|
|
| 1 | 2 |
3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 |
10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 |
17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 |
24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 |
|
|
|
|
|
|
|
|
เที่ยวไปด้วยกายทิพย์
ไปก็อปมาจากเว็บคู่มือฝึกจิตของ อ.ยุทธพงษ์ แสงอรุณกุศล หลังจากไปเที่ยวบล๊อกคุณไกลบ้านมา จริงๆ เคยอ่านในหนังสือแล้ว แต่นี่สบายเลยไม่ต้องพิมพ์เอง
ข้าน้อยมีความประสงค์จะฝึกถอดจิตเพื่อพิสูจน์โลกวิญญาณจะได้เป็นเครื่องเตือนสติเตือนใจให้ข้าน้อยไม่ประมาทในชีวิต ขอให้ท่านโปรดกรุณาแผ่พลังจิตบารมี ช่วยเสริมให้ข้าน้อยสามารถที่จะถอดจิตได้ โดยมีสติระลึกได้รู้สึกตัวตลอดเวลา ขอความตั้งใจนี้จงสำเร็จด้วยเทอญฯ
กระผมอธิษฐานเสร็จ ก็กราบพระอีกครั้ง แล้วลงมือฝึกถอดจิต หลับตาแผ่เมตตาอุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
ตั้งแต่มาที่วัดเขาวังนี้ 7 วันแล้ว กระผมก็ฝึกเพ่งมองกึ่งกลางระหว่างคิ้วมาโดยตลอด จนถึงวันสุดท้ายนี้ก็เป็นไปด้วยดี
กระผมฝึกเพ่งมองไปที่กึ่งกลางระหว่างคิ้วทั้งลืมตาและหลับตา จนรู้สึกเหมือนกับเป็นตะคิวที่กึ่งกลางระหว่างคิ้วตึงๆอยู่ตลอดเวลาทั้งลืมตาและหลับตา
กระผมประคองจิตให้สบายๆไม่เครียด แล้วนั่งลงในท่าขัดสมาธิ เท้าขวาทับเท้าซ้าย และรวบรวมความรู้สึกนึกคิดทั้งหมดมาเพ่งมองที่กึ่งกลางระหว่างคิ้วแบบสบายๆกระผมนั่งสมาธิเป็นชั่วโมงๆ จนรู้สึกว่า ขาชามากจนปวด ปวดมากจนเจ็บแปลบๆขึ้นมาถึงเอว กระผมใช้จิตเข้าจ่อพิจารณาว่า อาการขาชาเจ็บปวดนี้ไม่ได้เจ็บที่ใจ เราไม่สนใจอาการที่เกิดกับกายเนื้อนี้ กายสักแต่ว่ากาย ไม่เกี่ยวกับใจ ต่อมาอาการปวดมากขึ้นจนสุดท้ายก็หายปวดเอง
ในเวลาเดียวกัน ในส่วนความรู้สึกของกระผมยังคงมองไปที่กึ่งกลางระหว่างคิ้ว จนรู้สึกว่ามีอาการหนักหน่วงเหมือนเป็นตะคิว เข้าจับเป็นก้อนหมุนไชเข้าไปกึ่งกลางระหว่างคิ้ว เสียวจนรู้สึกศีรษะจะทิ่มไปข้างหน้า จนกระผมนั่งต่อไปไม่ได้ กระผมจึงตัดสินใจตั้งสติให้มั่นไว้กับการมองกึ่งกลางระหว่างคิ้ว แล้วค่อยๆ เปลี่ยนอิริยาบถจากท่านั่งเป็นท่านอน โดยค่อยๆเหยียดแขน ขา เอนตัวลงนอน
เพียงศีรษะถึงหมอนได้เดี๋ยวเดียว อาการตะคิว ที่จับเป็นก้อนไชเข้าไปกึ่งกลางระหว่างคิ้วได้ไชลึกเข้าไปๆอาการไชลึกๆนั้น รู้สึกเหมือน วืดๆๆ อาการไชลึกๆนี้ ไชลึกเข้าไปทีหนึ่ง กลุ่มก้อนที่หมุนไชนี้ก็พ่นกระแส ปราณอุ่นเข้าไปนิดหนึ่ง อาการอย่างนี้รู้สึกอยู่ตลอดเวลา
ไชลึกเข้าไปจนทะลุถึงตำแหน่งท้ายทอย ที่อยู่ด้านหลังที่ตั้งของตำแหน่งก้านสมอง กระแสปราณอุ่นพุ่งเป็นทางเดียวกันเลย ตั้งแต่หน้าผากทะลุไปจนถึงท้ายทอย กระแสปราณอุ่นจากกึ่งกลางระหว่างคิ้วพุ่งทะลุไปถึงท้ายทอย แล้วก็ดูดกลับออกผ่านสองข้างขมับมาผสมที่กึ่งกลางระหว่างคิ้วอีก อาการกระแสปราณอุ่นวิ่งหมุนเป็นวงกลมนี้ กระผมมีสติระลึกรู้เท่าทันปัจจุบันอยู่ตลอดเวลา และทำใจเป็นกลางๆ ไม่ได้ดีใจจนเสียอารมณ์ไป
อาการขณะนี้ เป็นอาการตามที่ครูอาจารย์เขียนไว้ในตำราว่า ขณะนี้ กายทิพย์พร้อมที่จะแยกออกจากกายเนื้อแล้ว
แต่กายทิพย์ก็ทำไมยังแยกไม่ออก ก็ต้องปฏิบัติไปตามตำราที่สอนต่อว่า..............
ให้ตั้งจิตสำนึกความรู้สึกอีกชั้นหนึ่งไว้ที่ตำแหน่ง ตรงท้ายทอย (ก้านสมอง ) แล้วดีดถีบส่งไปยังกลุ่มก้อนกายทิพย์ (เป็นการส่งกำลังใจเหมือนเป็นการสร้างกำลังพลังจิตเข้าไปตบที่ท้ายทอยอีกชั้นหนึ่ง) ทันใดนั้นเอง
ร่างกายทิพย์ (มีความรู้สึกเป็นตัวเอง) ถูกแรงดีดเหวี่ยงขึ้นไปบนท้องฟ้า กายทิพย์กระผมลืมตาขึ้นมาเห็นกายทิพย์มีหน้าตารูปร่างเหมือนกับกายเนื้อทุกอย่างพุ่งลอยไปในอวกาศ
(ต่อที่คอมเม้นท์ 1)
Create Date : 12 เมษายน 2548 |
|
11 comments |
Last Update : 14 เมษายน 2548 10:46:19 น. |
Counter : 2676 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: yyswim 13 เมษายน 2548 1:05:13 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุภาฯ IP: 202.5.81.144 13 เมษายน 2548 1:27:57 น. |
|
|
|
| |
โดย: สุภาฯ IP: 202.5.81.144 13 เมษายน 2548 1:30:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: ป่ามืด 16 มิถุนายน 2548 3:34:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: แอม IP: 61.19.65.106 27 มิถุนายน 2550 14:29:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: พิมพ์ IP: 61.19.65.106 27 มิถุนายน 2550 14:36:33 น. |
|
|
|
| |
โดย: *+* IP: 61.7.134.226 29 พฤษภาคม 2552 12:22:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: เอ IP: 58.10.108.115 2 กุมภาพันธ์ 2557 16:19:53 น. |
|
|
|
| |
โดย: วโรวรัญญู IP: 114.109.214.218 2 กันยายน 2560 10:46:48 น. |
|
|
|
| |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
(ในความรู้สึกไม่ตกใจ แต่ดีใจ) ครั้งนี้ เป็นครั้งแรกที่แปลกมากๆ กายทิพย์พุ่งขึ้นไปลอยในท้องฟ้าอย่างเร็วมากๆ ลอยพุ่งสูงห่างจากพื้นโลกห่างออกไป ๆแล้วกายทิพย์ก็เห็นลูกโลกที่เราอาศัยอยู่นี้ เล็กเท่ากำปั้น และมองเห็นดวงดาวเต็มท้องฟ้าไปหมด
ขณะนี้ กายทิพย์กระผมอยู่ในท่านอน
เหมือนมีถุงลมพยุงอยู่ที่ซอกรักแร้ลอยอยู่กลางอวกาศ
ด้วยความอยากรู้ จึงอธิษฐานจิต ( สร้างพลังงานสมาธิแปรพลังงานพลังจิตให้ตัวกายทิพย์ออกเที่ยวรอบจักรวาล) (ในโลกทิพย์เพียงจิตทำงานกายทิพย์ก็จะทำตามจิตนึกคิดทันที จึงจำเป็นต้องระวังความคิดให้มาก) กายทิพย์ได้เกิดมีแรงเหวี่ยงพุ่งนำไปข้างหน้าหมุนรอบโลกไปตั้งหลายรอบอย่างเร็วมาก (อาการอย่างนี้อาจจะปรากฏเกิดกับวิธีการกระแทกดีดถีบกายทิพย์ได้
ในความรู้สึกกระผมขณะนั้น ที่แฝงอยู่ในกายทิพย์รู้สึกตื่นเต้นดีใจมากๆ มากเกินไป จนนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรก็ทำไม่ถูก เพราะขณะนั้นเหมือนสมองตื้อไปหมด ไม่ได้กลัว แต่ดีใจ ไปไหนดี
(ด้วยความเคยชินที่สมองบันทึกที่อยู่ปัจจุบันไว้ติดไปกับกายทิพย์)
ใจคิดว่า ไปเขาวังซิ
(เพียงจิตนึกคิด)
กายทิพย์ก็หล่นดิ่งดิ่วๆ อย่างกับดาวตกพุ่งจากท้องฟ้า เพียงแวบเดียวกายทิพย์ก็เข้ากายเนื้อ (เพราะกายเนื้ออยู่ที่เขาวัง)
กายเนื้อลืมตาขึ้นทันทีมองเห็นตัวเองนอนอยู่
เอ้า ทำไมกายทิพย์เรากลับมาที่เขาวังล่ะ
โมโหตัวเองมาก ว่า
ไม่น่าเลยน่าเรา ดีใจจนตั้งเป้าผิด ซึ่งตอนแรกคิดไว้ว่า จะไปกราบหลวงพ่อโสธรก่อน ด้วยความตื่นเต้นดีใจมากจนลืมสัญญาความคิดเก่าไปหมด
เมื่อกายทิพย์กลับเข้ากายเนื้ออย่างฉับพลันนี้
ทำให้ปรับตัวปรับใจไม่ทัน หัวใจเต้นแรงมาก(เต้นเบากว่าตกใจกระชากกลับ)
กระผมทำใจสงบ ด้วยการถอนหายใจเข้าออกครู่หนึ่ง ก็ปกติ
อ่านเพิ่มเติมได้ที่
//www.geocities.com/somdedto2547/