1
2 3 4 5 6 7 8
9 10 11 12 13 14 15
16 17 18 19 20 21 22
23 24 25 26 27 28 29
30 31
17 ปี 6 เดือนกับการสอบเก็บคะแนน TU-GET และ CU-TEP
แม่เขียน blog นี้ในตอนที่ลูกได้โฮสต์แฟมิลี่และกำหนดวันเดินทางเพื่อไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนเรียบร้อยแล้วค่ะ ^^
แต่เนื้อหาของ blog จะเกี่ยวข้องกับการเตรียมสอบเก็บคะแนนภาษาอังกฤษเพื่อยื่นรอบพอร์ตเข้ามหาวิทยาลัย และเนื่องจากน้องทัณฑ์ต้องไปเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศฝรั่งเศส 1 ปี คะแนนนี้จึงจะเก็บไว้ก่อนค่ะ (คะแนนสอบมีอายุ 2 ปี) แล้วจะนำไปยื่นในช่วงปลายปี 2567 ถึงต้นปี 2568 เรามาเริ่มจากการสอบ TU-GET ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์กันก่อนนะคะ หากลองค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ตจะพบกำหนดการสอบและรายละเอียดต่างๆ เพียงแค่คีย์คำว่า TU-GET แล้วน้องทัณฑ์ก็เลือกสอบแบบออนไลน์ โดยใช้เวลาสอบประมาณสามชั่วโมง ซึ่งเกาทัณฑ์เตรียมความพร้อมโดยการอ่านหนังสือเล่มนี้เพียงเล่มเดียวค่ะ แล้วเขาก็บอกว่าข้อสอบที่ออกค่อนข้างเหมือนในหนังสือเล่มนี้เลย คือเป็นไปแนวทางเดียวกัน ในหนังสือจะมีข้อสอบ 6 ชุด ชุดละ 90 ข้อ แต่การสอบจริงจะมีข้อสอบ 100 ข้อ คิดเป็น 1,000 คะแนนนะคะ ในแต่ละชุดจะมีพาร์ทโครงสร้าง, พาร์ทคำศัพท์ และพาร์ทการอ่าน ซึ่งตรงกับการแบ่งหัวข้อการสอบจริงคือ Structure 250 คะแนน, Vocabulary 250 คะแนน และ Reading 500 คะแนน ตอนซ้อมทำข้อสอบในหนังสือเกาทัณฑ์ทำพาร์ทการอ่านและโครงสร้างได้ดีมากๆ ส่วนพาร์ทคำศัพท์ได้คะแนนน้อยกว่าสองพาร์ทแรก เขาบอกว่าของธรรมศาสตร์คำศัพท์ยากมาก บางคำไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต แม่ก็ปลอบใจว่าไม่เป็นไร เอาคะแนนอีกสองพาร์ทที่เหลือมาช่วยน่าจะผ่านได้ ตอนนั่งทำข้อสอบแม่ก็ต้องนั่งเฝ้าใกล้ๆ ด้วยนะ เหมือนแม่โดนทำโทษอะ อยากบังคับให้ทำก็ต้องมานั่งเป็นเพื่อนลูกด้วย ฮึ... ออกตัวก่อนนะคะว่าเกาทัณฑ์ไปสอบแบบไม่ได้ลงติวกับใครหรือที่ไหนเลย คือเขาค่อนข้างมั่นใจในภาษาอังกฤษของตัวเอง เมื่อลองทำข้อสอบจากเล่มนี้แล้วปรากฏว่าผลที่ได้ออกมาประมาณ 80% แม่กับพ่อก็เลยให้ลองสอบจริงดูเลย วันสอบก็สอบออนไลน์ที่บ้านผ่านจอคอมพิวเตอร์ ทางมหาวิทยาลัยให้เปิดกล้องตอนสอบไปด้วย น้องทัณฑ์ใช้เวลาสอบประมาณชั่วโมงครึ่งก็ออกมาแล้วบอกแม่ว่าเหมือนกับที่ทดลองทำในคู่มือ ก็คือพาร์ทคำศัพท์ทำไม่ค่อยได้เหมือนเคย 555 รอผลอยู่สองสามวันก็ได้ผลสอบออกมาแล้วค่ะ เย้...เก็บไว้ยื่นพอร์ตได้เลย ผลเป็นไปตามคาด พาร์ทที่ได้เยอะก็คือพาร์ทที่เขาถนัด ส่วนคำศัพท์ก็ตามนั้น 555 แต่ถามเด็กแล้วว่าพอใจไหม เขาบอกพอใจก็คงไม่สอบซ้ำแล้วค่ะ เก็บคะแนนนี้ไว้เลย แม่ก็เสียรางวัลเป็นอาหารญี่ปุ่นหนึ่งมื้อ โอเค้...ได้เลยคนเก่ง ^^ สถานีต่อไป CU-TEP...CU-TEP พอเห็นคะแนน TU-GET แล้วใจมันมาอะ ใจพ่อกับแม่นะ 555 ก็เลยคิดว่าไฟกำลังแรงแบบนี้น่าจะให้สอบของจุฬาฯ ไปเลย จะได้เสร็จทุกอย่างก่อนไปฝรั่งเศส แล้วค่อยกลับมาสอบ SAT กับ B1 ภาษาเยอรมัน พ่อถามเด็กว่าเอาด้วยไหม อยากสอบเลยไหม เด็กก็สู้ บอกว่าสอบเลยป๊าจะได้จบๆ จากนั้นพ่อก็เลยหาข้อมูลการสอบ CU ต่อเลย มีความแตกต่างในเรื่องการสอบเล็กน้อย เพราะ CU ต้องขึ้นไปสอบที่มหาวิทยาลัย ไม่มีสอบออนไลน์เหมือน TU เอาล่ะสิ ทีนี้ก็ต้องหาตั๋วเครื่องบินกับคนดูแล เพราะพ่อกับแม่อยากให้เขาลองเดินทางคนเดียวดูบ้าง พ่อเช็คตารางการบินของอาแล้วว่าว่างตรงวันที่เด็กสอบก็เลยตกลงจองวันสอบกับตั๋วเครื่องบินเพื่อส่งเด็กขึ้นไปให้อาดูแลต่อ จากนั้นก็มาเตรียมตัวสอบกันเหมือนเดิม เนื่องจากเราพอใจกับคู่มือเล่มก่อนหน้า คราวนี้ของ CU-TEP เราก็เลยเลือกคู่มือของเจ้าเดิมค่ะ เตรียมความพร้อมด้วยคู่มือเล่มเดียวเหมือนเดิม ให้เด็กทยอยทำหลังกลับมาจากโรงเรียน ซึ่งในคู่มือจะมีสามพาร์ทค่ะ คือพาร์ทฟัง (อันนี้ไม่เหมือน TU) 30 ข้อ, พาร์ทการอ่าน (Passage) 60 ข้อ และพาร์ทการเขียน (หาคำผิดในรูปประโยค-Error Identification) อีก 30 ข้อ รวมเป็น 120 ข้อ 120 คะแนน และเนื่องจากตอนที่เขียน blog นี้น้องทัณฑ์ยังไม่ได้เข้าห้องสอบ แม่เลยจะอธิบายตามคู่มือที่เด็กได้ทดลองทำไปก่อนนะคะ พาร์ทการฟังมี 30 ข้อ น้องทัณฑ์บอกว่าฟังง่ายกว่าการสอบ CEFR ในคู่มือนี้จะมีการให้ดาวน์โหลดข้อสอบการฟังมาลองทำเลยค่ะ ส่วนพาร์ทที่สองมี 60 ข้อคือการอ่านบทความ จะมีทั้งขนาดสั้น ขนาดกลาง และขนาดยาววววว อันที่ง่ายเด็กกวาดคะแนนเต็ม แต่อันไหนที่ยากก็มีผิดบ้างเหมือนกัน เกาทัณฑ์บอกว่าข้อสอบที่เยอะและคำถามละเอียดทำให้ต้องตั้งสมาธิในการอ่านและทำเป็นอย่างมาก ถ้าหลุดก็คือผิดเลย บางอันที่เจอคำศัพท์ยากๆ ก็เดาเอาเหมือนกันค่ะ พาร์ทที่สองนี้น้องทัณฑ์บอกยากสุด และพาร์ทสุดท้ายงานถนัดของคุณเกาทัณฑ์ Error 30 ข้อค่ะ อันนี้โครงสร้างประโยคและวัดความแม่นยำของ Tense อยากให้ตั้งสมาธิดีๆ น่าจะเก็บคะแนนเต็มได้ แต่อย่างว่าคุณเกาทัณฑ์อะนะ ทำข้อสอบไปเบื่อไปก็ไม่รู้ว่าจะได้เท่าไร รอชมผลการสอบค่ะ แล้วในระหว่างที่รอจะขึ้นกรุงเทพฯ ไปสอบ CU-TEP น้านนนนน ทาง AFS ก็ติดต่อมาให้เกาทัณฑ์ขึึ้นไปทำวีซ่าค่ะ แฮ่ กำหนดการก่อนสอบแค่สองวัน ดังนั้นเราเลยต้องขึ้นลงกรุงเทพฯ กันสองรอบ รอบไปทำวีซ่าพ่อกับแม่ต้องไปด้วย แต่รอบไปสอบ CU-TEP ต้องไปคนเดียว สู้ๆ นะ ขอให้ทำคะแนนให้ดีตามที่ได้ตั้งใจไว้ค่ะ ^^ ******** มาอัพเดต blog หลังจากที่ไปสอบและคะแนน CU-TEP ออกเรียบร้อยแล้วค่ะ ^^ จากที่เล่าให้ฟังว่าน้องทัณฑ์ต้องเดินทางขึ้นกรุงเทพฯ คนเดียวเป็นครั้งแรก (แต่มีอารอรับอยู่ที่โน่น) เพื่อไปสอบ CU-TEP การเดินทางคนเดียวก็ประสบความสำเร็จเรียบร้อยดีค่ะ มั่นใจว่าเดินทางคนเดียวได้แล้ววววว ไปถึงสนามบินทั้งชุดนักเรียน เพราะเพิ่งสอบมิดเทอมที่โรงเรียนเสร็จตอนเช้า ก่อนเที่ยงก็ไปรับแล้วพาไปส่งขึ้นเครื่องเลย คุณชายก็เลยไปเจออายอดทั้งชุดนักเรียน อาพาไปเลี้ยงอิ่มหมีพีมันกันไป แม่ให้เงินไปแค่ 80 บาทเองนะ ทำไมกินของได้เยอะแยะ อายอดน่ารัก พอรู้ว่าหลานจะสอบที่จุฬาฯ ก็พาไปนอนที่โรงแรมใกล้สถานที่สอบเลย เพราะต้องเข้าห้องสอบก่อน 8.30 น. ตอนเช้ากินอาหารเช้าที่โรงแรมเสร็จก็พาไปส่งถึงอาคารสอบ แถมนั่งรอจนสอบเสร็จด้วย ตอนเช้าระหว่างรอเข้าห้องสอบเด็กก็ส่งข้อความมาเล่าบรรยากาศให้แม่ฟังว่า ผู้เข้าสอบเป็นผู้ใหญ่เยอะกว่านักเรียน แล้วคนที่มาสอบเยอะมากกกกก คงหวั่นๆ เหมือนกันแหละ ><" เราอยู่ที่ภูเก็ตก็รอลุ้นไปด้วย ส่วนอายอดเดินหาของให้หลานกิน กะว่าหลังสอบเสร็จจะให้กินที่โรงอาหารเลย เพราะต้องไปส่งหลานกลับภูเก็ตทันที เวลาผ่านไปเร็วมาก น้องทัณฑ์ออกมาจากห้องพร้อมกับบอกทุกคนว่า ข้อสอบยากมากกกกกกก ยากกว่าหนังสือที่แม่ให้ลองทำ เอาล่ะสิ... ไม่เป็นไร กินก่อนค่อยว่ากัน เกาทัณฑ์บอกแม่ว่าพาร์ท Reading ที่เป็นบทความยากกว่าของ TU ส่วนพาร์ทฟังน่าจะผิดนิดหน่อย แล้วพาร์ทสุดท้าย Writing ที่เป็นโครงสร้างประโยคยากกว่าที่ลองทำในหนังสือมากกกกก เอาล่ะวุ้ย...ก็ลองมาคำนวณคะแนนคร่าวๆ กัน ตัวเขาเองบอกว่าน่าจะได้ 80 พ่อบอก 90 น่าจะได้นะ ส่วนแม่ตอนแรกคิดไว้ว่าเกิน 100 มานิดๆ เพราะเทียบจากแบบทดสอบที่ลองทำ 5 ปีแล้วเขาได้เกิน 100 หมดทุกปี แต่พอทำข้อสอบจริงออกมาแล้วเจ้าตัวบอกว่ายาก เลยรอลุ้นอย่างเดียวค่ะทีนี้... เราก็รอมา 10 วันด้วยใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ในที่สุด... 92!!! Yessssss!!! ป๊าเดาถูกกกกกกก... คะแนนในแต่ละพาร์ทก็เป็นไปตามความถนัดที่คาดไว้ แสดงว่า Writing ยากจริง เพราะเป็นพาร์ทที่น้องทัณฑ์ถนัดที่สุด ตอนลองทำข้อสอบคือได้เต็มค่ะ ><" ส่วน Reading ที่เจ้าตัวกลัวก็ถือว่าไม่เลวนะ ดีทีเดียวแหละ ทุกคนในบ้านดีใจกันมากแต่เจ้าตัวไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร จะเอารางวัลอย่างเดียวเลย 555 แต่ผลที่ออกมาทั้ง TU-GET ทั้ง CU-TEP มันช่วยยืนยันความคิดของแม่ว่าภาษาอังกฤษเรียนควบคู่กับภาษาไทยไปได้ตั้งแต่เล็ก นี่คือผลของการเรียนภาษาอังกฤษกับครูฝรั่งตั้งแต่ 5 ขวบ พอมอต้นก็เข้า International Program ก่อนออกมาเข้าสายศิลป์อังกฤษ-เยอรมันตอนมอปลาย น้องทัณฑ์เป็นเด็กที่พร้อมจะเรียนรู้ภาษาที่สาม (เยอรมัน) และสี่ (ฝรั่งเศส) มาก โดยเอาภาษาอังกฤษนี่แหละเป็นพื้นฐานในการเปรียบเทียบและเรียนรู้ต่อยอด ตอนมอห้าก็จำเป็นต้องเพิ่มภาษาฝรั่งเศสเข้าไปอีกเพื่อนำไปใช้ชีวิตเป็นนักเรียนแลกเปลี่ยนที่โน่น ขอบคุณนะที่ช่วยพ่อกับแม่ประหยัดค่าติว รักกกกกกลูกกกกกกก เสร็จสิ้นการสอบเก็บคะแนนเข้ามหาวิทยาลัยไว้เท่านี้ก่อน ด่านต่อไปคือประเทศฝรั่งเศสค่าาาาา ^^
Create Date : 14 กรกฎาคม 2566
2 comments
Last Update : 25 กรกฎาคม 2566 10:59:09 น.
Counter : 1167 Pageviews.
โดย: tiara 25 กรกฎาคม 2566 15:18:26 น.
Location :
ภูเก็ต Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 399 คน [? ]
blog นี้ตั้งใจทำขึ้นเพราะต้องการให้ความรู้เรื่องการทำขนมอบเป็นวิทยาทานแก่คนทั่วไป ส่วนเรื่องลูกเป็นพื้นที่สำหรับเก็บบันทึกไว้ให้เกาทัณฑ์ และจะมีโฆษณางานเขียนของ tiara อีกเล็กน้อย หากสิ่งใดเป็นประโยชน์ในการนำไปปรับใช้ก็ยินดีที่จะแบ่งปันค่ะ ปล. tiara ไม่ได้เปิดสอนคลาสชงกาแฟสดและทำเบเกอรี่แต่อย่างใด ความรู้มีอยู่ใน blog สามารถเรียนฟรีได้เลยค่ะ ^^