แจกบัตรชมภาพยนตร์เรื่อง Big Mommas : Like Father, Like Son


บัตรชมภาพยนตร์เรื่อง Big Mommas : Like Father, Like Son

Big Mommas: Like Father, Like Son
บิ๊ก มาม่าส์ พ่อลูกครอบครัวต่อมหลุด
28 เมษายนนี้ ฮาปวดตับในโรงภาพยนตร์


บิ๊กมาม่าส์กลับมาครั้งนี้มีผู้ช่วยตัวใหญ่เป็นลูกชายบุญธรรมนามว่า “เทรนท์” มาร์ติน ลอว์เรนซ์ กลับมารับบทนักสืบเอฟบีไอ มัลคอม เทอร์เนอร์ ที่ปลอมตัวเป็นบิ๊กมาม่าส์เพื่อสืบสวนคดี โดยครั้งนี้เขาได้ เทรนท์ (แบรนดอน ที แจ็คสัน) มาร่วมทีมสืบคดีที่โรงเรียนสอนการแสดงหญิงล้วน หลังจากที่เทรนด์เห็นเหตุฆาตกรรม มัลคอมต้องปลอมตัวเป็นบิ๊กมาม่าส์อีกครั้ง ส่วนเทรนท์ก็ต้องปลอมตัวเป็นสาวร่างบึ้ก “คาร์เมน” เพื่อตามหาตัวฆาตกรก่อนที่ฆาตกรจะตามล่าพวกเขา
ปี 2543 ตัวละครบิ๊กมาม่าส์ได้แจ้งเกิดสู่สายตาผู้ชมใน “Big Momma’s House” และโกยรายได้ไปอย่างล้นหลาม ความสนุกตามมาติดๆ กับ “Big Momma’s House 2” ผู้ชมตกหลุมรักตัวละครบิ๊กมาม่าส์ของมาร์ตินลอว์เรนซ์ที่เป็นเจ๊ร่างบึ้บใจสู้ที่ไม่ยอมให้ใครหรืออะไรมาขวางทางแม้กระทั่งอาชญากร

บิ๊กมาม่าส์เป็นที่ชื่นชอบของผู้ชมทุกวัยไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก “ผมว่าทุกคนต้องรู้จักบิ๊กมาม่าส์ซักคนในชีวิต” ลอว์เรนซ์กล่าว “คนนั้นอาจหน้าตาไม่เหมือนบิ๊กมาม่าส์ในหนัง แต่ทุกคนต้องมีพี่สาว ป้า ยาย ที่จริงใจและมีจิตใจงดงาม และนั่นคือสิ่งที่ผมรักในตัวบิ๊กมาม่าส์” ผู้อำนวยการสร้าง เดวิด ที เฟรนด์ลี่ ที่อยู่เบื้องหลังหนัง “Big Momma”ทั้ง 3 ภาค เช่นเดียวกับ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ “มาร์ตินรู้จักบิ๊กมาม่าส์อย่างทะลุปรุโปร่ง และทำให้เธอเป็นเป็นตัวละครที่อบอุ่นและมีชีวิตชีวา บิ๊กมาม่าส์ใช้ชีวิตด้วยทัศนคติด้านบวกและพยายามทำให้ทุกอย่างดีขึ้น”
“เมื่อได้รู้จักบิ๊กมาม่าส์แล้วคุณจะรักเธอ เธอกลายเป็นไอคอนของผู้ชม” ผู้กำกับ จอห์น วิทเซลล์ จาก “Big Momma’s House” กล่าว “บิ๊กมาม่าส์ออกความเห็นทุกเรื่อง และพร้อมจะสั่งสอนคุณถ้าจำเป็น แต่ที่สำคัญกว่านั้นคือเธอตลกและน่ารัก”

ความสำเร็จของ “Big Momma” สองภาคแรกทำให้มีภาคที่สามตามมา แต่ลอว์เรนซ์, เฟรนด์ลี่, วิทเซลล์ และมือเขียนบท แมธทิว โฟเจล ต้องการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในภาคใหม่ ไม่ใช่ดำเนินตามสูตรสำเร็จเดิม โดยเจาะตลาดคนดูที่ไม่ได้เป็นเป้าหมายของสองภาคก่อน ซึ่งได้แก่ วัยรุ่น เฟรนด์ลี่กล่าวว่า “เราเริ่มต้นใหม่และสร้างสิ่งที่ไม่เหมือนสองภาคก่อน” กลับมาคราวนี้มัลคอมจับพลัดจับผลูได้คู่หูเป็นลูกชายบุญธรรมชื่อเทรนท์ และเหตุการณ์ก็เกิดขึ้นในสถานที่ที่ไม่มีใครคาดคิดนั่นคือโรงเรียนหญิงล้วน ฉากเต้นและดนตรีหลายฉากแสดงโดยลอว์เรนซ์, แจ็คสัน และกลุ่มนักแสดงดาวรุ่งมากความสามารถ

ความสัมพันธ์ระหว่างมัลคอมและเทรนท์คือศูนย์กลางของเรื่อง ตอนต้นเรื่อง มัลคอมปลื้มมากที่เทรนท์จบมัธยมปลายแล้วได้รับการตอบรับจากมหาวิทยาลัยดยุค แต่เทรนท์กลับอยากเป็นแร็ปเปอร์มากกว่า ความขัดแย้งนั้นทำให้เทรนท์ได้ก้าวเท้าเข้ามาตามรอยพ่อ นั่นคือการปลอมตัวเป็นผู้หญิง การที่เทรนท์เข้ามาร่วมวงกับบิ๊กมาม่าส์และทะเลาะกันเพราะช่องว่างระหว่างวัยไม่แค่สร้างเสียงฮาเท่านั้น แต่ทั้งคู่ยังต้องรับส่งอารมณ์เพราะมัลคอมต้องทำใจยอมรับการตามความฝันของเทรนท์ และยังต้องทุ่มสุดตัวเพื่อปกป้องเทรนท์ให้ปลอดภัยด้วย “ผมชอบแสดงเป็นบิ๊กมาม่าส์” ลอว์เรนซ์กล่าว “แต่บทอันน่าติดตามและการมีได้แบรนดอนมารับบทเป็นคู่หูในเรื่องต่างหากที่ทำให้ผมกลับมา มัลคอมมองว่าเทรนท์เป็นลูก แต่เทรนท์โตเป็นผู้ใหญ่และต้องการทำอะไรด้วยตัวเอง ผมว่าทุกคนเข้าถึงเรื่องนี้ได้”

แจ็คสันกล่าวว่าการได้เข้ามารับบท “เทรนท์/คาร์เมน” เหมือนฝันเป็นจริง “มาร์ติน ลอว์เรนซ์ คือไอดอลของผมและผมตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมงานกับเขา” นักแสดงหนุ่มผู้ฝากผลงานไว้ในหนังอย่าง “Tropic Thunder” และ “Percy Jackson & the Olympians: The Lightning Thief” กล่าว “และเมื่อถึงเวลาต้องใส่ชุดน้ำหนักเพื่อแสดงเป็นคาร์เมน มาร์ตินแนะนำผมว่า นั่งได้เมื่อไหร่ให้นั่งและทำตัวตามสบาย ปกติผมชอบวิ่งไปมา คุยกับคนโน้นคนนี้ ชุดนี้ทำให้ผมโฟกัสกับการแสดงมากขึ้น”

แจ็คสันกล่าวว่า “เทรนท์คือวัยรุ่นทั่วไปที่รู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ซึ่งในที่นี้คือการเป็นแร็ปเปอร์ นอกจากนี้เขายังมองว่าตัวเองมีเสน่ห์ต่อเพศตรงข้าม ซึ่งการหลีหญิงในร่างผู้หญิงนี่มันยากนะ เขาก็เลยพยายามเรียนรู้ผู้หญิงรวมทั้งตัวเองด้วย” ความท้าทายของแจ็คสันก็คือการทำให้เทรนท์ “ฉายแวว” ออกมาจากร่างอุ้ยอ้ายของคาร์เมน

เทรนท์เรียนรู้การเป็นผู้หญิงเร็วมาก ซึ่งทำให้เขาลำบาก เพราะเขาพยายามจีบเพื่อนร่วมชั้นเรียนคนหนึ่งด้วย ซึ่งก็คือเฮลี่ย์ (เจสสิก้า ลูคัส) นักร้องและนักแต่งเพลงแสนสวย เมื่อเป็นตัวเอง หนุ่มขี้โม้ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอย่างเทรนท์หมดหวังกับการจีบเฮลี่ย์ แต่ในร่างคาร์แมน เขาเรียนรู้การปฏิบัติต่อเพศตรงข้าม ซึ่งทำให้เขาเป็นผู้ชายที่ดีขึ้น ความสัมพันธ์ของคาร์เมน/เทรนท์กับเฮลี่ย์ ส่งผลดีต่อเฮลี่ย์เองด้วย “เฮลี่ย์และคาร์เมนกลายเป็นเพื่อนรักกันเพราะเฮลี่ย์เห็นตัวเองในตัวคาร์เมน” ลูคัสกล่าว “คาร์เมนยังช่วยให้เฮลี่ย์ค้นพบด้านสนุกสนานของตัวเองด้วย ซึ่งถือว่าสำคัญต่อเธอ เพราะเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยมั่นใจ”

คาร์เมนและเฮลี่ย์ดิ้นรนให้เป็นที่ยอมรับของกลุ่มดาวโรงเรียน จัสมิน (พอร์เทีย ดับเบิ้ลเดย์) สาวหัวหน้ากลุ่มรู้สึกเอือมระอากับคุณสมบัติอันไม่เข้าขั้นของบิ๊กมัมม่าและคาร์เมน อย่างไรก็ตาม พรสวรรค์ของกลุ่มดาวโรงเรียนรวมเข้ากับความฮาของบิ๊กมัมม่าและคาร์เมน ทำให้เกิดฉากเพลงและฉากเต้นอันน่าจดจำ ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ให้หนังภาพยนตร์ชุดนี้ “เด็กๆ แสดงตัวตนผ่านดนตรีและการเต้น” วิทเซลล์กล่าว

อีกสิ่งหนึ่งที่สร้างสีสันให้กับภาคต่อก็คือเมคอัพ และงานพลาสติคใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงจนย่นระยะเวลาการแต่งเป็นบิ๊กมาม่าส์ให้ มาร์ติน ลอว์เรนซ์ ลงครึ่งหนึ่ง “ความลับหนึ่งของหนังชุด Big Momma ก็คือการเตรียมงานอย่างละเอียด ซึ่งรวมถึงการสร้างชุดคนอ้วน การทดลองเมคอัพ การทดลองกล้อง” ผู้กำกับวิทเซลล์กล่าว สำหรับ BIG MOMMAS: LIKE FATHER, LIKE SON ภาคนี้ ทีมงานทุ่มเททำงานหินในการสร้างสรรค์เทคโนโลยี และกระบวนการที่ซับซ้อนเป็นทุนเดิมอยู่แล้วขึ้นมาใหม่ โชคดีที่ได้ เวสลี่ย์ วอฟฟอร์ด จาก “Big Momma’s House 2 กลับมาออกแบบและทำเมคอัพให้ งานของวอฟฟอร์ดได้รับคำชมจาก Spectral Motion Inc. ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สร้างเมคอัพเอ็ฟเฟ็กต์ระดับแนวหน้าของวงการ

การถ่ายทำเริ่มต้นขึ้นเมื่อฤดูใบไม้ผลิปีที่แล้วในแอตแลนต้า ที่นั่นไม่แค่อิงที่มาของบิ๊กมาม่าส์ว่าเป็นคนใต้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้แก่นเรื่องดนตรีและการแสดงของหนังแข็งแรงขึ้นด้วย “เพราะผมว่าแอตแลนต้าเป็นที่ที่ดีที่สุดแล้วสำหรับเรื่องราวของดนตรีในหนัง” วิทเซลล์กล่าว “วัฒนธรรมและดนตรีของเมืองนั้นอบอวลอยู่ในหลายที่ และนักแสดงมากมายจากย่านนั้นก็ช่วยหนังได้อย่างมาก” การถ่ายทำส่วนใหญ่เกิดขึ้นที่วิทยาลัย Agnes Scott ในเดคาทูร์ ซึ่งทีมงานใช้ถ่ายเป็นโรงเรียนที่มัลคอมและเทรนท์ไปซ่อนตัวในคราบบิ๊กมาม่าส์และคาร์เมน สถานที่ถ่ายทำอื่นๆ ในแอตแลนตาได้แก่ เซนเทนเนียลพาร์ค, ลิตเติลไฟฟ์พอยต์ และเอนสลี่ย์พาร์ค



PantipMember Point
แจกบัตรชมภาพยนตร์เรื่อง Big Mommas : Like Father, Like Son
- วันอังคารที่ 26 เมษายน 2554 โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิล์ด โรง 15 เซ็นทรัลเวิล์ด เวลา 20.00 น. โดยประมาณ (เวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้โดยจะแจ้งให้ทราบล่วงหน้า)
- ย้ายวันฉายรอบพิเศษจากเดิมเป็น วันจันทร์ที่ 25 เมษายน 54 โรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิล์ด โรง 15 เซ็นทรัลเวิล์ด เวลา 20.00 น. โดยประมาณ
จำนวนรางวัล 100 ใบ
จำนวนคะแนนใช้แลก 450 คะแนน
จำนวนรางวัล/สมาชิก 2 ใบ
ระยะเวลาแลกรางวัล 13 เม.ย. 2554 - 21 เม.ย. 2554
วิธีการให้รางวัล สุ่มมอบรางวัล
ผู้โชคดีจากการสุ่มรางวัล ต้องเข้ามายืนยันรับรางวัล ผ่านระบบคะแนนสมาชิก ภายในวันที่ 24 เม.ย. 54 มิฉะนั้นระบบจะนำรางวัลไปให้ผู้ที่ได้สำรองแทน
วิธีการรับรางวัล นำบัตรประชาชนตัวจริงไปติดต่อรับบัตรชมภาพยนตร์ได้บริเวณโรงภาพยนตร์เอสเอฟ เวิล์ด เซ็นทรัลเวิล์ด เวลาประมาณ 19.00 น.

รายชื่อผู้ได้รับรางวัล

รายละเอียด PantipMember Point

หมายเหตุ : ผู้แลกรางวัลจะยังไม่ได้รางวัล จนกว่าจะมีการสุ่มรางวัล โดยสมาชิกจะต้องเข้ามาตรวจสอบว่าได้รับรางวัลหรือไม่ด้วยตนเอง ที่ระบบคะแนนสมาชิก (ไม่มีการแจ้งผลไปให้ทราบในช่องทางอื่น) ทั้งนี้ผู้ได้รับรางวัลที่ไม่ยืนยันข้อมูลให้ครบภายในกำหนด เช่น ยืนยันรับรางวัลแล้ว แต่ไม่ให้ข้อมูลชื่อ-นามสกุล หรือให้ที่อยู่ไม่ถูกต้อง จะถูกตัดสิทธิ์ในการรับรางวัล

ผู้สนับสนุนกิจกรรม







Create Date : 13 เมษายน 2554
Last Update : 18 พฤษภาคม 2554 11:31:28 น. 0 comments
Counter : 4672 Pageviews.

BlogGang.com
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 893 คน [?]




Webmaster of BlogGang.com
Custom Search
Group Blog
 
<<
เมษายน 2554
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
13 เมษายน 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add BlogGang.com's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.