Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
2 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
▤ เที่ยวพิพิธภัณฑ์นนท์ ยลอาคารสวย รุ่มรวยอดีต ▤

     "นนทบุรี" จังหวัดติดกรุงเทพฯที่ไปมาหาสู่กันแสนสะดวกสบาย จนแทบแยกพื้นที่รอยต่อระหว่างกรุงเทพฯกับเมืองนนท์ไม่ออก

     อย่างไรก็ตามความเป็นเมืองนนท์ก็มีมนต์เสน่ห์ที่น่าค้นหาอยู่ไม่น้อย ทำให้ทริปนี้ "ตะลอนเที่ยว" ไม่ออกไปไหนไกล หากแต่ออกไปเที่ยวแค่"ท่าน้ำนนท์" ที่สามารถนั่งเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยาจากกรุงเทพฯไปได้อย่างไม่ลำบากยากเย็นแถมยังประหยัดอีกต่างหาก



ศาลากลางเก่าที่ปัจจุบันเป็นที่ตั้งของพิพิธภัณฑ์ จ.นนทบุรี


     สำหรับเหตุผลสำคัญที่เรามาท่าน้ำนนท์ในครั้งนี้ เนื่องจากที่นั่นมีความเคลื่อนไหวน่าสนใจทางการท่องเที่ยวเกิดขึ้น นั่นก็คือวันนี้ทางจังหวัดนนท์ได้ทำการปรับโฉม "ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า"อันสวยงามเก่าขลัง ให้เป็น"พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี"ที่มีสิ่งน่าสนใจให้ชมกันอยู่พอตัว

     พิพิธภัณฑ์นนท์ (ขอเรียกสั้นๆ) แบ่งเป็น 2 ชั้น แต่ละชั้นมี 4 ส่วน ในชั้นแรกส่วนแรกได้แก่ "โถงต้อนรับ" เมื่อเข้ามาในส่วนนี้เราจะได้รู้จักเมืองนนท์ผ่านแผนที่ดาวเทียม ซึ่งสามารถดูความเป็นไปของชีวิตประจำวันรอบศาลากลางหลังเก่านี้ได้จากวีดีทัศน์ จากนั้นจึงเป็นส่วนที่ 2 ได้แก่ "ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า" ในส่วนนี้ล่ะที่ "ตะลอนเที่ยว" จะได้รู้ถึงภาพรวมของอาคารหลังนี้จากโมเดลจำลอง อีกทั้งยังได้รู้ประวัติความเป็นมาและลักษณะสถาปัตยกรรมของอาคารแห่งนี้เป็นอย่างไร



ห้องจัดแสดงเรื่องราวของสวนผลไม้เมืองนนท์


     แต่เดิมอาคารหลังนี้เคยเป็นโรงเรียนราชวิทยาลัย ซึ่งเป็นโรงเรียนประจำ ลักษณะอาคารจึงมีหลายหลังติดกันเกือบจะเป็นวงกลม สร้างขึ้นในปี พ.ศ.2454 ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จนมาเมื่อสมัยรัชกาลที่ 7 ในพ.ศ.2469 เศรษฐกิจตกต่ำจึงต้องยุบโรงเรียนราชวิทยาลัยไปรวมกับโรงเรียนวชิราวุธ กรุงเทพฯ แล้วมอบอาคารเรียนให้เป็นที่ทำการศาลากลางจังหวัดนนทบุรีเมื่อ พ.ศ.2471

     ลักษณะอาคาร เป็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกที่ประยุกต์ให้เข้ากับภูมิอากาศเขตร้อน หันหน้าออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งเป็นเส้นทางคมนาคมหลักในสมัยก่อน ตัวอาคารมีเนื้อที่รวม 2 ไร่ 2 งาน 51 ตารางวา อาคารไม้สัก 2 ชั้น หลายหลังก่ออิฐถือปูนเชื่อมกัน 7 หลัง วางผังเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมรอบลานกว้าง (Quadrangle) เชื่อมต่อกันด้วยระเบียงทางเดิน อาคารกว้าง 11.55 เมตร ยาว 287.4 เมตร พื้นไม้สักทาสีไข่ไก่ ประตูหน้าต่างทาสีเขียวใบไม้ หลังคามุงด้วยกระเบื้องลูกฟูก ประดับด้วยงานไม้ลายวิจิตรที่ทำจากไม้สักทั้งหลัง



แผนที่จากเมืองมอญสู่เมืองนนท์ และหม้อน้ำลายวิจิตรตราสัญลักษณ์ จ.นนท์


     ด้วยความเก่าแก่และสวยงามด้วยงานไม้ที่ประณีตทรงคุณค่า กรมศิลปากรจึงได้ขึ้นบัญชีเป็นโบราณสถานที่สำคัญของชาติเมื่อ พ.ศ.2524 และได้รับรางวัลอาคารอนุรักษ์ดีเด่น จากสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ ใน ปี พ.ศ. 2543

     การถูกใช้งานมาอย่างยาวนานร่วม 100 ปี ทำให้อาคารหลังนี้มีสภาพทรุดโทรม และคับแคบไม่เพียงพอต่อการใช้งานเป็นศาลากลางจังหวัดในปัจจุบัน ทางจังหวัดจึงไปสร้างศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังใหม่ที่ ถ.รัตนาธิเบศร์ พร้อมย้ายส่วนราชการไปที่นั่น ส่วนศาลากลางจังหวัดหลังเก่าก็ทำการดัดแปลงเป็นพิพิธภัณฑ์นนท์ดังที่เกริ่นมาในข้างต้น



โมเดลจำลองโรงเผาเครื่องปั้นดินเผาในสมัยก่อน


      ทีนี้ก็มาถึงส่วนต่อไปคือ "ภาพอดีตนนทบุรี เมืองสวนผลไม้แห่งลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา" ในอดีตตั้งแต่สมัยอยุธยา เรียกเมืองนนท์ว่า "บ้านตลาดขวัญ" โดยเมืองนนทบุรีกำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2092 หลังสงครามไทย-พม่า ครั้งเสียสมเด็จพระสุริโยทัย สมเด็จพระมหาจักรพรรดิได้โปรดเกล้าฯ ให้ตั้งชุมชนหลายแห่งขึ้นเป็นเมือง เพื่อเป็นแหล่งรวบรวมกำลังคนและเสบียง

     จนมาถึงสงครามเสียกรุงครั้งที่ 2 เมื่อพม่าตีเมืองนนท์ได้ในปี พ.ศ.2307 ราษฎรจึงพากันทิ้งบ้านเมืองหลบหนีกระจัดกระจายไป เมื่อสงครามจบลง ชุมชนต่างๆในพื้นที่นนทบุรีก็ค่อยๆฟื้นตัว มีผู้คนจากหลากหลายถิ่นมาตั้งถิ่นฐานเนื่องจากใกล้เมืองหลวงใหม่

     มาในสมัยรัชกาลที่ 4 มีการปฏิรูปการปกครอง ได้รวมเอาเมืองนนทบุรีเข้าเป็นมณฑลกรุงเทพใน พ.ศ.2440 ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 6 ได้มีการเปลี่ยนคำเรียกเมืองมาเป็นจังหวัด เมืองนนทบุรีจึงเปลี่ยนเป็นจังหวัดนนทบุรี แต่มาสมัยรัชกาลที่ 7 จังหวัดนนท์ได้ถูกยุบไปรวมกับจังหวัดพระนคร และจังหวัดธนบุรี ต่อมา 3 ปีก็ได้จัดตั้งเป็นจังหวัดนนทบุรีอีกครั้งในพ.ศ.2489 จนปัจจุบัน

     นอกจากนี้เมืองนนทบุรียังได้ชื่อว่าเป็นเมืองสวนผลไม้ลือชื่อ เช่น ทุเรียนบ้านหม้อ ซึ่งเป็นแหล่งปลูกทุเรียนพันธุ์ดีมากมายที่มีชื่อเสียงมาแต่เดิมได้แก่ กบ ลวง ก้านยาว กำปั่น ทองย้อย แต่ระยะหลังเกิดน้ำท่วมใหญ่หลายครั้งทำให้ทุเรียนพันธุ์ดั่งเดิมสุญไปมาก, กระท้อนห่อบางกร่าง กระท้อนห่อของเมืองนนท์มีผลโต สีผิวสวย เปลือกนุ่ม เนื้อฟู รสชาติหวานอร่อย



ส่วนจัดแสดงหม้อน้ำลายวิจิตรแบบต่างๆและเครื่องปั้นดินเผามากมาย


     มะปรางท่าอิฐ มี 2 พันธุ์ คือ มะปรางหวานหรืออีไข่เต่า ผลใหญ่ยาวรีคล้ายไข่เต่า เมื่อสุกมีผิวสีเหลืองทอง รสหวานสนิท ส่วนมะยงชิดหรืออีไข่ห่าน มีผลใหญ่ค่อนข้างกลม เมื่อสุกผิวจะมีสีเหลืองอมแดง เนื้อแข็ง รสหวานอมเปรี้ยว, และลิ้นจี่เกาะศาลากุน หรือเกาะเกร็ดนั้นเอง

     ต่อไปเป็นส่วนที่ 4ได้แก่ "วิจิตรศิลป์ถิ่นนนท์ / เกียรติยศแห่งนนทบุรี" ซึ่งภายในส่วนนี้จัดแสดงจิตกรรมฝาผนังชิ้นเยี่ยมเช่น ภาพธุดงควัตร วัดปรมัยยิกาวาส, ภาพปริศนาธรรม วัดโพธิ์บางโอ, ภาพแม่พระธรณีบีบมวยผม วัดชมพูเวก, ภาพเทพนมยืนแท่น วัดปราสาท และงานวิจิตรศิลป์ชั้นยอด เช่น หนังใหญ่ ทศกัณฐ์นั่งเมือง, หุ่นละครเล็ก, หุ่นกระบอก เป็นต้น

     ในส่วนที่ 5 จัดแสดงอยู่บนชั้นที่ 2 ของอาคารพิพิธภัณฑ์ ได้แก่ "เครื่องปั้นดินเผา สัญลักษณ์แห่งนนทบุรี" เราจะได้เห็นประติมากรรมดินเผาขนาดใหญ่รูปตราประจำจังหวัดนนทบุรี ซึ่งตราประจำจังหวัดนนทบุรีกำเนิดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2483 สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งการที่เลือกหม่อน้ำลายวิจิตรเป็นตราประจำจังหวัด เพื่อสื่อความหมายว่านนทบุรียึดถือการทำเครื่องปั้นดินเผาเป็นอาชีพที่มีชื่อเสียงมาช้านาน



อีกมุมหนึ่งของ พิพิธภัณฑ์นนท์


     ถัดไปเป็นส่วนที่ 6 "เครื่องปั้นดินเผาบ้านเกาะเกร็ด และบ้านบางตะนาวศรี" ภายในห้องนี้ "ตะลอนเที่ยว" ได้ชมความงดงามของเหล่าหม้อน้ำลายวิจิตรแบบต่างๆ และเครื่องปั้นดินเผาหลากหลายแบบที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น ครก ห้อ ไห กาน้ำ จานขนมครก และสารพัดหม้อ

     จากนั้นเป็นส่วนของ "ภูมิปัญญาการผลิตเครื่องปั้นดินเผานนทบุรี" ภายในห้องนี้มีหุ่นดินเผาแสดงขั้นตอนการผลิตเครื่องปั้นดินเผาตามวิธีการดั้งเดิมของบ้านเกาะเกร็ดที่ไม่มีให้เห็นแล้ว และพัฒนาการที่เกิดขึ้นจนปัจจุบัน และใสส่วนสุดท้ายได้แก่ "การค้าเครื่องปั้นดินเผานนทบุรีในอดีต" ซึ่งในส่วนนี้ทำให้เราเห็นถึงยุคทองของการค้าเครื่องปั้นดินเผาที่เกาะเกร็ด อันตรงกับรัชสมัยรัชกาลที่ 5 มีโรงปั้นบนเกาะเกร็ดเกือบ 100 โรง และมีเตาเผากว่า 40 เตา ผลิตภัณฑ์หลัก ได้แก่ โอ่ง อ่าง ครก ซึ่งเป็นเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เป็นต้น



หอนาฬิกาสีเหลืองสวยตั้งอยู่บริเวณท่าน้ำนนท์ ด้านข้างของพิพิธภัณฑ์


     และนั่นก็คือสิ่งน่าสนใจในพิพิธภัณฑ์นนท์ ที่หลังชมเสร็จสิ้นแล้ว เรายังไม่รีบกลับไปไหน หากแต่ถือโอกาสไปเดินโต๋เต๋ชมวิถีสีสันในย่าน "ท่าน้ำนนท์"เรื่อยไปจนถึงตลาดนนท์ ซึ่งบริเวณด้านข้างถัดจากหอนาฬิกาก็เป็นตลาดของกินมากมายทั้งแบบสดและสำเร็จรูป เต็มไปด้วยผู้คนพลุกพล่าน หากใครมีเวลาหน่อยก็อาจจะเดินเล่นหาของกินอร่อยๆแถวตลาดนนท์ที่มีของขายสารพัดสารพัน


เสาไฟทุเรียนนนท์ มีมากมายหลายต้นบริเวณริมน้ำหน้าพิพิธภัณฑ์


     "พิพิธภัณฑ์จังหวัดนนทบุรี"(ศาลากลางจังหวัดนนทบุรีหลังเก่า) ตั้งอยู่บริเวณท่าน้ำนนท์ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ถ.ประชาราษฎร์สาย 1 บ้านบางขวาง อ.เมืองนนทบุรี (ฝั่งตะวันออก) จ.นนทบุรี เปิดให้ผู้สนใจเข้าชมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 15 ก.ย. 2552 ทุกวันอังคาร-ศุกร์ เวลา 9.00-17.00 น. วันเสาร์-อาทิตย์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 10.00-18.00 น.(หยุดวันจันทร์) ผู้สนใจสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 08-5984-4465


ขอบคุณข้อมูลดีดี : ผู้จัดการออนไลน์











Create Date : 02 ตุลาคม 2552
Last Update : 2 ตุลาคม 2552 15:39:41 น. 4 comments
Counter : 565 Pageviews.

 
สวยครับ ความรู้เพียบ


โดย: นายหัว (nindhua ) วันที่: 2 ตุลาคม 2552 เวลา:12:00:02 น.  

 
ก่อนที่จะมาเป็นพิพิธภัณฑ์ สถานที่แห่งนี้ เคยเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยมหาดไทย สถาบันดำรงราชานุภาพ ค่ะ เพราะเคยทำงานอยู่ที่นี่ ก่อนที่ย้ายไปอยู่กระทรวงมหาดไทยเมื่อปี 2551ค่ะ


โดย: kapeak วันที่: 3 ตุลาคม 2552 เวลา:19:15:02 น.  

 
ตามมาเที่ยวค่ะ ได้ความรู้ดีจัง


โดย: auau_pi วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:21:03:32 น.  

 
น่าสนใจ เคยแต่ผ่านไปค่ะ


โดย: AM NUCH วันที่: 4 ตุลาคม 2552 เวลา:21:41:31 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ของขวัญในสายลม
Location :
ตรัง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ALL ABOUT CODE
Friends' blogs
[Add ของขวัญในสายลม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.