|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
บันทึกการเดินทางกว่าจะเป็นเด็ก AFS รุ่น 62
บันทึกการเดินทางอันยาวนานของคุณเกาทัณฑ์ กว่าจะเป็นเด็ก AFS รุ่น 62 จนถึงวันเดินทาง
เขียนโดย ป่าป๊า ^^
เราวางแผนให้เกาทัณฑ์สอบตอนขึ้น ม.5 เพราะตอนไปปีหน้าเค้าถอดเหล็กดัดฟันออกแล้ว ประมาณปลายมีนาก็ตามเพจ AFS ว่าเมื่อไหร่จะเริ่มให้สอบ ป๊าก็ซื้อข้อสอบเก่าจาก AFS ก็ฝึกทำข้อสอบไป ผลจากการทดสอบประมาณ 75% ซึ่งเคยไลน์ถามเจ้าหน้าที่ เค้าก็บอกว่าปกติ 50% ขึ้นก็มีสิทธิ์สอบสัมภาษณ์แล้ว (แต่ทาง AFS ไม่เคยประกาศผลเป็นคะแนนนะครับ จะประกาศเป็นรายชื่อคนที่ได้สิทธิ์) ต่อจากนี้เป็นไทมไลน์ครับ
18 เมษายน – 13 มิถุนายน 2565 AFS ประกาศรับสมัครสอบข้อเขียน ค่าสมัคร 200 บาท ในใบสมัครมีให้เลือกประเทศ 3 อันดับ แต่ไม่มีผลอะไรนะครับ เจ้าหน้าที่บอกว่าใช้ดูความต้องการเลือกของผู้เข้าสอบปีนั้นๆ
19 มิ.ย. วันสอบข้อเขียน ปีที่สอบยังสอบแบบออนไลน์อยู่ จำนวนข้อสอบ 50 ข้อกำหนดเวลาชั่วโมงครึ่ง ต้องมีอุปกรณ์สื่อสาร 2 ชิ้นอันนึงไว้ทำข้อสอบ อีกอันก็เปิดวิดิโอออนไลน์ให้เจ้าหน้าที่เห็น น้องทัณฑ์ทำไม่ถึงชั่วโมงก็บอกว่าได้แน่ๆ
23 มิ.ย. ประกาศผลการสอบข้อเขียน ก็ได้จริงอย่างเค้าโม้ไว้
23 มิ.ย. - 29 มิ.ย. กรอกใบสมัครสอบสัมภาษณ์ ต้องเตรียมเอกสารแล้วส่งตัวจริงให้ AFS เอกสารที่เตรียมจะมีรูปถ่าย + ผลการเรียนย้อนหลัง 4 เทอม (สอบตอน ม.5 ก็ใช้ ม.3 2 เทอม + ม.4 2 เทอม)
ตอนนี้แหละที่จะเลือกประเทศได้ และไม่ใช่อย่างที่ทุกคนคิด คือตอนสมัครมันเหมือนว่าเราจะเลือกประเทศอะไรก็ได้ แต่ในความเป็นจริงจะมีลิสต์ประเทศให้ในแต่ละโซน และกำหนดด้วยว่าจะรับแค่กี่คน อย่างในโซนเราคือจังหวัดภูเก็ตปีนั้นมีให้เลือก 10 ประเทศ ขั้นตอนของ AFS คือเราสามารถเลือกอันดับที่อยากไปในลิสต์ของจังหวัดได้ 3 อันดับ ถ้าไม่ได้จะติดสำรอง ก็มีสิทธิ์สละสิทธิ์เพื่อไปลุ้นประเทศอื่นของภาคใต้ด้วย และถ้าหลุดภาคก็ไปลุ้นประเทศต่อ หลังจากคุยกับเกาทัณฑ์แล้ว ในลิสต์ที่มีเค้าเลือกประเทศฝรั่งเศส เค้ามองว่าเป็นอีกภาษาที่อยากเรียนตอนขึ้นม.4 ก็ลังเลว่าจะเข้าห้องอะไรระหว่างฝรั่งเศสกับเยอรมัน และเราก็ลงในใบสัมภาษณ์และเลือกแค่ประเทศเดียวคือฝรั่งเศสด้วยความมั่นใจว่า ยังไงก็ได้แน่นอน
3 ก.ค. วันสอบสัมภาษณ์ สอบสัมภาษณ์ที่โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย (ปีก่อนหน้าเป็นแบบออนไลน์) เค้าให้ใส่ชุดสุภาพคุณเกาทัณฑ์จัดชุดสูทสีน้ำเงินเพื่อความมั่นใจ ก่อนเข้าไปสอบเจอคุณครูแน่งน้อย เป็นครูที่เคยสอนตอนประถม (สอนทั้งลุงและอาด้วย) แกก็อวยพรให้โชคดี พอถึงเวลาพี่ๆ ก็มาต้อนเด็กๆ ไปขึ้นตึก ก็เป็นพี่ AFS รุ่นก่อนๆ มาช่วยกันสร้างบรรยากาศให้น้องไม่เครียดเกินไป คุณเกาทัณฑ์เป็นคนหลังๆ เลย ป๊ากับม๊าไปงานผู้ปกครองที่โรงเรียนสตรีกลับมาลูกชายก็ยังไม่เสร็จ รออยู่แป๊บนึงก็ลงมาด้วยความมั่นใจว่าได้แน่ๆ18 ก.ค. ประกาศผลสอบคัดเลือก ก็ได้ตามคาด แล้วประกาศวันปฐมนิเทศที่ไบเทคบางนาวันที่ 23 ก.ค. ถ้าไม่ไปถือว่าสละสิทธิ์และต้องมาพร้อมผู้ปกครอง 1 คน ไปมากกว่านั้นจ่ายตังค์เพิ่ม
23 ก.ค. ก่อนวันปฐมนิเทศ 1 วัน เราไปนอนที่ ibis ไบเทค 1 คืน โชคดีที่อายอดไม่มีบิน เลยมารับเราแล้วไปนอนกับเราด้วย ได้ใช้เวลาเฮฮากัน ibis ที่นี่ห้องเล็กตามมาตรฐาน แต่อาหารเช้าใช้ได้เลยเหมือนพวก dorm มากกว่าโรงแรม ได้เวลาก็เดินจาก ibis ไปอิมแพ็ค ไปถึงหน้างานผู้ปกครองกับเด็กเยอะมาก จะมีบูธที่เป็นตัวแทนประเทศต่างๆ คอยให้คำแนะนำและโปรโมตประเทศที่ตัวเองเคยไปมา เราไปเจอน้องสองคน น้องผู้ชายเพิ่งกลับมา ส่วนน้องผู้หญิงไปช่วงโควิดและต้องกลับมาก่อน แต่ก็เล่าประสบการณ์ให้ฟัง มีรูปถ่ายที่นู้นมาให้ดู บรรยากาศบิ้วความอยากไปสุด หลังจากนั้นก็มีรุ่นเก๋าๆ มาแนะนำชีวิต ความเป็นอยู่ การปรับตัว จบงานเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะส่ง email ของวันนี้ไปให้ผู้ปกครอง พร้อมคู่มือชำระเงิน 25 ก.ค. กลับมา 2 วันก็โดนทวงตังค์งวดแรก ตามคู่มือจะชำระ 3 งวด งวดแรก 50,000 ถ้าไม่ชำระถือว่าสละสิทธิ์ เพราะมีตัวสำรองจ่อคิวอีกเยอะ งวดต่อมามกราคม และงวดสุดท้ายเดือนมีนาคมก่อนเข้าค่าย
03 ส.ค. พาเด็กไปทำ passport อันเก่ายังไม่หมดอายุ แต่รูปเด็กมาก ไปทำใหม่ดีกว่า ที่ภูเก็ตสะดวกตรงที่ไปทำได้เลยที่เซ็นทรัล นัดคิวในเนตก่อนก็ดี หรือ walkin ก็ได้ คนไม่เยอะมาก
10 ส.ค. เริ่มนับหนึ่งของมหากาพย์เอกสาร เมื่อ email แจ้งวิธีการทำใบสมัครนานาชาติ พร้อมระบุให้ส่งภายในวันที่ 20 พฤศจิกายน 2565 จะแบ่งเป็น 3 ส่วน คือ 1. ในส่วนของเกาทัณฑ์ จะมีรูปหน้าปก รูปใหญ่ 2 รูป รูปทำกิจกรรม 12 รูป เข้าแข่งขัน กีฬาสี วาดรูป รด. มีอะไรก็คัดมาลง จากนั้นก็ข้อมูลตัวเอง ครอบครัว เมืองที่อาศัยอยู่ ต่อมาเป็นจดหมายที่เขียนถึงโฮส จดหมายจากพ่อแม่ถึงโฮส พวกแบบฟอร์มอนุญาต ทั้งหมดจะเป็นกรอกออนไลน์ หรือแนบไฟล์เข้าไปใน platform ของเค้า 2. อันนี้ส่วนโรงเรียน ผลการเรียน 5 เทอม จดหมายแนะนำจากอาจารย์ ส่วนนี้ให้ teacher Jocyl ครูที่สอนตอน ม.4 เขียนให้ แล้วก็แบบฟอร์มเกี่ยวกับโรงเรียน เรากรอกลงในฟอร์มแล้วให้ครูมาลัย ครูประจำชั้นลงนาม 3. แบบฟอร์มสุขภาพ+ฉีดวัคซีน อันนี้เรื่องใหญ่ คือกำหนดว่าเริ่มตรวจวันไหน (ห้ามก่อน ของน้องทัณฑ์ให้เริ่ม 20 ต.ค.) ต้องตรวจกับโรงพยาบาลและแพทย์ที่ AFS กำหนด ที่สำคัญคือต้องใช้วัคซีนเล่มสีชมพูด้วย และแต่ละประเทศจะกำหนดวัคซีนขั้นต่ำไม่เหมือนกัน ถ้าไม่มีต้องฉ๊ดใหม่หมด โชคดีของน้องทัณฑ์ คุณลุงเป็นหมอเด็กจัดการให้ตั้งแต่เกิดไม่มีอะไรต้องห่วง
ป๊าก็เริ่มเตรียมเอกสารของครอบครัวก่อน ทำลิสต์ที่จะต้องติดต่อโรงเรียนว่าจะไปหาใครบ้าง โชคดีที่ ม.5 เทอม2 เริ่มเรียนที่โรงเรียนทำให้ติดต่อครูง่ายหน่อย เอกสารภาษาอังกฤษทั้งหมด คุณเกาทัณฑ์เป็นคนรับผิดชอบแปลทั้งหมดเอง ประหยัดเงินได้เยอะ
ส่วนเรื่องตรวจร่างกาย เราไปตรวจวันที่ 22 ตุลา โทรไปนัดคุณหมอที่โรงพยาบาลกรุงเทพ คุณหมอเชี่ยวชาญการกรอกเอกสารมาก แล้วจับเกาทัณฑ์เทสต์วัณโรค 2 วันถัดไปก็เอาแขนไปให้หมอดู จากนั้นคุณหมอก็ออกหนังสือให้ ช่วงที่ทยอยได้เอกสารก็กรอกแล้วส่งไฟล์เข้าระบบไปก่อน จากนั้นพอครบก็กดส่งทีเดียว ประมาณวันที่ 10 พ.ย. เราก็ส่งได้ครบ 27 ส.ค. เนื่อจากเราต้องใช้หลักฐานการเรียนภาษาฝรั่งเศสด้วยอย่างน้อย 60 ชั่วโมง ถ้าเราเรียนห้องฝรั่งเศสก็ยื่นจดหมายจากโรงเรียนได้เลย แต่ถ้าไม่มีต้องเรียนสถาบันที่กระทรวงศึกษารองรับ ตอนแรกไปติดต่อที่สมาคมฝรั่งเศสสาขาภูเก็ตไว้ แต่ติดต่อยากมาก คอร์สก็ไม่มีให้เลือก เลยโทรไปที่กรุงเทพฯ เค้ามีเรียนเป็นกลุ่มออนไลน์ แบ่งเป็น A1.1-A1.2 48 ชั่วโมง และ A1.3-A1.4 อีก 48 ชั่วโมง เราก็ลงทั้งสองคอร์ส รวมก็ 2หมื่นกว่าบาท เรียนวันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 9.00-12.30 น. คุณเกาทัณฑ์เริ่มเรียนวันที่ 27 ส.ค. จนปิด 2 คอร์ส วันที่ 11 ธ.ค. อาจารย์เจ้าของภาษาชื่อจูเลี่ยน เรียนพร้อมกับพี่ๆ ป้าๆ รวมประมาณ 6-8 คน
24 พ.ย. มีอีเมล์แจ้งให้แก้ไขข้อความบางอันที่แทนสรรพนามผิด ชื่อผิด
28 พ.ย. ระบบใบสมัครก็แจ้งกลับมาเอกสารเรียบร้อย
13 ธ.ค. ส่งหลักฐานการเรียนภาษาฝรั่งเศสให้ AFS
15 ธ.ค. มี email จาก AFS ให้แก้ไขข้อความจดหมาย คือตอนแรกก็บอกให้เราใส่ลักษณะของลูกทุกอย่าง แต่พอส่งจริงบอกว่าขอตัดเรื่อง introvert กับปรับแก้อย่างอื่นนิดๆ หน่อยๆ เค้ากลัวว่าจะหาโฮสยาก
21 ธ.ค. มี email มาอีกรอบ ขอเพิ่มจดหมายแนะนำจากครู พร้อมข้อความเพิ่มจากนักเรียน และผู้ปกครอง Teacher Enow คนที่เทรนตอนไปแข่ง Impromptu Speech เป็นคนเขียนให้
06 ม.ค. ถึงกำหนดจ่ายเงินสมทบงวด 2 อีก 100,000 บาท
11 ม.ค. เจ้าหน้าที่โทรหาครูมาลัยให้เขียนจดหมายแนะนำจากครูประจำชั้นเพิ่มอีก 1 ฉบับ คุณเกาทัณฑ์ก็ร่างให้หมดแล้วให้ครูมาลัยเซ็น
23 ม.ค. แจ้งวันเข้าค่าย 30 มี.ค. - 2 เม.ย. ที่สุพรรณบุรี
07 ก.พ. แจ้งให้ทำคลิปแนะนำตัว อันนี้น่าจะเฉพาะฝรั่งเศส เพราะเจ้าหน้าที่แจ้งว่าทางนู้นขอคลิปแนะนำตัวสั้นๆ คุณเกาทัณฑ์ก็จัดทั้งเล่นเปียโน ตีกลอง ร้องเพลง ดีดกีตาร์
10 มี.ค. ก่อนเข้าค่ายก็ถึงกำหนดชำระเงินงวดสุดท้าย หลังจากนั้นเค้าก็ส่งโปรแกรมเข้าค่ายมาให้
30 มี.ค. วันเข้าค่าย 4 วัน 3 คืน วันแรกจะมีประชุมผู้ปกครองด้วย ส่วนเด็กๆ ก็แยกย้ายขึ้นรถบัสไปสุพรรณบุรี ส่วนที่ประชุมก็จะคุยเรื่องโฮส การแลกเงิน และวีซ่า เข้าใจว่าใบสมัครที่เราทำส่งไปจะเริ่มถึงมือศูนย์ฝรั่งเศสช่วงนี้ครับ (รอเด็กจ่ายตังค์เข้าค่ายก่อน) ดังนั้นหลังจากเข้าค่าย ก็เริ่มมีคนได้โฮสแล้ว10 เม.ย. มี email แจ้งเตรียมวีซ่า โดยกำหนดส่งภายในวันที่ 17 พ.ค. เป็นอีกหนึ่งมหากาพย์เตรียมเอกสาร พาสปอร์ตตัวจริง ใบฉีดวัคซีนภาษาอังกฤษ (คุณลุงออกให้) หนังสือรับรองฐานะทางการเงิน (แต่ละประเทศไม่เหมือนกันของฝรั่งเศส 1 แสนก็โอเคแล้ว) หนังสืออนุญาตให้เข้าร่วม AFS จากโรงเรียน หนังสือรับรองความประพฤติ หนังสือรับรองผลการเรียนปีล่าสุด และเทอมที่กำลังเรียนอยู่ มีเอกสาร 3 อย่างที่ต้องเอาไปแปลแล้วไปรับรองที่กงสุล คือหนังสือยินยอมให้ไปต่างประเทศ สูติบัตร และทะเบียนสมรส ตัวหนังสือยินยอมต้องไปอำเภอให้ปลัดเซ็นรับรองก่อน โชคดีที่ภูเก็ตมีศูนย์รับรองเอกสารของกระทรวงต่างประเทศ เตรียมกันประมาณเดือนนึง เอกสารก็ครบ ที่ช้าคือต้องรอโรงเรียนเปิดถึงจะไปขอเอกสารได้
20 พ.ค. AFS เชิญเข้าร่วมออนไลน์มีลิงก์ให้เข้าฟังจะมีหลายโมดูลให้เรียนไปเรื่อยๆ จริงๆ แล้วคือสิ่งที่เด็กไปสัมมนามาแหละก็เหมือนทบทวนอีกที
07 มิ.ย. AFS ส่งหนังสือลาพักร้อน รด. เราเอาไปให้ครูทวิชชัย ปรากฏว่ายื่นขอลาได้เลย ไม่ต้องใช้หนังสือ เหมือนแค่ดรอปไว้ก่อน
17 มิ.ย. เชิญเข้าร่วมสัมมนาออนไลน์ ผ่าน zoom กับ AFS ทั่วโลก ให้เด็กจับกลุ่มกัน ซึ่งแต่ละไทม์โซนมันไม่เท่ากัน บางประเทศดึกมาก ทำกิจกรรมแบบหลับคาจอก็มี
15 มิ.ย. AFS ส่งหนังสือลาพักเรียน เริ่มวันที่ 25 ส.ค. 66 - 14 ก.ค. 67
05 ก.ค. email แจ้งเชิญไปทำ visa พร้อมเตรียมเอกสารอีกชุด ชุดสุดท้ายแล้วครับ statement ย้อนหลัง 3 เดือนของผู้ปกครอง ทะเบียนบ้าน ทะเบียนสมรส สูติบัตรตัวจริง ใบรับรองเรียนฝรั่งเศส
12 ก.ค. ขึ้นกรุงเทพอีกรอบเพื่อไปยื่นวีซ่าที่ศูนย์วีซ่าแถวสาทร ทางเข้าเจ้าหน้าที่จองคิวไว้สำหรับ AFS น่าจะประมาณ 20 คน ปรากฎว่าที่เตรียมไปใช้แค่ statement ที่เหลือก็ใช้อันที่เคยยื่นไปแล้ว แต่เอาไปเกินก็ดีกว่าขาด รอคิวนานพอสมควร ระหว่างนั้นผู้ปกครองเค้าก็คุยกันเรื่องโฮส เราซึ่งยังไม่ได้ก็ลุ้นต่อไป ปรากฎว่าระหว่างรอขึ้นเครื่องกลับภูเก็ตก็มีอีเมลแจ้งว่าได้โฮสแล้ว อยู่เมืองเล็กๆ ชื่อเมือง Mouvaux เป็นส่วนหนึ่งของ Lille เราก็เขียนอีเมล์แนะนำตัวสั้นๆ แสดงความขอบคุณที่ทางโฮสสรับลูกเราไปดูแล หลังจากนั้นก็โต้ตอบอีเมล์กัน
21 ก.ค. AFS ได้วีซ่าแล้วให้ตรวจสอบชื่อสกุลอีกครั้ง แล้วยืนยันไป
22 ก.ค. แจ้งให้ซื้อตั๋วเดินทาง ไป-กลับ โดยกำหนดวันเดินทางวันที่ 1 ก.ย. กลับวันที่ 30 มิ.ย. โดยเค้ากำหนดสายการบินให้เลือก 3 เจ้า และมีเอเย่นต์ให้เลือกจะใช้ของเค้าหรือไม่ก็ได้ แต่พอได้ e-ticket ต้องส่งหลักฐานให้ AFS ป๊าก็ส่ง email ถามราคาทุกเจ้า จนได้เจ้าที่พอใจก็จ่ายตังค์ ได้ตั๋วส่งไปให้ทางAFS
03 ส.ค. แจ้งรายชื่อรอบการเดินทางว่าใครบ้างที่จะเดินทางพร้อมกันวันที่ 1 ก.ค.
21 ส.ค. ประชุมผู้ปกครองออนไลน์ นัดเวลาที่จะเจอกัน ไฟลท์คุณเกาทัณฑ์มีเพื่อนไปด้วย 6 คน เจอกันตอน 23.30 ไฟลท์ออก 2.50
ระหว่างนี้เด็กก็เตรียมตัว ลองทำกับข้าวง่ายๆ เช็คสภาพการเดินทาง อากาศ ชอปปิ้งทั้งของใช้ ของฝาก เตรียมพร้อมจะเดินทางแล้วครับ ก่อนอื่นต้องทำสีผมก่อน อยากทำมาก
31 ส.ค. เดินทางไปกรุงเทพ อายอดมารับ กินข้าวสองมื้อ เจออาต่ายด้วย หลังจากนั้นกลับโรงแรม ตอนกลางคืนก็ไปส่งครับ โชคดีคราวนี้มีคุณครูร่วมเดินทางไปด้วย ตามไปจนถึงฝรั่งเศสแล้วปล่อยให้เด็กไปกับเจ้าหน้าที่ที่นู้นอีก 10 เดือนเจอกันครับ
Create Date : 05 กันยายน 2566 |
Last Update : 5 กันยายน 2566 13:59:57 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1732 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Hanni IP: 149.102.254.30 วันที่: 7 กันยายน 2566 เวลา:15:51:05 น. |
|
|
|
โดย: กาบริเอล วันที่: 7 กันยายน 2566 เวลา:21:29:21 น. |
|
|
|
โดย: tiara วันที่: 8 กันยายน 2566 เวลา:14:05:04 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
ภูเก็ต Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [?]
|
blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ
ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^
|
|
|
|
|
|
|
|