Takkub
Group Blog
 
<<
มกราคม 2560
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 มกราคม 2560
 
All Blogs
 
รีวิวเลนส์ Minolta Rokkor PF MC 58mm 1.4 [EP58]



สวัสดีครับ วันนี้ผมจะมาพูดถึงเลนส์มือหมุนแบรน Minolta ครับ ตัวนี้คือ Minolta Rokkor PF MC 58mm 1.4 นั่นเองครับ ซึ่งระยะ 50-60mm คนจะนิยมใช้กันมากและมีราคาที่สูงพอสมควร อาจจะเป็นได้ระยะมันก่ำๆกึ่งๆ ระหว่าง Normal - Tele ตอนต้น และที่สำคัญมักจะมีเลนส์กล้องที่มีเอกลักษณ์เด่นๆในช่วงระยะนี่มากพอสมควร จึงอาจจะเป็นสาเหตุให้กระเป๋าแบนกันเป็นแถวก็ว่าได้ ก่อนที่เราจะมาเข้าเรื่องรีวิวจริงๆจังๆ ผมขอเล่าเรื่องของ Minolta จากที่เท่าที่ผมทราบมาให้หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะครับ

Minolta เป็นแบรนกล้องฟิลม์ซึงเรียกได้ว่าเป็นหน้าหนึ่งในประวัติศาสตร์กล้องฟิลม์เลยก็ว่าได้ มีกล้อง เลนส์ เทคโนโลยีดีๆมากมายที่ Minolta ได้สร้างไว้ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้าใจถึงความเป็นไปในแต่ละยุคแต่ละช่วงของเขา Timeline ช่วงเวลา ปี ค.ศ. ดังนี้ครับ

ประวัติ Minolta ครับขออนุญาตคัดลอกโดยไม่ได้บอกกล่าวกับเจ้าของบทความนะครับ

1929 หรือกว่า 77 ปีมาแล้วเป็นปีแห่งการถือกำเนิดของบริษัทที่ถือเป็นรากฐานของผู้ผลิตกล้องที่แข็งแกร่ง 1 ใน 5 ของญี่ปุ่นในปัจจุบัน แต่ในตอนแรกนั้นบริษัทยังไม่ได้ใช้ชื่อมินอลต้านะครับ แต่ใช้ชื่อว่า Nichi-Doku Shashinki Shoten อันมีความหมายว่า Japan-Germany Camera Company (คิดการไกลตั้งแต่เปิดบริษัทเลยนะ อิ อิ อิ) และผู้ที่เปรียบเสมือนเป็นบิดาของบริษัทนี้ก็คือ Kazuo Tashima และกล้องรุ่นแรกของบริษัทที่ผลิตออกมาก็คือ Nifcalette

1931 มีการเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Molta Goshi Kaisha

1937 เปลี่ยนชื่อบริษัทอีกครั้งเป็น Chiyoda Kogaku Seiko ปีนี้เป็นปีแรกที่เริ่มมีการผลิตเลนส์ในโรงงานของบริษัท และเป็นปีแรกเช่นกันที่มีการวางตลาด Minolta Flex กล้อง TLR รุ่นแรกของญี่ปุ่น

1958 กล้อง SLR รุ่นแรกของบริษัทถือกำเนิดขึ้นมาในชื่อรุ่นว่า Minolta SR-2

1962 ปีที่ John Glenn ขึ้นไปรอบวงโคจรของโลกเป็นครั้งแรกกับยาน Friendship 7 และกล้องที่ Glenn ใช้ถ่ายรูปมีชื่อว่า 'Right Stuff' ซึ่งก็คือกล้อง Minolta Hi-Matic ที่ได้รับการโมดิฟายพิเศษเพื่อภาระกิจในครั้งนี้ และตอนนี้กล้องตัวนี้ได้จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ National Mesuem of History - Aero Space ของอเมริกา

และในเดือนกรกฎาคมปี 1962 บริษัทได้ทำการเปลี่ยนชื่อเป็น Minolta Camera Co., Ltd. อย่างเป็นทางการ คำว่า Minolta (อ่านว่า Min-o-ROO-ta) มีความหมายว่า "ripening rice fields" อันเป็นทุ่งข้าวเหลืองทองสุกอร่ามที่อยู่ติดกับโรงงานดั้งเดิมในโอซาก้านั่นเอง แต่ข้อมูลบางแห่งก็บอกว่า Minolta ย่อมาจาก Mechanisms INstrument Optic and Lenses by TAshima แต่ผมเข้าใจว่าความหมายอันแรกน่าจะถูกต้องมากกว่า

1966 ออกกล้อง Minolta SR-T101 กล้อง SLR รุ่นแรกของบริษัทที่มีระบบวัดแสงผ่านเลนส์ through-the-lens (TTL) light metering

1972 มีการเซ็นสัญญาร่วมมือกันทางเทคโนโลยีกับ Ernst Leitz Wetzlar บริษัทผู้ผลิตกล้องไลก้า

1973 Minolta CL อันเป็นกล้องเรจน์ไฟน์เดอร์ที่เป็นผลผลิตจากการร่วมมือกับไลก้าได้ถือกำเนิดขึ้น

1976 ไลก้าและมินอลต้าร่วมมือกันผลิตกล้อง Leica R3 และมินอลต้าได้เป็นผู้ผลิตกล้องไลก้าในรุ่น R3, R4 และ R5

1981 ผลงานคลาสสิคจากมินอลต้า Minolta CLE ได้ถือกำเนิดขึ้นจากมันสมองของมินอลต้าเองล้วนๆ มันจึงเป็นกล้อง Leica M compatible ที่ทันสมัยที่สุดในโลกด้วยระบบถ่ายภาพแบบ AE ที่ลิงค์กับระบบวัดแสง มานานกว่า 20 ปี จนกระทั่งมี Leica M7

1981 เปิดตัวกล้อง Minolta X-700 แมนวล SLR ที่ขายดีที่สุดของบริษัท

1985 เปิดตัวกล้องออโตโฟกัสรุ่นแรกของโลก Minolta alpha-7000 

1988 เปิดตัวกล้องรุ่นแรกของตระกูล i นั่นก็คือ Minolta Alpha-7000i กล้องรุ่นแรกของโลกที่มาพร้อมระบบ intelligent card system

1992 เปิดตัว Dynax 9xi กล้อง AF SLR รุ่นแรกของโลกที่มีความเร็วชัตเตอร์สูงที่สุดในโลก คือ 1/12000 วินาที 

1994 เปลี่ยนชื่อบริษัทอีกครั้งเป็น Minolta Co., Ltd. จากการขยาย line ผลิตภัณฑ์ออกไปมากกว่าเป็นผู้ผลิตกล้องแต่เพียงอย่างเดียว

1995 เปิดตัวกล้อง DSLR รุ่นแรกของบริษัท Minolta RD-175 ที่มีความละเอียด 1.75 ล้านพิกเซล ที่พัฒนาจาก Dynax 500Si มันจึงใช้เลนส์ออโตโฟกัสของมินอลต้าเมาท์ A ได้ทุกรุ่น หรืออาจะกล่าวง่ายๆ ได้ว่า RD175 ก็คือกล้องรุ่นปู่ตัวจริงของ Dynax 7D 

1996 เปิดตัวกล้องในตระกูล VECTIS ในระบบถ่ายภาพ APS ที่กลายมาเป็นตัวฉุดรายได้และกำไรของบริษัทอย่างมหาศาล

1998 เปิดตัวกล้องฟิล์มโปรรุ่นสุดท้าย Dynax 9 

2000 เปิดตัวกล้องฟิล์มที่กลายมาเป็นฐานให้กับ 7D นั่นก็คือ Dynax 7 ที่ไปกวาดรางวัลจากสถาบันต่างๆ มามากมาย

2001 เปิดตัวกล้องโปรซูเมอร์ 5 ล้านพิกเซลรุ่นแรกของโลก DiMAGE 7 ที่กลายมาเป็นพื้นฐานให้กล้องในตระกูล A ในปัจจุบัน

ตุลาคม 2003 ประกาศรวมกิจการกับโคนิก้า และกลายมาเป็น Konica Minolta ที่เรารู้จักกันอยู่ในปัจจุบัน

หลังจากนั้นผมคงไม่ต้องเล่าต่อแล้วนะครับ เพราะส่วนใหญ่เราๆ ท่านๆ ที่เป็นแฟนหมีก็รู้กันดีอยู่แล้ว ทั้งเรื่องการเปิดตัว D7D/D5D และการประการร่วมมือกับโซนี่ ในการพัฒนากล้อง DSLR ที่มีกำหนดเปิดตัวประมาณกลางปีหน้า

เอาเป็นสรุปว่าผู้ผลิตรายนี้ยืนยงอยู่ในวงการมากว่า 70 ปี และมีแฟนประจำที่เหนียวแน่นอยู่ทั่วโลกที่ถึงแม้จะไม่เท่ากับค่ายใหญ่อย่างนิกรหรือหนอน แต่ก็ไม่ใช่กลุ่มเล็กๆ อย่างแน่นอน กล้องของหมีมักจะรู้จักกันดีในฐานะกล้องที่มีการใส่นวตกรรมใหม่ๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเองมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็นระบบ expert card system, eye-start, wireless flash, navigation display, DMF, ADI มาจนล่าสุดก็คือระบบ Anti-Shake และเป็นที่รู้กันดีว่ากล้องหมีจะเป็นกล้องที่มีการใส่ฟังก์ชั่นมาให้เต็มที่ ไม่มีการกั๊ก ในราคาที่เท่ากัน กล้องหมีจะคุ้มค่ามากกว่า ดูอย่าง Dynax 5D เป็นตัวอย่างล่าสุดก็ได้ 

2006 ปิดฉาก 77 ปี Minolta 1 ใน 5 เสือ กล้องจากญี่ปุ่น

Minolta จัดเป็น 1 ใน 5 ของ Top Five ห้าเสือกล้องฟิลม์จากญี่ปุ่นหรือพูดให้เข้าใจง่ายๆคือกล้องที่ทั่วโลกยอมรับในเรื่องของคุณภาพ ซึ่ง Top Five ในอดีตคือ

1.Olympus OM-4 and OM-4 Ti
images by free.in.th

2.Nikon F3 (F3HP, F3T, etc.)
images by free.in.th

images by free.in.th

3.Canon F-1 / F-1N

images by free.in.th

images by free.in.th

4.Pentax LX
images by free.in.th

images by free.in.th

5.Minolta XK (XM, X1)
images by free.in.th

images by free.in.th

อ่านประวัติกันไปมากพอสมควรแล้ว เรามาเริ่มการรีวิวกันเลยครับ มาดูหน้าตาเลนส์กันก่อนครับ หน้าเลนส์มีระยะ 55mm 
images by free.in.th

ตัวเลขบอกระยะจะมีบอกทั้งสองระยะ ทั้ง เมตรและฟุต
images by free.in.th

ระยะเข้าใกล้แบบ เข้าใกล้ได้มากสุดที่ 2 ฟุต หรือ 0.6 เมตร
images by free.in.th

ตัวนี้ที่ผมได้มาจะมีรอยที่ชิ้นเลนส์ด้านหลัง เดาว่าน่าจะเกิดจากการถอดเลนส์ออกจากกล้องที่ไม่ระมัดระวังเท่าไหร่ รอยนี้ไม่มีผลใดๆกับภาพถ่าย
images by free.in.th

ท้ายเป็น Mount แบบ MD เป็น Mount เฉพาะของ Minolta 
images by free.in.th

ค่ารูรับแสงหากเปิดกว้างสุดโบเก้ก็จะกลม หากหรี่ลงมาก็จะเป็นหกเหลี่ยมแบบมนๆ
images by free.in.th

images by free.in.th

มาดูภาพตัวอย่างจากเลนส์ตัวนี้ครับ 
*ผมถ่ายด้วยกล้อง Olympus OMD EM1 และ Panasonic GX7 ซึ่งเป็นเซนเซอร์ m4/3 
ภาพจากเลนส์ตัวเดียวกันนี้หากถ่ายด้วยกล้องที่เซนเซอร์ต่างขนาดกันไปเช่น APSC หรือ FullFrame 
อาจจะได้ลักษณะโบเก้ที่ไม่เหมือนกันซะทีเดียวครับ เรียกว่าต่างเซนเซอร์โบเก้ไม่เหมือนกัน 
แต่โทนของภาพจะเคียงกันครับ*

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

ลองถ่ายภาพบุคคลดูบ้าง
images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

เลนส์ตัวนี้ถ่ายขาวดำได้ดี
images by free.in.th

images by free.in.th

images by free.in.th

คลิบประกอบ


เอกลักษณ์เท่าที่พบ
- หวานจ๋อย ให้โทนภาพออกหวานๆ F แรก 1.4 จะฟุ้งมาก พอหรี่มาสักประมาณ F2 จะเริ่มคมขึ้น [จริงๆเลนส์ตัวนี้ฟุ้งทุกF]
- ถ่ายขาวดำได้สวย
- โบเก้กว้างสุดจะกลม หรี่มาเป็นหกเหลี่ยมมนๆ
- ให้ Skin Tone เวลาถ่ายภาพบุคคลดีมากๆ
- ถ่ายย้อนแสงได้ดี Flare ไม่น่าเกลียด เพราะเคลือบ MC มา [MultiCoat]

สรุปแล้วเลนส์ Minolta Rokkor PF MC 58mm 1.4 ตัวนี้ค่อนข้างครบเครื่องสำหรับคนชอบสีหวานๆและ Skintone เวลาถ่ายสาวหรือถ่ายภาพบุคคลนี่บอกได้เลยว่าไม่ทำให้ผิดหวังแน่นอน จะหวานคนละแบบกับ Mamiya Sekor 55mm 1.4 นั่นก็หวานเช่นกัน แต่จากที่ผมได้ลองทั้งสองตัวผมว่ากินกันไม่ลงต้องลองดูรีวิวที่ผมทำไว้หรือไม่ก็หามาลองด้วยตัวเองจะพอเข้าใจได้ครับ

หวังว่าข้อมูลส่วนนี้คงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้กำลังสนใจเลนส์ตัวนี้ หากคุณกำลังจะหาซื้อหาข้อมูลมาลองใช้งาน ก็เอาข้อมูลส่วนนี้ของผมไปประกอบการตัดสินใจได้ครับ ลากันไปเท่านี้ครับ สวัสดีครับ

**ข้อมูลประวัติศาสตร์บางส่วนเกิดจากการรวบรวมข้อมูลเท่าที่หาได้ของผมเอง หากผิดพลาดประการใดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ครับ

[อย่าลืมกด Like&Share Page Hudlenklong และกด Subscribe Youtube ด้วยนะครับ ]
========================================================
Facebook: ***
Subscribe Youtube: ***
Main Blog:



Create Date : 11 มกราคม 2560
Last Update : 11 มกราคม 2560 21:14:00 น. 1 comments
Counter : 6029 Pageviews.

 
รูปหายดูจากในนี้ไปก่อนนะครับ
https://pantip.com/topic/36030170


โดย: takkub วันที่: 18 เมษายน 2561 เวลา:14:57:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

takkub
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 14 คน [?]




就算千里万里
一路千难万险
吾心坚定不移
向前不愿放弃.

jiu suan qian li wan li แม้หนทางจะยาวไกลเป็นหมื่นพันลี้
yi lu qian nan wan xian หรือจะมีขวากหนามภัยพาลใดๆ
wu xin jian ding bu yi ใจข้ายังยืนหยัดไม่เปลี่ยนไป
xiang qian bu yuan fang qi และจะไม่มีวันยอมเลิกรา

ไว้เตือนสติตัวเอง
จงระวังความคิด เพราะมันจะกลายเป็นคำพูด
จงระวังคำพูด เพราะมันจะกลายเป็นการกระทำ
จงระวังการกระทำ เพราะมันจะกลายเป็นเป็นอุปนิสัย
จงระวังอุปนิสัย เพราะมันจะกลายเป็นโชคชะตา




Friends' blogs
[Add takkub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.