บัตรชมภาพยนตร์เรื่อง Water for Elephants มายารัก ละครสัตว์
Water for Elephants สร้างจากนวนิยายขายดีอันดับหนึ่งที่เล่าเรื่องราวของความรักต้องห้ามในแดนมหัศจรรย์ที่เต็มไปด้วยการผจญภัย ความพิศวง และภยันตราย
เจค็อบ นักศึกษาสัตวแพทย์ที่ชีวิตพลิกผัน พบและตกหลุมรัก มาร์เลน่า ดาวเด่นแห่งคณะละครสัตว์โบราณ พวกเขาได้ค้นพบความงามท่ามกลางโลกละครสัตว์และความรักต่อช้างพิเศษตัวหนึ่ง ทั้งคู่ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากมาย รวมถึงความโกรธแค้นของ ออกัส สามีผู้มีเสน่ห์ทว่าอันตรายของมาร์เลน่า เจค็อบก็ช่วยมาร์เลน่าออกจากชีวิตที่ไร้ซึ่งความสุขและทั้งคู่ก็ค้นพบความรักอันยืนยาว
เมื่อนวนิยายเรื่อง Water for Elephants ของซาร่า กรูเอน วางแผงในปี 2006 ก็ประสบความสำเร็จอย่างล้นหลามโดยอยู่ในรายชื่อหนังสือขายดีของ New York Times นานถึง 12 สัปดาห์ และยังขายดีติดอันดับต่อไปในรูปแบบปกอ่อน ผู้อ่านทั่วโลกตอบรับแง่มุมต่างๆ ของตัวละครของกรูเอน ทั้งความสนุก ความรัก การไถ่บาป และความท้าทาย “Water for Elephants พูดถึงความรักในทุกรูปแบบ ทั้งระหว่างชาย-หญิง, ครอบครัว และระหว่างคนกับสัตว์” กรูเอนกล่าว “มันพูดถึงวิธีที่เราปฏิบัติต่อกันและกัน บางรั้งเราก็ทำดีต่อกัน แต่บางครั้งก็ไม่”
รีส วิทเทอร์สปูน ก็เป็นแฟนคนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ด้วย “มันเป็นเรื่องราวที่กินใจเกี่ยวกับความรัก, ความหวัง, การไถ่บาป, โอกาสที่สอง และการค้นหาความสุข” นักแสดงสาวเจ้าของรางวัลออสการ์กล่าว “ฉันถูกดึงเข้าไปในโลกที่ซาร่าสร้างขึ้น” ปีต่อมาวิทเทอร์สปูนก็ได้รับบทนางเอกของหนังสือเล่มนี้ “มาร์เลน่า” ดาวเด่นในคณะละครสัตว์คณะหนึ่งที่กำลังหมดความนิยม มาร์เลน่าเป็นนักแสดงที่สวย เป็นธรรมชาติและสง่างาม เธอมีดวงตาและเส้นผมที่เปล่งประกาย ผิวพรรณงดงาม เครื่องประดับสีชมพูระยิบระยับทำให้เธอดูแวววาวจับตา และเธอยังมีความสามารถในการสื่อสารกับสัตว์อีกด้วย แต่ชีวิตส่วนตัวของมาร์เลน่ากลับตรงข้ามกับความสุขที่เธอค้นพบในการแสดง เธอติดอยู่ในชีวิตคู่ที่ทรมานและซับซ้อนกับ “ออกัส” ผู้ควบคุมการแสดงและเจ้าของคณะละครสัตว์ที่มีรูปลักษณ์ภายนอกสง่างามและมีเสน่ห์ เขาสามารถโปรยเสน่ห์และดึงดูดคนได้ แต่ก็สามารถทำร้ายคนได้เช่นเดียวกัน
พระเอกสุดหล่อจาก Twilight โรเบิร์ท แพตตินสัน ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ชื่นชมตัวละครและโลกของกรูเอน “มีคนส่งหนังสือมาให้ผมอ่านและผมก็อินกับมันทันทีเลย” แพตตินสันเล่า จากนั้นเขาก็ตกลงรับบทเป็น เจค็อบ แจนโควสกี ผู้ประสบโศกนาฏกรรมในชีวิตและออกเดินทางอย่างไร้จุดหมายไปเรื่อยๆ กระทั่งได้ขึ้นรถไฟสายหนึ่งที่พาเขาไปยังบ้านของคณะละครสัตว์เบนซินี่บราเธอร์ และทำให้เขาได้พบกับมาร์เลน่า พร้อมกับเรื่องราวความรักและโชคชะตาที่ทั้งคู่ไม่คาดคิด
หลังจากหนังสือวางแผงไม่นาน ตัวละครที่แสนรักเหล่านี้ก็เริ่มเดินหน้าจากหน้ากระดาษสู่จอเงิน ช่วงปลายปี 2008 ผุ้อำนวยการสร้าง จิล เน็ตเตอร์ (Marley & Me) ได้ติดต่อผู้กำกับ ฟรานซิส ลอว์เรนซ์ (I am Legend) เพื่อสร้าง Water for Elephants เป็นภาพยนตร์ “ผมอ่านหนังสือรวดเดียวจบ” ลอว์เรนซ์เล่า “มันเป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณ และเรื่องราวก็เกิดขึ้นในโลกที่สวยงามและมีรายละเอียด ผมชอบตัวละครและอารมณ์ของเรื่อง”
ลอว์เรนซ์ให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างมาร์เลน่าและเจค็อบ รวมถึงการสร้างโลกมหัศจรรย์ที่กรูเอนสร้างไว้อย่างละเอียดในหนังสือ “ความสัมพันธ์ระหว่างมาร์เลน่าและเจค็อบที่เราสร้างขึ้นในหนังเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมชอบที่สุด” เขาอธิบาย “มันเป็นการปะทุอย่างช้าๆ และสวยงาม ผมคิดว่าเจค็อบตกหลุมรักมาร์เลน่าทันทีเพราะความสวย, เวทย์มนตร์, ความแข็งแกร่งและความมั่นใจของเธอ แต่มาร์เลน่าปิดกั้นตัวเอง เธอไม่ค่อยไว้ใจใครเท่าไหร่นัก เจค็อบเริ่มทำลายกำแพงนั้นและกลายเป็นคนที่มาร์เลน่าไม่คาดคิดมาก่อนในโลกของเธอ ผมว่าเธอคงตกหลุมรักความดีของเจค็อบ”
นอกจากตัวละครแล้ว ลอว์เรนซ์ยังหลงเสน่ห์ละครสัตว์ด้วย “ผมชอบละครสัตว์ โดยเฉพาะละครสัตว์ยุค 1920 และ 1930 เขาบอกว่า “มันมีบางอย่างที่พิเศษ รถไฟไอน้ำ เต้นท์ผ้าใบสวยสด นักแสดงสง่างาม และสัตว์หน้าตาแปลกๆ”
ลอว์เรนซ์และผู้อำนวยการสร้าง เออร์วิน สตอฟฟ์ นำโปรเจ็คต์นี้ไปเสนอมือเขียนบทชื่อดัง ริชาร์ด ลากราเวนีส ผู้เข้าชิงออสการ์จาก The Fisher King เพื่อให้เขาดัดแปลงหนังสือของกรูเอนให้เป็นบทภาพยนตร์ พวกเขาตระหนักถึงความท้าทายและความรับผิดชอบของการนำเรื่องราวและตัวละครแสนรักในหนังสือ 400 หน้ามาดัดแปลงเป็นบทภาพยนตร์ที่นำไปใช้ได้ ลอว์เรนซ์อธิบายว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ผมร่วมงานกับมือเขียนบทเพื่อดัดแปลงหนังสือ ความตั้งใจของเราคือพยายามรักษาแก่นเรื่องและโทนเรื่องเอาไว้ มีบางตอนในหนังสือที่สำคัญและต้องเก็บไว้ในหนัง แต่ส่วนหนึ่งของความสนุกอยู่ที่การตีความหนังสือและสร้างสรรค์ความคิดใหม่ๆ ด้วย”
ลากราเวนีสกล่าวว่า “เมื่อหนังสือเป็นที่ชื่นชอบ สิ่งสำคัญคือต้องรักษาสิ่งที่คนอ่านคาดหวังว่าจะได้เห็นเอาไว้ แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องเข้าใจว่า เวลาอ่านหนังสือ คุณจะเห็นและได้ยินตัวละครในจินตนาการ ซึ่งจินตนาการของแต่ละคนก็หลากหลายไม่เหมือนกัน แต่เมื่อคุณดูเรื่องนี้ในรูปแบบหนังที่คนจริงแสดง มันจะกลายเป็นรูปแบบเดียว ไม่มีอะไรให้ต้องจินตนาการ และก็มีความคิดหลายอย่างที่เหมาะสำหรับหนังสือ แต่ไม่เหมาะกับการเอาขึ้นจอใหญ่”
ในการทำงานภายใต้การนำของลอว์เรนซ์ ลากราเวนีสต้องเขียนร่างบทหลายร่าง เป้าหมายก็คือ “การทำให้ตัวละครทั้งสามตัวมีพลังมากขึ้น และสร้างภูมอหลังของมาร์เลน่าและออกัสขึ้นใหม่ เราอยากให้ตัวละครทุกตัวมีเหตุผลรองรับ เพราะฉะนั้นถ้าพูดแง่จริยะธรรม การตัดสินว่าใครผิดใครถูกเป็นเรื่องซับซ้อน ไม่มีใครบริสุทธิ์ร้อยเปอร์เซ็นต์หรอก”
รีส วิทเทอ์สปูน ปิ๊งความคิดนี้ “ออกัสเจอมาร์เลน่าครั้งแรกตอนนำคณะละครมาเปิดแสดงในเมืองที่เธออยู่ ตอนนั้นเธอทำงานเป็นสาวเย็บผ้า” วิทเทอร์สปูนกล่าว “เขาหลงใหลเธอและชวนเธอไปอยู่ในคณะละครและสอนให้เธอแสดง” มาร์เลน่าพลิกชีวิตจากความยากจนสู่ความหรูหราและโด่งดัง แต่ก็ต้องเผชิญผลลัพธ์ที่ตามมา ออกัสเองก็ไม่มีครอบครัว เขาสร้างชีวิตให้ตัวเองด้วยการปลุกคณะละครสัตว์ที่กำลังจะตายขึ้นมา
การเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของหนังสืออย่างหนึ่งคือการรวมตัวละคร ออกัส สามีของมาร์เลน่าซึ่งในหนังสือเป็นหัวหน้าผู้ฝึกสัตว์ เข้ากับลุงอัล เจ้าของคณะละครสัตว์ผู้ดุดัน “การรวมสองตัวละครนี้เข้าด้วยกันยิ่งทำให้ตัวละครออกัสอันตรายขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีอยู่แล้ว” ลากราเวนีสกล่าว เขายังใส่ฉากที่เจค็อบตอนแก่ (รับบทโดยนักแสดงผู้เข้าชิงรางวัลออสการ์ ฮาล ฮอลบรู๊ค) นึกถึงเรื่องราวในอดีตเกี่ยวกับคณะละครสัตว์เบนซนี่บราเธอร์และความสัมพันธ์อันยาวนานของเขากับมาร์เลน่า
|