ระยะห่าง, การรอคอย และความเหงา ใน " กั๊กกะกาวน์ (My Space) "
ได้ดูหนังเรื่องนี้ในเทศกาลหนัง Bangkok International Film Festival 2005 ที่เมืองไทยเมื่อปลายเดือนมกราคม ตอนที่กลับไปเยี่ยมเมืองไทยช่วงเดือนธันวาคมและมกราคมที่ผ่านมา ช่วงนั้นได้ไปเก็บดูหนังไทยหลายๆเรื่องครับ หนังเรื่องนึงที่ชอบและประทับใจมากทีเดียวก็คือ กั๊กกะกาวน์ (My Space) ครับ
" กั๊กกะกาวน์ (My Space) "
"เวลา....ได้พาคนแปลกหน้า 2 คนมาพบกัน"
ตอนแรกที่เริ่มดูก็รู้สึกเฉยๆ ดูเหมือนไม่ค่อยน่าสนใจเท่าไหร่ นอกจากทำให้เห็นชีวิตและย้อนนึกถึงชีวิตนิสิตนักศึกษาแพทย์ ซึ่งสะท้อนออกมาได้ใกล้เคียงมากๆ จนทำให้ย้อนนึกถึงเรื่องราวตอนสมัยเรียนของตัวผมเอง แต่พอดูต่อไปเรื่อยๆ ก็เห็นแง่มุมของหนังในด้านต่างๆเกี่ยวกับความรักและความสัมพันธ์ของเพื่อนในช่วงวัยรุ่นที่น่าสนใจมากๆ หนังแสดงให้เห็นเกี่ยวกับระยะห่าง, การรอคอย และความเหงา, ความสัมพันธ์แบบเพื่อนและความรักระหว่างเพื่อน, การตั้งคำถามกับชีวิต ระยะห่าง ความสัมพันธ์และความรัก เป็นความรู้สึกของวัยรุ่นและหลายๆคนที่เคยผ่านความรู้สึกแบบนี้และเคยเจอกับเหตุการณ์คล้ายๆแบบนี้กันมาแล้ว จนทำให้เป็นหนังที่เข้าถึงความรู้สึกเหงาได้ดีอีกเรื่องหนึ่ง ดูๆไปแล้วทำให้นึกถึงบรรยากาศของหนังฮ่องกงที่ผมชอบอีกเรื่องหนึ่ง คือ ผู้หญิงเลี้ยวซ้าย ผู้ชายเลี้ยวขวา (Turn Left Turn Right) มีส่วนคล้ายๆกันอยู่ในเรื่องของความเหงาของคนในเมืองใหญ่ๆ แต่เหมือนเรื่องกั๊กกะกาวน์จะจบแบบเศร้าๆซึ้งๆมากกว่า ไม่ happy ending เหมือนอย่าง Turn Left Turn Right ดูหนังเรื่องนี้แล้วให้บรรยากาศคล้ายๆอ่านหนังสือภาพเรื่องดวงตะวันส่องฉาย (A Chance of Sunshine) ครับ
กั๊กกะกาวน์ นำเสนอเรื่องราวของวัยรุ่นและหนุ่มสาวคู่หนึ่ง ป่าน นักศึกษาแพทย์ปี 4 กำลังตามหาว่าจริงๆ แล้ว ชีวิตในแต่ละวันนั้นเธออยู่เพื่ออะไร ท่ามกลางความเหงานั้น เธอรอคอยอะไร หรือใครบางคนอยู่ นิค ช่างภาพอิสระ อารมณ์ศิลปิน อาศัยอยู่ห้องตรงข้ามกับเธอ หลายครั้งที่เจอกัน ไม่มีใครกล้าเริ่มบทสนทนา จนวันหนึ่งที่นิคเอ่ยปากคุย ทั้งสองจึงเริ่มต้นที่จะมีช่วงเวลาดีๆ ด้วยกัน ทั้งสองเริ่มเรียนรู้กันและกัน เรียนรู้และพยายามเข้าใจความแตกต่างระหว่างกัน เธอสอนให้เขาได้เรียนรู้ที่จะเข้าใจผู้อื่น แต่เขาสอนให้เธอได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ และรู้จักกับคำว่า"รัก"ที่จะไม่มีวันเลือนไปจากความทรงจำ
หลายๆฉากในหนังโดยเฉพาะฉากบทสนทนาทำให้ผมรู้สึกซึ้งๆและน้ำตาซึมๆ มีคำพูดซึ้งๆกินใจและได้ข้อคิดหลายๆอย่างจากหนังเรื่องนี้
"คำว่าสักพักนึงของคนที่ต้องรอมันมักจะช้ากว่าคนทั่วไป"
"ระยะทางไม่สำคัญเท่าระยะห่างของความรู้สึก"
"ความเหงาทำร้ายใครหลายๆคน แต่บางครั้ง มันก็พาให้ใครบางคนมาพบกัน"
ดูแล้วก็ได้เข้าว่าการรอคอยนั้น คนที่ต้องเป็นฝ่ายรอ จะรู้สึกยาวนานกว่าเสมอ หรือบ่อยๆครั้งเราเองก็มักจะให้ความสำคัญกับคนที่เราใส่ใจจนลืมนึกไปว่ามีคนใกล้ๆตัวข้างๆตัวที่เอาใจใส่เราอยู่เสมอ เหมือนลืมคนที่ดีๆที่อยู่ใกล้ๆตัวเรานี่เอง
เนื้อเรื่องของหนังเรื่องนี้ดูง่ายๆ ไม่สลับซับซ้อน แต่สามารถสื่อให้เห็นถึงเรื่องราวชีวิตความรักที่เกิดขึ้นได้อย่างจริงๆในชีวิต
หลายๆคนเคยผ่านการรอคอยคนรัก, เคยรักคนที่ไม่ได้รักเรา, เคยเป็นฝ่ายที่ต้องรอบางคนมากกว่าอีกฝ่าย, ต้องรอคอยบางคนที่อาจจะไม่ได้ใส่ใจเราเท่าไหร่ โดยที่ไม่รู้ว่าบางคนเอาใจใส่ รักและเป็นห่วงเราอยู่ .... และสุดท้ายหนังเรื่องนี้ก็จบลงด้วยความซึ้งประทับใจแบบเหงาๆ กินใจดีครับ
โดยสรุปก็ชอบหนังเรื่องนี้มากๆครับ ติดอยู่ตรงที่ว่าภาพและดนตรีประกอบในโรงก็ไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ครับ แต่เนื้อเรื่องดีและน่าสนใจมากๆครับ ก็คิดว่า DVD คงผลิตให้ภาพและเสียงออกมาชัดเจนยิ่งขึ้นครับ ตอนนี้ก็มี DVD ออกมาแล้ว ผมคงต้องหาซื้อมาเก็บสะสมหนังเรื่องนี้ไว้ล่ะครับ ^ ^
"ความเหงาทำร้ายใครหลายๆคน แต่บางครั้ง มันก็พาให้ใครบางคนมาพบกัน" จริงมั้ยครับ...
Create Date : 10 เมษายน 2548 |
|
14 comments |
Last Update : 13 เมษายน 2548 21:09:03 น. |
Counter : 1077 Pageviews. |
|
|
|
อยากดูเรื่องนี้เหมือนกันครับ
ตรงๆกับตัวเองไงไม่รู้