| ภาพประกอบโดย ไต้จิ้น (戴进) ศิลปินสมัยราชวงศ์หมิง | | | ในสมัยสงครามระหว่างรัฐ (จั้นกั๋ว) รัฐเจ้ามีพหูสูตผู้มีชื่อเสียงนามว่า กงซุนหลง ซึ่งคนผู้นี้ได้ชุบเลี้ยงบริวารเอาไว้มากหลาย โดยแต่ละคนล้วนมีความถนัดความสามารถในเรื่องที่แตกต่างกัน เขากล่าวเสมอว่า "ผู้ฉลาดต้องรู้จักเปิดรับทุกผู้คนที่มีความสามารถในแบบฉบับของตนเอง" วันหนึ่ง มีคนผู้หนึ่ง สวมใส่เสื้อผ้าเก่าขาดโกโรโกโส เดินทางมาขอพบกงซุนหลง ทั้งยังกล่าวคำนำเสนอตนเองว่า "ข้าน้อยมีความสามารถพิเศษอย่างหนึ่ง" กงซุนหลงจึงถามว่าคืออะไร คนผู้นั้นจึงตอบว่า "เสียงของข้าน้อยดังกังวานเป็นพิเศษ มีความสามารถในการกู่ร้องตะโกน" เมื่อฟังจบ กงซุนหลงจึงหันกายไปถามคนในสังกัดของตนเองว่า "พวกเจ้า ใครมีความสามารถกู่ร้องตะโกน" ปรากฏว่าไม่มีแม้แต่ผู้เดียว ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจรับชายผู้ถนัดการตะโกนเอาไว้ในตำแหน่งผู้ติดตาม เวลาผ่านไปไม่นาน กงซุนหลง พร้อมทั้งบริวารได้ออกเดินทางไปท่องเที่ยวนอกเมือง เมื่อพวกเขามาถึงริมฝั่งแม่น้ำที่กว้างใหญ่ พบว่าเรือข้ามฝากนั้นยังคงอยู่ที่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำ ซึ่งเป็นระยะทางที่ไกลพอสมควร คนเรือจึงไม่ทันสังเกตเห็นว่าพวกเขากำลังรอข้ามฟาก ขณะที่ไม่รู้จะทำอย่างไรดี พลันกงซุนหลงก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีผู้ติดตามผู้หนึ่งซึ่งถนัดการตะโกน จึงได้กล่าวกับคนผู้นั้นว่า "เจ้าบอกว่าเจ้าตะโกนเก่ง ครานี้จงตะโกนเรียกเรือข้ามฝากให้ข้าชมดู" คนผู้นั้นเมื่อพบโอกาสที่จะแสดงความสามารถของตนก็ยินดียิ่งนัก จึงได้ป้องปากตะโกนอย่างสุดกำลังว่า "คนเรือ รีบพายเรือข้ามฝั่งมาทางนี้ พวกเราต้องการข้ามฟาก" เมื่อกล่าวจบ คนเรือที่อยู่บนเรือ ณ อีกฝั่งของแม่น้ำ ก็พยักหน้ารับ พร้อมทั้งพายเรือมุ่งหน้ามา ส่วนกงซุนหลงก็พอใจในความสามารถของบริวารคนนี้ยิ่งนัก ภายหลัง สำนวน "อีจี้จือฉาง" หรือ "รู้ทักษะกระจ่างเพียงอย่างเดียว" ใช้ เพื่อเปรียบเปรยถึงการมีความรู้ความสามารถ หรือเชี่ยวชาญในสิ่งใดสิ่งหนึ่งอย่างกระจ่างแจ้ง ทั้งยังแฝงความหมายว่า คนเรานั้นควรมีความรู้ในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แม้เพียงเรื่องเดียว แต่หากเข้าใจอย่างถ่องแท้ย่อมเกิดประโยชน์อย่างมหาศาล ที่มา : //baike.baidu.com/ //www.china.org.cn/ ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ ภาพประกอบโดย ไต้จิ้น (戴进) ศิลปินสมัยราชวงศ์หมิง ที่มา //baike.baidu.com //www.china.org.cn/ สวัสดิ์สิริชีววารค่ะ
|