มรรคามหาโจร
| หยกขาวฉลุลายห่านป่าในบึงใหญ่ หัวเข็มขัดสมัยราชวงศ์หยวน-หมิง | | | หากคนผู้หนึ่งต้องการป้องกันและเฝ้าระวังเหล่าโจรหัวขโมย ที่จะอาจเข้ามาชิงกระเป๋าเสื้อผ้าแพรพรรณ ถุงห่อสิ่งของ และงัดแงะหีบสมบัติต่างๆ พวกเขาจึงต้องใช้เชือกพันผูกรัดสิ่งของต่างๆ ทวีความแน่นเหนียวด้วยการสลักปิด โลกทั่วไปต่างยกย่องนี่คือปัญญาความรู้ แต่เมื่อมหาโจรบุกเข้ามา ก็เพียงแบกกล่อง ยกหีบ และเหวี่ยงถุงบรรดามีนั้น ขึ้นหลังไหล่ สิ่งที่เขาวิตกประการเดียวคือเงื่อนปม เชือกผูก เครื่องมือสลักปิดต่างๆจะไม่เหนียวแน่นพอ เมื่อการณ์กลับกลายเป็นเช่นนี้ ผู้คนที่ได้รับการยกย่องในการระวังรักษาทรัพย์สมบัติ กลับกลายเป็นผู้รวบรวมสิ่งของมีค่าประดามีให้แก่มหาโจร ผู้ที่คนทั่วไปยกย่องเป็นคนมีปัญญาชาญฉลาด แท้จริงคือผู้รวบรวมทรัพย์สมบัติทรัพย์สินแก่มหาโจร ใช่หรือไม่? ผู้ที่คนเทิดทูนเป็นปราชญ์ แท้จริงคือ ผู้ที่คุ้มครองผลประโยชน์แก่มหาโจร ในโบราณกาล ชุมชนหมู่บ้านต่างๆในแคว้นฉี ต่างสามารถมองเห็นกัน ต่างได้ยินเสียงสุนัขไก่ของกันและกัน พื้นที่ที่พวกเขาขึงตาข่ายเหวี่ยงทอดแหอวนครอบคลุมถึง ผืนดินที่มีการไถพรวน อาจวัดได้กว่าสองพันตารางลี้ ภายในเขตแดนทั้งสี่ มีการตั้งศาลสักการะบรรพบุรุษ และแท่นบูชาเทพแห่งดินและพืชผล พร้อมการกำหนดการปกครองเป็นเมือง หมู่บ้าน ครัวเรือน มีสิ่งใดผิดแผกต่างไปจากกฎเกณฑ์ของปราชญ์หรือ? แต่แล้วในรุ่งอรุณของวันหนึ่ง เถียนเฉิงจื่อก็บุกเข้าสังหารผู้ปกครองแห่งแคว้นฉีและชิงแผ่นดินของเขา อีกทั้งยังได้ปล้นกฎหมายต่างๆที่เกิดจากภูมิปัญญาของปราชญ์ ดังนี้ แม้เถียนเฉิงจื่อได้ชื่อว่าเป็นโจร เขาก็สามารถดำรงอยู่อย่างสงบสุข นี่ มิใช่เป็นตัวอย่างกรณีการปล้นชิง และฉกฉวยกฎหมายแห่งภูมิปัญญาของปราชญ์ และได้ใช้ภูมิปัญญาเหล่านี้ คุ้มครองสมุนบริวารของมหาโจร ดอกหรือ? สมุนคนหนึ่งของมหาโจรจื๋อถามขึ้นว่า โจรมีเต๋าหรือไม่ จื๋อตอบว่า เขาจะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร หาปราศจากเต๋า? การกะประมาณปริมาณทรัพย์สมบัติในห้อง ที่พวกเขาจะบุกเข้าไปปล้นชิงเอามานั้น คือภูมิปัญญาแห่งปราชญ์ การบุกนำเข้าไปถึงที่หมายคนแรกคือ ความกล้าหาญ การรั้งท้ายออกมาทีหลังคือ ครรลองธรรม การรู้ว่างานจะสำเร็จลุล่วงหรือไม่ คือภูมิปัญญา การแบ่งทรัพย์สมบัติอย่างเป็นธรรมคือ มนุสสธรรม ไม่มีใครในโลกบรรลุถึงการเป็นโจรผู้ยิ่งใหญ่ โดยปราศจากหลักการทั้งห้านี้! ผู้คนในใต้หล้าก็เช่นกัน บุรุษที่ดี ต้องบรรลุถึงเต๋าแห่งปราชญ์ก่อนจึงสามารถสร้างตน มหาโจรจื๋อก็ต้องบรรลุถึงเต๋า จึงสามารถก่อการใหญ่ลุล่วง แต่ใต้หล้านี้ บุรุษที่ดี มีน้อยนัก และคนที่ไม่ดีนั้น มีมากมาย ดังนั้น เมธีชนจึงนำประโยชน์แก่โลกเพียงเล็กน้อย แต่นำอันตรายมากมาย มีตำนานเล่าว่า เมื่อริมฝีปากหายไป ฟันก็หนาวยะเยือก เมื่อสุราของแคว้นหลู่พร่องลง หันตันก็ถูกยึดครอง* ตราบที่มีเมธีชนเกิดขึ้น มหาโจรก็ปรากฏตัวขึ้นตามมา ขับไสบรรดาปราชญ์และปล่อยให้หมู่โจรไปตามทางของพวกเขา จากนั้น โลกก็จะเข้าสู่ระเบียบและสันติภาพในที่สุด! เมื่อธารน้ำเหือดแห้ง หุบเขาก็ว่างเปล่า เมื่อเนินเขาปลาสนาการ หุบเขาก็ว่างเปล่า สระลึกก็จะเติมเต็ม... แปลเก็บความจาก The Complete Works of Chuang Tzu translated by Burton Watson บทที่ 10 *หมายเหตุ: ปราชญ์หรือเมธีชน(sage) หมายถึงบุคคลในอุดมคติในสายตาของจวงจื่อ มีอยู่หลายจำพวกด้วยกัน อาทิ พวกที่บำเพ็ญตบะ สร้างศีลธรรมสูงส่งผิดสามัญชน คุยโตโอ้อวด เที่ยวประณามสังคมและสั่งสมความยิ่งใหญ่, พวกที่คาดหวังชื่อเสียงยิ่งใหญ่ จัดการระบบระเบียบเพื่อความมั่นคงสงบเรียบร้อยของรัฐ หรือพวกที่ปลีกวิเวกตามป่าดงดอย หลีกหนีจากโลกและสังคม เป็นต้น ภูมิปัญญา( wisdom) หมายถึงความรู้ทางโลกีย์ที่มีแต่กระตุ้นตัณหาและความปรารถนา นับจากความต้องการด้านเงินทอง ไปถึงเกียรติยศ ชื่อเสียง เป็นต้น * หันตัน ในงานเลี้ยงของเจ้าครองนครรัฐใหญ่น้อยที่วังของกษัตริย์แห่งแคว้นฉู่ ราชาแห่งลู่ได้ถวายเหล้าชั้นเลว ขณะที่ราชาแห่งจ้าวได้ถวายเหล้าชั้นดี แต่พ่อบ้านที่ดูแลจัดการถวายเหล้าไม่ได้รับสินบนจากราชาแห่งจ้าว จึงได้สลับเหล้า กษัตริย์แห่งฉู่ทรงโกรธมาก ด้วยเข้าใจว่าราชาแห่งจ้าวถวายเหล้าชั้นเลวแก่พระองค์ จึงนำกำลังทหารเข้าโจมตีแคว้นจ้าว และปิดล้อมหันตันเมืองหลวงของแคว้นจ้าว นอกจากนี้ มีประวัติศาสตร์เกี่ยวกับหันตันอีกฉบับ ระบุว่ากษัตริย์แห่งฉู่ทรงกริ้วที่ได้รับเหล้าชั้นเลวจากลู่ จึงนำกำลังเข้าโจมตีลู่ ขณะนั้น มีมือที่สาม คือนครรัฐที่เป็นปฏิปักษ์กับฉู่ ได้นำกำลังเข้าโจมตีจ้าวและปิดล้อมเมืองหลวงหันตัน เนื่องจากเป็นพันธมิตรกับฉู่ อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ทั้งสองนี้ ได้อธิบายสารัตถะเดียวกันคือ เหตุการณ์ที่ดูไม่เกี่ยวข้องกันนั้น มาจากมูลเหตุเดียวกัน
ขอบคุณ ผู้จัดการออนไลน์ สิริสวัสดิ์วุธวารค่ะ
Create Date : 19 มีนาคม 2555 |
Last Update : 2 พฤษภาคม 2555 22:46:37 น. |
|
0 comments
|
Counter : 728 Pageviews. |
|
|