Group Blog
 
 
กรกฏาคม 2548
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
9 กรกฏาคม 2548
 
All Blogs
 
ตอนที่ 1 : ลอนดอน, ทีโบน และ นาตาลี อิมบรูเกลีย

(หมายเหตุ : น้องๆ ม.กรุงเทพ ที่จะเข้ามาตอบคำถาม ให้คลิกทางด้านซ้ายมือของน้องนะครับ ตรงคำว่า BR456 Introduction to Film Analysis)



คอลลาจ 1 : ทีโบน และ แซกโซโฟน

เมื่อวานไปแซกโซโฟนมา สนุกมาก
ไปกันสองคนกับไอ้กัน

ณ ปัจจุบันนี้ ไอ้กันแทบจะเป็นเพื่อนผู้ชายที่สนิทที่สุด (นอกนั้นก็มีธี, เต็นท์) ที่แปลกก็คือ เรารู้จักไอ้กันจากอินเตอร์เนท เนื่องจากเราไปถามหาข้อมูลเกี่ยวกับอิงมาร์ เบิร์กแมน ในพันธ์ทิพย์ แล้วไอ้กันก็มาตอบ แล้วก็แอด msn คุยมาเรื่อย จนนัดเจอกัน จนมารู้ว่าทำงานสายใกล้เคียงกัน โอ้ว มีอะไรอีกเยอะแยะ

สิ่งที่ทำให้สนิทมากขึ้น คงเป็นเพราะไอ้กันนอนดึก บางวันก็โทรศัพท์ให้ออกมากินข้าวกันตอนตี 2 ที่อนุสาวรีย์
หรือวันก่อนที่คุยกับมันถึง ตี 4 ในร้าน Coffee Society เดินเข้าร้านนี้กัน 2 คนเหมือนเป็นคู่เกย์มากๆ
วันนั้นนั่งคุยเรื่องบทความที่จะทำในอนาคต เป็นบทความที่ยิ่งใหญ่อลังการมาก และจบท้ายกับไอ้กันว่า “กูกับมึงอยู่ในยุคของลิลี่ ชูชู นะ เพราะกูกับมึงเริ่มต้นรู้จักกันทางอินเตอร์เนท”

ไอ้กันเป็นคนที่นำทางข้าพเจ้ามาสู่ร้านแซกโซโฟน เพิ่งรู้ว่ามันใกล้ที่ทำงานมาก และเพิ่งรู้ว่าทีโบนมาเล่นดนตรีที่นี่

ทีโบนเป็นวงดนตรีที่วิเศษมาก

การดูทีโบนเล่นดนตรีสดๆ โดยเราอยู่ห่างจากแก๊ปทีโบนไม่ถึง 5 เมตร ยิ่งเป็นสิ่งที่วิเศษสุดๆ

กันบอกว่า ดนตรีเรกเก้ เป็นดนตรีที่สนุกและเซฟพลังไปในตัว
เราบอกกลับไปว่า ทีโบนคือเฉลียงของยุคนี้น่ะ คือ ฝีมือดนตรีดีสุดๆ แถมยังแต่งเนื้อร้องได้ดีสุดๆ ด้วย และที่สำคัญก็คือ เป็นเนื้อร้องของคนที่มองโลกด้วยสายตาเปี่ยมสันติ

…ฟังเพลงทีโบนตอนนี้เหมาะเหลือเกินกับโลกที่วิบัติ

ดนตรีของทีโบนดึงเอาผู้ฟังเข้าไปอยู่ในโลกของเขาโดยไม่รู้ตัว แล้วเนื้อเพลงของทีโบนไม่ได้เร้าความเศร้าเหงาของมนุษย์ออกมา ไม่มีใครฟังเพลงทีโบนแล้วฆ่าตัวตายแน่นอน

ทีโบนเล่นประมาณ 12 เพลงมั้ง เราเริ่มหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของทีโบนในเพลง แรงดึงดูด (แหม เหมือนเป็นซิมโบลเนอะ) ถึงจะเป็นเพลงช้า แต่ตอนท้ายมีโซโลเพอร์คัสชั่นที่มันส์มาก แล้วตั้งแต่เพลงนั้นเป็นต้นไปเราก็จำอะไรไม่ได้อีกแล้ว เพราะมันสนุกมาก กว่าจะรู้ตัวอีกทีคือเราลงไปเต้นอยู่กับคนอื่นๆ ครึ่งร้านที่เขาก็ลงไปเต้นด้วยกัน ฝรั่ง ไทย ลาว จีน บ้าบอคอแตกเต้นเพลงทีโบนกันหมด โดยเฉพาะเพลง มนต์รักเพลงสกา และ โต๋วล่งตง นั้นบ้าบอมากทีเดียว ปิดท้ายคอนเสิร์ตด้วย เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม และ เพลงบรรเลงอีกเพลงไม่รู้ว่าชื่อเพลงอะไร

ช่วงท้ายๆ มีทีเด็ดที่ให้นักดนตรีต่างชาติมาร่วมแจม น่ารักไปอีกแบบ

พี่แก๊ปดูไกลๆ แล้วเหมือน มดตัวเอกในหนังการ์ตูนเรื่อง Ants มากๆ

นี่เป็นครั้งแรกนับจากเรียนจบล่ะมั้ง ที่เราได้เข้าไปเต้นอยู่ในวงผู้ชม การเต้นแบบล้อมวงเป็นเรื่องปกติมากๆ ในสมัยเรียน
ตอนปี 1-ปี 4 ไม่ว่ากิจกรรมไหนของคณะก็มักจะจับด้วยการปิดคณะแล้วเปิดเทคแดนส์ เพื่อๆ จะล้อมเป็นวงกลม หันหน้าเข้าหากันแล้วแดนซ์ด้วยท่าเลวๆ บางทีในวงนั้นก็จะมีพี่ๆ น้องๆ รุ่นอื่นๆ เข้ามาแจมด้วย

แต่ในวันนี้ เราไปร่วมวงกับคนอื่น ซึ่งแต่ละคนก็ไม่ได้รู้จักอะไรกันเลย (คนเต้นข้างๆ เราเป็นผู้ชายไว้ผมแบบเรกเก้ายาวถึงเอว) และมีคนหลากหลายชาติด้วย

แต่ทุกคนเป็นประชากรของโลกทีโบนเหมือนกัน
(คนกับคนก็เพื่อนกัน คนกับควายก็เพื่อนกัน…จริงไหม!)



คอลลาจ 2 : นาตาลี อิมบรูเกลีย

เพิ่งซื้อ นาตาลี อิมบรูเกลีย ชุดใหม่มาเพื่อฉลองกรุงลอนดอนถูกโจมตี
เพลงที่ชอบที่สุดในอัลบั้มคงเป็นเพลง Starting Today

Starting today
I'm not gonna waste another moment

Even if I
had the chance before I would have blown it

But you took me by surprise
And you caught me just in time

Chorus :
Everyday you
give me reason not to walk away
I stop believing
that the world's gone crazy
And if it is you'll save me

ดีใจกับนาตาลีมากๆ ที่เธอเขียนเนื้อเพลงได้แบบนี้ (หรือต่อให้ไม่ได้เขียนเอง แค่มีความคิดแบบในเพลงนี้ก็ดีมากๆ แล้ว)
“Starting today
I'm not gonna waste another moment”

เคยคิดกันไหมว่า วันๆ เราใช้ชีวิตเพื่อหายใจทิ้ง?
นาตาลีคงเคยคิดเช่นนั้น ไม่งั้นคงไม่เขียนเนื้อแบบนี้หรอก

นาตาลี อิมบรูเกลีย เป็นดาราละครทีวีในออสเตรเลีย ดังเป็นพลุแตกตอนออกอัลบั้มชุดแรก เพลง Torn ของเธอขึ้นอันดับหนึ่งไปทั่วโลก และ ‘ลุค’ แบบสาวข้างบ้านผสม อลานิส มอริสเซตต์ ผสม ลิซ่า โลบ นี่เองที่ทำให้เธอเป็นขวัญใจของวัยรุ่นในยุคนั้น

Torn เป็นเพลงที่ดังตอนผมเรียนอยู่ปี 1

แล้วต่อมา นาตาลี ก็บ้าบอคอแตก เธอเป็นดารา ออกงานสังคม เป็นขวัญใจปาร์ตี้ เป็นนางแบบ ตลอดจนเล่นหนังเรื่อง Johnny English

…ไม่มีอะไรที่ทำให้เธอประสบความสำเร็จเลย

ณ วันนี้นาตาลีกลับมา แต่งงานกับนักร้องวงร็อคของออสเตรเลีย แล้วหันมาตั้งใจเป็นนักร้องอย่างจริงจัง

นาตาลีไม่ใช่คนเสียงดีสักเท่าไร แต่เธอก็ไม่ได้มีเสียงที่เลวร้าย
กล่าวคือเสียวของนาตาลีไม่มีพลัง แถมยังมีเรนจ์เสียง (ความกว้างของเสียง) ที่จำกัดมาก ลงเสียงต่ำมากไม่ได้ และขึ้นเสียงสูงมากไม่ได้ (หรือถ้าได้ก็ต้องใช้เสียงหลบ)

แต่คนทุกคนมีเสียงที่เพราะที่สุด และนาตาลีหามันเจอแล้ว

ในอัลบั้มชุดนี้ นาตาลีเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาก เธอไม่ได้ทำตัวเป็นสาวร็อค (ซึ่งไม่เหมาะกับเธอสักเท่าไร เพราะเธอมักโดนดนตรีกลบ) แต่สิ่งที่พรีเซนต์ออกมาคือการเป็นสาวซอฟต์ร็อค ร้องเพลงป๊อปสวยๆ เมโลดี้งามๆ ที่เปิดโอกาสให้โชว์เสียงของเธอเต็มที่

นาตาลีฝึกการใช้เสียงใหม่ เธอโชวืเสียงด้วยการลากยาว นิ่งสงบ และไม่เล่นลูกคอ

เสียงของเธออาจจะไม่สวย แต่มันงามมากมายเลยล่ะ

โดยเฉพาะในเพลงนี้ ที่เข้ากับสถานการณ์ในปัจจุบันเหลือเกิน

ฉันจะไม่เสียเวลาอีกต่อไป ฉันจะทำในสิ่งที่ฉันเชื่อ
ฉันเคยมีโอกาสมาก่อน แล้วฉันก็ทำมันพัง
แต่เธอทำให้ฉันไหวตัวทัน

ทุกๆ วัน เธอให้เหตุผลกับชีวิตของฉัน
และถึงแม้ว่าวันนี้โลกมันวุ่นวายและบ้าคลั่ง
แต่เมื่อไรที่มองตาเธอ ฉันก็พบกับสันติ







คอลลาจ 3 : ลอนดอน

เมื่อวันก่อนเกิดเหตุระเบิดที่ลอนดอน ตกใจมาก ผสมตื่นเต้น
ความตกใจที่ระคนกับความตื่นเต้นมักทำให้เราไม่ทำงาน แหะๆ แน่นอนว่าเรากับน้องที่ออฟฟิศเอาแต่อัพเดทข่าวบนอินเตอร์เนทอย่างเมามัน เวลาหน้าสิ่วหน้าขวานอย่างนี้ใครจะทำงานลง?

ตอนแรกนึกว่าเป็นแค่การวางระเบิดเล็กๆ พอเอาเข้าจริงๆยิ่งใหญ่มาก เป็นห่วงเพื่อนๆ ที่ลอนดอนว่าจะเป็นอะไรบ้างไหม เพราะจากการประเมินของข้าพเจ้า สันดานของแต่ละคนก็เพียงพอที่ยมบาลจะลากพวกมันลงนรก

ปรากฏว่าคนที่โดนผลกระทบคนเดียวในหมู่เพื่อนคืออียุ้ย ยุ้ยเป็นเพื่อนคนหนึ่งที่เหี้ยได้ใจ ถ้าถามว่าเพื่อนคนไหน (จาก 145 คน) ในรุ่นที่ขาดไม่ได้ในวงเม้าวงเหล้า นั่นก็คืออียุ้ย ถึงเธอจะไม่ได้เป็นผู้นำของวงเม้า แต่ลีลาการตบท้าย การล้วงข้อมูลประหนึ่งหน่วย CSI ทำให้เธอเป็นที่ขึ้นชื่อลือชาเสมอมาว่า ‘เหี้ยได้ใจ’

ยุ้ยขึ้นรถไฟในเช้าวันนั้นแต่โชคดีที่ลงมาก่อน แล้วเดินทางถึงโรงเรียนเรียบร้อยแล้วถึงจะเกิดเรื่อง ยุ้ยก็เลยติดแหงกอยู่ในโรงเรียน กลับบ้านไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ต้องเดินกลับบ้านเพราะรัฐปิดรถไฟและรถเมล์ ซวยไป กลับถึงบ้านยุ้ยก็ออนไลน์เอ็มเอ็สเอ็น เธอเม้าและสาระชีวิตเช่นเคย “ระหว่างที่กูเดินกลับบ้าน กูไปหลบฝนที่ป้ายรถเมล์แล้วเจอป้าคนนึง ยัยป้านี่บอกกูว่าเดินมาตั้งแต่ 10 โมงแล้ว และตอนนั้นเป็นเวลาบ่าย 2 แล้วน่ะมึง กูว่าป้าเดินจน…แหกแน่ๆ”
…เข้าใจคอนเสพของยุ้ยแล้วใช่ไหมว่า เหี้ยได้ใจมากๆ นี่ล่ะ ผู้หญิงนิเทศ

อีกคนที่รายงานเป็นเรื่องเป็นราวมากขึ้นก็คือ โบ๊ต เด็ก JR (วารสารสนเทศ) ที่เก่งกาจภาษาอังกฤษ เธอเรียนอยู่ที่ลอนดอนเช่นกัน และเธอเขียนข่าวส่งไปที่เว็บรุ่นดังนี้

เช้าวันที่เกิดเหตุเป็นวันพฤหัส ซึ่งปกติจะมีเรียนตอน 10 โมงเช้า ซึ่งต้องไปเปลี่ยนรถที่สถานี King Cross ประมาณ 8.45-9.00 เป็นประจำ นึกแล้วเสียวสันหลังอยู่เลย ถ้าตอนนี้เป็นตอนเปิดเทอม เราคงเป็นหนึ่งในนั้นด้วยเหมือนกัน

แต่ถึงวันนี้ไม่มีเรียน เราต้องไปห้องสมุด และนัดกับอาจารย์ที่ปรึกษาเรื่องวิทยานิพนธ์ ตอนบ่ายนัดกับเพื่อนว่าจะไปกินข้าวกัน เลยตั้งใจว่าจะไปห้องสมุดที่มหาวิทยาลัยเช้าหน่อย ปกติเราจะตื่นเช้า 7-8 โมงก็ตื่น วันนั้นดันตื่นสาย ตั้งใจว่าจะไปสัก 10 โมง เหมือนไปเรียน ตื่นมาอีกทีก็ 9 โมง แล้ว ระหว่างที่รีบ ๆ แต่งตัว ป้าซึ่งเพิ่งออกไปทำงานก็กลับบ้านส่งเสียงโหวกเหวกว่าไม่มี tube ไม่มี rail ทุกอย่างปิดหมด

ลุงเราเป็น engineer ของ London Underground สามารถโทรเช็คได้ แต่ก็ไม่ได้ข้อมูลอะไร เราลองเปิดเว็บไซท์ของ underground ดู แต่เว็บมันร่ม แล้วเราก็เปิดเว็บ BBC ส่วนป้าก็เปิดทีวีดูข่าว ตอนนี้เกือบ ๆ 10 โมง ข่าวทั้งในเว็บและทีวียังออกว่าเป็น Power Surge อยู่เลย หลังจากนั้นอีกชั่วโมง ตอนทั้ง 7 จุด ถูกระเบิด พวกเราก็มั่นใจแล้วว่าต้องเป็นผู้ก่อการร้ายแน่ ๆ แต่ข่าวยังไม่กล้าชี้ลงไป จน Blair ออกจาก G8 มาแถลงข่าวว่า Terrorist Attacks

เรานั่งดูข่าวไป ยอดคนตายเพิ่มจาก 2 เป็น 10-20-30 เราพยายามจะติดต่อเพื่อน ๆ ญาติ ๆ ที่อยู่ที่นี่ แต่ mobile network ไม่ทำงาน เลยติดต่อใครไม่ได้ จนบ่าย ๆ ถึงจะติดต่อกันได้ ระหว่างนี้ได้แต่ติดต่อกันทางอีเมลล์กับเพื่อน ๆ ที่มหาวิทยาลัย และอาจารย์ที่ปรึกษาเช็คกันว่ามีใครเป็นอะไรบ้างรึเปล่า อาจารย์บอกว่าอย่าเพิ่งมามหาวิทยาลัยจนกว่าจะวันจันทร์

โทรศัพท์บ้านยังใช้ได้อยู่ เลยโทรกลับเมืองไทยบอกที่บ้านว่าไม่ต้องห่วง เพราะข่าวเมืองไทยเร็วเหมือนกัน ตอนโทรไปเค้าดูข่าวกัน และกำลังจะโทรมาหา

เช้าวันนี้จริง ๆ ไม่อยากไปใช้ tube เลย แต่จำเป็นต้องเดินทางเข้าเมือง ความเปลี่ยนแปลงแรกที่เห็นคือที่สถานีใกล้ ๆ บ้านเรา ซึ่งรถ tube อยู่บนดิน ปกติจะไม่มีตำรวจ วันนี้มีตำรวจ 2 นาย สถานีถัดไปก็มีอีก 2 นาย เรานั่งไปได้แค่สถานีเดียว คนขับก็ประกาศว่าให้ผู้โดยสารลงจากรถทั้งหมด เพราะ security problem แล้วตำรวจกับเจ้าหน้าที่สถานีก็เดินตรวจทุก ๆ ตู้ สุดท้ายพวกเราต้องรอรถคันถัดไป

ถามว่าเรากลัวมั้ย กลัว แต่จะทำยังไงได้ มันต้องเดินทาง เรากลัว แต่ไม่ได้ตื่นตระหนก เราออกจากบ้าน เราสังเกตุหน้าผู้คน เค้าก็กลัว แต่เค้าไม่ตื่นตระหนก ไม่ panic ระหว่างทางเราสังเกตุว่าวันนี้ออฟฟิศ และร้านค้าหลาย ๆ ร้านปิด อย่างที่ Camden Town ปกติคนจะเยอะมาก ทั้งคนทำงาน นักท่องเที่ยว แต่วันนี้เงียบมาก ๆ เลย

ส่วนเรื่องกลับเมืองไทย เราว่าสถานการณ์มันยังไม่เลวร้ายขนาดนั้น ถ้าเค้าจับนักเรียนไทยเป็นตัวประกันก็ว่าไปอย่าง ถ้าสถานการณ์เลวร้ายขนาดนายกฯ ต้องส่งเครื่องบินมารับนักเรียนไทยต้องกลับ สงสัยคนที่อยู่ในลอนดอนก็คงต้องอพยพหนีตายไปอยู่ที่อื่นเหมือนกัน

วันนี้ที่ตลกมาก ๆ คือ มีผู้ชายหน้าแขก ๆ ขึ้นมาบนรถ หน้าตาแกหนวดเครารุงรังคล้ายสาวกบิน ลา เดน คนก็เริ่มเมียง ๆ มอง ๆ เราเองก็เมียง ๆ มอง ๆ แกกับกระเป๋าแกอยู่เหมือนกัน เสร็จแล้วแกก็ล้วงกระเป๋าหยิบอะไรมากด ๆ ลุงฝรั่งข้าง ๆ หันไปจ้องตาไม่กระพริบเลย สุดท้ายดันเป็นแค่วอล์คแมน

เราหวังว่าเหตุการณ์ครั้งนี้จะทำให้ทุก ๆ คนช่วยกันระวังมากขึ้น ถุงขยะเป็นสิ่งที่เห็นบ่อยมากบน tube แต่ไม่ค่อยมีใครสนใจ ซึ่งจริง ๆ มันอาจจะซ่อนระเบิดไว้ก็ได้เหมือนกัน


ขอบคุณโบตสำหรับการให้ก๊อปมาแปะ (ทั้งๆ ที่ยังไม่ได้ขอ แต่รู้แหละว่าโบ๊ตไม่โกรธอะไร)


Create Date : 09 กรกฎาคม 2548
Last Update : 12 กรกฎาคม 2548 19:34:41 น. 19 comments
Counter : 916 Pageviews.

 
แวะมาเยี่ยมครับ ตัว dfgsdfgsdfghsdfgs คืออะไรครับ



โดย: yuttipung (yuttipung ) วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:26:10 น.  

 
ชอบนาตาลี ตรงเพลงเธอเป็นร้อคใสๆสะอาดดีครับ แต่ชุดใหม่นี่ดูสุขุมขึ้นเยอะ


โดย: ข้าวตู IP: 203.151.111.156 วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:20:52:47 น.  

 
ถ้าคุณ Grappa แวะเข้ามา ช่วยสอนผมหน่อยครับว่าจะโพสต์เพลงอย่างไร แหะๆ


โดย: คุณน้องเต้ วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:22:30:27 น.  

 
* * กูก็ชอบร้านแซกโซโฟนนะ วันที่มึงชวน กูก็อยากไปมากๆ ส่วนทีโบนนี่ไม่ต้องพูดถึง กูรักวงนี้พอๆ กับที่กูรัก Hootie and the blowfish แหะๆๆ ทำให้คิดว่า ทำไมต้องมาปิดเล่มวันนี้ด้วยนะ

* * เห็นหน้า นาตาลี อิมบรูกเลีย ทุกครั้ง กูจะนึกถึงผัดไทย - นิลุบล อมรวิทวัส มันหน้าตาเหมือนกันมากนะ สรุปคือเธอแต่งงานไปแล้วเหรอ กูยังเข้าใจว่าเธอยังเดตกับเดวิด ชวิมเมอร์อยู่เลย

เพลงที่มึงแปะไว้ กูคงรู้สึกดีกับเพลงนี้มาก ถ้าชีวิตกูยังมีสรรพนามบุรุษที่ 2 คือ you อยู่ ตอนนี้กู Home Alone มาก - - เศร้าว่ะ

* * วันที่เกิดเหตุระเบิดที่ลอนดอน กูนั่งดูข่าวกับเพื่อนที่คอนโดฯ มันถามกูอย่างโง่ๆ ว่า "เฮ้ย ก่อการร้าย ทำไปแล้วได้อะไรวะ" ก็ก็พยายามอธิบายว่า "นี่ไงมึง มันทำให้ประเทศมหาอำนาจที่เสวยสุขอยู่กับความคิดที่ว่า ชีวิตกูปลอดภัย รู้สึกหวั่นต่อสภาพความมั่นคงของตัวเอง" เพื่อนกูตอบว่า "แล้วไงต่อวะ" กูก็อธิบายต่อว่า มันจะส่งผลถึงเศรษฐกิจ, การเมือง และสังคม ยังไงบ้าง บาลาด๊า บาลาดี๊ เพื่อนกูก็ยังคงถามต่อด้วยประโยคเดิมๆ ว่า "แล้วยังไงต่อวะ"

ไม่ว่ากูจะหาข้ออ้างเรื่องการก่อการร้ายยังไง ดูเหมือนเพื่อนกูจะรู้สึกว่า มันไม่ make any sense สำหรับมันเลยจริงๆ (ด้วยอารมณ์ที่ไม่เข้าใจนะ - ไม่ใช่กวนตีน) พอกูเหนื่อยมากๆ เข้า กูก็ปลง บอกมันไปว่า "เออ เนอะ แล้วไงต่อวะ"


โดย: ludivine's lover IP: 61.91.42.214 วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:36:17 น.  

 
by the way
ขอโษนะครับที่ลบคอมเมนต์ของบางคนไป เผอิญผมกดผิดแล้วเอากลับคืนมาไม่ได้ ฮือๆๆ


โดย: คุณน้องเต้ วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:36:39 น.  

 
ถึง Ludivin’s Lover

เฟย์ เพื่อนเราอีกคนที่อยู่ที่ลอนดอน บอกว่า

“คนที่นี่ spirit แรงมาก เพราะเค้าพยายามจะออกไปทำงานกันให้เหมือนปกติ ยังใช้tube เหมือนเดิม ดูข่าวแล้ว หลายๆคนบอกว่าเค้าจะไม่เปลี่ยน ไม่งั้นก็เหมือนคนแพ้ เค้าไม่ยอมให้พวก terrorists ชนะ เหมือนที่ Blair กล่าว "they should not and must not succeed"

ใจคนนี่แข็งยิ่งกว่าเพชรอีกเนอะ


โดย: คุณน้องเต้ วันที่: 9 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:40:10 น.  

 
แวะมาอ่าน
พี่เต้จะใส่เพลง
หาที่ upload เพลงก่อน
อย่างเช่นถ้าผม upload ไปไว้ที่
//www.wayoutmusic.org/board/attachments/goose_-_07_leave_me.wma
แล้วก็เอาไอ้ tag ตามนี้ไปใส่ไว้ตรงไหนก็ได้ แล้วค่อยจัดดูอีกที



ถ้า autostart = "true" มันก็จะเล่นเองเลย ถ้า "false" ต้องกด play อะค้าบบบ


โดย: Dr Syntax วันที่: 10 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:09:10 น.  

 
อ้าว ตายหอม มันใส่ให้เสร็จเลย...

ลบทิ้งไปก็ได้นะพี่
คือที่ post ไว้ ให้ใส่ tag ยังงี้
(เลื่อนวงเล็บมาติดกันด้วยนะพี่)

< embed src="//www.wayoutmusic.org/board/attachments/goose_-_07_leave_me.wma" autostart="true" mastersound >< /embed >


โดย: Dr Syntax วันที่: 10 กรกฎาคม 2548 เวลา:11:10:39 น.  

 
ตามที่คุณ Dr Syntax บอกถูกต้องแล้วค่ะ
หลักๆ คือ หาเว็บโฮสท์ (ฟรีๆ ก็มีเยอะ )
แล้วอัพเพลงขึ้นไป เพื่อที่จะทำเพลงให้มี url มี url แล้วก็เอามาใส่ในโค้ด ( อ้อ เพลงที่จะทำให้เป็น url ได้มีสองแบบค่ะ คือแบบ .wma และ .swf หรืออาจะมีแบบอื่นอีก
แต่ดิฉันรู้จักสองแบบ ถ้าเป็น mp3 เอาขึ้นเว็บไม่ได้นะคะ ต้องแปลงก่อน )
หนุกดีค่ะ
ลองทำดู

อ่านแล้วก็คิดถึงแซ็กโซโฟน เคยไปเที่ยวตั้งแต่สมัยเรียนหนังสือ ร้านปิดแล้วก็ต้องออกมากินก๋วยจั๊บ ตรงปากซอยอ่ะค่ะ เด๋วนี้แก่แล้วเที่ยวแค่ใกล้ๆ บ้าน (เมาๆ อยู่แถวถนนพระอาทิตย์เป็นหลัก )

แต่ได้ดูคอนเสิร์ตทีโบน ที่อินดอร์ สนุกมาก ชอบเพลงทีโบนหลายเพลง ตั้งแต่ เธอเห็นท้องฟ้านั่นไหม โน่นแน่ะ

แก๊ป ทีโบน นี่เป็นมนุษย์แห่งสันติคนนึง เป็นมังสวิรัติด้วยมั้งคะ มีบ้านอยู่ริมทะเล อยู่กับครอบครัว (ภรรยาสวยมากและ ความคิดเหมือนกัน ) เคยอ่านบทสัมภาษณ์ของเขาใน OPEN ชอบตรงที่เขาบอกว่ากว่าที่เขาจะสงบ และรู้ว่าตัวเองต้องการอะไร ก็ผ่าน เรื่องเหี้ย ๆ ในชีวิตมาเยอะ จนวันนึงก็รู้สึกว่าพอแล้ว คิดว่าคนเราต้องรู้จักความชั่วอ่ะ ถึงจะรู้ว่าดี คืออะไร

ส่วนลอนดอน เป็นเรื่องใหญ่มากนะคะ เสียดายที่ข่าวเมืองไทยไม่ค่อยให้ความสำคัญ เพื่อน ๆ ที่เคยเดินอยู่ลอนดอนบอกว่าดูข่าวแล้วรู้สึกเศร้ากว่า 9/11 อีก


โดย: grappa วันที่: 10 กรกฎาคม 2548 เวลา:13:57:12 น.  

 
อิ อิ อิ
ยาวดีจัง


โดย: lek IP: 210.86.131.166 วันที่: 10 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:37:52 น.  

 
รักทีโบนเหมือนกันพี่

เคยไปดูคอนเสิร์ต มนต์รักเพลงสกา อืมม.. ก็เกิดการล้อมวงเต้นก็ขึ้นคล้ายๆแบบนี้นี่แหละ(แต่วงใหญ่มาก และมั่วมาก) เพลงมันมีความสุขมาก

เซ็ง ระเบิดลอนดอน อะไรก็ไม่รู้....


โดย: jaekor IP: 61.90.81.49 วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:13:37:53 น.  

 
-- ไม่ค่อยได้ฟังทีโบน แต่เคยดูเทปเล่นสด มันส์พระเจ้ามาก

-- ไม่ได้ดูทีโบนตอน FaT Live เป็น FaT Live ครั้งเดียวที่ลืมไปดู (ตอนนั้นคำว่า เด็กแนว ยังไม่มีเลย)

-- เคยซื้อ EP ของแก็ป ทีโบน มาอ่ะ ที่เป็นเพลง ทริป-ฮ็อป ช้าๆหนืดๆ ชอบเพลง 'นานเหลือเกิน' ฟังแล้วรู้สึกว่านานมาก

-- ยังไม่ได้ซื้อ นาตาลี ชุดใหม่เลย ตอนนี้เอาเงินไปซื้อเก็บ Radiohead ทุกชุดอยู่ (เกือบครบแล้ว) เข้าไปสั่ง Kid A ในร้านน้อง ท่าพระจันทร์ ...เข้าไปสองที เจ้าของร้านพูดเหมือนเดิม "Kid A ไม่มีอ่ะน้อง มีแต่ 'คิดมาก' " ...ขำตายห่าเลย

-- “กูกับมึงอยู่ในยุคของลิลี่ ชูชู นะ เพราะกูกับมึงเริ่มต้นรู้จักกันทางอินเตอร์เนท” << คุณกับผมก็รู้จักกันทางเน็ต โชคดีที่มันไม่ใช่เซ็กส์แช็ท

-- ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับเรื่องลอนดอนมาก เพราะไม่เคยไป / ไม่มีเพื่อนอยู่แถวนั้น (ถ้า บาบิลอน นี่ก็อีกเรื่องนึง) แต่ดูแล้วนึกถึงเรื่องรถใต้ดินบ้านเรา ที่บอกจะสร้างเพิ่มอีก 7 สาย .....ไอ้ที่ใช้ๆกันทุกวันนี้แมร่งสร้างกัน 7 ปี แล้วถ้ามัน 7 สาย กว่าจะได้ใช้ ก็คงอีกประมาณ 7x7 = 49 ปี ...ป่านนั้นชั้นลงไปปีนต้นงิ้วข้างล่างแล้วล่ะ


โดย: merveillesxx วันที่: 13 กรกฎาคม 2548 เวลา:23:24:15 น.  

 
แล้วเกี่ยวไรกับเราเนี่ยยยยย




วันเสาร์กับ Funk machine ไหมเล่า ที่เดิม...


โดย: กัน IP: 210.86.178.98 วันที่: 15 กรกฎาคม 2548 เวลา:3:57:21 น.  

 


โดย: JO IP: 203.113.71.201 วันที่: 15 ธันวาคม 2549 เวลา:13:10:11 น.  

 
เราก็ชอบทีโบน แต่เราชอบไปดูทีโบนเล่นที่เชียงใหม่ หรือที่ ปาย รู้สึก สองที่โน่นทีโบนใส่สุดๆเพราะฝรั่งคนไทยดูกันมากและเป็นอิสระกว่า ยินดีที่รู้จัก คนยุค ลิลลี่ชูชู ครับ เพิ่งโดนแฟนหักอกมา ต้องกลับมาเดินคนเดียวเหงาเหมือนเคย ฟังเพลงที่เคยฟังคนเดียวเหมือนก่อน อยากเจอ แมวสีฟ้าครับ 555+ หนังเรื่องที่ว่ากันนี่ก็ไปดูกะแฟนเก่ามา555+
ยินดีที่รู้จักครับ แอทเมล์มาแลกเปลี่ยนทรรศนะดนตรีได้ที่krobverpunk555@hotmail.com อยากไปเที่ยวเชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอนก็บอก ผมยินดีเป็นไกด์ให้555+แลกกับมิตรภาพและน้ำอำพันครับ


โดย: คะน้า IP: 210.86.142.153 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:11:38:15 น.  

 
เราก็ชอบทีโบน แต่เราชอบไปดูทีโบนเล่นที่เชียงใหม่ หรือที่ ปาย รู้สึก สองที่โน่นทีโบนใส่สุดๆเพราะฝรั่งคนไทยดูกันมากและเป็นอิสระกว่า ยินดีที่รู้จัก คนยุค ลิลลี่ชูชู ครับ เพิ่งโดนแฟนหักอกมา ต้องกลับมาเดินคนเดียวเหงาเหมือนเคย ฟังเพลงที่เคยฟังคนเดียวเหมือนก่อน อยากเจอ แมวสีฟ้าครับ 555+ หนังเรื่องที่ว่ากันนี่ก็ไปดูกะแฟนเก่ามา555+
ยินดีที่รู้จักครับ แอทเมล์มาแลกเปลี่ยนทรรศนะดนตรีได้ที่krobverpunk555@hotmail.com อยากไปเที่ยวเชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอนก็บอก ผมยินดีเป็นไกด์ให้555+แลกกับมิตรภาพและน้ำอำพันครับ


โดย: คะน้า IP: 210.86.142.153 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:11:38:28 น.  

 
เราก็ชอบทีโบน แต่เราชอบไปดูทีโบนเล่นที่เชียงใหม่ หรือที่ ปาย รู้สึก สองที่โน่นทีโบนใส่สุดๆเพราะฝรั่งคนไทยดูกันมากและเป็นอิสระกว่า ยินดีที่รู้จัก คนยุค ลิลลี่ชูชู ครับ เพิ่งโดนแฟนหักอกมา ต้องกลับมาเดินคนเดียวเหงาเหมือนเคย ฟังเพลงที่เคยฟังคนเดียวเหมือนก่อน อยากเจอ แมวสีฟ้าครับ 555+ หนังเรื่องที่ว่ากันนี่ก็ไปดูกะแฟนเก่ามา555+
ยินดีที่รู้จักครับ แอทเมล์มาแลกเปลี่ยนทรรศนะดนตรีได้ที่krobverpunk555@hotmail.com อยากไปเที่ยวเชียงใหม่ ลำปาง แม่ฮ่องสอนก็บอก ผมยินดีเป็นไกด์ให้555+แลกกับมิตรภาพและน้ำอำพันครับ


โดย: คะน้า IP: 210.86.142.153 วันที่: 9 มกราคม 2550 เวลา:11:38:42 น.  

 
ชอบไปดูทีโบนเล่นที่แซกโซโฟนเหมือนกันค่ะ
มันส์ดีเนอะ


โดย: asta IP: 61.90.147.248 วันที่: 4 มิถุนายน 2550 เวลา:15:49:26 น.  

 

love - s k a -


โดย: ่jeab ja IP: 203.113.36.7 วันที่: 19 ตุลาคม 2550 เวลา:2:07:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คุณน้องเต้
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add คุณน้องเต้'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.