นักสู้ต้องมีวันชนะ
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
9 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
สถานที่ที่ไม่ควรเฉียดเข้าไป





อัพบล็อกวันนี้ขี้เกียจคิดค่ะ...

ของ่ายๆไปก่อน...
กับการแนะนำสถานที่ที่ แพงงงงงงงโคตร
แพงเกินจริง...เป็นที่ที่เราไม่สมควรเอาตัวไปเสี่ยงอย่างยิ่ง
เป็นเขตอันตราย หลงเข้าไป มีหวัง โดนฟันกลับมายับเยิน

พวกร้านเพชรพลอย โชว์รูมรถหรู หรือ อะไรที่เขาแพงอยู่แล้ว ไม่ขอเอามานำเสนอ
เพราะนั่นเป็นเรื่องของคนรวย...อันนั้นช่างเขาละกัน

แต่ 4 สถานที่เหล่านี้ มันค่อนข้างเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันของเราๆท่านๆชนชั้นกลางกึ่งรากหญ้า
ซึ่ง....มันไม่น่าจะแพงเวอร์ขนาดนั้น...


........................................................

1 ร้านแว่นตา




ข้อสังเกต... “แค่แว่นกรอบนึง ต้องมีเงินเกือบครึ่งหมื่น!”

ประสบการณ์เสียท่า....
กะไปตัดแว่นราคาต่ำสุด เลนส์ธรรมดาสี่ห้าร้อย บวกกรอบแบบถูกสุด กะว่ารวมๆสักพันห้าก็แย่แล้ว แต่ไปๆมาๆถูกเชียร์ให้เอาเลนส์มัลติโค้ดตัดแสง นัยว่าไม่ทำร้ายสายตา ถูกเชียร์ให้เอากรอบอย่างเบา แข็งแรง สวยงาม และ ฯลฯ วันนั้นจ่ายไปสี่พันห้า เจ้าของร้านบอกว่าคนอื่นตัดกันเจ็ดแปดพัน ของเราถูกแล้ว!
สรุปว่า แว่นราคาพันห้าไม่มี มีก็เป็นของโหล่ๆเต็มทน เป็นแว่นที่ร้านกองๆเตรียมบริจาคเด็กชาวเขา



2.ร้านทำฟัน




ข้อสังเกต ... “ค่าเครื่องมือแพงก็จริง แต่ถอนทุนได้ตั้งนานแล้ว ยังฟันเราไม่หยุด”

ประสบการณ์เสียเงิน....
ตั้งใจแค่ไปขูดหินปูน แต่ไปๆมาๆตรวจเจอนู่นนี่ ต้องเอ็กซ์เรย์ ต้องผ่าฟันคุด ต้องอีกมากมาย ทุกๆอย่างแพงสุดๆ ไปหาหมอฟันทีนึง ตัวเบากลับมาเพราะโดนหมอฟันไม่เลี้ยง



3.ร้านทำผม





ข้อสังเกต... “บ้าอ๊ะป่าว ทุนก็ไม่เห็นมีไร ทำผมทีนึงล่อเป็นพันๆ!!”

ประสบการณ์เสียรู้....
กะไปแค่สระผม ถูกเชียร์ให้ดัด ทำสี ทำไฮไลท์ ทำทรีตเมนท์ รวมแล้วขนาดโปรโมชั่น แพคเกจทั้งหมดนั่น สามพันห้า ทำเสร็จถูกขู่ว่าถ้าไม่ซื้ออาหารผม เซรั่ม แชมพู-ครีมนวดสำหรับผมดัดโดยเฉพาะ ผมอาจจะเสียหรือคลายตัวได้ รวมๆแล้ววันนั้นจ่ายไปห้าพันหก...นั่นแค่ครั้งเดียว แต่จริงๆเสียรู้บ่อยครั้งมาก ( เข็ดทุกครั้งแหละ แต่ลืมทุกครั้ง)




4.ร้านขายของเด็กเล่น





ข้อสังเกต... “ของๆเด็ก มันทำยากกว่าของผู้ใหญ่ตรงไหนฟะ ทำไมแพงกว่าทุกอย่าง”

ประสบการณ์เสียจิต....
กะไปซื้อของเล่นให้หลานสักชิ้น เข็มขัดมาร์กไรเดอร์ เป็นพัน! หยิบอะไรที่พอจะเคลื่อนไหวได้ แพงงงงง...จนต้องเกาหัว ซื้อของเล่นหน่อยเดียว แทบต้องไปขายนามาซื้อ...แวะไปแผนกเสื้อผ้าเด็ก อ้าว...ตัวเล็กนิดเดียว ผ้าใช้น้อยมากๆ ตัวนึงแปดร้อย ! ไม่เอาก็ได้ฟะ ไปซื้อหนังสือภาพสวยๆดีกว่า...ปรากฏว่าแพงหูตูบ เล่มนึงสามสี่ร้อย...วันนั้นเลยกลับบ้านตัวเปล่า กะว่าจะปั้นดินเหนียวให้มันเล่น




ความจริงยังมีอีกหลายร้านนะคะ...แต่ขอแค่นี้ก่อนละกัน
ให้เพื่อนๆได้เล่าสู่กันฟังบ้าง ...ว่าใครเสียท่ากะร้านพวกนี้บ้างหรือเปล่า
หรือมีร้านอะไรที่มันแพงดับจิตที่อยากจะเล่าสู่กันฟังบ้าง



ชอบมาก นักเปียโนคนนี้...ขวัญใจอย่างรุนแรง




Create Date : 09 กันยายน 2551
Last Update : 10 กันยายน 2551 11:33:02 น. 53 comments
Counter : 3638 Pageviews.

 
บล็อกจะหวานไปไหน...เรื่องออกจะหดหู่

เอาละค่ะ...ถ้าเพื่อนๆมีเรื่องพวกนี้จะบ่นจะเล่า ก็เชิญนะคะ

ถือซะว่า...คลายเครียดกับสภาวการณ์บ้านเมืองที่ล้มๆลุกๆ

ปล่อยให้เวียดนามเขานำเราไป....
เรานับหนึ่งกันใหม่เรื่อยๆ...(โถ...อดีตเสือตัวที่ 5 แห่งเอเชีย)


โดย: ทากชมพู วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:21:00:22 น.  

 


ป๊อปคอร์น หรือขนมขบเคี้ยวหน้าโรงหนัง
เป็นอีกอย่าง ที่พึงหลีกเลี่ยงไปให้ไกล
เพราะเดี๋ยวนี้ มันแพงกว่าค่าตั๋วหนังอีก...


เคยซื้อขนม ที่ข้างนอกขายถุงละสิบ
หน้าโรงหนัง ขาย 30 ...ถือเป็นโซนอันตรายต่อกระเป๋าสตังค์ของเราอย่างแท้จริง


โดย: ทากชมพู วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:21:22:54 น.  

 
มีแบบนี้ด้วยเนอะ ขอบคุณครับ ความรู้ เราเองก็จะจับจ่ายอะไรก็คิดแล้วคิดอีกครับ วันนี้เพื่อนชวนไปทานเหล้ายังไม่ไปเลยเสียดายเงินที่หามานะครับ


โดย: ซ้อมเต้น วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:21:29:55 น.  

 
3 ร้านแรกที่พี่อัยย์เล่ามานั้น

แสดงให้เห็นว่า พี่ต้องเป็นคนที่เปล่งแสงรัศมีคนมีกะตังค์

พนักงานถึงได้เชียร์อัพได้ไม่มีพลาด

เล่าของตัวเองบ้างสักนิดนึง ...

ไปตัดชุดทำงานเมื่อตอนต้นๆปี โดยเลือกผ้าเอง 1 ชุดอีก 1 ชุดจิ้มเอาจากในหนังสือ บอกช่างว่า เอาแบบนี้เลยนะ

เดือนหนึ่งต่อมา เมื่อถึงเวลาไปรับ เจ้าของร้านก็ให้ลองชุดแล้วก็ชมแล้วชมอีกว่าสวยอย่างนั้นอย่างนี้

ยุ้ยลองแล้วก็เฉยๆกับชุดที่เลือกผ้าเอง และค่อนข้างไม่ชอบใจกับชุดที่บอกเอาแบบเหมือนในหนังสือ

เวลาล่วงเลยเข้าจนบัดนี้ ก็ยังไม่กล้าใส่ไปให้ใครเห็นเลยค่ะ

พี่รู้มั้ย เสียค่าตัดชุดไปเท่าไหร่

2 ชุดรวมกันเกือบแปดพันบาทค่ะ

คิดแล้วยังเจ็บที่หัวใจจี๊ดๆ

สู้ชุดนั้นที่แพลตตินั่มไม่ได้

แค่ 390 บาท

ใส่แล้ว มีแต่คนชมไม่ขาดปาก

เกินคุ้ม 390 บาทเสียจริงๆ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:21:56:22 น.  

 
สำหรับร้านตัดเสื้อร้านนั้น

ตั้งใจเด็ดเดี่ยวว่า จะไม่ย่างกรายไปใช้บริการอีกเลยค่ะ

แต่แม่ชอบใจร้านนี้มาก บอกว่าตัดดี สวย แม่ใส่สบาย


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:21:58:17 น.  

 
ผมก็เสียตังค์มากมายให้ร้านแว่นเหมือนกันครับ
ไม่รู้ทำไมแว่นที่แสนจะดูดีบนหน้าเรามันถึงได้แพงแสนแพง
แต่มีคนเคยบอกไว้นะครับ ว่าสิ่งที่สมควรลงทุนซื้อคือแว่นตา
เพราะว่ามันอยู่บนหน้าของเรา -> อันนี้ผมเห็นด้วยครับ
แต่จริงๆ แล้วผมก็ไม่ค่อยได้ใส่แว่นครับ สายตาสั้นจิ๊ดเดียว
เอาไว้ใส่ตอนขับรถกับดูหนังแค่นั้นแหละ
( ว่าไปก็เริ่มเสียดายตังค์ )

ร้านทำฟันกับร้านของเล่นไม่ค่อยได้เข้าครับ
ร้านตัดผมก็เข้าปีละสองครั้งได้
โดยปกติจะตัดผมที่หน้าปากซอยบ้านครับ ราคา 50 บาท
แต่ล่าสุดนี่เข้าร้านไฮโซที่ห้าง ( ไม่มีอะไรทำระหว่างรอเช็ครถ เลยไปตัดผมดีกว่า )
แต่ก็ไม่แพงครับ คิดค่าเสียหายไปร้อยเดียว 555+

ร้านที่แพงดับจิตสำหรับผมคงเป็นร้านอาหารมั้งครับ
เคยคิดตั้งหลายครั้งว่าจะกินอะไรแพงนักหนา เดี๋ยวมันก็ย่อยแล้ว
แต่ก็นะ...


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:22:04:08 น.  

 
สวัสดียามค่ำ
จะนอนก็นอนไม่ลงเจอบล็อกหวานๆอย่างนี้ อะไรที่ออกชมพูชอบไปหมด
เห็นด้วยกันคุณทากชมพู ทุกอย่างโดนฟันหมด ต้องเลี่ยงให้ไกลเลย เรามันพวก 30 บาทรักษาทุกโรค ไม่เห็นต้องแพงเราก็อยู่ได้อย่างมีความสุขเพราะเรารู้จักอักษรเพียงแค่สองตัวก็มีความสุขแล้ว (อักษรสองตัวคืออะไรเอ่ย)
คิดออกบอกด้วย
วันนี้สุขภาพดีแล้วจากการเร่งฝึกลมปราณ(ฝึกจริงๆนะ)
ขอให้จขบ.รักษาสุขภาพให้แข็งแรงด้วย ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:22:22:48 น.  

 
แวะมาส่งเข้านอน หลับฝันดีค่ะ



โดย: I_sabai วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:22:50:10 น.  

 
หวัดดียามดึกดึกครับ เห็นด้วยทุกประการทั้งปวง แต่ทุกร้านมนุษย์จำเป็นต้องใช้ แล้วก็ใช้ดีชะด้วย ใช้กันตั้งแต่เด็กยันคนแก่เลยงะ


Recados e Imagens - Engraçadas - Orkut

Recados, Gifs e Imagens no Glimboo.com



โดย: AJono วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:23:08:16 น.  

 
มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับร้านตัดผมครับ เดี๋ยวนี้ต้องเข้าร้านตัดผมชาย ทดลองมาหลายร้าน พบร้านหนึ่ง ตามที่หวังไว้(เป็นช่างสตรีคนเดียวในร้าน) ช่างตัดผมที่ไฝ่ฝันควรมี
มือเบา หวีผมทะนุแบบถนอมเส้นผมที่เหลือน้อยลงทุกวัน
ไม่ช่างพูด กลัวรู้เรื่องส่วนตัวของเรา หากคุยกับคนอื่นก็ไม่ชอบ กลัวน้ำลายช่าง
ไม่ค่อยย้ายงานไปไหน
เมื่อหาช่างที่มีคุณสมบัติครบทั้ง 3 ข้อแล้ว จึงขอเป็นลูกค้าประจำกันไป ตัดกันตั้งแต่ผมดก จนบางลงไปมาก เดี๋ยวนี้ช่างเริ่มตัดผมแบบปิดหัวล้านแล้ว อยากจะบอกว่ายังไม่ต้องถึงขนาดนั้น แต่เกรงใจช่าง ยังไม่กล้าบอก...


โดย: Insignia_Museum วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:23:42:32 น.  

 
ร้านแว่นตา ผมยังไม่เคยเข้าเลยครับ เห็นพนักงานใส่ชุดฟอร์มสีขาว กระโปรงสั้น ๆ ยืนยิ้มหวานอยู่หน้าประตู ดูแล้วเหมือนกับพวกคาเฟ่ลูกทุ่งอย่างไรอย่างนั้น เห็นปุ๊บก็รู้ทันทีว่ามันต้องแพงอย่างไร้เหตุผลแน่ ยิ่งถ้าเป็นร้าน pro muze อย่างในรูป ผมยิ่งไม่เอาด้วยเลยครับ

ร้านทำฟัน เห็นอุปกรณ์ของเขาแล้วก็ต้องยอมรับว่าสุดยอดนะครับ คงเป็นร้านทำฟันที่ออกแบบมาไว้ให้บริการลูกคนรวย ๆ เพราะเราท่านต่างก็รู้กันดีอยู่แล้วว่าลูกคนรวยเนี่ย แตะนิดต้องหน่อยก็ไม่ได้ เป็นต้องร้องโวยวาย บางครั้งลงไปชักดิ้นชักงออยู่บนพื้น แล้วเมื่อถึงคราวที่จะต้องโดนอัดอย่างเลี่ยงไม่ได้ด้วยมือทันตแพทย์ ทำอย่างไรให้ไอ้ลูกแหง่ร้องไห้น้อยที่สุด เป็นสิ่งที่พ่อแม่รวย ๆ ยอมจ่ายอย่างไม่อั้นครับ

ร้านทำผม ก็เป็นอะไรที่เข้าใจยากมากนะครับ ว่าทำไมบางร้านถึงแพงหูดับ แต่บางร้านก็ถูกเหลือเชื่อ ทั้งที่บางครั้งผลงานที่ออกมาดูแล้วไม่ต่างกัน ผมว่าการใช้บริการทำผมราคาแพง ๆ เป็นการซื้อความมั่นใจครับ เพราะเมื่อทำผมไปแล้ว ถ้าไม่ชอบจะขอเปลี่ยนกลับมาเป็นเหมือนเดิมนั้นไม่ได้ ผู้ใช้บริการจึงยอมจ่ายแพง ๆ เพื่อเป็นหลักประกันว่าหน้าตาของตนจะไม่โดนทำลายด้วยการทำผม ผมว่า วินทร์ เลียววาริณ น่าจะเขียนหนังสือให้กำลังใจกับพวกที่ไม่มั่นใจในตัวเองเกี่ยวกับการทำผมบ้างนะครับ จะช่วยประหยัดได้เยอะเลย เหอ ๆ

ร้านขายของเด็กเล่น บางร้านของเล่นมีราคาแพงมาก แต่ก็ขายได้ครับ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่มีร้านขายของเล่นแพง ๆ เปิดขึ้นมากันมากมาย คงเป็นเพราะพ่อแม่ของเด็กหลายคนติดนิสัยแก้ปัญหาด้วยการใช้เงินครับ ที่ผมสังเกตมา พ่อแม่รวย ๆ ไม่ค่อยมีเวลาให้กับลูก เพราะใช้เวลาหมดไปกับการทำงานและการเข้าสังคม พวกเขาจึงใช้วิธีซื้อของเล่นแพง ๆ ให้กับลูก เพื่อแสดงให้ลูกเห็นถึงความรักที่พวกเขามีต่อลูก แต่ผมว่ามันทดแทนกันไม่ได้หรอกครับ

ผมเองก็มีประสบการณ์เรื่องสถานที่ที่ไม่ควรเฉียดเข้าไป ไว้โอกาสหน้าผมค่อยเล่าดีกว่านะครับ
วันนี้ยาวเกินงามไปแล้ว ไปก่อนล่ะครับ บาย..


โดย: ตู้เพลงฯ (ตู้เพลงคนซน ) วันที่: 9 กันยายน 2551 เวลา:23:58:27 น.  

 
หวัดดีตอนเช้าครับพี่

ครอกกกกกก ยังไม่ตื่นดี ต้องหากาแฟสักถ้วยซะละ

เดี๋ยวมานะคับพี่..


โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:8:42:10 น.  

 


ดีครับ สหาย

สหายเปงคนที่ไม่ชอบร้านตัดผมมมากๆ

เลยละครับ

ถ้าเปงไปได้ จะตัดเองครับ...

ส้วนร้านที่บอกๆมาอะครับ ไม่เคยเข้าเลยตั้งแต่จำได้

หรอว่าเพราะยังไม่มีเหตุอะครับ


โดย: .ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:10:31:55 น.  

 
แวะมาสวัสดี อิอิ ..
อืม ร้านของแพง หรือ..คราหน้า ก้ออย่าไปเสียรุ้อีกละกัน


โดย: กิ่งโศก (Taboonkam ) วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:10:50:44 น.  

 
2 ชุดที่ว่านั้น ขัดกับบุคลิกอย่างแรงเลยพี่

ตอนนี้อยู่ในตู้ รอบริจาคค่ะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:10:53:31 น.  

 


นี่เป็นอีกสถานที่ที่เคยพลั้งพลาดในอดีต
เพียวเพราะ อยากฟิตแอนด์เฟิร์ม

เข้าไปปุ๊บ..เจอยุทธการหลอกล่อ ลับ ลวง พราง

ทีแรกกะไปจ่ายเป็นรายวัน แต่ถูกตะล่อมให้เป็นสมาชิกรายปี
ใจอ่อนกะเงื่อนไข ข้อเสนอต่างๆนานา

....หมดไปหลาย ...
เสร็จแล้วก็...ไปได้ไม่กี่ครั้ง...เบื่อซะก่อน...






โดย: ทากชมพู วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:11:45:15 น.  

 
ตามมาแอ๊ด ...แล้วสะดุ้งความหวานไป 3 ก้าวครึ่ง

เป๋อก็เคยโดนถากๆบ้าง ไม่ถึงกะฟันจมดาบ ...แบบว่าหน้าตามันฟ้องอย่างแรงว่าไม่มีตังค์ เซลส์เลยไม่ค่อยตื้อ (ถือว่าดีไม๊เนี่ย? )

เข้าร้านทําผมที ต้องทําสติก่อน ตั้งมั่นไว้ว่าอย่าไขว้เขว่ อย่าไหวเอนตามแรงยุ ..เริ่มทําได้แร๊ะ

อีกที่นึงที่ความเสี่ยงสูง ...เคาเตอร์เครื่องสําอางค์
โห ..สีนั้นก็สวย เฉดนี้ก็งาม เข้ากะน้องม๊ากมาก...พี่บีเอพูด
เป๋อหลวมตัวไป ...กลับบ้าน ..ใช้ไม่เป็น

เลือกเพลงเข้ากะฟามหรูจังนิ


โดย: เป๋อน้อย วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:12:47:20 น.  

 
ท้ายที่สุด ทนแรงเสียดทานไม่ไหว
ต้องกลับไปซื้อเข็มขัดมาคส์ไรเดอร์ให้

หลานสบายใจ ได้เข็มขัดมาแปลงกาย
ส่วนป้าก็สบายตัวไป (ตัวเบาหวิว ไม่สบายได้ไง)



ป.ล. สมัยป้าเล่นไม้ก้านกล้วย...ไม่เสียตังค์ซักบาท


โดย: ทากชมพู วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:13:15:49 น.  

 
โดนทุกที่เลยครับ โดยเฉพาะร้านแว่นตา โหดมากๆ ถ้าแว่นไม่มีปัญหาจริงๆ ผมไม่แวะเลย ร้านแว่น

ร้านของเล่นผู้ใหญ่หัวใจเด็ก (ขายพวกโมเดล) ก็โหดใช่เล่น


โดย: นายต่อ Ver. ต่างแดน (toor36 ) วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:13:54:55 น.  

 
เพลงนี้เป็นเพลงประกอบซีรี่ส์เกาหลี

วุ้ยยย ไม่รู้นะนี่ว่า

บรรเลงจากริชาร์ด

ตาย ตาย ตาย หลงนึกว่าเป็นเพลงเกาหลีอยู่นาน


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:14:08:31 น.  

 
ขอเตือน สถานลดความอ้วนอีกอย่าง

ถ้าใจไม่ด้าน เอ๊ย...แข็งจริงอย่าเข้าไป
เพราะพนักงานอมสาริกาพูด ให้เราเห็นดีเห็นงาม
ว่าจะสวยอย่างดารา นักร้อง แน่นอน

สุดท้าย หมดไปเป็นแสน

เข็ดแล้วกรู


โดย: เล่าไปอายไป (ทาสบอย ) วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:14:18:02 น.  

 
อ้อ ...

สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้ผอม

ต้องมาลดเองจนได้ กุ้ม!!


โดย: ทาสบอย วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:14:18:46 น.  

 
ผมชอบนะเพลงของ Richard Clayderman
แต่นักเปียโนคนโปรดของผมกลับไม่ใช่ริชาร์ด แต่เป็น Jim brickman
ไม่รู้เหมือนกันว่าจะมีใครชอบเหมือนกันรึเปล่า แต่เสียงเปียโนของเขา ทำให้ผมอินไปกับเพลงได้ทุกที ไม่ว่าจะกี่อัลบั้มๆ ก็ตาม

ผมแนะนำเพลงนี้ครับ secret love - jim brickman


โดย: padfoots IP: 58.64.65.163 วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:19:24:20 น.  

 
สวัสดียามค่ำ
ใช่เลย พอ และใช้ยึดเป็นแนวทางปฏิบัติมาตลอดก็มีความสุขดี คงซื้อของให้คุณหลานเยอะซิเห็นลากถุงใบโตจัง เรียนชั้นอะไรแล้ว น่าจะเป็นเด็กฉลาดเหมือนคุณป้าของเขา มีหลานไปด้วยก็เป็นความสุขอีกแบบ
สงสารประเทศไทยยุคอันธพาลครองเมือง
มีความสุขกับการงานที่ทำ รักษาสุขภาพด้วย ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:20:42:42 น.  

 

บล็อกหวานจ๋อย และแทบจะได้กลิ่นหอมกรุ่นของกุหลาบมา กลบขนมในเตาอบของเราค่ะ
พูดยั่วกิเลสอีกแล้ว


*ร้านแว่นตา*
อ่านแล้วอมยิ้ม พอเห็นราคาพันห้า
เพราะเมื่อสิบปีก่อน ไปร้านแว่นตากับเพื่อน
แล้วก็กลับออกมาตัวเบาหวิวด้วยราคาสี่พันบาท ทั้งที่กะไว้พันเจ็ดเหมือนกัน
อุตส่าห์บวกเพิ่มไปอีกสามร้อย จากราคาสมัยเรียนหนังสือ

กะว่าถ้าสายตายาวละก็ คงต้องเริ่มเก็บตังค์อย่างเร่งด่วน
ถ้าคิดจะตัดแว่นใหม่


*ร้านหมอฟัน*
ถ้าต้องมีนัดกันบ่อยๆละก็ กระเป๋าเบาโหวงแน่ๆ
โดยเฉพาะถ้าต้องรักษารากฟัน หรือครอบฟัน


*ร้านทำผม*
โชคดีไปค่ะ ที่ตัดผมที่ร้านเล็กๆที่ถูกใจมาเกินห้าปีแล้ว
โดยคนตัดไม่พยายามชักจูงให้ทำอะไร ที่จะทำให้สุนัขในซอยจำไม่ได้ยามเดินผ่าน
ไม่เคยยัดเยียดให้ซื้อแชมพู ครีมนวด ทรีทเมนต์ใดๆ ที่ลูกค้าไม่ถาม
ก็เลยอยู่ด้วยกันมานาน

แถมบางครั้ง ถ้าลูกค้ามีไอเดียอยากทำอะไรที่ออกจะแหวกแนว
คนตัดก็จะวิเคราะห์สภาพผมให้เสร็จ อย่างนุ่มนวลว่า
ก็ได้นะคะ แต่มันจะไม่ทิ้งตัวแบบในรูป... เดี๋ยวจะไม่ชอบ
ข้อนี้เราเลยโชคดีไปค่ะ



*ร้านของเล่น*
ตั้งแต่น้องโตจนไม่ต้องแวะร้านของเล่นแล้ว
ก็เป็นบุญอักโข

แต่ก็มีหลาน ที่เวลาซื้อหนังสือนิทานปกแข็งมีเสียงดนตรี เล่มละหกร้อย แล้วต้องกัดฟัน
สมัยตัวเอง ปกแข็งสวยๆแบบนั้นเล่มละ 25 บาทเอง

ปล. หลานคุณอัยย์ตัวอวบ น่ากอดมากค่ะ


โดย: HoneyLemonSoda วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:21:16:50 น.  

 
just say NO สิครับ


โดย: kirofsky วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:21:42:05 น.  

 
กลับมาอ่านอีกทีก่อนจะไปนอน

นึกขึ้นได้ว่าเมื่อปลายเดือนก็อีกราย

ใจอ่อนยอมซื้อแหวนหมื่นหกกับน้องที่ทำงาน

คิดว่าช่วยน้องอ่ะค่ะ

ทั้งที่แหวนไม่เคยคิดอยากจะใส่เลย จริง จริ๊ง ...

สัญญากับตัวเองครั้งแล้วครั้งเล่า

อย่าเสียเงินเพราะอารมณ์พาไป คิดนิดนึง คิดนิดนึง ...


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 10 กันยายน 2551 เวลา:21:47:57 น.  

 



กินน้ำมั้ยสหาย

กระหายยัง

.........


โดย: .ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:10:39:05 น.  

 
อะโห...วันนี้บล็อกตกต่ำมั่กมาก

มีสหายเข้ามาคนเดี๊ยะ...


โดย: ทากชมพู วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:18:58:11 น.  

 
เข้ามาช่วยเพิ่มจำนวนค่ะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:19:23:28 น.  

 
สวัสดียามค่ำ
สุขภาพดีขึ้นแล้วขอบคุณในไมตรีจิต
หลานคนเดียว สงสัยจะขัดอะไรเขาไม่ได้เสียมากกว่า
เตรียมควักกระเป๋าได้เลย มันเป็นธรรมชาติเช่นนั้นเอง
ก็เป็นความสุขไปอีกแบบหนึ่ง
อากาศเปลี่ยนแปลงแบบไม่ค่อยจะปกติด้วย รักษาสุขภาพให้แข็งแรงเข้าไว้ ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:20:32:59 น.  

 
ขอบคุณครับ สำหรับภาพครูที่ประเทศลาว ถูกใจมากครับ
ผมเคยลาวไปเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เคยเห็นแต่เด็กนักเรียน วันนี้ได้เห็นภาพครู มองเห็นถึงความสมถะ และเรียบง่ายครับ


โดย: Insignia_Museum วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:21:05:40 น.  

 
เรื่องหมอฟันที่คิดแพงๆ คิดว่าคงบวกค่าผะอืดพะอม(เขียนไงหว่า)เข้าไปด้วยนะ ว่าไม๊....


โดย: ลุงแมว วันที่: 11 กันยายน 2551 เวลา:22:20:14 น.  

 
มาเล่าประสบการณ์โดนฟัน หรือต้องเรียกว่าประสบการณ์ “แส่หาเรื่อง” เห็นจะเหมาะกว่า
เมื่อประมาณ 18 ปีที่แล้ว วันนั้นผมเพิ่งเก็บเช็คค่างานสิ่งพิมพ์ชุดใหญ่ได้เงินมาเยอะ ก็รู้สึกว่าไอ้ร้านอาหารใต้อาพาร์ทเม้นท์ที่เคยกินเป็นประจำดูจะโทรมไปสักหน่อย อาหารก็เดิม ๆ น่าเบื่อ ก็เลยชวน “เปี๊ยก” เพื่อนซี้ไปหาอะไรแปลก ๆ กินกัน

ในซอยโชคชัยร่วมมิตร(เมื่อก่อนเรียกว่าซอยสองบาท) มีร้านอาหารร้านหนึ่งชื่อว่า Vegetarian Cottage มีคำแปลภาษาไทยตัวเล็ก ๆ เขียนว่า กระท่อมมังสวิรัติ ก็ดูเข้าท่านะ คำว่า “กระท่อม” ให้บรรยากาศแบบ ชาวบ้าน ๆ แต่คำว่ามังสวิรัติทำให้เปี๊ยกสงสัยว่าจะมีเหล้าขายหรือเปล่าเนี่ย ผมต้องอธิบายให้เปี๊ยกฟังว่า “มีสิ มัสวิรัติไม่ใช่เจนะ มังฯกินเหล้าได้ กินนม กินไข่ กินกระเทียมได้หมดแหละ ขออย่าให้เป็นเนื้อสัตว์อย่างเดียว” เปี๊ยกเห็นดีด้วย เราทั้งสองคนไม่เคยเข้าร้านนี้มาก่อน แต่ผมก็อยากลอง ด้านหน้าดูเรียบง่าย แต่พอเข้าไปข้างใน ก็รู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ เงียบ ไร้ซึ่งผู้คน ภายในตกแต่งสไตล์ผู้ดีอังกฤษ

เข้าไปข้างในก่อนถึงตัวห้องอาหารเป็นห้องโถงเล็ก ๆ บริกรใส่ชุดสูทขาวดำผูกหูกระต่ายถือเมนูเดินมาต้อนรับ ยื่นเมนูให้ผม ผมสงสัยจึงถามว่า “ให้สั่งอาหารตอนนี้เลยเหรอครับ?” บริกรบอกว่ายังไม่ต้องสั่งตอนนี้ก็ได้ เอาเมนูมาให้ดูก่อนว่าพวกคุณจะสนใจอาหารประเภทที่เรามีบริการหรือเปล่า ผมเปิดเมนูดู ปรากฏว่าเป็นภาษาอังกฤษล้วนครับ เปี๊ยกดูเมนูของเขาแล้วหัวเรอาะคริก ๆ “เนี่ยอะนะกระท่อมมังสวิรัติขอพี่??” ผมมองไปที่บริกร เขายืนอมยิ้มมีสีหน้าเหยียดหยันกลาย ๆ

(ชักจะยาวแล้ว วันนี้เอาแค่นี้ก่อนนะครับ พรุ่งนี้มาเล่าต่อ)

ปล.ภาพที่ไปแปะไว้ที่บล็อกผมไม่ได้เป็นการทำให้เสียคอนเซพท์เลยแม้แต่น้อย ซ้ำยังช่วยประดับบล็อกให้มีชีวิตชีวาแบบฟรีสไตล์วาไรตี้อีกด้วยครับ ขอบคุณนะครับ


โดย: ตู้เพลงฯ (ตู้เพลงคนซน ) วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:3:36:51 น.  

 
พี่คับ....ผมว่าพื้นบ๊อคพี่เนี่ย..มันจะหวานเกินไปหรือเปล่าครับ

ถ้าไม่เกินไปก็แสดงว่าพี่หว้านนนหวาน...ชิมิ

กลับมาอีกรอบ เพราะสองวันก่อนงานเข้ามากมาย อะไรนักหนาก็ไม่รู้

มาว่าเรื่องของพี่ดีกว่า เอ เรื่องของผมสิ ผมนึกออกอยู่เรื่องเดียวที่ผมมักจะใจอ่อนแบบไม่ค่อยมีเหตุผล คือเรื่องตรวจเชคหรือซ่อมรถครับ

สารพัดของวิเศษที่ช่างสรรหามาเสนอ ราวกับว่าถ้าทำแล้วรถจะบินได้ หลายครั้งก็เสร็จช่างเหมือนกัน

ล่าสุดนี่ที่ปัดน้ำฝน ผมเอา 1 ช่างแนะนำ 2 ผมต่อรองว่าขอเอา 1.5 ละกัน ช่างโทรมาอีกบอกว่า 1.5 มันทำยากอ่ะ ถ้าเป็น 2 เลยเนี่ยจะดีกว่าเยอะ ผมบอกว่างั้นเอา 1 พอ..ง่ะ

ช่างบอกว่าถ้า 1 ไม่เปลี่ยนจะดีกว่า อ้าว เหรอ งั้น 2 ก็ 2 ...
ง่ะ แบบนั้น

เสร็จ...


โดย: ฤทัยนาวา วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:9:07:58 น.  

 





ชวงนี้ทำไมเค้าชอบไป เมืองปรากกันเยอะจัง

หัวหน้าใหญ่ที่ ก้อกำลังเทียวสบายใจ

อยู่ที่นั้น...





โดย: .ใบไม้ดนตรี (benjarong9 ) วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:10:41:34 น.  

 
กินข้าวยัง สายละ ทำไรอยู่ครับ


โดย: ซ้อมเต้น วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:10:58:23 น.  

 
รู้สึกว่าหลายคนตะลึงกับความหวานของบล็อก

อะ...ไหนๆก็ไหนๆ เอาให้มันหวานแสบไส้กันไปเลย

ใส่มาอีกดอก...



โดย: ทากชมพู วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:14:58:00 น.  

 
และอีกหลายๆดอก

โอย...ยังหวานได้อีก...ขอบอก



โดย: ทากชมพู วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:15:03:55 น.  

 
มาเพิ่มเรื่องเสียตังค์

ไม่พ้นความงาม
นวดหน้า ทาครีม
นวดมันเข้าไป
ทามันเข้าไป
ซื้อมันเข้าไป

อันนี้ เต็มใจจ่ายเอง โทษใครไม่ได้ว่ะ..


โดย: ทาสบอย วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:15:39:49 น.  

 
ยังมาทันนะเนี้ยะ

ของแพงไม่ชอบใช้อยู่แล้ว โดยเฉพาะแว่นตาไปตัดร้านค่าเลนส์ไม่กี่ร้อย ค่ากรอบหลายพันบาท ใส่ทำงานไม่กี่วันกรอบหัก
เดี๋ยวนี้ใช้แบบ 3 อันร้อยบาท เห็นชัดแจ๋วกว่าด้วย

หยุด 2 วันพักผ่อนมีความสุขนะครับ

Have a Nice Day comments


โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:18:10:27 น.  

 
อื้อฮือ หวานตับแล่บเลยค่ะ

พี่อัยย์โทรไปชวน

ได้คำตอบจากน้องชายหรือยังคะ


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:19:20:44 น.  

 
สวัสดีค่ำวันศุกร์
เห็นด้วยกับคุณทากชมพู มันดีอยู่กลุ่มเดียวคนอื่นๆเลวหมด
เลยมีคำถามว่าคนดีวัดกันตรงไหน ขณะนี้เด็กๆที่ดูเคเบิ้ลสกปรกเขาเชื่อว่าคนดีคือคนที่ด่าคนอื่นเลว มันทำกับอนาคตของชาติได้ลงคอ ใครที่ตกเป็นสาวกพวกมันก็ถือว่าเป็นกรรมของพวกเขาเอง ความจริงยังไม่เปิดเผย ถ้าเผยออกมาพวกเราคงจะช็อกตาย ภวนาขออย่าให้เป็นตามที่ได้ยินได้ฟังมาเลย
วันนี้ทางโน้นฝนตกทั้งวันเลยแล้วทางนี้ล่ะป็นอย่างไร หรือว่าฝนระอาไปแล้ว
ช่วงนี้ได้วางเค้าโครงหนังสือเล่มใหม่หรือยัง หรือเขียนไปหลายเล่มแล้วแต่ยังไม่ออกวางตลาด
ขอให้ประสบความสำเร็จในทุกๆเรื่องที่เขียน
รักษาสุขภาพด้วย ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:19:32:55 น.  

 
เม้นต์ช้นหายไปไหนหนอ
หรือว่าไปเม้นต์ผิดที่ กร๊ากกกกกกกกกกก



โดย: ทากลูกหมู วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:20:08:45 น.  

 


ไม่เคยเห็นคนไทยด้วยกัน หวาดระแวงกันเท่ายุคนี้เลย...
กลับมาอยู่อย่างมีความรัก ความอบอุ่น ในบ้านน้อยแสนหวานหลังนี้ไม่ได้หรือ


โดย: ทากชมพู วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:21:09:36 น.  

 
เพื่อนผมเคยบอกว่า ร้านแว่นตา ให้ต่อเหลือ 40 % ลดขนาดนี้ก็ยังไม่ขาดทุนครับ

สำหรับร้านหมอฟัน แพงเท่าไรไม่ว่า ขออย่ากระเซ้าเย้าแหย่ หรือนินทาคนอื่นกับผู้ช่วยจนออกหน้าออกตา เห็นใจคนไข้ที่กำลังอ้าปากค้าง แล้วยังต้องใช้สมองคิดตามที่หมอกำลังคุย เหนื่อยชะมัด

วันนี้อัพบล็อกแล้วครับ เกี่ยวกับนักเลงพระเครื่อง (ตัวปลอม)


โดย: Insignia_Museum วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:1:12:02 น.  

 
สวัสดีเช้าวันเสาร์ค่ะ พี่อัยย์

วันนี้ตื่นเช้าตั้ง 8 โมงแน่ะ

เดี๋ยวต้องมองๆหาว่าจะทำอะไรบ้างดี


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:9:55:50 น.  

 
นึกว่าเข้าบล็อกผิด หวานขนาดนี้ จะถอยก็ไม่ทัน เยี่ยมหน้าเข้ามาซะแล้วนี่

มาแชร์ประสบการณ์ค่ะ
ร้านแว่นนี่...ตัดใหม่ทุกปี สายตาก็ไม่ได้เปลี่ยนอะไรนักหรอก แต่มันต้องของใหม่ เป็นของขวัญวันเกิดตัวเอง..ฟันไปเจ็ด-แปดพัน..(เวลาใครถามจะบอกราคาต่ำ ๆ หน่อย กลัวเพื่อนด่าว่าเว่อร์)

มือถือก็เป็นของที่เปลี่ยนเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเองแทบทุกปี...เหอเหอ..ก็น่ารักสมควรจะได้ของขวัญนิ

อาหารเสริม วิตามิน อาหารลดน้ำหนัก...หมดปีละเป็นหมื่น ๆ

กล้องถ่ายรูปดิจิตอล อันเล็ก ๆ มีออปชั่นใหม่ ๆ ซื้อเป็นของขวัญให้ตัวเอง(อีกแล้ว) ...ใช้ไม่ถึง 2 ปีซักที

ชักจะยาวแฮะ นี่แค่ตัวอย่าง น้ำจิ้ม (ความอัปยศของตัวเองนี่เยอะจนน่าตกใจ...ฮ่า ๆ ๆ)
ยังดีที่ไม่ชอบเพชร (ถ้ามีตังค์ซื้อ คงชอบ)


โดย: ชิงดวง วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:12:54:32 น.  

 
เข้ามาแล้วเคลิ้มเลยครับ
ว่าแต่ขี้เกียจคิดบล็อก ยังทำได้ออกมาเปนเรื่องเปนราวขนาดนี้
ถ้าคิดออกจะขนาดไหนละครับนี่


โดย: biomechanic วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:17:33:03 น.  

 
สวัสดียามค่ำ
สภาพบ้านเมืองแบบนี้ต้องทำใจ หลบไปพักผ่อนต่างประเทศก็ดีจะได้ไม่ต้องพบเห็นพวกขยะสังคมทั้งหลาย
เลือกประเทศได้ดีจริงๆ ความสวยงามของบ้านเมืองไม่ต้องพูดถึงงามจริงๆ ไม่เคยไปหรอกแต่เป็นคนชอบฟังเพลง
จึงได้ดูจาก ดีวีดี เพื่อนส่งไปให้ เป็นการบรรเลงของวง
Andre' Rieu เป็นวง orchestra เพลงส่วนใหญ่ที่เล่นเป็นของ Johann Strauss เขาไปแสดงที่เวียนนาบ่อยๆ เขาเปิดการแสดงทั่วโลก ประเทศไทยยังไม่เคยมา เขาเห็นคนในประเทศบางกลุ่มเป็นอย่างนี้คงไม่มา สงสัยจะคุยยาวไปแล้ว พอแล้ว รักษาสุขภาพให้แข็งแรงจะได้ไปเที่ยวได้สนุก ราตรีสวัสดิ์


โดย: กาแฟสดกะพรรณไม้งาม วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:20:42:48 น.  

 
พี่อัยย์คะ ...

เพิ่งไปเสียเงินซื้อของที่แพลตตินั่มมาอีกร่วมสามพันค่ะ

แต่ได้เสื้อผ้ามาฝากคนทั้งบ้านเลย ค่อยคุ้มหน่อย

วันนี้ทานยาที่หมอให้แล้ว ลองสังเกตอาการนะคะ ว่ายังมีปวดท้องอีกมั๊ย ปวดเวลาเดิมหรือเปล่า

ถ้าเป็นเกี่ยวกับโรคกระเพาะ อาการก็น่าจะดีขึ้นค่ะ

ช่วงนี้งดดื่มกาแฟก่อนนะคะ เพราะไม่เหมาะกับโรคค่ะ

หากไม่ดีขึ้น ให้ยุ้ยไปเป็นเพื่อนหาหมอมั๊ยคะ ...


โดย: หยุ่ยยุ้ย วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:21:31:15 น.  

 
ไม่สบายรึ?
เป็นไร?

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: ทาสบอย วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:7:43:16 น.  

 
เรื่องร้านแว่นตานี่นะครับ ถ้าคุณไม่เอายี่ห้อดังคุณตัดไม่ถึงพันหลอกครับ วัสดุที่ทำมันทำมาจากไตตันเป็นโลหะผสมแทบทั้งนั้นยี่ห้อดังจะทำมาจากไททาเนี่ยมบ้างสแตนเลสบ้าง ก็ว่ากันไป แต่ส่วนใหญ่ข้อแรกทั้งนั้น แล้วมาถึงเรื่องดีไซด์ของแว่นตา ถ้าคุณชอบแบบสวยๆ ทันสมัยก็ต้องยอมจ่ายแพงหน่อย (ตามยี้ห้อนะ) ทั้งนี้ทั้งนั้นอยู่ที่คุณหมดครับว่าอยากเข้าร้านดังไหม! หรือร้านเล็กๆ ปากซอย คนขายก็อยากขายแต่ลูกค้ามีกะตังค์มากๆ ตอนที่ผมเป็นช่างอยู่ร้านดังร้านหนึ่งนะ ตัวละสองสามพันแทบไม่อยากขายคอมมันได้น้อย แว่นมันแพงเวอร์ตั้งแต่บริษัทผลิตแล้วครับแว่นลิขสิทธ์ยี่ห้อดังเช่น เรแบนต้นทุนมันมา4000 ขึ้นแล้วแต่รุ่นและต้องสั่งทีหนึ่งสิบกว่าตัว คุณว่ามาถึงคุณทำไมมันจะไม่แพงถ้าเป็นแบบใหม่ๆ ที่นิยมยิ่งราคาขึ้นอีก มีแต่เลนส์ครับที่ทางร้านได้กำไรดีหน่อย แต่ถ้าเลนส์มัลติโคสต้นทุนมันก็สูงจริงครับ ของยิีห้อดัง ก็เฉียดพันละแล้วก็ไม่แปลกที่คุณจะได้ในราคาพันกว่า ถ้าอยากได้ของถูกลงเอาเลนส์ธรรมดาคับมองชัดเท่ากันทนกว่ามัลติโคสอีก ความสบายตาแตกต่างกันนิดๆแทบแยกไม่ออกคับ แว่นสวยๆสมราคามีเยอะครับ ร้านเล็กๆส่วนใหญ่ช่างเป็นช่างที่เคยทำงานร้านใหญ่ทั้งนั้นครับ ผมก็มาเปิดเองไม่อยากเป็นขี้ข้าเค้าไปตลอด ออกมาเปิดเองบริการลูกค้าดีๆ ขายไม่แฟงมากราคาแล้วแต่เงินในกระเป๋าลูกค้า จะเอาเลนส์ระดับเทพแต่เงินมีไม่ถึงพัน ช่างก็ไม่รู้จะหาไหนให้นะครับ เพราะซื้อเลนส์บริษัทดังๆ เอามาประกอบอีกที ผมขายเลนส์บริษัทที่รับออเดอร์เลนส์จากบริษัทดังมาผลิตส่งให้ไปขายแพงอีกที ในราคาเบาๆ คุณภาพดีเหมือนกันเลย แต่ซองเลนส์ไม่ใช่ของบริษัทดัง เหมือนที่บริษัทเมืองไทยส่งอะไหล่คอมให้กับบริษัทดังๆ นั้นแหละครับ แต่ถ้าจะเอาบริษัทดังมีเงินจ่ายก็สั่งให้แต่รับประกันได้ว่าค่าสายตากับซองเลนส์ตัวเดียวกัน แต่ก็ยอมรับว่าร้านใหญ่แพง มาจากหลายสาเหตุ เช่น ยี่ห้อที่คุณเอา + ดีไซด์ +วัสดุที่ทำแว่นตา + เลนส์ระดับดีมากๆ - ระดับเทพ ร้านแว่นตาที่ดีจะต้องรับประกันการตรวจวัดครับ ถ้าใส่ไม่ดีต้องแก้ไขให้ฟรีจนกว่าจะดี เลนส์ยี่ห้อดังไม่ดังไม่แตกต่างกันแทบแยกไม่ออก วัสดุที่ทำมันเหมือนกัน ที่ร้านผมขายราคาเลนส์ธรรมดาควรอยู่ที่ 250.- มัลติโคส 700.- สองชั้นธรรมดา 450.- นี่คือมีกรอบอยู่แล้วถ้ากรอบในร้านหนึ่งพันขึ้นไปฟรีสำหรับมัลติโคส ลองเวะไปดูสินค้าได้ที่
//www.facebook.com/modern.optic


โดย: ต้า IP: 223.206.15.115 วันที่: 18 มกราคม 2556 เวลา:13:17:00 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทากชมพู
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]






เป็นนักล่าน้ำตก บ้านๆ ธรรมดาๆ พื้นๆ ง่ายๆ

เกลียดเผด็จการ ไม่เอารัฐประหาร...เบื่ออันธพาล



สะดุดรัก..คู่ปรับหัวใจ นิยายสุดรักสุดหวงของอัยย์วางแผงแล้ว แวะรัก..กลางฤดูร้อน นิยายสุดรักอีกเรื่อง.. วางแผงแล้ว !!
Friends' blogs
[Add ทากชมพู's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.