การแต่งตั้งผู้จัดการมรดก สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เรามาคุยเรื่องมีสาระกันบ้างดีกว่า เรื่องวันนี้ เราคิดว่ามีประโยชน์และน่ารู้สำหรับผู้ที่อยู่ในฐานะลูกๆ โดยเฉพาะลูกที่พ่อแม่พอมีเงินทองเก็บไว้ในธนาคาร มีรถ มีทรัพย์สินอื่นๆ ในชื่อของพ่อแม่ เพราะถ้าเป็นเงินสด เครื่องประดับ ของเหล่านี้ก็เป็นของลูกไปแบบง่ายๆ แต่ถ้าเป็นของที่ต้องผ่านผู้อื่นอย่างที่กล่าวข้างต้น แบบนี้ ก็หนีไม่พ้นที่ต้องมีการแต่งตั้งผู้จัดการมรดก เพื่อให้ผู้นั้นทำหน้าที่ปิดบัญชีธนาคาร โอนทรัพย์สินทั้งหลายมาเป็นชื่อของผู้จัดการฯ แล้วโอนให้ลูกๆ ต่อไป หรือลูกคนใดคนหนึ่ง ก็ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการมรดกเองก็ได้ ปี 52 แม่เราเสียชีวิต เรามีกันสองคนพี่น้อง พ่อและพี่ตกลงให้เราเป็นผู้จัดการมรดก  ดังนั้น เราก็ต้องทำเรื่องขออำนาจศาลเพื่อแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้จัดการมรดกของแม่ ก่อนทำ เราก็หาข้อมูลต่างๆ จากในเวปนี่ล่ะ จนได้มาพอสมควร พอที่จะไปทำได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องจ้างทนาย ในการนี้ สิ่งสำคัญอันดับแรก คือ ลูกทุกคน ต้องยินยอมให้เราเป็นผจก.มรดกเพราะมันต้องมีเอกสารยินยอมจากทุกคนด้วย ไม่งั้น ก็จะมีการยื่นคัดค้านอะไรกันอีกภายหลัง จะวุ่นวาย ซึ่งในกรณีเรา มีกันสองคน พี่เขาก็ยกให้เราจัดการจึงไม่มีปัญหา ทีนี้ก็มาถึงเรื่องเอกสารล่ะ สิ่งที่ต้องเตรียมไปก่อน อันนี้ลอกมาจากใบที่เขาให้เราตอนไปติดต่อที่ศาลนะคะ 1 สำเนาบัตรประจำตัวผู้ร้อง, ทะเบียนบ้านผู้ร้อง, สูติบัตรของผู้ร้อง. ใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี) 2 สำเนามรณบัตรผู้ตาย 3 สำเนาทะเบียนบ้านผู้ตาย 4 สำเนาทรัพย์มรดก เช่น บัญชีเงินฝากชื่อผู้ตาย , โฉนดที่ดิน , ทะเบียนปืน, ทะเบียนรถ, สัญญาเช่าซื้อ (ให้เลือกมาเพียง 1 อย่างเท่านั้น ) 5 สำเนาบัตรประจำตัวทายาทผู้ให้ความยินยอมทุกคน (ลูกทุกคน) หรือ สำเนาสูติบัตร (กรณีทายาทผู้ให้ความยินยอมอายุไม่ถึง 15 ปี) เอกสารตั้งแต่รายการ 1-5 ให้ถ่ายสำเนามาอย่างละ 3 ชุด และให้ผู้ร้อง ลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องในเอกสารข้อ 1-4 ส่วนข้อ 5 เจ้าของบัตรแต่ละคนก็เป็นผู้ลงชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง แล้วให้จัดเรียงเอกสารตามลำดับ 1-5 เย็บติดกันเป็นจำนวน 3 ชุด แต่ ยังมีเอกสารอีก 2 รายการคือ บัญชีเครือญาติ เจ้าใบนี้ เจ้าหน้าที่เขามีอยู่และให้เราเขียนตอนที่เราไปยื่น ขนาดเราเตรียมไปแล้วนะ เขายังให้เขียนใหม่ตอนนั้น เอกสารชุดนี้ เป็นการแสดงถึงลำดับญาติของเจ้าของมรดกว่ามีลูกกี่คน ชื่ออะไรกันบ้าง แล้วต้องเซ็นชื่อของแต่ละคนด้วย อีกชุดหนึ่ง คือ หนังสือยินยอมของทายาทที่ให้เราเป็นผจก.มรดก ลูกๆ ทุกคนต้องเซ็นชื่อ ดังนั้น เพื่อให้ยื่นครั้งเดียวผ่านไปเลย ไม่ต้องเทียวไปเทียวมา เรา พ่อ และพี่ชายก็พากันไปด้วยกันทั้งหมดในวันที่ยื่นเรื่องที่ศาล เอาเอกสารต้นฉบับทุกอย่างไปด้วย หากมีอะไรขาดไป ก็จะได้จัดเตรียมกันได้เลยตอนนั้น โดยเฉพาะเรื่องลายเซ็นนี่ล่ะ พอจะต้องเขียนใหม่ก็เลยสบาย ไม่ต้องย้อนกลับมาอีก เมื่อไปถึงศาล ก็ไปติดต่อเจ้าหน้าที่ เขาก็ช่วยจัดเตรียมเอกสาร ดูตรวจเช็ค จากนั้น เขาก็จะพิมพ์หนังสือคำร้องขอแต่งตั้งเป็นผจก.มรดก ให้ เมื่อเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เอาเอกสารทั้งหมดไปยื่นที่ช่องรับเรื่อง จำไม่ได้แล้วว่าชื่ออะไร แต่ถามเขาก็ได้ เขาก็จะนัดวันให้มาขึ้นศาลอีก 45 วันต่อมา ก็จะได้เป็นใบรับเล็กๆ มา แล้วก็ไปจ่ายเงินค่าธรรมเนียมศาล 200 บาท ค่าประกาศหนังสือพิมพ์โดยเฉพาะของศาล 500 บาท ซึ่งค่าประกาศนี้ ก็จ่ายกันตรงนั้นล่ะ พอถึงวันนัด ก็ไปตามเวลา ตอนนั้นจะมีคนมาขอเป็นทนายให้เพื่อเก็บคดี ซึ่งเป็นเรื่องของเขา แต่เราไม่ต้องจ่ายเงินให้ เขาก็ทำหน้าที่ซักถามเรา ให้เราตอบในศาล ก็เท่านั้น เราขึ้นศาลช่วงเช้า พอช่วงบ่ายก็ลงไปตามเรื่องอีกแผนกหนึ่ง ที่ทำหน้าที่ออกคำสั่งศาล ซึ่งก็คือ สิ่งที่เราต้องการนี่ล่ะ ตัวจริงเขาจะเก็บไว้ที่ศาล แต่ให้เราถ่ายสำเนาตรงนั้นล่ะ แล้วเอาไปให้เขาเซ็นรับรองและประทับตรา ค่าทำก็ 50 บาท ตัวนี้ก็เท่ากับตัวจริง เวลาเราจะใช้ ก็ให้ถ่ายสำเนาจากตัวนี้อีกทีแล้วเซ็นรับรอง ก็เหมือนกับสำเนาทะเบียนบ้านนั่นล่ะค่ะ แต่ยังไม่จบเรื่องนะ 555 หลังจากได้คำสั่งศาลแล้ว อีกหนึ่งเดือนต่อมา ก็ให้มาติดต่อที่ศาลอีกเพื่อขอใบรับรองว่าคดีถึงที่สิ้นสุด เหตุที่ต้องรอ 1 เดือนมันเป็นกฏ เพื่อให้โอกาสคนที่ต้องการคัดค้านจะได้มาค้านซะ แต่ถ้าไม่มีอะไรเกิดขึ้น อีก 1 อาทิตย์หลังจากไปขอหนังสือรับรองว่าคดีถึงที่สิ้นสุด ก็ไปรับหนังสือได้ และแล้วก็จบเรื่อง เหตุที่ต้องมีทั้งคำสั่งศาลแต่งตั้งผจก.มรดก และ ใบรับรองว่าคดีถึงที่สิ้นสุด ด้วยนั้น ก็เพราะบางธนาคาร อย่างในกรณีเรา คือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์จะกำหนดไว้เลยว่าต้องมีทั้งสองอย่าง พูดถึงเรื่องธนาคารแล้ว ก็ขอแถมอีกหน่อยว่า จริงๆ แล้วเนี่ย หากมีการเปิดบัญชีชื่อร่วมและหรือ ระหว่างพ่อกับลูก หรือแม่กับลูกไว้เลย จะสะดวกมาก โดยไม่ต้องมาทำเรื่องการขอแต่งตั้งผจก.มรดก เพราะเสียเวลาทั้งการไปทำเรื่อง และการไปปิดบัญชี ซึ่งบัญชีร่วมของเรากับแม่ก็มีนะ ถึงเวลาจะถอนเงิน เราก็เพียงแต่ไปถอนให้เกือบหมด เหลือเล็กน้อยเท่าที่ธนาคารกำหนด แล้วเราก็เอาเงินไปฝากใหม่ในชื่อเราเองคนเดียวก็ได้ แม่เราก็ตั้งใจให้เป็นแบบนี้ แต่ด้วยความซื่อไง ความซื่อหรือเซ่อนี่ล่ะ ก็ดันไปพูดกับเจ้าหน้าที่ธนาคารว่า แม่เราเสียแล้ว เราจะถอนเงิน ซึ่งตอนนั้นเราก็ทำเรื่องแต่งตั้งเรียบร้อยแล้วล่ะ แต่มันเสียเวลาในการปิดบัญชีเป็นชั่วโมง เซ็นเอกสารอะไรอีกเยอะแยะมากมาย ซึ่งภายหลัง เจ้าหน้าที่เขาก็บอกเองว่า ถ้าเราจะถอนออกไปเฉยๆ เสียก็ได้ ก็ถอนไปตามปกติ เพราะมีชื่อเราอยู่แล้ว แต่พอดันไปบอกให้เขารู้ ตามหน้าที่ เขาก็จำเป็นต้องทำเรื่อง แต่ถ้าไม่บอกเสีย เขาก็ไม่รู้ ก็ไม่ต้องทำเรื่อง ก็เลยอยากบอกให้เพื่อนๆ ทั้งหลายได้ทราบตรงจุดนี้ว่า ถ้าเปิดบัญชีร่วมไว้ ก็ไม่ต้องไปบอกเขาหรอกว่า อีกคนหนึ่งตายไปแล้ว ถอนออกมาให้เกือบหมดนั่นแหละ แล้วก็ทิ้งบัญชีนั้นไปเลย ส่วนบัญชีที่มีชื่อของพ่อแม่คนเดียว ก็ให้ท่านทำบัตรเอทีเอ็มซะ แล้วบอกรหัสเราไว้ด้วย เมื่อท่านตายไป เราก็ไปกดเอาเงินได้สบาย ไม่ต้องไปวุ่นวายกับการปิดบัญชีแต่อย่างใด ซึ่งของพ่อก็ทำไว้อย่างนี้ล่ะ จะได้ไม่ยุ่ง ก็หวังว่า คงพอเป็นแนวทางให้กับท่านที่กำลังจะต้องทำเรื่องแต่งตั้งผู้จัดการมรดกได้นะคะ   Create Date : 29 สิงหาคม 2554 14 comments Last Update : 25 พฤษภาคม 2561 11:25:00 น. Counter : 12221 Pageviews. Share Tweet

มาเก็บเกี่ยวความรุ้ค่ะ ขอบคุณที่เอามาแบ่งปันนะคะ ตอนนี้ยังไม่ได้ใช้ แต่รุ้ไว้ประดับความรู้ค่ะ ^^   โดย: Iaun_Tor 29 สิงหาคม 2554 12:51:17 น.

รับทราบและนำไปปฎิบัติครับผม ขอบคุณมากนะคะ ในบางครั้งความจริงใจและคำพูดซื่อๆ มันก็ทำให้เรา ปวดหัวและเสียเวลาได้   โดย: คุณย่า IP: 115.87.194.75 30 สิงหาคม 2554 1:21:56 น.

เยี่ยมมาก และเป็นประยชน์มากค่ะ ขอบคุณมาก   โดย: elle.bkk IP: 183.89.206.149 5 กันยายน 2554 12:22:40 น.

ขอบคุณสำหรับข้อมูลดีๆครับ   โดย: คนเคยผ่านมหาสมุทร 5 กันยายน 2554 15:06:46 น.

สวัสดีค่ะ กิ่งตามมาจากบ้านคุณคนเคยผ่านมหาสมุทนค่ะ ขอบคุณเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์และนำมาให้ได้อ่านกันค่ะ กิ่งอ่านแล้ว ได้้รับความรู้และมีประโยชน์มากเลยค่ะ ขอให้มีความสุขมากๆนะคะ Good Day Orkut Scraps, Graphics - GoodLightscraps.com   โดย: กิ่งฟ้า 8 กันยายน 2554 10:47:16 น.

สวัสดีค่ะ คุณgood thing กิ่งจำได้ค่ะ ขอบคุณนะคะที่ไปอ่านและให้กำลังใจลูกอม ลูกอมเป็นเรื่องจริง ชีวิตของลูกอมมีความสุขที่ได้อยู่กับพอแม่ที่รักเค้าค่ะ กิ่งสงสารลูกอมจึงเลือกที่จะเขียนเรื่องของลูกอมเพื่อให้เพื่อนๆได้รู้จักเค้าและให้เห็นว่าแม้ลูกอมจะเกิดมาอย่างนี้ลูกอมก็อยู่ได้อย่างมีความสุขค่ะ ดีใจนะคะที่มาพบกันและคุยกันในบล็อกนี้อย่าเพิ่งทิ้งบล็อกไปไหนนะคะ แล้วกิ่งจะมาเยี่ยมบ่อยๆค่ะ มีความสุขยามบ่ายนะคะ   โดย: กิ่งฟ้า 9 กันยายน 2554 14:30:33 น.

สวัสดีค่ะ กิ่งขอบคุณมากนะคะที่ไปอวยพรวันเกิดให้กิ่ง ขอให้คุณมีความสุขมากๆเช่นกันนะคะ br> 123   โดย: กิ่งฟ้า 21 กันยายน 2554 15:33:27 น.

ขอสอบถามคะ ใบคำสั่งแต่งตั้งศาลให้เป็นผู้จัดการมรดกหาย จะต้องไปติดต่อขอใหม่ได้ที่ไหนคะ   โดย: ปุ๋ย IP: 125.27.133.38 5 มีนาคม 2555 13:50:46 น.

คือว่าได้อ่านข้อมูลข้างต้นแล้ว งงตรงบัญชีเครือญาติ ต้องไปทำที่ศาลเหรอค่ะ แล้วต้องเซ็นชื่อทุกคน อย่างงี้ ที่เตรียมเอกสารมาแล้ว ทายาทก็ต้องไปศาลทุกคนสิค่ะ เพราะอยู่คนละทิศละทางเลย แต่ขอเอกสารมาได้หมดแล้ว   โดย: ออฟ IP: 11.0.100.57, 101.108.193.86 21 พฤษภาคม 2555 11:02:06 น.

ข้อมูลที่น้องให้มา ตรงทุกข้อกับที่พี่ไปทำธุรกรรมมาเลยค่ะ confirm เป็นประโยชน์มากๆ ถ้าใครอ่านแล้วสำเนาเก็บไว้ จะเป็นประโยชน์มากค่ะ   โดย: ณัฐธยาน์ IP: 115.67.101.29 9 ตุลาคม 2555 15:39:38 น.

เขียนได้ดี เข้าใจง่าย มีประโยชน์ ....ผมก็กำลังทำเหมือนคุณ อ่านมาหลายบล็อคแล้ว เห็นอยู่เม้นนึงบอกไว้ว่า "..หากเป็นศาลในกรุงเทพ ค่าใช้จ่ายรวมค่าธรรมเนียมศาลและค่าทนายความตกอยู่กันประมาณ 8000-15000 แล้วแต่ความซับซ้อนของคดี.."ซึ่งต่างกันมากกับบทความนี้...ขอบคุณครับสำหรับบทความดีๆ   โดย: tor IP: 223.205.108.183 22 กุมภาพันธ์ 2556 15:09:30 น.

อธิบายเข้าใจง่ายดี ผมทำมาก็ประมาณนี้ครับ ชอบตรงที่แนะให้เปิดบัญชีร่วมครับ   โดย: ศรพรหม IP: 125.24.38.38 14 กรกฎาคม 2558 17:21:09 น.

เเต่เป็นพระล่ะถ้าท่านเสียเงินฝากไว้ในธนาคารใครมีสิทธเบิกได้.. เงินส่วนตัว   โดย: รุจ IP: 27.55.90.139 19 มกราคม 2560 18:26:05 น.

ขอถามได้ไหทมคะ. ถ้าเราเตรียมเอกสารครบถ้วนถูกต้องแล้ว. วันไปปิดบัญชี เราจะได้เงินมาเลนไหม หรือเราต้องไปธนาคารอีกรอบเพื่อรับเงินคะ ปล. ที่ถามแบบนี้เพราะว่า พ่อเราเปิดบัญชีไว้ที่นครศรี แต่ตัวเราอยู่กทมคะ จะได้รู้ว่าควรซื้อตั๋วเครื่องบินแบบไหนคะ   โดย: ขวัญ IP: 223.24.144.99 22 มกราคม 2562 15:59:49 น.