BlogGang.com : : tudong : คำแถลงของนายนพดล ปัทมะกรณีการกล่าวสุนทรพจน์ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

คำแถลงของนายนพดล ปัทมะกรณีการกล่าวสุนทรพจน์ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

คำแถลงของนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กรณีการกล่าวสุนทรพจน์ของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

นายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตนไม่เข้าใจทำไมนายอภิสิทธิ์และพรรคประชาธิปัตย์จะต้องดาหน้ามาโจมตีนายกรัฐมนตรี ถึงกรณีการกล่าวสุนทรพจน์ในการประชุมประชาคมประชาธิปไตยที่มองโกเลีย ทั้งๆ ที่เป็นการแสดงความคิดเห็นและเป็นการให้ข้อมูลต่อผู้นำและสังคมโลก เพราะเรื่องพวกนี้ประเทศต่างๆ ก็เข้าใจเป็นอย่างดีว่า พ.ต.ท.ทักษิณและพรรคการเมืองฝ่าย พ.ต.ท.ทักษิณถูกกระทำมาโดยตลอดตั้งแต่มีการรัฐประหารปี 49 บ้านเมืองไร้ซึ่งประชาธิปไตยและหลักนิติธรรม องค์กรอิสระบางองค์กรลุแก่อำนาจ ใช้อำนาจที่ไม่มีใน รัฐธรรมนูญ ซึ่งการที่พรรคประชาธิปัตย์จะทำหนังสือชี้แจงสังคมโลกก็เป็นสิทธิที่ทำได้ แต่ขอให้พูดความจริง ตนเห็นว่าคงไม่มีประโยชน์อะไร เพราะสังคมโลกรู้ความเป็นไปในประเทศไทยดี สำนักข่าวชั้นนำทั่วโลก และสถานฑูตประเทศต่างๆ ก็ได้ติดตามความเคลื่อนไหวในประเทศไทย เขาทราบดีว่าผลการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 54 ที่พรรคเพื่อไทยชนะเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าสังคมไทยเลือกฝ่ายประชาธิปไตยก้าวหน้า มากกว่าฝ่ายอนุรักษ์นิยมล้าหลัง เลือกประชาธิปไตยที่ประชาชนกินได้ มากกว่าวาทกรรมกินไม่ได้ และนายอลงกรณ์ น่าจะเป็นพยานที่ดีที่สุด ว่าพรรคประชาธิปัตย์ตามไม่ทันพรรคเพื่อไทย ที่มักจะคัดค้านทุกเรื่องที่เป็นประโยชน์ ไม่ว่าจะเรื่องของการปฏิรูประบบโลจิสติกส์ 2 ล้านล้านหรือระบบการจัดการน้ำแล้ง น้ำท่วม 3.5 แสนล้าน ก็คัดค้าน จนทำให้ประชาชนเบื่อหน่ายและมองไม่เห็นอนาคตของตนเองในระบอบอภิสิทธิ์ชน

“ส่วนที่นายอภิสิทธิ์กล่าวหาว่า พตท. ทักษิณ ประกาศที่จะเดินหน้ากฎหมายนิรโทษกรรมฉบับ ร.ต.อ.เฉลิม ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อเอาเงิน 4.6 หมื่นล้านคืนนั้น ตอนนี้ยังไม่มีกฎหมายฉบับที่นายอภิสิทธิ์พูดถึงอยู่ในสภาฯ นายอภิสิทธิ์ก็ไม่ควรที่จะใช้การคาดการณ์และจินตนาการในอนาคตมาใส่ร้ายบุคคลอื่นในปัจจุบัน เพราะไม่เป็นธรรมต่อ พ.ต.ท.ทักษิณ และขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้ความจริงเป็นแนวทางในการทำงาน อย่ามัวแต่ประดิษฐ์วาทกรรมไปวันๆ เพื่อโจมตีคนอื่น ตามที่นายอลงกรณ์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์เองได้เรียกร้องให้ปฏิรูปพรรค” นายนพดล กล่าว

https://www.facebook.com/pages/Noppadon-Pattama/263041501938?hc_location=stream

Create Date : 01 พฤษภาคม 2556

Last Update : 1 พฤษภาคม 2556 20:32:42 น.

2 comments

Counter : 588 Pageviews.

"เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 54 ที่พรรคเพื่อไทยชนะเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าสังคมไทยเลือกฝ่ายประชาธิปไตย" ทำไมตอนนี้มาบอกว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย จึงต้องแก้ รธน. หรือว่ามาจากผลพวง รัฐประหาร อ้างอยูู่นั่นแหละ ใคร ๆ เขาก็รู้ทั้งโลกแล้วว่า พวกเอ็งทำตามทักษิณ ้เจ้าของ ครม.ตัวจริง ตอแหล

โดย: สกลชัย IP: 27.55.150.252 วันที่: 1 พฤษภาคม 2556 เวลา:21:25:30 น.

"เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 54 ที่พรรคเพื่อไทยชนะเสียงข้างมากเด็ดขาดในสภา ก็เป็นเครื่องยืนยันว่าสังคมไทยเลือกฝ่ายประชาธิปไตย"

- ประชาชนคนไทยส่วนใหญ่เลือกฝ่ายประชาธิไตยถูกต้อง แต่ฝ่ายเสียงส่วนน้อยก็ไม่ยอมรับเสียงส่วนใหญ่ ความวุ่นวายมันจึงเกิดขึ้นในบ้านเมือง ถ้าพวกเสียงส่วนน้อยยอมรับเสียงส่วนใหญ่ รออีก 4 ปีเลือกตั้งใหม่ค่อยตัดสินใจใหม่ อย่างนี้ไม่วุุ่นวาย

"ทำไมตอนนี้มาบอกว่า ไม่เป็นประชาธิปไตย"

- หลังจากปี 49 เป็นต้นมามีรัฐประหาร แล้วตั้งรัฐบาลเองโดยประชาชนไม่ได้เลือกมันจะเป็นประชาธิปไตยได้ยังไง
- พอมีเลือกตั้งพรรคพลังประชาชนชนะ พวกคนกลุ่มเดิมก็เตะท่านตกเก้าอี้ด้วยข้อหาฮากันทั้งโลกมันจะเป็นประชาธิปไตยได้ยังไง
- ท่านสมัครไปท่านสมชายขึ้นครางนี้พวกเล่นหนักยึดทำเนียบ ยึดสนามบินยุบพรรคพลังประชาชนและอีก 3 พรรคในวันเดียวมันจะเป็นประชาธิปไตยได้ยังไง
- สุดท้ายพวกคนกลุ่มเดิมพากันไปตั้งรัฐบาลในค่ายทหารมันจะเป็นประชาธิปไตยได้ยังไง
- ประชาชนมาเรียกร้องให้ยุบสภาฯพวกก็สั่งฆ่าตายไป 90 กว่า บาดเจ็บอีก 2,000 กว่า สูญหายไม่รู้เท่าไหร่มันจะเป็นประชาธิปไตยได้ยังไง
- สุดท้ายยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่ ประชาชนส่วนใหญ่เลือกพรรคเพื่อไทย พวกก็จ้องจะล้มตั้งแต่วันแรคที่รับตำแหน่ง ยันวันนี้แล้วมันจะเป็นประชาธิปไตยได้ยังไง

ประเทศไทยความจริงมันเป็นเป็นการปกครองในระบอบประชาธิปไตยแต่ในนาม มันไม่ใช่ประชาธิปไตยเต็มใบแบบนานาอารยประเทศที่เจริญแล้วเขามีกัน เช่นประเทศอังกฤษ,ญี่ปุ่นที่มีโครงสร้างการปกครองคล้ายๆกับเมืองไทย แต่ประเทศเขา"นายกรัฐมนตรี"มีอำนาจสูงสูดในการบริหารประเทศ

แต่ประเทศไทยไม่ใช่ คนที่ใหญ่กว่านายกฯมีเยอะแยะไปหมดจะทำอะไรก็ต้องไปถามก่อนว่า ถูกใจหรือเปล่า ชอบใจหรือไม่ เช่นการแต่งตั้งผู้บัญชาการเหล่าทัพ ต้องผ่านองคมนตรีก่อน ถ้าไม่ผ่านเดี๋ยวมีงอน เป็นต้น

ปัญหาในเมืองไทยมันแก้ยาก ส่วนหนึ่งมันพูดได้ไม่หมด เมื่อพูดได้ไม่หมดก็แก้ปัญหาทั้งหมดไม่ได้ พลตรีสนั่นถามบิ๊กบังว่า"ใครอยู่เบื้องการปฏิวัติ" บิ๊กบังยังตอบไมได้เลย นี่คือตัวอย่างหนึ่ง

โดย: tudong

วันที่: 8 พฤษภาคม 2556 เวลา:0:47:45 น.