|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
ความรักหายใจไม่ออก
ยังไม่ได้ไปทำงานเลยค่ะ นั่งอยู่หน้าคอมหลังอัพเดทไดอารี่ที่คิดว่า พี่จะเปิดเข้าไปก่อนเป็นรายการแรกนั่นไว้ให้ ยังได้เปิดไปไดอารี่คนโน้นคนนี้ อ่านไปเรื่อยๆ แล้วไปเจอเพลงนี้ฟังแล้วเพราะดี ชอบจังตรงช่วงสุดท้ายที่เขาสรุปน่ารักว่า ก็ยังดีมีเธอไว้คนเพื่อฝัน ได้แค่ฝันข้างเดียวก็เอา ๕๕
เจ้าของไดอารี่เป็นผู้ชาย(หรือเปล่าก็ไม่ทราบ) เพราะในห้วงนี้เรามักจะเจอในแบบที่เราคิดว่า ผู้ชายแหง๋แล้วก็ไม่ใช่ไปซ่ะทุกที แต่บางทีการเขียนเรื่องราวต่างๆเยอะๆ แม้ไม่ใช่ผู้ชาย แต่คนเขียนมีความรู้สึกละเอียดอ่อน และมีมุมมองในด้านตรงข้ามกับสาวๆ นั่น ก็ยังน่าอ่านและยังชอบอ่านอยู่ดีหล่ะคะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน
ช่วงนี้การเรียบเรียงความรู้สึกของตัวเอง อยู่ในหัวออกมาเป็นตัวหนังสือให้คนอีกด้านได้อ่าน ดูยากเย็นแบบไม่เคยเป็นมาก่อน อย่าเพิ่งเบื่อเลยน่ะคะ(ขอร้องหล่ะ แหะๆ) อาจจะเพราะช่วงนี้มุ่งทำให้ในหัวไม่มีความคิด เลยกลายเป็นว่าไม่มีความคิดอะไรไปซ่ะจริง
อย่างในเช้าที่อากาศแถวมีนสดใสได้แบบนี้ มีนยังคิดว่าหากตัวเองยิ้มคงเป็นแค่ยิ้มมุมปาก แบบตาไม่ยิ้มด้วยเลย บ่นตัวเองว่า จะอะไรนักหนา อยู่เหมือนกันล่ะค่ะ ^^
เอาเป็นว่าเล่าเรื่องสองสามไดอารี่ที่มีน แวะวนไปอ่านแล้วมีความคิดว่าอย่างไร คงจะดีกว่า นั่งนึกว่าตอนนี้ตัวเองคิดอะไร ให้ยากเย็นในการเขียนดีกว่าน่ะคะ ไดอารี่ที่มีนอ่านแล้วรู้สึกอีกไดอารี่หนึ่ง เป็นไดอารี่ที่มีนเคยเล่าให้พี่ฟังว่า สนุกดี เคยได้นั่งอ่านด้วยรอยยิ้มในวันหนึ่ง ซึ่งว่างมาก ยังได้บอกเจ้าของไดในคราวมีโอกาส พบกันแว่บวับว่าเคยนั่งใช้เวลาว่างที่มีตลอดวันช่วงหนึ่ง อ่านไดอารี่นั้น จนเรียกได้ว่า พลิกหน้าไดอารี่ที่เธอเขียน จนเกือบหมด แม้อ่านไม่ละเอียดแต่ก็บอกเธอว่า เหมือนอ่านเรื่องของเธอและเขาอีกคน มาเป็นปี
เจ้าของไดอารี่มีความผูกพันคล้ายกันด้วยละมั้ง จึงนั่งอ่านแบบยิ้มๆ บางเรื่องอ่านแล้ว ไม่ได้เห็นด้วยกับเธอเพราะเป็นมีนคงไม่ทำ แต่...มีนก็มักคิดว่า ความคิดใครก็ความคิดมัน เธออาจมีความมั่นมากกว่ามีนตรงที่เมื่อรัก ก็จะทำในสิ่งที่ตั้งใจ ซึ่งมีนมองว่ามันมากไป บทสรุปของคำว่ารัก.ที่มีนมองเห็นตั้งแต่เธอเริ่มต้น คือการสร้างความอึดอัดใจให้ระหว่างกัน มากมายเกินไป
รักมากมายที่ไม่ต้องอยู่ด้วยกันหรือได้ดังใจก็เยอะแยะ
วันนี้ไดอารี่นั้นดูเงียบ เรียบ และมีรอยรื้น ของน้ำตาเจ้าของเพียงเพราะว่า ไม่มีวี่แววการโทรกลับของคนที่เธอตั้งนาฬิกา โทรปลุกตอนตีสี่ ตลอดมาด้วยระยะเวลาเกือบปี
มีนมองว่าปกติ.. อาจเพราะมีนไม่ค่อยหวังให้ใครบางคนของมีนโทรกลับ และอาจเพราะมีนเป็นคนโทรกลับหาใครยากมาก และแม้แต่ใครบางคนที่มีนไม่เคยตั้งความหวังว่า ต้องโทรมา ทั้งที่เคยอยากให้โทร เมื่อโทรมาหา มีนจะรู้สึกตนได้ว่ายินดีเกินไปหรือเปล่า แต่ก็ไม่เคยรู้สึกว่าต้องโทรมาทุกบ่อย หรือไม่จบไม่สิ้น น้ำเสียงดีใจของมีนจึงเป็นความดีใจที่บอกให้ทราบว่า ดีใจที่อย่างน้อยเราได้ยินเสียงกัน
การไม่คิดหรือกะเกณฑ์ว่าต้องเป็นแบบนั้น หรือแบบนี้เมื่อได้รับมันดีกว่ามาก และหากไม่ได้รับ มีนก็ไม่ทุกข์กับส่วนนั้นน่ะ เพราะมีนมีเรื่องมากมายให้มีรอยยิ้มและหัวเราะ และมีนคิดเสมอว่ามันเกินกว่าที่คิดไว้ตั้งมากมาย
อีกอย่างหรือไม่เคยคิดว่าตัวเอง จะต้องโทรปลุกใครในชาตินี้ เพราะทุกคน ต่างมีนาฬิกาปลุก บางทียังคิดว่าหรือตัวเอง ไม่ละเอียดอ่อนเพราะเหตุผลของเธอน่ารักตรงที่ เธออยากทำ เพื่อให้หนึ่งเช้าของเธอได้ยินเสียงเขา น่ารักดีน่ะคะ แหะๆ มีนคิดในแง่มุมของมีน ที่อาจมีใครบอกว่าใช่ดิ ยังไม่ถึงคราวตัว ก็ยังไม่รู้สึกอยากทำหรอก ก็จริงน่ะ ก็ยังไม่เคยรู้สึกอยากโทรปลุกใครเลย แค่ปลุกตัวเองขึ้นมาแต่ละเช้านี่ก็พอแล้วหล่ะคะ อย่าให้ใครคิดอยากโทรปลุกมีนเลยเพราะอาจเจอ วีนก็ได้ เหอเหอ
มีนว่าวิถีของคนไม่ต่างกันหรอก ยิ่งเป็นเรื่อง ของความสุขแล้วหล่ะก็ เพียงแต่จะเลือกทำให้ตัวเอง เป็นสุขกับส่วนไหนในการคบหากันมากกว่า เมื่อเรารักใครสักคน ชีวิตใครคนนั้นจึงยังเป็น ชีวิตของเขาอยู่ไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปเพราะเรารัก
เราจะมีเวลาที่ยิ้มพร้อมกันหรือหัวเราะพร้อมกัน นั่นต่างหากเป็นเวลาของความสุข และเป็นเวลาที่ดี สำหรับคนทั้งคู่
หากการเอาตัวผูกกันหรือมัดกันแล้วบอกว่า นั่นเป็นความผูกพันมีนไม่เห็นด้วยเลย เพราะเมื่อเกิดเรื่องราวขึ้น ก็มาใช้น้ำเสียงแบบว่า หรือที่ผ่านมาที่ทำให้ ที่ยอมรับกันและกัน มันไม่ใช่ความผูกพัน อ่านแล้วถอนใจ เพราะการตีค่าความหมายของความผูกพันต่างกันนี่หล่ะมั้ง เลยทำให้ในวันหนึ่ง เส้นทางของคนสองคน แตกต่างและห่างกันออกไปในที่สุด
มีนเองมีเวลารอคอยเช่นกัน อย่างน้อยเป็นเวลาที่ทราบว่า ไม่ได้เดือดร้อนในการพบกัน หรือทำให้คนอีกด้าน ยุ่งยากเกินไป มีนก็รอคอยเวลาจะได้พบหรือได้พูดคุย อาจมองว่าที่เขียนมาทั้งหมดจากบนลงมาถึงตรงนี้ มีนดู ช่างเป็นคนมีเหตุผล
ไม่ใช่แบบนั้นหรอกค่ะ เหตุผลของคนที่คิดได้ว่าต้องแบบนี้หรือแบบนั้น มีนว่ามักมาจากพื้นฐานความต้องการของตัวเองน่ะ มีนคิดว่าแบบนั้น ยิ่งกับมีนให้เดาได้เลยว่าเป็นแบบนั้น และบังเอิญว่าระหว่างเราตรงส่วนนี้ไม่ได้ตรงข้ามกัน และไม่ได้สวนทางกัน...มองออกว่าอยู่ในทิศทางเดียวกัน มีนจึงมักได้รับความเข้าใจจากพี่ มากกว่าคนอื่นๆที่เขาอยากได้รับ
ความเข้าใจจากคนอีกด้านของเธอ คนที่มีนบังเอิญเจอวันนี้ ทำให้มีนรู้สึกได้ว่า คนบางคนเมื่อมีความรัก ไม่ต้องการอิสระเลย เธอต้องการอยู่ในสายตาคนอีกด้านตลอดเวลา จนเธอเผลอไปทำตนให้คนอีกด้านกลับอยู่ในสายตาเธอ
ไม่ว่าจะขับรถถึงไหนแล้ว ถึงที่ทำงานหรือยัง ถึงบ้านหรือยัง นอนหลับหรือยัง ตื่นหรือยัง ทานข้าวหรือยัง แทบจะตลอดเวลา ในการพูดคุย แต่ละครั้งหากถามแต่เรื่องแบบนี้ทุกหนที่ได้ยินเสียง มีนว่าไม่โทรหากันดีกว่า เอาไว้คิดถึงกันมากมาก แล้วโทรหากัน มันจะคุ้มค่าในการกดโทรศัพท์หากัน มากกว่าตั้งเยอะ เอ๊ะ หรือว่ามีนไม่ละเอียดอ่อนอีกแล้ว เฮ่อ
เปล่าหรอกแค่คิดน่ะคะ ว่าพวกเขาจะได้รับอะไรน่ะ นอกจากเชือกที่อ้างว่ารัก แต่เป็นเชือกที่ทั้งมัดและรั้งกันไว้ แล้วบอกว่าห่วงใย ใส่ใจ ในแบบ แม้แต่ความสุข ก็ยังไม่มีโอกาสหายใจหรือผ่านเข้าไปได้
แล้วเจ้าความรักตัวดีจะเล็ดลอดออกมา ทำตาเป็นประกายและขยิบตาข้างเดียวให้ ด้วยความซุกซนในแบบคนมีความรักจะได้ รับเสมอ....ได้เหรอ ?
Create Date : 03 ตุลาคม 2548 |
|
10 comments |
Last Update : 3 ตุลาคม 2548 7:26:35 น. |
Counter : 303 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: ผมเอง IP: 202.57.135.34 3 ตุลาคม 2548 9:15:45 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผมเอง (มีนมาเฟีย ) 4 ตุลาคม 2548 11:48:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ผมหละ IP: 58.9.139.5 4 ตุลาคม 2548 19:02:03 น. |
|
|
|
| |
|
|