ฮุนเซน ขู่ฟ่อฟ้องศาลโลกหาไทยรุกล้ำเขตแดน
นายกรัฐมนตรีสมเด็จฯ ฮุนเซน กล่าวหาว่า ในช่วง 2 เดือนมานี้ ทหารไทยได้รุกล้ำดินแดนในหลายกรณี และหลายจุดตามแนวชายแดนระหว่างสองประเทศ อาจจะไม่มีทางออกอื่นนอกจากจะต้องฟ้องศาลระหว่างประเทศกรุงเฮกอีก หรือไม่ก็นำเรื่องนี้เข้าสู่การพิจารณาของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอีกครั้ง "ราจะต้องเตรียมตัวอย่างดีและเตรียมเอกสารต่างๆ ให้พร้อม เพราะดูเราอาจจะเลี่ยงไม่พ้นที่จะต้องพึ่งศาลระหว่างประเทศหรือเลวร้ายยิ่งกว่านั้นก็คือ กลับไปคณะมนตรีความมั่นคง" สำนักข่าวเกียวโดของญี่ปุ่นอ้างคำกล่าวของนายกฯ กัมพูชา ระหว่างกล่าวเปิดประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์เมื่อวันศุกร์ (12 ก.ย.) สมเด็จฯ ฮุนเซนกล่าวว่า กัมพูชาได้ อดทนอย่างถึงที่สุด แล้วขณะที่กำลังเผชิญหน้ากับ การก้าวร้าวรุกรานดินแดนกัมพูชาอย่างโอหัง ของทหารไทย นายกฯ กัมพูชากล่าวว่า การรุกล้ำดินแดนกัมพูชาเกิดขึ้นในหลายจุดตามแนวชายแดนติดกับไทยความยาวประมาณ 800 กม. คณะกรรมการชายแดนไทยและกัมพูชามีกำหนดพบเจรจาที่เมืองเสียมราฐปลายเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา เพื่อหาข้อตกลงถอนทหารทั้งหมดออกจากชายแดนด้านเขาพระวิหารและปราสาทตาเมือนธม แต่สถานการณ์ทางการเมืองในประเทศไทย ทำให้ต้องเลื่อนการพบเจรจาออกไปอย่างไม่มีกำหนด ผู้นำทางทหารของสองฝ่ายได้พบเจรจากันที่ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้วในปลายเดือน ก.ค. และตกลงให้รัฐมนตรีต่างประเทศของสองฝ่ายเปิดการพบเจรจากัน ฝ่ายกัมพูชานำโดย พล.อ.เตียบัญ (Tea Banh) รัฐมนตรีกลาโหม ฝ่ายไทยนำโดย พล.อ.บุญสร้าง เนียมประดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด รัฐมนตรีต่างประเทศไทยนายเตช บุนนาค ได้พบเจรจากับนายฮอร์นัมฮอง (Hor Nam Hong) รองนายกฯ และ รมว.ต่างประเทศฯ กัมพูชาที่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ระหว่างวันที่ 18-19 ส.ค. สองฝ่ายตกลงที่จะขอให้คณะกรรมการชายแดนฝ่ายทหารพบเจรจากันในเสียมราฐ วันที่ 22 ก.ค.กัมพูชา ได้แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) ในนครนิวยอร์ก ให้พิจารณากรณีการเผชิญหน้าทางทหารบนเขาพระวิหารเป็นกรณีเร่งด่วน แต่ก็ขอถอนญัตติในเวลาต่อมาเมื่อสองฝ่ายตกลงเจรจากัน วันที่ 16 ส.ค. ไทยและกัมพูชาถอนทหารหลายร้อยนายออกจากเขตพิพาทชายแดนด้านพระวิหาร หลังจากส่งเข้าไปประจำที่นั่นและเริ่มเผชิญหน้ากันมาตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.
Create Date : 15 กันยายน 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 15 กันยายน 2551 5:38:37 น. |
Counter : 386 Pageviews. |
|
|
|