ตราบาปกับความละเอียดอ่อนของจิตใจ

ตราบาปกับความละเอียดอ่อนของจิตใจ
ความเรียงเชิงทัศนะ...วันแม่ ปี 2551

เมื่อครั้งผมได้เข้าทำงานครั้งแรกโดยใช้ชีวิตในโรงงานอุตสาหกรรมย่านกระทุ่มแบนบ้านเกิด ความรู้สึกในขณะนั้นผมยังจำได้ดีถึงความตื่นเต้นที่จะได้รับเงินจากน้ำพักน้ำแรงแห่งความเพียรพยายามเป็นงวดแรกด้วยอัตราค่าจ้างรายวันที่ถูกแบ่งจ่ายเป็นงวดละ 1 อาทิตย์คือ 6 วัน ได้รับ คือ 300 บาท

เงิน 300 บาทกับการทำงานอย่างหนักตลอด 6 วัน ตั้งแต่ 8.30 – 17.00 น.กับเด็กคนหนึ่งที่เพิ่งเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กับความรู้สึกแห่งความภาคภูมิใจในขณะนั้น จนลืมคิดถึงความเสียใจที่ไม่ได้เรียนต่อในชั้นที่สูงขึ้น

เงิน 300 บาท นั้น ถูกส่งต่อไปยังมือแม่ของเขาทุกบาททุกสตางค์ โดยไม่ได้เก็บไว้เลย แม้แต่สตางค์แดงเดียว

หลายปีที่พยายามทำงานเก็บเงิน เพื่อเลี้ยงดูบุพการีผู้เป็นแม่ที่รักยิ่ง ทำงานในทุกอย่างที่คนติดต่อให้ทำและได้เงิน เก็บออมทุกทางเพื่อจะได้ลืมตาอ้าปากและจะได้มีหลายต่อหลายสิ่งที่ยังขาดเฉกเช่นคนอื่น ทำเพื่อให้ชีวิตความเป็นอยู่ในครอบครัวดีขึ้นหลังจากผู้ซึ่งเป็นพ่อได้จากไปในขณะที่ผมเรียนอยู่ชั้น ป.4 คงเหลือผู้เป็นแม่ดูแลมาโดยลำพังอย่างยากลำบากตลอดระยะเวลาหลายปี

มีคนเคยกล่าวไว้ว่า “ ขาดพ่อถ่อหัก ขาดแม่แพแตก ” ซึ่งในตอนนั้นผมอาจไม่เข้าใจ แต่ในวันนี้ วันที่ผมมองย้อนกลับไป ทำให้ผมเห็นมันชัดเจนขึ้น

แพที่เคยวิ่งฉิว โดยที่มีพ่อเป็นถ่อคอยขับเคลื่อน มันได้หยุดลง ธุรกิจหลายต่อหลายอย่างที่พ่อเป็นผู้บุกเบิกทุกอย่างสิ้นสุด คนโกงก็เริ่มทำงาน สิ่งต่าง ๆที่เราคิดว่ามันเป็นหรือมันเคยเป็นของเราก็กลับไม่ใช่ ของทุกสิ่งที่พ่อสร้างได้ค่อย ๆเลือนหายไปจากชีวิต ไม่ว่าจะเป็นร้านขายของชำ “เทียนส่งพานิช” ,ธุรกิจขายส่งน้ำเมา ,รวมถึงโรงกลึงเหล็ก ซึ่งพ่อเพิ่งเปิดได้ไม่นานก่อนเสียชีวิตโดยมุ่งหวังให้พี่ชายของผมดำเนินกิจการแทนเมื่อเติบใหญ่

หลายต่อหลายสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตที่ผมพยายามลืมและดำเนินชีวิตของตนจากเส้นเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยตนเองอีกครั้ง เสมือนหนึ่งว่าตัวเองเป็นถ่อ และในขณะนั้นก็มีแม่นั่งอยู่บนแพเพียงลำพังที่คอยเฝ้ามองลูกชายของตนกับแววตาที่เปี่ยมสุขและชื่นชม

ผมใช้เวลาหลายปีเก็บเงินจนสามารถซื้อเครื่องอำนวยความสะดวกต่าง ๆเข้าบ้านและเพื่อให้แม่ของผมอยู่สบายมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ โทรทัศน์เครื่องใหม่ (เครื่องเก่าพี่ชายซื้อและเอาไปหลังแต่งงาน) และสิ่งที่ผมไม่เคยมีเลยในชีวิตและอยากมีก็คือ “ตู้เย็น” ผมสามารถซื้อมันได้หลังจากส่งเงินเล่นแชร์ไป 1 ปีเต็ม

การทุ่มเทอย่างหนักโดยเอาความอยากได้อยากมีเป็นที่ตั้ง
และความอยากได้อยากมี โดยเอาตัวเงินเป็นจุดหมาย มันได้ทำลายความละเอียดอ่อนในจิตใจ โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว


ภายหลังได้เงินจากการเล่นแชร์มา ผมยังไม่มีเวลาแม้แต่จะไปเลือกซื้อตู้เย็นที่ฝันไฝ่ ผมยังคงทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำ โดยทำได้แค่ส่งเงินจำนวนนั้นให้แม่อันเป็นที่รักช่วยดำเนินการให้ โดยไม่ได้บอกแม่เลยว่าจะเอายี่ห้ออะไร รุ่นไหน และขนาดเท่าใด

วันรุ่งขึ้นผมออกไปทำงานตอนเช้าปกติ และจะกลับมาอีกครั้งในเวลา 17.30 น.
วันนี้ต่างไปจากวันอื่น .. ทันทีที่ผมถึงบ้าน ก็พบแม่นั่งเย็บผ้าอยู่หน้าประตูบ้านด้วยสีหน้ายิ้มกริ่มเหมือนว่าจะมีเซอร์ไพส์ให้กับลูกชายที่รัก และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ

ตู้เย็นขนาด 5.5 คิวสีเขียวอ่อน ยี่ห้อโตชิบา รุ่นฮิตที่มีโกโก้เป็นรูปแอ๊ปเปิลติดหน้าประตูตู้ ถูกวางและเสียบปลั๊กไว้เย็นฉ่ำ และเมื่อเปิดตู้เย็นนั้นก็พบว่า มันยังไม่มีอะไรเลย นอกจาก ...

ขันน้ำหนึ่งขัน ที่ใส่น้ำไว้เต็มปรี่ ใส่ดอกมะลิสดลอยอยู่เรียงราย พร้อมกับเสียงแม่พูดขึ้นเสมือนว่าให้เราหายเหนื่อยจากการทำงานมา “กินน้ำเย็น ๆซิลูก ”
มันช่างเป็นคำพูดที่ฟังแล้วชื่นใจ เมื่อรวมกับน้ำในขันใหญ่ที่ใส่ดอมมะลิไว้ น่าจะทำให้หายเหนื่อยเมื้อยล้าได้ในทันที


แต่ทำไม ณ เวลานั้นผมกลับไม่รู้สึกเช่นนั้น

เพราะว่า แม่ซื้อตามที่แม่ชอบ และคิดว่าลูกชายที่รักของตนจะชอบด้วย
แม่คิดผิด ... ตู้เย็นที่ลูกชายที่บอกว่ารักแม่นักหนาชอบนั้น กลับเป็นยี่ห้อฮิตาชิ สีแดงสด

ผมจำไม่ได้ว่าได้พูดจาอะไรไปบ้างในขณะนั้น เมื่อเห็นตู้เย็นที่วางอยู่ตรงหน้าหาได้เป็นไปดังที่ตนต้องการ

แต่สิ่งที่ผมจำได้ตลอดจนถึงทุกวันนี้เสมือนหนึ่งเป็นตราบาปในใจผม คือคำพูดและความรู้สึกของแม่ที่ผมได้รับ

ตราบาป คือ ทำให้แม่เสียใจจะด้วยตั้งใจหรือไม่ ก็ตาม

“เดี๋ยวแม่จะเอาไปเปลี่ยนให้”แม่พูดด้วยสีหน้าที่ผิดหวังจากสิ่งที่ตนตั้งใจทำเพื่อผม

ผมรู้ว่าแม่รู้สึกเช่นไร และพยายามพูดออกมาเพื่อให้ลูกชายของตนรู้สึกดีขึ้น ทั้งที่มันเป็นไปไม่ได้ เพราะของที่ซื้อมานั้นมันไม่ได้สามารถเปลี่ยนได้โดยไม่บกพร่องที่ตัวสินค้า
แต่มันบกพร่องที่ความรู้สึกและความคิดของผมต่างหาก

ทำไมผมไม่พยายามทำดี พูดดี กับแม่ โดยที่ใจตัวเองผิดหวัง เหมือนที่แม่ทำกับผมในขณะนี้

เพราะปากที่บอกว่า รักแม่นั้น มันไม่มีทางเท่ากับความรักที่แม่ให้ผมด้วยใจหาใช่แค่คำพูดไม่

ขันน้ำหนึ่งขัน ที่ใส่น้ำไว้เต็มปรี่ พร้อมใส่ดอกมะลิสดลอยอยู่เรียงราย คือสิ่งที่เรามองเห็นและจับต้องได้
แต่มันหาได้มีแค่นั้น หากเราใช้ใจสัมผัส ... มีความรัก ความห่วงใยจากหัวใจที่แม่ใส่ไว้ให้ จนล้นขัน


เพราะความละเอียดอ่อนของใจที่ลดลง ทำให้ผมสัมผัสไม่ถึง
เพราะยึดในอัตตาอันแรงกล้า จนทำร้ายจิตใจคนสูงค่าแห่งชีวิตตน


12 สิงหา วันแม่นี้ขอให้เป็นวันเริ่มต้นที่ดี สำหรับใจใครหลายต่อหลายดวงในคณะเภสัชฯแห่งนี้

ทำอะไรก็ได้ เพื่อแม่ของท่าน ด้วยวิธีที่ท่านสามารถทำได้ ด้วยความละเอียดอ่อนของจิตใจที่มี

“ฉันไม่ต้องการอะไรทั้งนั้น แค่ลูกของฉันเป็นคนดี”

9 สิงหาคม 2551




 

Create Date : 30 ธันวาคม 2551
1 comments
Last Update : 29 กรกฎาคม 2552 12:04:45 น.
Counter : 1420 Pageviews.

 

ผ่านไปแล้ว สำนึกแล้ว
ผ่อนคลายลงหรือยังคุณเทียน

งานเขียนของคุณเทียนชิ้นนี้เป็นประโยชน์กับคนที่ได้อ่านเสมอ แม่ยายมาฯ ศรัทธาเช่นนั้น

 

โดย: แม่ยายมากับตามี IP: 119.31.15.185 21 ตุลาคม 2553 13:57:21 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


tiensongsang
Location :
นนทบุรี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]




Group Blog
 
 
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
30 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tiensongsang's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.