ตอน 2 โดนตลอด
ครั้นได้ลายเซนต์และได้ถ่ายรุปกับดาราที่ชื่นชอบ กลับมาก็นำมาอวดโชว์ให้เพื่อนๆ ในบริษัทได้เห็นทางโทรศัพท์ อย่างรู้สึกดีใจสุดๆ มือเรียวหยิบภาพถ่ายเสื้อที่มีรายเซนต์อยู่บนนั้นมากางออกให้ดู หญิงสาวทั้งสองนำรูปที่ถ่ายไว้ไปล้างออกมาน่ะเองเพราะอยากนำไปติดผนังที่บ้านน่ะเอง“นี่รายเซนต์ของทีโอแล้วก็น้องติ้ว แถมยังได้ถ่ายรูปกับดาราด้วย ดูสิ” มือเรียวหยิบออกมาโชว์ให้ดู ทุกคนก็แย่งกันหยิบไปดู“ไหนๆ ขอดูหน่อย”“ฉันขอดูด้วย” ซึ่งภาพของทีโอที่สุนทรีถ่ายคู่ก็หล่นลงมาจากระเบียงของบริษัท ไปยังลานจอดรถพร้อมกับรูปของน้องติ้วของมุกดาด้วย“อุ๊ย ภาพหล่นไปแล้ว”“เดี๋ยวฉันไปเก็บมาให้”ซึ่งภาพดังกล่าวก็ปลิวมาโดนใบหน้าคมของธราธิปที่จอดรถอยู่ยังชั้นล่างพอดี อย่างไม่ตั้งตัวขณะที่เขากำลังจะเดินเข้าบริษัท แปะ...“รูปอะไรกัน” มือแกร่งหยิบออกมาดูก็พบว่าเป็นภาพของหญิงสาวถ่ายรูปกับทีโอและสุนทรี ทั้งหมดมองตามทิศทางที่รูปหล่นลงไปก็พบว่ามันไปปะบนใบหน้าคมของใครบางคน ต่างร้องออกมาเมื่อเห็น“ซวยแล้ว!” มุกดาก็วิ่งลงมายังชั้นล่างพอเห็นรูปของตนเองอยู่ในมือเจ้าของบริษัทก็แสดงสีหน้าตกใจ“ตายแล้ว!”“ใครตาย” เขาย้อนถามกลับไป“ไม่มีใครตายค่ะ” หญิงสาวสั่นหน้าปฏิเสธแต่เธอจะตายเพราะสายตาของเขานี่ล่ะ ผู้ชายอะไรตาคมยังกับใบมีดโกนเลย มองทีสะท้านเยือกทีเดียว“นี่ของเธอเหรอ”“เอ่อ ใช่ค่ะ ขอโทษนะคะที่ทำรูปปลิวลงมาโดนคุณธราธิป” หญิงสาวพยักหน้าตอบรับกลับไป“เป็นพวกบ้าดาราเหรอ”เขาย้อนถามกลับมาพร้อมกับทำท่าเลิกคิ้วขึ้นสูงด้วย และมองจ้องใบหน้านวลอย่างไม่ละไปทางใดอีกด้วย“เปล่าค่ะ”“ช่วยทำงานให้มากกว่าปากก็ดีนะ เอาของเธอคืนไป”เขาส่งรูปในมือให้กับหญิงสาวก่อนจะก้าวเข้าไปในบริษัท เธอจึงเดินขึ้นลิฟท์ไปหาเพื่อนเพื่อทำงานต่อ“คุยอะไรกับคุณธราธิปเหรอ” ทุกคนมองลงมาเห็นเพื่อนยืนอยู่กับชายหนุ่มผู้เป็นนาย“โดนดุอีกแล้วน่ะสิ”“เรื่องที่รูปปลิวไปโดนหน้าน่ะเหรอ” สุนทรีเอ่ยอย่างคาดการณ์ออกมา“ไม่ใช่ เรื่องที่ว่าอย่าใช้ปากทำงานมาก”“ปากร้ายจริงๆ เลย คุณซันเนี่ย” คนอื่นต่างวิพากษ์วิจารณ์ออกมา“นั่นสิ” มุกดาบอกอย่างเห็นด้วย“แล้วว่าแต่มุกกับสุ่นจะไปเกาหลีเมื่อไรน่ะ”“อาทิตย์หน้าน่ะ" เป็นบุญของนังมุกจริงๆ ที่จะได้ไปประเทศเกาหลี นี่ถ้าเก็บตังค์ไปเองคงไม่ได้ไปหรอก บอกอย่างรู้ถึงสภาพฐานะของตนเองกระทั่งวันเดินทางไปเกาหลีก็มาถึง มุกดากับสุนทรีก็เตรียมนั่งรถไปยังสนามบิน เธอบอกกับบิดาและมารดาด้วยรอยยิ้ม“แล้วมุกจะซื้อของเกาหลีมาฝากพ่อกับแม่ด้วยนะจ๊ะ”“จ้ะ เที่ยวให้สนุกนะลูก” ทั้งสองก็กอดลูกสาวก่อนที่เธอจะนั่งแท็กซี่ไปยังสนามบินหลังจากนั้น เมื่อไปถึงก็เตรียมไปคอนเฟิร์มตั๋วเครื่องบินที่ทางบริษัทได้จองไว้ให้กับทั้งสองคน ซึ่งเธอก็เดินไปเข้าแถวต่อหลังคนอื่น ระหว่างนั้นก็พลันมองเห็นชายหนุ่มที่คุ้นตาเดินมาต่อหลังเธอ มุกดาที่หันไปมองสถานที่รอบๆ ก็ตกใจอุทานออกมาเสียงดัง“เฮ้ย!”“นี่เธอเบาๆ เสียงหน่อยสิ มารยาทไม่มีรึไงกัน อยู่ๆ ก็ตะโกนขึ้นมาน่ะ” ธราธิปทำเสียงและสีหน้าดุใส่เธอ“มีอะไรเหรอมุก เฮ้ย” สุนทรีได้ยินเพื่อนอุทานออกมาก็สอบถามอย่างสงสัยก่อนจะเอ่ยออกมาไม่ต่างกันเลย“เธอสองคนนี่ ไม่มีมารยาทเหมือนกันเลยเนอะ”“พวกเราไม่คิดว่าจะเจอคุณธราธิปที่นี่น่ะค่ะ” มุกดาแก้ตัวออกมาว่าที่ตกใจเพราะอะไร“ทำไม พวกเธอมาสนามบินได้แค่สองคนเท่านั้นเหรอ ฉันก็มาได้เหมือนกัน”“คุณธราธิปจะไปเมืองนอกเหมือนกันเหรอคะ” สุนทรีพูดอย่างคาดการณ์หลังจากนั้น“ฉันจะไปไหนแล้วเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยล่ะ” แป่ว หน้าแตก“ไม่น่าไปเผือกเลยเรา” เพื่อนสาวบ่นพึมพำเบาๆ และก็เข้าแถวแบบเงียบๆ ไม่กล้าพูดอะไรอีก เพราะกลัวถูกดุน่ะเอง เดี๋ยวจะหาว่าไม่มีมารยาทอีกหลังจากได้ตั๋วแล้วทั้งสองก็ไปนั่งรอเพื่อเตรียมขึ้นเครื่องบิน ซึ่งธราธิปก็เดินไปนั่งรอยังบริเวณเดียวกัน พอเห็นเขาก็หันไปคุยกับเพื่อน“คุณธราธิปจะไปเกาหลีเหมือนพวกเราเลย” ขณะเอ่ยก็แอบมองไปยังใบหน้าคมที่นั่งอยู่ไม่ไกล ซึ่งเขาก็เงยเงยหน้ามองเห็นพอดี มุกดาก็รีบหันหน้ากลับไปโดยเร็ว ไม่กล้าที่จะสบดวงตาคมกริบเหมือนใบมีดของอีกฝ่าย“จริงด้วย” สุนทรีพยักหน้าอย่างเห็นด้วย แต่ในระหว่างที่นั่งรอนั้น อยู่ๆ สุนทรีก็เกิดอาการปวดท้องกระทันหันพลางบอกเพื่อนสาวที่นั่งอยู่ด้วยกัน“มุก ฉันไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ ปวดท้องน่ะ”“ฉันไปด้วย” เรื่องอะไรจะไห้เธอนั่งอยู่กับเจ้านายตามลำพังกัน“งั้นไปกัน” ทั้งสองสาวก็สะพายกระเป๋ายังบ่า และพากันเดินไปห้องน้ำหลังจากนั้นแต่เพราะคนเข้าห้องน้ำมาก จึงทำให้กว่าจะได้คิวก็นานพอควร มุกดาก็ยืนรออยู่ทางด้านนอก พอได้ยินเสียงประกาศให้ขึ้นเครื่อง เธอก็ตะโกนบอกให้เพื่อนทราบ“สุ่น เสร็จรึยัง”“ฉันเพิ่งได้เข้าเอง” อีกฝ่ายก็ตอบกลับมาให้ได้ยิน“เร็วๆ นะ เขาประกาศให้ขึ้นเครื่องบินแล้ว เดี๋ยวตกเครื่อง”“ฉันรีบจะตายอยู่แล้วเนี่ย เวรเอ๊ย ทำไมต้องมาปวดตอนนี้กัน สงสัยตื่นเต้นจะได้ขึ้นเครื่องบินแน่ๆ เลย” เพื่อนสาวตะโกน ก่อนจะเดินออกมายังด้านนอก“เร็ว รีบไปกันเถอะเดี๋ยวไม่ทัน” ทั้งคู่ก็วิ่งไปขึ้นเครื่องบินหลังจากที่ตรวจกระเป๋าเสร็จเรียบร้อยแล้ว“ขอโทษค่ะ ที่มาช้า”“ถ้ามาช้ากว่านี้ตกเครื่องแน่ๆ ค่ะ” พนักงานบอกให้ทราบ ทั้งสองก็เข้าไปในเครื่องบินและเตรียมหาที่นั่ง ในชั้นบิสซิเนส ซึ่งเป็นที่นั่งของทั้งคู่ ก็พลันเห็นร่างแกร่งของเจ้านายหนุ่มนั่งอยู่ไม่ไกล อีกฝ่ายก็เอ่ยลอยๆ ขึ้นมา“เธอสองคนน่าจะรู้เวลานะ ว่าต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อนขึ้นเครื่องบิน ไม่ใช่มาเข้าห้องน้ำตอนเครื่องใกล้ออก”“ก็ตอนแรกไม่ปวด มันมาปวดตอนหลังนี่นา จะให้ทำยังไงล่ะ” สุนทรีเถียงน้ำขุ่นๆ แต่ไม่กล้าพูดเสียงดังมาก“พวกเราขอโทษค่ะ” มุกดาเอ่ยอย่างรู้สึกไม่ดี เวรกรรมอะไรอย่างนี้กันต้องมานั่งอยู่ใกล้เจ้านาย แบบนี้จะคุยอะไร จะนินทาอะไรก็ไม่ได้“ให้ตายเถอะ ทำไมพวกเราต้องมานั่งติดกับคุณธราธิปเนี่ย”สุนทรีหันไปมองทางด้านหลังและกระซิบเบาๆ กับมุกดา“นั่นสิ เซ็งสุดๆ”หญิงสาวตอบอย่างเห็นด้วยกับเพื่อน ปกติเวลาไปไหนทั้งคู่มักจะคุยกันอย่างสนุกสนาน แต่ตอนนี้ได้แต่นั่งสงบเสงี่ยมเจียมตัว ฟังเพลงและดูหนังไป ไม่กล้าคุยอะไรกันมาก เพราะกลัวจะทำให้เจ้านายที่นั่งอยู่ทางด้านหลังรู้สึกรำคาญ ++++++++++++++อะไรๆ ก็หนูมุกผิดไปหมด ชิ อย่ามาหลงรักเขาละกัน อีเฮียซัน อะไรจะดุ เคร่ง ขนาดนี้กัน 555 ถ้าทำงานกับเจ้านายแบบนี้ คงขยับตัวไม่ถูกเป็นแน่ โอ๊ย เจอแบบนี้เป็นใครก็เซ็ง 555