าคมคายของเขาจัดได้ว่าหล่อเหลารูปร่างของเขาสูงใหญ่และเวลานี้เขาก็กำลังนอนเปลือยกายในสภาพที่เรียกว่าหลับเป็นตายคล้ายกับคนหมดเรี่ยวแรงเพราะกรำศึกหนักมาทั้งคืนผิวสีแทนละเอียดที่ฉาบลงบนรูปร่างงดงามประกอบด้วยมัดกล้ามสมชายชาตรีและขณะนี้มีผ้าห่มผืนสีขาวซึ่งปกปิดเพียงแค่ช่วงล่างของร่างกายแกร่งของเขาเท่านั้นและนั่นยังไม่รวมถึงสภาพเตียงนอนขนาดคิงไซส์ ที่สภาพยิ่งกว่านิยามของคำว่า‘ยับ’ ราวกับเป็นสนามรบที่ผ่านการประลองศึกสงครามมาอย่างหนักหน่วงซึ่งภาพทั้งหมดนี้ยังไม่น่าตระหนกเท่ากับรอยหยดเลือดจุดเล็กๆที่เห็นประปรายอยู่บนผ้าปูที่นอนสีขาว โดยเจ้าของหยดเลือดจุดเล็กๆนั้นกำลังยืนกอดอกมองภาพตรงหน้าด้วยความรู้สึกหลายๆ อย่างปนเปกันไปหมดร่างอรชรที่ปราศจากอาภรณ์ใดๆ บนกายน้ำตาคลอ

‘ผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ปล้นพรหมจารีที่ครองมานานยี่สิบห้าปีของเธอไปแล้วอย่างหน้าด้านที่สุด’ และนั่นคือคำบริภาษภายในใจและในสมองของหญิงสาว

แต่ทว่าถึงแม้สถานการณ์จะล่อแหลมและดูเหมือนเธอตกเป็นผู้เสียหายเช่นไรหากสมองด้านยุติธรรมก็กระซิบก้องในหูบอกเธอว่า เธอเองไม่ใช่หรือที่ตกลงใจมากับเขาเองแต่โดยดีตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาไม่มีการขู่เข็นบังคับข่มขืนจิตใจ และไม่มีการทำร้ายร่างกายใดๆ ทั้งสิ้นหลังจากที่ทั้งคู่เจอกันในบาร์แห่งหนึ่ง

และด้วยเหตุผลสิ้นคิดของเธอเพียงแค่ว่าอยากจะลองมีประสบการณ์ครั้งแรกดูสักครั้งก่อนกลับเมืองไทยในอีกไม่กี่วันข้างหน้าเธอตัดสินใจแล้วว่าชาตินี้คงจะไม่แต่งงานกับผู้ชายคนไหน และจะอยู่กับบิดาซึ่งรักหวงแหนและทะนุถนอมลูกสาวคนเดียวราวกับไข่ในหินอย่างเธอมากกว่าใครไปจนวันตายเธอจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องรักษาความบริสุทธิ์เอาไว้ให้กับผู้ชายคนไหนทั้งสิ้นและในที่สุดแจ็กพอตก็มาตกอยู่กับผู้ชายซึ่งดูดีเกินคำว่า ‘เทพบุตร’ คนที่กำลังนอนสลบไสลอยู่บนเตียงนอนยับๆผู้นี้

หญิงสาวร่างเล็กกะทัดรัดประดับด้วยใบหน้าสวยแสนซนน่ารัก ดวงตากลมโตเปล่งประกายสีนิลชั้นดีภายใต้คิ้วเรียวโค้งได้รูปรับกับหน้าผากนูนเล็กของเธอริมฝีปากหยักสีชมพูบางเฉียบ จมูกเล็กเชิดอย่างเด็กรั้นผิวขาวอมชมพูที่ยามนี้มีรอยจ้ำสีทับทิมประทับไปทั่วทั้งร่างเธอกำลังนึกย้อนภาพเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมา ภาพงานเลี้ยงส่งของนักศึกษาที่กำลังจะจบการศึกษาระดับปริญญาโทของสถาบันศิลปะที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศนี้กลุ่มเพื่อนนักศึกษาหนุ่มสาวของเธอเกือบสิบชีวิตได้ท้าทายให้แต่ละคนที่กำลังจะออกไปเผชิญโลกกว้างภายนอกรั้วมหาวิทยาลัยและกำลังจะเดินทางกลับประเทศภูมิลำเนาได้ทดลองทำสิ่งที่ท้าทายและไม่เคยทำมาก่อนและคืนนี้ก็จะเป็นคืนสุดท้ายของคนที่ครองตัวเป็นสาวบริสุทธิ์ที่ไม่มีรอยขีดข่วนแม้ปลายเล็บให้น่าอับอายอีกต่อไป

หากการจะต้องถูกจับคู่โดยเพื่อนๆที่รับรู้กันดีว่ามีชายหนุ่ม หนึ่งในกลุ่มเพื่อนของเธอคอยตามจีบและหวังพิชิตใจเธอมาแล้วหลายปีหากไม่เป็นผลและถ้าจะต้องให้เธอเลือกเขาเพื่อประสบการณ์ครั้งแรก อันโตนิโอ วิเอรี่นักศึกษาหนุ่มเนิร์ด หน้าตาดี เก็บตัว และเป็นคนจริงจังกับชีวิตก็ต้องเป็นคนสุดท้ายที่เธอเลือกอย่างแน่นอน

แต่มันเรื่องอะไรกันเล่าที่สิ่งสำคัญที่สุดและครั้งแรกในชีวิตของเธอครั้งนี้ จะต้องมีใครชี้ชะตาผู้หญิงที่มีความมั่นใจเกินรูปลักษณ์ภายนอกอย่างเธอควรจะต้องเป็นผู้ลิขิตชีวิตด้วยตนเอง

ราวกับพระเจ้าเข้ามานั่งกลางใจของหญิงสาวที่กำลังหมดตัวเลือกและภาพที่ปรากฏตรงหน้าก็คือชายหนุ่มรูปงามตามแบบฉบับของชายหนุ่มอิตาเลี่ยนที่สมบูรณ์แบบเส้นผมของเขามีสีน้ำตาลเข้ม หยักศกเป็นลอนเพียงเล็กน้อยหากดูเป็นธรรมชาติชนิดที่ไม่ต้องพึ่งผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมใดๆบนร่างกายแข็งแกร่งงดงามของเขามีเพียงเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ติดกระดุมเสื้อไม่ครบทุกเม็ดกับกางเกงยีนสีซีดและรองเท้าหนังที่สามารถมองเห็นได้ในระยะใกล้ใบหน้าคมคายของเขาระบายไปด้วยหนวดเคราจางๆยิ่งทำให้เขาดูหล่อเหลาสมชายชาตรีมากยิ่งขึ้นไปอีกหลายเท่าตัวดวงตาสีน้ำตาลอมฟ้าครามคู่นั้นเหลือบมองมาที่เธอหนึ่งครั้งก่อนที่เขาจะสั่งเครื่องดื่มสีอำพันที่เคาน์เตอร์บาร์ภาพนั้นทำให้หญิงสาวที่หวังจะมีประสบการณ์ครั้งแรกในคืนนี้แทบลืมหายใจไปชั่วขณะชายหนุ่มผู้นี้คือคนที่พระเจ้าประทานมาให้เธอเลือก แล้วคนที่ไม่เคยมีประวัติศาสตร์‘อ่อย’ ผู้ชายหน้าไหนมาก่อนอย่างเธอควรจะเริ่มต้นอย่างไร

แน่นอนว่าการตัดสินใจสละสิ่งสำคัญเพื่อประสบการณ์ครั้งแรกเธอจะไม่หวนกลับมาเสียใจภายหลังเธอกับเขาก็คงจะได้เจอกันเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้ายและก็จะไม่มีใครจำใครได้อีกอย่างแน่นอน

จัสมินหรือ มะลิลา เอื้อทวีสกุล หรือ น้องมะลิของบิดา เธอเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าสัวราชาหุ้นแห่งสยามประเทศเธอกำลังคิดหาวิธีการกำจัดพรหมจรรย์ที่เธอเห็นว่าเป็นปมด้อยของตัวเองให้ได้ภายในคืนนี้เธออายุยี่สิบห้าปีแล้ว และกำลังจะหอบปริญญาโท สาขาทัศนศิลป์ในสถาบันที่ยิ่งใหญ่กลับประเทศไทยเพื่อให้บิดาได้ภาคภูมิใจ เธอเป็นเด็กเรียนดีมุมานะ และมีปริญญาหลายใบตั้งแต่อายุยังน้อยและเธอก็เป็นคนที่มั่นใจในตัวเองกับการใช้ชีวิตอย่างโลดโผน ผจญภัย อดทนและลุยในทุกสถานการณ์

แต่ถึงกระนั้นก็ยังมีสิ่งท้าทายที่เธอไม่เคยทำมาก่อนในขณะที่เป็นแกะดำในหมู่เพื่อนๆนั่นก็คือการออกเดต และคบหากับใครอย่างจริงจังแน่นอนว่าประสบการณ์ครั้งแรกคือสิ่งที่เธอปรารถนาเช่นกันแต่จะทำอย่างไรได้ในเมื่อเธอไม่ชอบการผูกมัดและเป็นภาระ ฉะนั้น ‘วันไนต์แสตนด์’[1] ก็คือหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสมที่สุดแล้วสำหรับเธอ

ร่างอรชรในเดรสสีงาช้างเกาะอกความยาวแค่เข่าหากผ้าฝ้ายปักลายสีนิลคลุมไหล่บางๆ ทำให้ชุดของเธอไม่หวือหวาจนเกินไปนักหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังใช้ความคิดเพื่อหาวิธีการที่จะบรรลุเป้าหมายก่อนกลับเมืองไทยและเธอก็จะได้ประกาศก้องกับบิดาได้อย่างเต็มปากว่าเธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้วและโตพอที่จะรับผิดชอบชีวิตและก่อตั้งธุรกิจที่เธอต้องการดูแลด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้ท่านคอยประคบประหงมดูแลเธอราวกับไข่ในหินอีกต่อไป

ถึงแม้ว่าหญิงสาวจะเดินทางมาร่ำเรียนไกลถึงอีกซีกโลกแต่เจ้าสัวมหาศาล เอื้อทวีสกุล ก็บินมาดูแลลูกสาวสุดรักสุดหวงเกือบทุกเดือนและเพิ่งจะปล่อยให้ มะลิลาอยู่ประเทศนี้ตามลำพังเพื่อจัดการกับวิทยานิพนธ์ของเธอในช่วงครึ่งปีหลังเธอจึงได้ใช้ชีวิตในรูปแบบที่เรียกว่าดูแลตัวเองอย่างเต็มตัวแม้ว่าจะยังคงมีรายได้หลักมาจากเงินของบิดาก็ตาม

พลันที่เห็นเป้าหมายนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้าเคาน์เตอร์บาร์เธอแน่ใจว่าเขามาคนเดียวอย่างแน่นอน มะลิลาจึงหยิบแก้วเครื่องดื่มตรงหน้าทั้งของเธอและของเพื่อนสาวที่วางอยู่หน้าโต๊ะ ยกขึ้นดื่มทั้ง ตากีล่า วอดก้าออนเดอะร็อค หรือแม้กระทั่ง ค็อกเทลเบาๆ เพื่อย้อมใจและเพิ่มความกล้าหาญให้ตัวเองแน่นอนว่าภาพนั้นสร้างความไม่พอใจให้กับ อันโตนีโอ ยิ่งนักเพราะเขายังแอบหวังว่านางในฝันของเขาจะเลือกเขาเพราะรู้ดีว่าเธอเองก็ยังไม่มีใครอย่างแน่นอน

ร่างบางลุกขึ้นจากที่นั่งก่อนเดินโซเซไปยังชายหนุ่มเป้าหมาย

“mi scusi !”[2] (อุ๊ย! ขอโทษค่ะ)

เสียงหวานของหญิงสาวที่ตั้งใจจะบรรลุเป้าหมายเอ่ยขึ้นขณะเงยหน้ามองชายหนุ่มเจ้าของวงแขนที่โอบรัดร่างของเธอเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไปกองกับพื้นและนั่นก็คือจุดเริ่มต้นของทั้งคู่ก่อนที่จะเดินจูงมือกันออกไปจากบาร์แล้วมาจบลงที่โรงแรมหรูแห่งนี้

ภาพเหตุการณ์เมื่อคืนที่ผ่านมาผสานกับภาพบทรักร้อนแรงของทั้งคู่บนเตียงนอนแห่งนี้ยังวนเวียนอยู่ในห้วงความคิดของมะลิลาเธอจำทุกอย่างได้ดี ถึงเธอจะดื่มแอลกอฮอล์มากพอสมควรแต่มันก็ไม่ใช่ข้ออ้างว่าเธอพลาดในเมื่อเธอเองตั้งใจที่จะกำจัดพรหมจรรย์ที่น่าอับอายของตัวเองและเทพบุตรนิรนามผู้นี้ก็คือคนที่เธอเลือกแน่นอนเธอกับเขาจะไม่มีวันได้พบเจอกันอีก เพราะอีกไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์เธอก็จะบินกลับประเทศไทย

หญิงสาวปาดน้ำตาทิ้งแล้วใช้สองมือเล็กๆ ที่กอดอกเอาไว้ก่อนหน้า ยกขึ้นมาตบแก้มเรียกขวัญของตัวเองเบาๆสองสามครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ย่องเบาๆ เพราะกลัวว่าบุรุษนิรนามที่กำลังสลบไสลจะตื่นซึ่งถ้าหากเป็นเช่นนั้นเธอก็ไม่รู้เช่นกันว่าจะทำหน้าเช่นไรเขาคงรู้หมดแล้วว่าเธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่องเพราะบทรักร้อนแรงที่ว่ามันช่างไม่ประสีประสาเอาเสียเลย และคงจะเป็นภาระให้เขาซึ่งดูเหมือนว่าเขาเองก็คงเต็มใจไม่น้อยเพราะตลอดทั้งคืนที่ผ่านมาเขาทั้งถนอมสลับกับช่วงเวลาที่ร้อนแรงในบางจังหวะที่เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ดิบได้หรือแม้กระทั่งเสียงกระซิบแผ่วเบาบอกรัก? ใช่! เสียงกระซิบบอกรัก! ซึ่งเขารู้ได้อย่างไรว่าเธอชื่อ ‘จัสมิน’

มะลิลาค่อยๆย่องเบาๆแล้วหยิบเสื้อผ้าที่ตกอยู่บนพื้นกระจัดการจายไปทั่วห้องจนครบทุกชิ้นขึ้นมาสวมเพียงไม่กี่นาทีเธอก็รีบเดินออกไปจากโรงแรมหรูอย่างรวดเร็วราวกับมีคนวิ่งไล่หลังโดยเธอไม่สนใจว่าผู้ชายที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงยับๆราวกับหลับเป็นตายก่อนหน้านั้นจะลืมตาขึ้นมามองตามแผ่นหลังบอบบางของเธอแล้วเผยรอยยิ้มมุมปาก

“sie propriauna piccola cattiva,mia Giasmin.Quando torniamo allaThailandia.”[3] (ปีศาจน้อยซนจริงๆ ลิตเติ้ลจัสมินของพี่ กลับเมืองไทยพี่จะฟ้องคุณลุงซะให้เข็ด)

เทพบุตรนิรนามเอ่ยกับตัวเองเบาๆพร้อมรอยยิ้มบางๆ บนใบหน้าหล่อเหลาที่สุดแสนจะอิดโรย