Understanding Society
Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2553
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
10 สิงหาคม 2553
 
All Blogs
 

แค่เอื้อม : โรแมนติค กับ คุณโบตั๋น




อ่านนิยายของคุณโบตั๋นมาหลายเรื่องส่วนใหญ่ก็เป็นแนวลำบากลำเค็ญสู้ชีวิตพิชิตฝัน ตัวละครมักมีปัญหาเก็บกดอยู่ร่ำไปไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ด้วยเหตุความยากจนข้นแค้น ด้วยเหตุปัญหาภายในครอบครัว ขี้เมา ติดยา ตีเมีย ตีลูก ติดโรค และ อีกจิปาถะ อ่านไปเครียดไปแต่ก็นับว่าเป็นนิยายสอนใจประเทืองสติ และ ปัญญา เอ๊ะ ... บอกไปรึยังว่าต้อง "เครียด" ด้วยนะ (ฮา)

อ่านทีไรทีนั้นจะเอาความโรแมนติคมาเป็นแกนหลักเห็นจะไม่มี มีแต่มาเป็นส่วนประกอบอยู่เรื่อยไป ไม่นึกเหมือนกันว่าจะได้มีโอกาสอ่านเรื่องราวเบา ๆ เอาความรักโรแมนติคเป็นที่ตั้งจากปลายปากกาคุณโบตั๋นกับเขาบ้าง แต่ในที่สุดก็เกิดขึ้นจนได้สิ เรื่องราวโรแมนติคน่ารักจากปลายปากกานักเขียนแนวชีวิตเอาล่ะสิมันจะเป็นยังไง อารัมบทมาเสียยืดเสียยาวจะรู้ไหมหนอว่ากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ ลองหลับตานึกมโนภาพ

ละไอหมอกเย็นชื่นของอากาศบนยอดดอย ไร่พืชเมืองหนาวออกผลอุดมสมบูรณ์ ดอกไม้สะพรั่งพร้อมสีสันสดสวย กระดิ่งส่งเสียงกรุ๋งกริ๋งเมื่อต้องลมเย็น หนุ่มสาวคนงานชาวเขาทยอยออกทำงานเมื่ออรุณแรฟ้า ณ ทีนั้นคณะเทคโนโลยีการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง นำทีมโดยดร. นภมัย อบรมชาวบ้านเพาะเลี้ยงเห็ดเป็นอาชีพ มีผู้สนใจเข้าร่วมอบรมมากมายรวมถึงพ่อเลี้ยงสุนทรเจ้าของที่ดินผืนใหญ่บนภูหมอกฟ้า และ หลานสาวคนงามนามสายป่านที่ตั้งใจสืบสานกิจการของผู้เป็นตา พลิกผืนดินบนเชิงภูเป็นที่ทำกิน แน่นอนว่าเธอได้ดร.นภมัยเป็นผู้ช่วยเหลือทางวิชาการ นอกจากลงไม้ลงมือรดน้ำพรวนดินปลูกเห็ด ทั้งสองก็ยังได้มีโอกาสปลูกรักไปพร้อมกัน ท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติคเย็นชื่นรื่นรมณ์ของเมืองเหนือ

สงสัยล่ะสิว่ามีแบบนี้ด้วยหรือนิยายของคณโบตั๋น ... ตั้งแต่อ่านมาก็เจอเรื่อง "แค่เอื้อม" นี้แหละค่ะที่โรแมนติคที่สุด อ่านทีไรก็ใคร่อยากจะไปตั้งรกรากที่เมืองเหนือขึ้นมาเชียว อยากสัมผัสสายหมอกละอองน้ำกลิ่นอากาศเย็นสดสะอาด และ สายลมเย็นระรื่นของทางเหนือเต็มที (แต่ในความเป็นจริงจะเป็นอย่างที่เขียนในหนังสือรึเปล่าอันนี้มันก็อีกเรื่องหนึ่ง)

ก็อย่างที่จั่วไว้ค่ะนั่นเป็นเรื่องย่อ ๆ ของแค่เอื้อมเขาล่ะ แต่ยี่ห้อคุณโบตั๋นซะอย่างจะกลวงโบ๋ว่างเปล่ามีแต่เรื่องโรแมนติคเดี่ยว ๆ ก็เสียของสิน่า ดังนั้นท่ามกลางบรรยากาศเย็น ๆ ของมนต์เมืองเหนือคุณโบตั๋นเธอก็ใส่ความจริงจังลงไปจนได้ ตามท้องเรื่องนี้เป็นปีพ.ศ. 2540-2541 อันเป็นช่วงวิกฤตฟองสบู่ของเมืองไทยที่สถาบันการเงิน บริษัทเอกชนหมดสิ้นยุคเฟื่องฟู ต้อง lay off พนักงานกันเป็นแถบ ๆ บางที่ถึงกับต้องปิดตัวลงไป สายป่านสาวงามนางเอกของเรื่องแม้ไม่ได้เป็นเป้าหมายถูกปลดกับเขาก็เล็งเห็นว่าจะกระเสือกกระสนในเมืองใหญ่นานไปคงไม่เข้าที ใช้ชีวิตดิ้นรนในเมืองใหญ่มาหลายปีคงได้เวลาหวนกลับไปดูแลคุณตาคุณยายบ้าง ซึ่งต่อมาความตั้งใจของเธอก็ขยับขยายกลายเป็นสำนึกรักบ้านเกิดด้วยอีกทางหนึ่ง

แง่หนึ่งที่เห็นได้จากสายป่าน (และนิยายคุณโบตั๋น)คือ การไม่เป็นคนจับจดเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ หนักก็เอา เบาก็สู้ แม้จะตัวนิดเดียว ซึ่งก็ไปต้องตาต้องใจพ่อแว่นตาโต ดร.นภมัย พระเอกของเรื่องอยู่ไม่น้อย แม่สาวสวยบอบบางสนิมสร้อยจะกลายร่างเป็นแม่เลี้ยงเมืองเหนือดูแลกิจการเรือกสวนไร่นาของตาได้อย่างไร หลังจากได้ทำงานทำการร่วมกันอยู่แรมเดือนก็รู้ว่าสาวเจ้านั้นฉลาดเฉลียว มีลูกล่อลูกชน และ อึดพอตัว ส่วนสายป่านก็ถูกใจความเอาจริงเอาจังเป็นผู้ใหญ่ของท่านดร. แต่ด้วยสถานภาพกึ่งเจ้านายลูกน้องกึ่งเพื่อนร่วมงาน ด้วยฐานะที่แตกต่าง และ ทั้งสองคนก็ไม่ใช่วัยรุ่นแล้วทำให้ผ่านแรมเดือนจนมาถึงแรมปีก็คอยแต่ "มะลันดูแก มะแลดูกัน" ไปไม่ถึงไหนซะที ทั้ง ๆ ที่บรรยากาศก็แสนจะเป็นใจที่สุด ทำให้เพื่อนฝูงญาติมิตรของทั้งสองฝ่ายลุ้นกันใจหายใจคว่ำ แถมยังออกหน้า(เจือก)ช่วยเหลือสุดลิ่มทิ่มประตู


นี่ก็นาน ๆ ทีเหมือนกันสำหรับนิยายทั่วไป ที่จะเจอสเตปรักแบบธรรมดา ๆ กับเขามั่ง ไม่ต้องเป็นศัตรูกันหรือขัดแย้งกันเมื่อแรกพบ ไม่ใช่คู่รักที่เข้าใจผิดกัน ไม่มีการแก้แค้น ไม่มีการปลอมตัว ไม่มีการเล่นตัวเล่มเกมส์ตามจีบ ไม่ตบจูบ ไม่ข่มขืน ไปแบบธรรมดา ไปแบบธรรมชาติ เป็นผู้ใหญ่ สุขุม ไว้ท่าที แต่ก็ไม่ใช่ปากกับใจไม่ตรงกัน เพียงแต่รอคอยเวลาเพื่อความพร้อมและแน่ใจ ว่าก็ว่าเถอะ แบบนี้ดูน่ารักสบายใจเวลาอ่านดีไม่หยอกเลยได้อารมณ์เย็น ๆ เมืองบรรยากาศเมืองเหนือในเรื่องที่แหละ


สุดท้าย .... แล้วมันอย่างไร ทำไมถึงแค่เอื้อม อันนี้ขอเอาเพลงตอนที่ทำเป็นละครมาลงไว้ คิดว่าบอกความหมายได้ครบถ้วนดี ถึงแม้ตัวละครจะผิดจากหนังสือไปมากอยู่ แต่ก็น่ารักดีอยู่ในตัว



แค่ปลายเอื้อม


โอ้ดวงใจน้อย ๆ ที่เฝ้าคอยเก็บไว้
รักเป็นไงต้องใช้เวลาศึกษามัน
ก็ถูกใจลึก ๆ แค่แอบมองแอบฝัน
เผื่อสักวันเค้านั้นจะมองกลับเหลียวมา

พอสายตาประสานใจฉันมันแพ้พ่าย
เตรียมถ้อยคำอย่างไรยังนึกกลัว
ซ่อนอาการนั้นไว้บอกกับใจเสมอ
หากพบเจอต้องเฉยไว้ก่อนต้องไว้ตัว
เก็บใจเรานั้นไว้อย่าให้ใครรู้ตัว
อย่านึกกลัวต้องใช้เวลาศึกษากัน

เหมือนไกล (เหมือนไกลแสนไกล)
แม้ใกล้แค่ปลายเอื้อม (สองใจไม่เคยเชื่อม)
ดั่งเดือน (ที่คอยย้ำเตือน) เมื่อยามที่เมฆบัง (รักคงเลือนลาง)
อดใจรอคอยให้ลมพัดพาเมฆเบาบาง
คงถึงวันที่สองดวงใจได้ชิดกัน

เหมือนไกล (เหมือนไกลแสนไกล)
แม้ใกล้แค่ปลายเอื้อม (สองใจไม่เคยเชื่อม)
ดั่งเดือน (ที่คอยย้ำเตือน) เมื่อยามที่เมฆบัง (รักคงเลือนลาง)
อดใจรอคอยให้ลมพัดพาเมฆเบาบาง
คงถึงวันที่สองดวงใจได้ชิดกัน

อดใจรอคอยให้ลมพัดพาเมฆเบาบาง
คงถึงวันเมื่อฉันและเธอ...เอื้อมถึงกัน




 

Create Date : 10 สิงหาคม 2553
10 comments
Last Update : 10 สิงหาคม 2553 15:36:25 น.
Counter : 4893 Pageviews.

 

ชอบเรื่องนี้มาก ๆ เลยค่ะ อ่านสนุก เวอร์ชั่นละครเพลงก็เพราะ

 

โดย: หวานเย็นผสมโซดา 10 สิงหาคม 2553 17:38:18 น.  

 

น่าสนใจนะคะ

 

โดย: โยเกิตมะนาว 10 สิงหาคม 2553 19:00:24 น.  

 

แต่เราชอบนิยายของคุณโบตั๋นมากเลยค่ะ เข้มข้น จริงจัง อ่านแล้วได้คิดอะไรเยอะ

 

โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 10 สิงหาคม 2553 20:11:40 น.  

 

เห็นด้วยค่ะ ว่าเรื่องนี้อ่ะหวานสุดแล้ว เท่าที่อ่านงานของคุณโบตั๋นมา
แต่ก็ยังไม่ทิ้งประเด็นการสู้ชีวิตซะทีเดียว
อ่านแล้วมีอมยิ้มได้ ไม่ใช่ขมวดคิ้วตลอดเรื่อง

ปล. ละครไม่เคยดูนะ สนุกรึป่าว

 

โดย: นัทธ์ 11 สิงหาคม 2553 7:12:43 น.  

 

ตอบคุณหวานเย็นผสมโซดา

ใช่ค่ะอ่านสนุกหวานเย็นกว่าเรื่องของคุณโบตั๋นเรื่องอื่น ๆ เพลงเราก็ชอบมากเหมือนกันค่ะ

ตอบคุณโยเกิตมะนาว

ลองหามาอ่านสิคะ น่ารักดีนะ สอดแทรกความรู้คู่โรแมนติค

ตอบคุณสาวไกด์ใจซื่อ

เราก็ชอบค่ะงานของคุณโบตั๋น ปกติก็อ่านแทบทุกเรื่องค่ะ แม่สั่ง ... จริง ๆ นะ สั่งให้อ่านพวกเกิดแต่ตม ทองเนื้อเก้า เพรงกรรม อะไรงี้ แต่บางทีมันก็หนักหนาสาหัสเคร่งเครียดไปหน่อย

ตอบคุณนัทธ์

เรื่องละครเราก็จำไม่ค่อยได้ค่ะ มาฉายตอนก่อนเอ็นสะท้านพอดี ช่วงนั้นดูละครไม่ค่อยปะติดปะต่อ จำได้แค่ว่าใครเล่นกับใคร และ เพลงประกอบละครเป็นยังไง แต่ความรู้สึกที่ติดอยู่คือ เออ ... ก็สนุกดี ยังคิดอยากดูอีกอยู่นะเนี่ยไม่งั้นคงไม่รีวิว

 

โดย: วรินทร์รตา 11 สิงหาคม 2553 8:43:32 น.  

 

แปลกดีเหมือนกันปกติไม่อ่านงานของคุณโบตั๋นซ้ำไปซ้ำมานะคะ เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลยละมั้ง ค่าที่ว่าชะตากรรมมันไม่หนักหนาสาหัสเหมือนเรื่องอื่น ๆ แถมให้อารมณ์หวานชื่นดีไม่หยอก

ถ้าช่างจินตนาการหน่อยก็พอนึกออกถึงอารมณ์กรุ่นของความรักซ่อนเร้นบนยอดดอยเคล้าลมหนาวนี่มันโรแมนติคจ๊าดนัก อีกอย่างนึงคือเข้าใจอารมณ์ของสายป่าน กับ นภมัย ด้วย อายุเราตอนนี้ก็พอ ๆ กับสายป่านน่ะแหละค่ะ

จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าเพิ่งจะมาอ่านนะ เคยอ่านนานแล้วก่อนเป็นละครด้วยซ้ำไปมั้ง อ่านตอนช่วงอยู่มัธยมแต่ก็อ่านผ่าน ๆ ไป อาจจะเป็นเพราะว่ายังเด็กอยู่ก็เลยไม่ซาบซึ้งกับประสบการณ์ชีวิตทื่อยู่ในหนังสือเท่าที่ควร ละครก็ดูแต่อย่างที่บอกช่วงเอ็นสะท้านสติสตังมันก็ล่องลอยถึงการสอบเอ็นท์อ่ะค่ะ นี่ก็ผ่านมาจะ 10 ปีแล้ว จำไม่ได้ว่าเรื่องตามละครเป็นอย่างไร รู้สึกว่าจะไม่เหมือนในเล่มนิยาย

 

โดย: วรินทร์รตา 11 สิงหาคม 2553 8:45:13 น.  

 

ชอบเรื่องเดียวกันเลยค่ะ
ปกติชอบนิยายคุณโบตั๋นอยู่แล้ว
เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่อ่านแล้วรู้สึกว่าออกหวานๆ นะ
เป็นเรื่องที่หยิบมาอ่านบ่อยที่สุดค่ะ

 

โดย: lalabel 11 สิงหาคม 2553 9:24:32 น.  

 

ชอบนิยายของ "โบตั๋น" มาก ทุกเรื่องเลย รู้สึกว่าเวลาเธอเขียนเรื่องต่างๆ มันไม่ไกลจากตัวเรา แบบ base on true story ชีวิตจริงๆ คนธรรมดาสามัญ บางเรื่องอาจจบไม่สวยหรูแต่ก็ประทับใจมาก

 

โดย: pimpa_11 16 สิงหาคม 2553 18:39:25 น.  

 

อ่านรีวิวแล้วน่าสนใจมากเลย ไม่ได้อ่านงานของคุณโบตั๋นมานานเหมือนกันค่ะ

เดี๋ยวจะไปดูที่ร้านหนังสือแถวบ้าน หามาอ่านดูบ้างค่ะ

 

โดย: pichayaratana 19 สิงหาคม 2553 16:21:26 น.  

 

หนังสือนิยายเรื่องนี้ยังมีไหมค่ะ

 

โดย: BIZBUM IP: 124.122.102.174 25 สิงหาคม 2557 17:27:28 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


วรินทร์รตา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 15 คน [?]




Light&Truth
Friends' blogs
[Add วรินทร์รตา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.