Mae Hong Son in my memory Part II
ต่อตอนที่ 2 จ้า กับเรื่องสนุกๆ ที่ปาย และห้วยน้ำดัง


วันที่ 5 พฤศจิกายน 2549

เช้านี้ที่ อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อากาศเย็นกำลังดี มีหมอกสวยๆ ให้เรารู้สึกสบาย บรรยากาศที่ปายลานนารีสอร์ทสวยทีเดียวแหละ อาจเพราะที่นี่ตั้งอยู่บนเนินเขาติดกับทุ่งข้าว เราเลยได้สัมผัสบรรยากาศดีๆ ที่หาไม่ได้จากที่ไหนๆ

ทานข้าวเช้าที่รีสอร์ทเสร็จ ก็ออกลุยเมืองปายกัน เริ่มที่วัดพระธาตุแม่เย็น เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่พวกเรา ที่นี่ตั้งอยู่บนเขา ทำให้เราได้เห็นตัวเมืองปายรอบๆ คล้ายๆ กับวิวที่วัดพระธาตุดอยกองมู แต่เมื่อเปรียบเทียบกันจะเห็นว่า อำเภอปายดูเจริญกว่า อำเภอเมืองอีกนะ ที่นี่กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครๆ เริ่มรู้จักกันมากขึ้นจากหนังเรื่อง รักจัง นั่นแหละ กับอยู่ไม่ไกลจากจังหวัดเชียงใหม่ ทำให้ฝรั่งพากันมาเที่ยวและพักแบบ long stayกันที่นี่ยาวจนจะกลายเป็นถนนข้าวสารไปแล้ว แย่ๆ จัง แต่ถึงยังไงความเป็นเมืองปาย เมืองเล็กๆ ก็ยังอยู่ เราได้เห็นชัวิตชาวปายถ้าขับรถออกมานอกเมืองสักหน่อย .... ไปเที่ยวกันต่อดีกว่า

จากวัดพระธาตุแม่เย็น เราก็ขับรถต่อเพื่อไปไหว้หลวงพ่ออุ่นเมือง อย่างที่ตั้งใจตั้งแต่กรุงเทพฯ แล้ว ถ้าใครเคยอ่านหนังสือ Unseen In thailand ก็น่าจะรู้จักวัดน้ำฮูและหลวงพ่ออุ่นเมืองกันดี พระพุทธรูปองค์นี้ท่านมีน้ำออกจากเศียรซึ่งว่ากันว่าศักดิ์สิทธิ์มาก เมื่อพวกเรามีโอกาสได้มาถึงเมืองปายแล้ว มีหรือจะพลาด รีบพากันเข้าไปกราบขอพร พร้อมชมประวัติย่อๆ ของวัด และภาพการเปิดเศียรพระพุทธเพื่อขอน้ำมนต์ออกมา จากนั้นก็จัดแจงขอกลับบ้านกันคนละขวดสองขวด นอกจากน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์แล้ว วัดน้ำฮูยังมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์อีกอย่างคือ ที่นี่มีเจดีย์ที่บรรจุพระอัฐิและพระเกศาของพระนางสุพรรณกัลยา พระพี่นางของพระนเรศวรมหาราชซึ่งมีประวัติความเป็นมาน่าสนใจมากๆ ใครอยากรู้ต้องลองไปเที่ยวกันนะ

ขับรถออกจากวัดน้ำฮู ที่ต่อไปใกล้ๆ กันคือน้ำตกหมอแปง ที่ในวันนี้แทบไม่มีน้ำสักเท่าไหร่ แวะถ่ายรูปกันสักพักก็ออกเดินทางหาข้าวกลางวันทานกันดีกว่า

กลางวันนี้เราตั้งใจเลยล่ะว่าต้องไปทานอาหารสุขภาพที่สิบสองพันนารีสอร์ทให้ได้ ที่ใครๆ ในเวบก็ชมกันนักหนาว่ารีสอร์ทนี้น่ารัก บรรยากาศดี ติดริมน้ำปาย บวกกับเวบไซด์ก็น่ารักของรีสอร์ท เรากับพี่เดียร์เลยขอเลยว่าต้องไปดูให้ได้ เราสรุปเลยล่ะกันว่าโดยรวมรีสอร์ทนี้ก็ถือว่าน่าพักนะ แต่เราว่าเก่าไปสักหน่อย เมื่อเทียบกับปายลานนา แถมราคาสูงกว่าอีก อาหารรสชาติใช้ได้ แต่รอนานจัง แต่ก็ให้อภัยได้เมื่อเจอบรรยากาศสบายๆ นั่งฟังเพลงเพราะๆ แนวที่เราชอบเลยล่ะ รอนานสักนิด คุยกันเพลินๆ ก็ Ok แหละ เสียอีกอย่างที่แม่น้ำปายขยับหนีรีสอร์ทออกไปสักเมตร กลายเป็นตลิ่งโล่งๆ ติดบ้านพักแทน อืม ถ้าเป็นเมื่อก่อนที่น้ำจะท่วมตอนต้นปี 48 ให้จ่ายแพงทุกคนก็ต้องแย่งกันมานอนที่นี่แน่นอน

เราแวะไปร้าน All about coffee ร้านมิตรไทย ร้านสบายดีแกลลอรี่ บอกชื่อแล้วอย่าบอกนะว่าไม่รู้จักร้านพวกนี้ ร้านน่ารักที่อยู่ในหนังรักจังนั่นแหละ ฉากที่พระเอกมานั่งจิบกาแฟรอนางเอกที่เป็นเจ้าของร้านมิตรไทยไง ตอนแรกกะว่าจะลงไปถ่ายรูปแป๊บเดียว แต่กลายเป็นว่าติดลมนานเป็นชั่วโมง ก็ร้านเค้าออกจะน่ารักขนาดนี้ มีโปสการ์ดสวยๆ ขายด้วยนะ ถ้าไปก็อย่าลืมเขียนส่งนะจ๊ะ ไม่งั้นจะเสียใจมากๆๆๆ โกโก้เย็นที่ All about coffee อร่อยมากๆ เลย เฮ้อ!! อยากไปอีกจัง

จากนี่เราออกเดินทางมุ่งหน้าสู่ห้วยน้ำดัง กลัวจะมืดซะก่อนแล้วจะอดดูวิวสวยๆ แต่แหมระหว่างทางมันก็มีที่ให้แวะอีกจนได้ สะพานประวัติศาสตร์ท่าปาย และบ่อน้ำร้อนท่าปาย เดินเข้าไปต้มไข่ และออกมานั่งแช่เท้ากันสบายมากๆๆ สุดท้ายเราก็ถึงห้วยน้ำดังตอนมืดแล้วอีกจนได้แหละ

ถึงห้วยน้ำดัง ก้าวขาออกมาจากรถ วิ่งจู๊ดไปเช็คอิน ก็อากาศมันเย็นๆๆๆๆ ดีจังได้เจออากาศเย็นแล้ว แบกสัมภาระเข้าบ้านพักอุทยานฯ ห้วยน้ำดัง 3 ที่เราจองล่วงหน้าตั้ง 2 เดือน ออกมาทานข้าวที่ร้านค้าสวัสดิการกับบรรยากาศที่ห้อมล้อมด้วยหุ้มเขา กับลมเย็นๆ แล้วเราก็มาปล่อยโคมลอย (คืนลอยกระทง) ที่แวะซื้อมาจากอำเภอปาย 6 อัน ปล่อยโคมกี่ทีก็สนุกเหมือนเคย ที่ห้วยน้ำดังนี่นอกจากอากาศจะหนาว ลมจะแรง ยังให้เราลุ้นว่าโคมมันจะขึ้นไปทางไหนอีก โดยเฉพาะอันสุดท้ายที่ทุกคนรวมใจอธิษฐานเนี่ย กว่าจะพาตัวเองขึ้นไปได้ เล่นเอาเพื่อนๆ วิ่งตามโคมกันเพลิน จนลืมตัวว่าอยู่บนเขานะจ๊ะ วิ่งไม่ดูทางอย่างงี้จะตกเขาได้น้า ส่วนเราก็ได้ปล่อยโคมกะพี่เราด้วยแหละ ลุ้นๆ อยุ่ว่าปล่อยกัน 2 คนมันจะขึ้นมั๊ยน้า แล้วมันก็ขึ้นฉิ่ว เจ๋งกว่าทุกอันเลย

ปล่อยโคมเสร็จก็กลับบ้านพัก อาบน้ำอุ่นๆ จากเครื่องทำน้ำร้อนจากแก๊ส ควันเต็มห้องน้ำเลยแหละ ดูรูปหลายร้อยรูปกว่าจะได้นอนก็ดึกอีกแล้ว..ว

คืนนี้หลับฝันดี พรุ่งนี้จะรีบตื่นมาดูทะเลหมอกตอน 6 โมงเช้า กับบึ่งรถไปเที่ยวงานราชพฤกษ์จ้า