1 Mai 2009
เมื่อวานนี้อ่านหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น
"La Voix du Nord" ของฝรั่งเศสทางเหนือ
เห็นกรอบข่าวหน้าใน แนะนำสถานที่พักผ่อนแห่งนึง
ชื่อว่า "Valjoly"
ที่เพิ่งเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
เมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
ก็เลยนึกได้ว่าเอารูปไปเที่ยวที่นั่น
ตอนวันแรงงานที่ผ่านมา
มาแปะตรงนี้ดีกว่า จะได้ร่วมสมัยกะใครๆเค้า
"Valjoly" (วาล-โช-ลี)
เป็นสถานีท่องเที่ยว (station touristique)
แหล่งพักผ่อนหย่อนใจทางธรรมชาติ
ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาดใหญ่ริมทะเลสาบ
ที่เมือง "Eppe-Sauvage" ทางเหนือของฝรั่งเศส
ไม่ไกลจากชายแดนเบลเยี่ยม
เข้าไปดูแผนที่ได้ในเวปเค้าเลยค่ะ
//www.valjoly.com/
สำหรับคนอยู่ฝรั่งเศส คร่าวๆคือ
จะอยู่ไม่ไกลจาก Valenciennes และ Maubeuge
ส่วนใครอยู่เบลเยี่ยม ก็ห่างจากชายแดนไม่กี่กิโลเมตร
แถวๆ Beaumont กะ Chimay
หรือเถิบมาหน่อยก็เป็น Mons
ห่างจากบ้านดิฉัน 130 กม ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งกว่าๆ
ถึงไม่ไกลมาก แต่ขับเหนื่อยเหมือนกันนะคะ
เพราะเราไปทำกิจกรรมกันไม่ได้อยู่นิ่ง
ถ้าได้ไปค้างซักหนึ่งคืนนี่นับว่ากำลังสบาย
เค้ามีที่พักให้เช่าแบบตัวอาคารรวม
บ้านเป็นหลังๆ ชาเล่ย์ สตูดิโอ หรือแม้แต่แค้มป์ปิ้ง
คาราวาน (ที่คุณสามารถขับมาเองก็ได้)
ดิฉันยกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อครอบครัวที่ดีเยี่ยม
สำหรับแถวนี้ (รวมทั้งถ้าคุณมาเที่ยวกับเพื่อนๆหรือคนรัก)
เพราะมีกิจกรรมมากมายให้ได้ทำร่วมกัน เช่น ว่ายน้ำ
ขี่ม้า จักรยาน มินิกอล์ฟ เรือใบ แคนนู คายัค ยิงธนู
กิจกรรมผจญภัยสำหรับเด็กพวกปีนป่าย ไต่เชือกบนต้นไม้
(อันนี้เอมไม่ได้เล่น เพราะอายุยังไม่ถึง) และอื่นๆ
มีศูนย์บริการสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน
ทั้งด้านอาหาร สินค้าและบันเทิง
มีแม้กระทั่งโรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก
แต่ถ้าคุณไม่ได้พักที่นี่ ต้องจ่ายตังค์ค่ากิจกรรมเป็นอย่างๆนะคะ
ในรูปด้านล่างคือร้านขายขนมปัง เค้กและไอติม
ที่เราไปนั่งเติมพลังหลังว่ายน้ำ
(((เห็นไอติมคิตตี้สีชมพูในมือเจ้าเอมไหมคะ
ซื้อมากินไปคำเดียว แล้วบอกไม่เอาแล้ว ไม่ชอบ
มันน่าตีจริงเชียว เด็กคนนี้ ซื้อเพราะคิตตี้แท้ๆ
ตอนซื้อดิฉันก็ไม่เห็น มัวแต่ถ่ายรูปเล่น
เอมเดินไปก่อนกับพ่อ แล้วตาพ่อให้กำตังค์ไปซื้อเอง
แต่จะว่าไป มันไม่อร่อยจริงๆแหล่ะ หุหุ
แอบชิมต่อจากลูก ด้วยความเสียดาย)))
เห็นในเวปบอกว่าที่นี่สามารถรองรับ
นักท่องเที่ยวทั้งเดี่ยวและหมู่คณะ
มีห้องประชุมสัมมนาด้วย
(แต่ทั้งหมดที่เล่ามาข้างบน ดิฉันไม่ได้ถ่ายรูปมา
เพราะแต่ละอย่างมันอยู่ไกล อย่างบริเวณที่พัก
ก็ห่างไปโน่นนน)
มีเนิร์สเซอร์รี่สำหรับคุณพ่อคุณแม่จะได้ฝากดูแลลูกเล็กๆ
เวลาไปทำกิจกรรมกะลูกโตๆ โดยไม่ต้องมีห่วง
(((รูปด้านล่างขวาเป็น trampoline ให้เด็กๆกระโดดดึ๋งๆ
ถ่ายตอนเค้าปิดพักกลางวัน เลยไม่เห็นคนค่ะ
พอถึงเวลาเปิด เด็กต่อคิวเล่นกันยาวเหยียด)))
วันนั้นเราไปถึงกันเที่ยงกว่าๆเพราะช่วงเช้ามัวแต่
ไปเดินเล่นตลาดนัดขายของเก่าอีกเมืองนึง
ก็เลยทำเวลาเที่ยวได้น้อย
แถมมาเจอช่วงพักกลางวันของเค้าอีก
กิจกรรมทุกอย่างที่นี่ปิดหมดเลยค่ะ
เปิดอีกทีตอนบ่ายสอง
(คิดแล้วก็ตลกดีมีการพักกินข้าวด้วย
แต่ดิฉันว่าเสียเวลานักท่องเที่ยวมากเลย
ที่ต้องมานั่งรอเนี่ย)
สรุปวันนั้นได้ทำกิจกรรมแค่ 2 อย่างคือ
ให้เอมขี่ม้าแคระกะไปว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำในร่มใหญ่ดีค่ะ
แล้วมีหลายสระให้เล่นน้ำวน จากุซซี่
หรือเปิดเล่นคลื่นเป็นเวลา
(ไม่ได้แปะรูปสระเพราะว่าไม่แน่ใจว่า
เค้าอนุญาตให้ถ่ายรูปหรือเปล่า
ตามไปดูในเวปเค้าแล้วกันนะคะ)
เป็นครั้งแรกที่เอมได้ขี่ poney
(หรือ pony ในภาษาอังกฤษ)
ก็เลยทดลองช่วงสั้นๆก่อน ใช้เวลาเดิน trail
หนึ่งรอบประมาณ 15-20 นาที จ่ายไป 6 ยูโรค่ะ
เราไปรอตั้งแต่เค้าเปิดบริการช่วงบ่ายสอง
ก็เลยเลือกได้ก่อน เอาตัวเล็กๆหน่อย
ให้พอดีกะความสูงและอายุเอม
(4 ขวบหนึ่งเดือน)
ชื่อเจ้า "Noustique" ค่ะ
เวลาเดินก็ให้พ่อเค้าจูงเดินข้างๆ
ต้องคอยดึงกำกับเจ้าม้าน้อยให้เดินให้ตรงทาง
เพราะเธอจะแวะกินหญ้าตามรายทางอยู่เรื่อย
ตอนเดินออกจากคอกม้า เค้าบอกให้เดินไปตามป้าย
เราก็งงนะ จะไปทางไหน เพราะบางทีป้ายบอกทางมันเล็กมาก
แต่เจ้าม้าแคระรู้จักทางดี เพราะเดินทุกวัน วันละหลายรอบ
เรียกว่าหลับตาเดินได้เลยมั้ง
นับว่าเราโชคดีที่เลือกได้ม้านิสัยดี เพราะม้าอีกตัว
ของเด็กผู้ชายคนที่เดินไปก่อนเอม แอบดื้อ
ชอบแวะหยุดพักกินหญ้าข้างทาง (จนเราแซงได้)
แถมเวลาพ่อเด็กกระตุ้นให้เดิน ก็กลับวิ่งแทน
เจ้าเอมเห็นก็หัวเราะคิกคักๆ แอบขำหนุ่มน้อยเพื่อนร่วมทาง
(ถ้าเป็นม้าตัวเอง ไม่รู้จะแอบกลัวหรือเปล่า)
ขอบคุณที่พาเที่ยวค่ะ
ไม่รู้เมือไหรจะได้ไปเที่ยวเสียที