|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
ที่มาของนามสกุลในประเทศไทย....
นามสกุล คือ ชื่อบอกตระกูล (หรือสกุล) เพื่อแสดงที่มาของบุคคลนั้น ว่ามาจากครอบครัวไหน ตระกูลใด โดยทั่วไปนามสกุล จะใช้ตามบิดาผู้ให้กำเนิด แต่บางครั้งก็ใช้ตามมารดา นามสกุล สามารถแจ้งแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้โดยได้รับการยินยอมจากเจ้าของสกุลด้วย
ที่มาของนามสกุลในประเทศไทย
เดิมคนไทยไม่ได้มีนามสกุล จะมีเพียงชื่อเรียกเท่านั้น ในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 จึงทรงโปรดให้มีการตั้งนามสกุลเหมือนกับประเทศอื่นๆ โดยให้ตราพระราชบัญญัติขนานนามสกุล เมื่อวันที่ 22 มีนาคม พ.ศ. 2455 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2456 และมีการพระราชทานนามสกุลให้แก่หลายครอบครัวที่เรียกว่า นามสกุลพระราชทานจำนวน 6,432 นามสกุล และหลายครอบครัวก็ตั้งนามสกุลตามชื่อของผู้นำของครอบครัวนั้น หรือตามถิ่นที่อยู่อาศัยของครอบครัวนั้น นามสกุลแรกของประเทศไทย คือ สุขุม
การตั้งนามสกุล
เมื่อมีพระราชบัญญัติขนามนามสกุลฯ ขึ้น ราษฎรไทยจึงต้องตั้งนามสกุลสำหรับใช้ในครอบครัวหรือตระกูลของตน โดยมีความนิยมหลายอย่างด้วยกัน ดังนี้
1. ตั้งตามชื่อของบรรพบุรุษ (ปู่ ย่า ตา หรือยาย) 2. ข้าราชการที่มีราชทินนาม มักจะนำราชทินนามมาตั้งเป็นนามสกุลของตน เช่น หลวงพิบูลสงคราม (แปลก) ใช้นามสกุล "พิบูลสงคราม" 3. ตั้งตามสถานชื่อตำบลที่อยู่อาศัย 4. ชาวไทยเชื้อสายจีนอาจแปลความหมายจาก "แซ่" ของตน หรือใช้คำว่าแซ่นำหน้าชื่อแซ่ หรือใช้ชื่อแซ่นำหน้า หรือสอดแทรกไว้ในนามสกุล 5. หม่อมเจ้า หม่อมราชวงศ์ และหม่อมหลวง ใช้นามราชสกุลของตนเป็นนามสกุล แต่ลูกของหม่อมหลวงและต่อไปเป็นหลาน เหลน ใช้นามราชสกุลโดยลำพังไม่ได้ ต้องมีคำว่า "ณ อยุธยา" ต่อท้าย สำหรับเชื้อพระวงศ์
ข้อกำหนดตามกฎหมายในการจดนามสกุลใหม่หรือเปลี่ยนนามสกุล
ตามพระราชบัญญัติชื่อบุคคล พ.ศ. 2505 กำหนดหลักเกณฑ์การตั้งชื่อสกุลไว้ว่า
1. ต้องไม่พ้องหรือมุ่งหมายให้คล้ายกับพระปรมาภิไธย พระนามของพระราชินี 2. ต้องไม่พ้องหรือมุ่งให้คล้ายกับราชทินนาม เว้นแต่เป็นราชทินนามของตน ของบุพการี หรือผู้สืบสันดาน 3. ต้องไม่ซ้ำกับชื่อสกุลพระราชทานของพระมหากษัตริย์ หรือชื่อสกุลที่ได้จดทะเบียนไว้แล้ว 4. ไม่มีคำหรือความหมายหยาบคาย 5. มีพยัญชนะไม่เกิน 10 พยัญชนะ เว้นแต่กรณีเป็นราชทินนาม 6. ผู้ที่ไม่ได้รับพระราชทานชื่อสกุล ห้ามใช้คำว่า "ณ" นำหน้าชื่อสกุล 7. ห้ามเอานามพระมหานคร และศัพท์ที่ใช้เป็นพระปรมาภิไธยมาใช้เป็นชื่อสกุล
นามสกุลที่ได้รับพระราชทานครั้งแรก ๕ สกุล คือ
1. สุขุม พระราชทาน เจ้าพระยายมราช เสนาบดีกระทรวงนครบาล
2. มาลากุล พระราชทาน พระยาวิสุทธสุริยศักดิ์ (ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาพระเสด็จสุเรนทราธิบดี) เสนาบดีกระทรวงธรรมการ กับ พระยาอนุรักษ์ราชมณเฑียร (ต่อมาได้รับ พระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยาธรรมาธิการณาธิบดี) เสนาบดีกระทรวงวัง
3. พึ่งบุญ พระราชทาน พระยาประสิทธิ์ศุภการ (ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดา ศักดิ์เป็น เจ้าพระยารามราฆพ) จางวางมหาดเล็กห้องพระบรรทม
4. ณ มหาไชย พระราชทาน พระยาเทพทวาราวดี (ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ เป็น พระยาบำเรอบริรักษ์) อธิบดีกรมมหาดเล็ก
5. ไกรฤกษ์ พระราชทาน พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ อธิบดีกรมชาวที่ และ พระยาจักรปาณีศรีศีลวิสุทธิ์ (ต่อมาได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น เจ้าพระยามหิธร) กรรมการศาลฎีกา
ขอบคุณข้อมูลดีดี : วิกิพีเดีย, คลังปัญญาไทย, //www.siamsout.com
Create Date : 14 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 14 มิถุนายน 2552 10:36:39 น. |
|
9 comments
|
Counter : 2933 Pageviews. |
|
|
|
โดย: CrackyDong วันที่: 14 มิถุนายน 2552 เวลา:15:51:14 น. |
|
|
|
โดย: ภูริ IP: 67.228.166.104 วันที่: 15 มิถุนายน 2552 เวลา:21:30:24 น. |
|
|
|
โดย: น้องฟาง IP: 118.175.129.20 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:43:53 น. |
|
|
|
โดย: สุพจน์ วังษาลุน IP: 118.175.129.20 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:45:58 น. |
|
|
|
โดย: นนทกานต์ วังษาลุน IP: 118.175.129.20 วันที่: 1 กรกฎาคม 2552 เวลา:12:52:01 น. |
|
|
|
โดย: น้องเพลง IP: 119.31.126.141 วันที่: 4 ธันวาคม 2552 เวลา:20:59:43 น. |
|
|
|
โดย: ต้นตระกูล IP: 203.144.144.164 วันที่: 24 มีนาคม 2553 เวลา:16:16:51 น. |
|
|
|
โดย: ภษมฬ IP: 203.158.140.74 วันที่: 26 กันยายน 2557 เวลา:12:08:32 น. |
|
|
|
|
|
|
|