ข้อดีและข้อจำกัด กล้อง Olympus ในทรรศนะของผม[EP41]
สวัสดีครับ เมื่อนานมาแล้ว ผมเคยพูดไว้ในคลิบว่าถ้ามีโอกาสจะมาพูดถึง ข้อดีข้อเสียของกล้อง Olympus ในทรรศนะคติของผมครับ เนื่องจากว่าผมเองทำคลิบและเขียนบทความเกี่ยวกับการใช้งานกล้อง Olympus มาหลายหัวข้อผมอยากให้คนที่อ่าน หรือคนที่กำลังต้องการหาข้อมูลได้รับทราบข้อมูลจริงจากผู้ที่ใช้งานครับ ในบางที่จะพูดถึงข้อเสีย บางที่ก็พูดถึงแต่ข้อดี อาจจะทำให้เกิดความสับสนหรือมีอาการเมาข้อมูลได้ครับ ว่าแล้วเราก็มาเริ่มกันเลยครับ
ข้อดี
1.กล้อง Olympus ทำ Systems ออกมาค่อนข้างเล็กครับ เล็กมาตั้งแต่สมัยยุคกล้องฟิลม์แล้วครับ ทำให้ง่ายต่อการพกพาน่าใช้งาน
2.ภาพที่ได้จากกล้อง Olympus จะได้ภาพที่สีค่อนข้างจัดกว่าชาวบ้านครับ เรียกว่าแทบจะไม่ต้องปรับ satuation กันเลย
3.ทุกๆเทคโนโลยีทุกๆนวัตกรรมใหม่จะถูกใส่มาในกล้องที่ออกใหม่ทันทีโดยไม่มีกั๊ก อันนี้แจ๋วครับไม่ว่าคุณจะซื้อกล้องรุ่นไหนก็จะได้เทคโนโลยีที่ล่าสุดของ Olympus เสมอ
4.เลนส์ในยุค 4/3 นั้นมีคุณภาพดีมากจนนำเซนเซอร์เลยทีเดียว ทำให้เราสามารถนำเลนส์มาใช้งานกับกล้องในปัจจุบันได้ครับ แต่ปัจจุบันคือยุค M4/3 สามารถใช้งานได้ผ่าน Adaptor MMF ครับ
5.กล้อง Olympus สามารถ Custom Art Filter เข้ามาผสมกับการใช้งานโหมด P A S M ได้อย่างดีครับ อันนี้ผมเองยังไม่เห็นในกล้องยี่ห้ออื่นครับ หลังๆนี่เห้นมี Panasonic GX8 GX85 G7 ทำได้ครับ
6.ระบบกันสั่นที่บอดี้กล้อง Olympus เป็นกล้องที่มีระบบกันสั่นอยู่ที่ตัวบอดี้ครับ ผิดกับกล้องทั่วๆไปที่จะมีระบบกันสั่นอยู่ที่เลนส์ ข้อดีก็คือทำให้เราสามารถใช้งานกับเลนส์ได้เกือบทุกตัวในโลกเลยก็ว่าได้ เรียกว่าถ้าหา Adaptor ใส่ได้ท้ายไม่ยื่นจนเกินไปนักก็สามารถใช้งานกับ Olympus ได้และยังใช้งานกันสั่นได้เต็มศักยภาพด้วยครับขอเพียงตั้งค่าให้ตรงกับทางยาวโฟกัสของเลนส์ก็พอ ในขณะที่กล้องแบรนอื่นจะมีกันสั่นอยู่ที่เลนส์ ถามว่าแย่ไหม ก็ไม่แย่ครับ กันสั่นที่เลนส์นี่ก็ดีไม่ต่างกับระบบกันสั่นที่บอดี้ครับ เพียงแต่ถ้าคุณเปลี่ยนเลนส์ใช้เลนส์มือหมุนที่ไม่มีระบบกันสั่นก็จะลำบากนิดนึงครับ [ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าคุณเข้าใจเรื่องพื้นฐานในการถ่ายภาพก็แทบไม่มีปัญหาครับ เพราะยุคกล้องฟิลม์ไม่มีระบบกันสั่นช่วยใดๆทั้งสิ้นก็ยังสามารถถ่ายได้ภาพที่ดีได้ครับ]
7.กล้อง Olympus มีคุณภาพไฟล์ที่ดีมากพอสมควร [เทียบกับตัวคูณนะครับ] ถ่ายในแสงดีๆนี่แจ่มเลยครับ แต่เมื่อเจอแสงน้อย Noise ก็จะมีโผล่มาตามธรรมชาติของเซนเซอร์ Micro Four Third ครับ
8.เนื่องจากว่า Olympus เติบโตจากการผลิตเลนส์และกล้องที่ใช้ในการแพทย์จึงทำให้มีองค์ความรู้ในด้านการทำเลนส์ค่อนข้างดีมาก จึงทำให้เลนส์แทบทุกตัวที่ทำออกมานั้นมีคุณภาพดีมาก ดูจากเลนส์ 12-50 เลนส์คิตเป็ดที่ทำได้เกือบทุกอย่างแต่ไม่โดดเด่นชัดเจนไปสักด้านนึง ถ่าย Marco ได้ระดับ Wide ได้ Tele ได้ ส่วนตัวผมเองยังไม่เคยเห็นเลนส์คิตยี่ห้อไหนทำได้แบบนี้ครับ
9.กล้อง Olympus มีความสามารถในการ Focus ได้ไวมากๆครับ เรียกว่าถ่ายเด็กนี่สบายมากครับ กล้องในตระกูล Micro Four Third นั้น Focus เร็วทุกตัวครับทั้ง Olympus และ Panasonic
10.เนื่องจากว่ากล้อง Olympus มีเซนเซอร์ขนาดที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กจึงทำให้สามารถใช้งานกับเลนส์มือหมุนได้ทุกตัวโดยไม่ต้องกลัวว่าจะมีติดขอบดำ ประกอบกับระบบกันสั่นที่พร้อมจะทำงานร่วมกันเสมอ จึงทำให้มีเลนส์ให้เลือกใช้งานมากมาย
11.Olympus เป็นกล้องที่มีแนวทางเป็นของตัวเอง [ติส] ซึ่งเรามักจะเห็นเทคโนโลยีใหม่ๆจากกล้อง Olympus เสมอเช่น การถ่าย Live Composition ระบบ High Resolution หรือที่น้านิค ให้นิยามว่าระบบ แกว่งไข่นั่นเองครับ 12.กล้อง Olympus สามารถแต่งภาพในตัวกล้องและแอพของ Olympus เองก็สามารถแต่งภาพได้เหมือนในตัวกล้องเด๊ะๆเลยครับ แม้จะมีให้ปรับไม่มาก แต่ก็เพียงพอแต่การแก้ไขเบื้องต้นครับ
13.เนื่องจากว่ากล้อง Olympus มีเซนเซอร์ขนาดที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กทำให้มีระยะชัดตื้นที่น้อย เมื่อใช้ F กว้างๆแต่ทำให้ชัดทั้งกรอบภาพครับ
ข้อเสีย - ข้อจำกัด
1.ระบบ QC งานประกอบ ไม่ค่อยดีครับ มี Defect ติดตัวมาค่อนข้างเยอะ ต้องขอบอกก่อนว่ากล้องแทบจะทุกแบรนในโลกนี้มี Defect ติดตัวมา แต่ทีนี้ขึ้นอยู่กับว่าบริษัทเขาจะรับผิดชอบในเรื่องนี้มากน้อยเพียงใด ที่ผ่านมาการรับผิดชอบใน Defect ของกล้อง Olympus ดีขึ้นเพราะคนรุ่นก่อนรุ่นใหญ่ๆช่วยกันร้องเรียนไปทางญี่ปุ่น ทำให้มีการรับผิดชอบที่ดีขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอครับในความเห็นของผม คนรุ่นก่อนที่เขาพยายามร้องเรียนป่าวประกาศใน Pantip ก็ดีแม้แต่ในกลุ่ม Olympus Thailand ก็หวังว่าจะได้รับการบริการและรับผิดชอบในส่วน Defect ที่ดีขึ้น ปัจจุบันก็ดีขึ้นครับ
Defect ที่เจอ มีหลายส่วนครับ ผมขอไล่เป็นรุ่นๆดังนี้ครับ
- EPL5 ปุ่มชัดตเตอร์หลุด ฝาปิดแบตเขี้ยวหักง่าย ไม่ได้ไปทับก็หักเองซะงั้น
- OMD EM5 ตัวแรก กรอบจอร้าว อย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย
- OMD EM5 ล็อตสอง ตัว Elite Black หูหลุด ม่านค้าง แกนวงล้อฟรีปรับค่าแล้วไม่ไป
- OMD EM10 Mark II ม่านค้าง
- OMD EM1 หูหลุด ม่านค้าง แกนวงล้อฟรีปรับค่าแล้วไม่ไป
มีอยู่รุ่นนึงที่แทบจะไม่ค่อยเห็นอาการ Defect ในกล้องเลยนั่นคือ EP5 แต่ในตัวใหม่ๆที่เพิ่งออกมาเท่าที่ผมหาข้อมูลยังไม่เจอนะครับเช่น OMD EM5 MarkII,Pen F
รุ่นที่ผมใช้เองคือ OMD EM1 ผมได้สัมผัสอาการม่านค้างครั้งนึงครับ คือเอาไปถ่ายแบบ High Sequential ถ่ายต่อเนื่องชัพๆๆ ปรากฏว่าม่านค้างครับ ผมลองถอดแบตออกแล้วเสียบใหม่ก็หายครับ ผมสังเกตุของผมเองครับว่า ถ้าม่านค้างแล้วมีติ่งสีเงินๆโผล่มาทางด้านขวามือบนของเซนเซอร์ นี่โดยมากจะปลุกไม่ขึ้นครับ ต้องส่งศูนย์เท่านั้น เป็นไปได้พยายามอย่าใช้โหมด High Sequential ครับแต่หากจำเป็นต้องใช้จริงๆ ก็สวดมนต์ก่อนใช้ครับ มีโอกาสที่ม่านชัตเตอร์จะตายในหน้างานได้เสมอ!!
ติ่งเงินๆที่ว่า
รายนี้เจอหนักคือพังคู่ม่านค้างและเลนส์สายแพขาด
ปุ่มหลุด EM5 ตัวแรก
EM5 Mark II
หูหลุด เกิดในหลากหลายรุ่น
Pen F - กริ๊บหลุด
เลนส์ 14-42 ทั้งรุ่น 1 รุ่น 2 จะมีปัญหาสายแพขาด อยู่ในประกันซ่อมฟรี หมดประกันเสียค่าซ่อม ประเด็นคือซ่อมแล้วก็ยังเป็นอีก ลือว่าอะไหล่ที่มาซ่อมก็คืออะไหล่จากการผลิตล็อตเดิม ก็คือเปลี่ยนแล้วก็มีโอกาสขาดอีกแน่นอน
เลนส์ wide 9-18 ก็มีเคสสายแพขาดเช่นกันแต่ซ่อมแล้วหาย
2.Auto Whitebalance ในกล้อง Olympus ไม่ค่อยแม่นครับเป็นมาตั้งแต่สมัยยุค 4/3 แล้วยิ่งเจอสถานที่ ที่มีความเปรียบต่างของแสงมากนี่เพี้ยนเลยทีเดียว ต้องพึ่ง LR หรือไม่ก็ต้อง Custom เองครับ มีคนเคยพูดว่าคนที่ใช้กล้อง Olympus จะมีความสามารถในการ Custom Auto Whitebalance มากครับ เพราะกล้องไม่ค่อยตรงเลยต้องปรับเองครับ
3.ในโหมดถ่ายวิดีโอในกล้อง Olympus นี่ให้มาเหมือนเป็นของแถมครับ ถ่ายได้แต่ไม่เน้น เน้นภาพนิ่งมากกว่าครับ แต่คลิบส่วนมากของผมก็เอา OMD EM1 ถ่ายวิดีโอครับคุณภาพก็พอได้ ในขณะที่กล้องในตระกูลเดียวกัน Panasonic นี่ถ่ายวิดีโอดีทุกตัวดีตั้งแต่ GF ยัน GHเลยครับ แม้ว่าอาจจะไม่ได้ใส่ช่องเสียบไมค์มาให้ในบางรุ่น แต่เราก็ Map ภาพและเสียงได้ครับ
4.ศูนย์บริการของ Olympus ค่อนข้างจะขึ้นชื่อในด้านที่ไม่ค่อยจะดี และมักจะมีของแถมแถมให้หลังจากการส่งซ่อมครับ เคยมีคนพูดว่ากล้องเสียไปส่ง ศูนย์ Olympus เหมือนกับการเป็นหวัดแล้วไปหาหมอ แต่ไปหาหมอกลับมาแล้วต้องมีอาการดีขึ้นหรือหายใช่ไหมครับ แต่การส่งกล้องเข้าศูนย์โอลิมปัสเหมือนกับการเป็นหวัดไปหาหมอกลับมาเป็นมะเร็งเลยทีเดียว ถ้าคุณดวงไม่ดีมักจะมีของแถมติดมาครับ เคยมีเคสคนส่งกล้องไปซ่อมพอได้รับกล้องกลับมา ปรากฏว่าน็อตหายไปตัวนึง!! กับอีกเคสนึงส่งกล้องซ่อมวันได้รับกล้องคืน ส่วนที่ส่งซ่อมหายครับแต่ฝาปิดแบตเตอร์รีปิดไม่ได้!! แถมให้
5.เนื่องจากข้อ4 ทำให้คิดว่า อยากให้ศูนย์ Olympus มองศูนย์ Canon ไว้บ้างครับ เพราะ Canon ถ้าคุณซื้อกล้องประกันศูนย์ แม้จะหมดประกันส่งซ่อมก็จะมีส่วนลดค่าอะไหล่ให้ 30% น่าจะเอาบ้างนะครับ 30%เอามาลดแค่ส่วนอะไหล่ที่เป็น Defect ต้องเปลี่ยนก่อนอายุการใช้งานเช่นม่านชัตเตอร์ค้าง จอร้าว เป็นความเห็นส่วนตัวของผมนะครับ
6.ปัจจุบันศูนย์บริการดีขึ้นในระดับนึงครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ Up Firmware แล้วเลนส์ล็อคและเอา OMD EM1 ไปย้ำหูและต่อประกันหูหลุดให้อีกสองปี ก็ได้รับการบริการที่ดีครับ ใช้เวลาไม่นานก็ได้รับของคืน ไม่มีของแถมครับ [ดวงมาก] แต่ก็ยังวางใจไม่ได้ครับ
7.ไหนๆ ก็พูดเรื่องการ Update Firmware ครับ UI หรือ User Interface ในการ Update Firmware ของกล้อง Olympus ทำมาไม่ค่อยดีครับ เพราะขั้นตอนนึงของการ Update นั้นจะมีหน้าต่างโผล่มาบอกว่า "ไม่สามารถเชื่อมต่อกล้องและเลนส์ได้" ซึ่งปกติเมื่อเราเห็นขึ้นมาแบบนี้ เราก็จะถอดสายแล้วเสียบเข้าไปใหม่ครับ ซึ่งเมื่อถอดสายเลนส์และกล้องจะค้างทันที ต้องไปแก้ไขที่ศูนย์บริการเท่านั้น เมื่อเห็นขั้นตอนนี้ก็อย่าไปยุ่งกับมันครับ ปล่อยให้มันอัพไปก่อนครับ จนกว่าจะขึ้นคำว่า OK ถึงถอดสายได้ครับ ทำ UI มาแบบนี้มันไม่ค่อยมีเหตุผลครับ คนทั่วไปที่ไม่ได้ศึกษามาก่อนนี่ค้างกันเป็นว่าเล่นครับ
8.กล้อง Olympus มี Noise ในที่มืดเป็นวุ้นๆ มาตั้งแต่สมัยยุค 4/3 ครับแก้ไม่หาย ปัจจุบันดีขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนแล้ว แต่ก็ยังมีครับ แก้ไขได้โดยการเปิด Noise Reduce หรือ Noise Filter ไม่ก็ PHOTOSCAPE LR PHOTOSHOP ครับ!!
9.การ Auto Focus ในที่แสงน้อยจะมีอาการวืดวาดบ้างครับ แต่ถ้าสภาพแสงดีนี่โฟกัสได้ไวมากๆ
10.ถ้าใช้งานกล้องต่อเนื่องนานๆจนมีอาการร้อน จะพักกล้องครับ ไม่งั้นจะมีอาการแปลกๆโผล่มาให้เห็นครับ เช่น จอค้างเหมือนเราเปิด SpeedShutter 40" แก้ไขได้โดยการถอดแบตออกสัก10-15นาทีและสวดมนต์ไปพลางๆถ้าโชคดี ใส่แบตใหม่ก็จะใช้งานได้ต่อ
11.เลนส์ Auto Focus นอกค่ายมีค่อนข้างน้อยครับ ถ้าไม่นับ panasonic และมือหมุน นี่น้อยมากครับ มี Tamron Sigma ที่ทำมาบ้าง แต่ก็ศักยภาพสู้เลนส์ค่ายไม่ได้ครับ เช่น Sigma ออก 19mm 2.8 30mm 2.8 60mm 2.8 แต่รูรับแสงกว้างสุดอยู่ที่ 2.8 คุณภาพของภาพยอดเยี่ยมครับ แต่เลนส์ค่ายมี 25mm 1.8 60mm 2.8 Macro ซึ่งได้เปรียบกว่าในหลายจุดครับ เลนส์นอกค่ายมีนอกและเหมือนจะสู้ลนส์ค่ายไม่ได้ครับ[ปัจจุบันมี Sigma 30mm 1.4 ออกมาแล้วครับแจ่มกว่าเลนส์ค่ายล่ะ]
12.อันนี้เป็นข้อบ่น ฝาปิดเลนส์แบบนี้หลุดง่ายมากครับ ใช้ของไม่มียี่ห้อแบบบีบกลางสะดวกกว่าแยะเลยครับ แน่นกว่าด้วย
VIDEO
สรุป กล้องที่ดีที่สุดในโลกนี้ไม่มีครับ มีแต่แต่กล้องที่เหมาะกับเราที่สุดครับ ก่อนจะเลือกซื้อกล้องมาใช้งาน สิ่งที่เราควรรู้คือรู้ใจเราเองก่อนครับ ว่าเราต้องการใช้งานแบบไหน แล้วค่อยมาเลือกว่ากล้องไหนเหมาะกับการใช้งานของเราครับ
ทั้งหมดนี้เป็นความเห็นในทรรศนะคติของผมครับ อาจจะมีผิดพลาดอะไรก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ หลายข้อเสียที่ผมอธิบายไว้ มีเป้าหมายคือเพื่อประโยชน์แก่ User ครับหลายข้อที่ผมติไป ผมติแต่ผมก็ใช้ครับ ได้แต่หวังว่าสักวันจะข้อเสียทั้งหลายเหล่านี้ จะถูกแก้ไขให้ดีขึ้นครับ ได้เพียงแต่ความเปลี่ยนแปลงนี้จะแสดงให้เห็นชัดเจนในชาตนี้หรือเปล่าเท่านั้นเอง หวังว่าข้อมูลส่วนนี้คงจะเป็นประโยชน์ครับ ลากันไปเท่านี้ครับ สวัสดีครับ
========================================================
Subscribe Youtube:
Main Blog:
Facebook:
Create Date : 19 กรกฎาคม 2559
3 comments
Last Update : 18 เมษายน 2561 14:39:11 น.
Counter : 25657 Pageviews.
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [